คำพิพากษาศาลโลกกรณี เขาพระวิหาร ไม่เกี่ยวกับดินแดน

ตัดเรื่องการเมืองทิ้ง จะได้ไม่ถูกปั่น กรณีเขมรยื่นศาลโลกให้สบายใจได้เพราะ ปัจจุบันประเทศไทยได้ประกาศ ไม่ยอมรับอำนาจศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice: ICJ) หรือศาลโลก ในการแก้ไข

จุฬาฯ นำทีมนักวิชาการ แถลงตีความคำพิพากษาศาลโลกชี้แค่กำหนดพื้นที่ที่ไทยเสียไปตั้งแต่ปี 2505 แจงการเสียดินแดนเป็นเรื่องความรู้สึก เพราะแท้จริงไทยเสียดินแดนตั้งแต่ปี 2505 แล้ว ระบุหลังจากนี้ฝ่ายเทคนิคต้

ต้องบอกว่าในคำตัดสินศาลโลก ปี 2505 ศาลระบุว่า temple and vicinity ของเขาพระวิหารเป็นของกัมพูชา ซึ่งตั้งอยู่ใน Pomontory of Dangrek คือ เทือกเขาดงรัก(http://www.icj-cij.org/docket/index.php?sum=284&

ไทยได้และเสียอะไรจากคำพิพากษาศาลโลก กรณีเขาพระวิหาร เป็นข้อมูลที่สรุปได้จากท่านวีรชัยนะครับ อยากเอามาฝากกัน ผิดถูกขออภัย ได้ 1.ภูมะเขือยังไม่ได้เป็นของกัมพูชา แต่คำพิพากษาก็ไม่ได้ตัดสินว่าเป็นของไทย

เห็นเขาบอกว่าไทยได้ดินแดนเพิ่ม แต่ผมว่าทั้งหมดมันของเราอยู่แล้ว ไม่ได้ดินแดนพื้นที่เพิ่มแต่อย่างใด จะมีก็แต่พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรรอบเขาพระวิหารที่ศาลโลกตีความคำตัดสิน2505 ในปี 2556ว่า กัมพูชาได้กร

ในปีคศ.1907 (พศ 2450) เราเคยเซ็นสัญญาปักปันเขตแดนกับฝรั่งเศสโดนมีเอกสารแนบเป็นแผนที่1:200,000 แผนที่ฉบับนี้เป็นแผนที่ที่เป็นฉบับที่มีการอ้างอิงโดยศาลโลกว่าไทยได้ยอมรับไปแล้ว และในเวลาต่อมาไทยยังได้ขอส

กระแสใส่ร้าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เรื่อง “เสียดินแดนให้กัมพูชา” มีความเป็นไปได้สูงว่าไม่ใช่การถกเถียงเชิงข้อเท็จจริง แต่เป็น อาวุธทางการเมือง ที่จุดขึ้นในจังหวะร้อนแรงทางการเมืองปัจจุบ

“วาสนา นาน่วม” นักข่าวสายทหาร ผ่าแผนร้ายฮุนเซน-กัมพูชา จ้องยึดแดนไทย เพราะเราทำตัวเป็นสุภาพบุรุษเกินไป ต้องมอบบทเรียนครั้งสำคัญให้ รวมถึงรัฐบาลก็อยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ บางเรื่องต้องแข็งบ้าง