สวัสดีครับ วันนี้ท่านทูตเนม พาทุกท่านมาเปิดมุมมองธุรกิจอุตสาหกรรมการบิน(คราวนี้ขอเป็นวิชาการบ้างนะ ครับ และมีตัวอย่างกรณีศึกษามาให้ชม) กับการแข่งขันทางการตลาดด้วยการสร้างความต่างหรือตามภาษาการตลาดที่เรียกว่า Differentiation เพื่อให้เป็นจุดสนใจและดึงดูดลูกค้า หรือที่เรียกอีกอย่างว่า การสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน ซึ่ง ในปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีว่าธุรกิจการบินนั้นมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น อีกทั้งมีจำนวนผู้เดินทางเพิ่มขึ้น ทั้งจากการท่องเที่ยวและจากการเดินทางเพื่อธุรกิจ ดังนั้น สายการบินก็มีการเปิดใหม่เพิ่มขึ้น และส่วนแบ่งทางการตลาดก็มีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันถ้าเราจะแบ่งประเภทของสายการบินโดยสาร มีด้วยกันทั้งหมด 4 ประเภทย่อย คือ
1. สายการบินระดับพรีเมี่ยม (Premium airlines) คือสายการบินที่ให้บริการตามมาตรฐานสากล ทั่วโลก ซึ่ง ต้องมีชั้นธุรกิจ และ ชั้นประหยัด ในเครื่องบิน แต่บางสายการบินอาจจะมีชั้นหนึ่งหรือชั้นประหยัดพิเศษให้บริการด้วย เช่น THAI AIRWAYS, SINGAPORE AIRLINES เป็นต้น
2. สายการบินเช่าเหมาลำ (Private Jet และ charter flight)
3. สายการบินต้นทุนต่ำ (Low-Cost Airlines)
4. สายการบินในภูมิภาค (Regional airlines) เป็นสารการบินที่บินอยู่ภายในภูมิภาคนั้นๆ ในระยะทางไม่ไกล โดยส่วนมากมักจะใช้ เครื่องบินขนาดเล็กแบบใบพัด ไม่เกิน 100 ที่นั่ง เช่น Kan air เป็นต้น

(Ref. ภาพประกอบจาก CAPA)
ถ้าเรามองในมุมมองของตามหลักการตลาด (Michael E. Potter) ได้กล่าวว่า กลยุทธ์การแข่งขัน มี 3 องค์ประกอบ ได้แก่
2.1 การลดต้นทุนทางการจัดการ (Low – Cost Leadership)
ซึ่งผมจะขอกล่าวถึง 2.2 การสร้างความแตกต่าง (Differentiation) การ สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งขันทางธุรกิจ จะทำให้เป็นเอกลักษณ์ขององค์กรที่เกิดจากกระทำการ ซึ่งเป็นการได้เปรียบทางการแข่งขันทางธุรกิจ อาจจะเป็นความแตกต่างในกระบวนการทำงานขององค์กร หรือสินค้าและบริการ แต่ทั้งนี้ความแตกต่างดังกล่าวจะต้องแสดงให้เห็นถึงประสิทธิผลและ ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าคู่แข่งขัน
2.3 การมุ่งเน้นเฉพาะ (Focus)

ซึ่งการตลาดในอุตสาหกรรมการบิน ผมคิดว่า สิ่งสำคัญที่สุด คือ ความได้เปรียบในการนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่โดดเด่นกว่าคู่แข่ง (product and service advantage) ถือเป็นกลยุทธ์ที่จะสามารถเรียกลูกค้าได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งเรื่องของความได้เปรียบของแหล่งทรัพยากร (System assets / resources advantages) แต่อีกปัจจัยที่ผมคิดว่าถ้ามีก็ไว้ก็จะมีแต่ผลดี คือ ความได้เปรียบในเรื่องพันธมิตร (Partner advantage) การ มีพันธมิตรที่ดีจะช่วยสนับสนุนให้องค์กรสามารถพัฒนาธุรกิจอย่างรวดเร็ว หลายองค์กรพยายามค้นหาคู่ค้าเพื่อสร้างเป็นพันธมิตรในการทำธุรกิจระยะยาว ในธุรกิจการบินก็มีอยู่หลายๆกลุ่ม เช่น Star Alliance , One World เป็นต้น

ซึ่งกลุ่มพันธมิตรเหล่านี้ก็ได้มีการร่วมมือกันในหลายๆด้าน ซึ่งเป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อนสายการบินในกลุ่มให้มีความมั่นคงและมีการที่ ดีขึ้น และประเด็นสำคัญคือ ทำให้สามารถขาดทุนได้น้อยลงและยังสามารถทำให้มีตัวเลือกให้แด่ผู้โดยสารที่ ต้องการเดินทางได้สะดวกในการจองผ่านสายการบินนั้นในครั้งเดียว อาทิเช่น Codeshare airlines บางเที่ยวบินอาจจะมี 2-4 สายการบินที่มีการเอามารวมกันในเครื่องบิน1ลำ โดยแบ่งกันรับผิดชอบค่าใช้จ่ายหรือตกลงกันว่าสายการบินไหนจะเป็นผู้บินไป
หรือ วันไหน จะใช้เครื่องของสายไหน ไฟลท์ไหน สลับกันไป หรือ การบินแบบนี้เป็นการส่งไม้ผล้ดให้กัน โดยมีการส่งต่อผู้โดยสารกันระหว่างสายการบินที่มีข้อตกลงกันอยู่ โดยที่อีกสายหนึ่งไม่มีบินไปในเส้นทางนั้น แต่อีกสายหนึ่งมีเป็นต้น
หรือกรณีกลยุทธ์การสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในเรื่องของการใช้ ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด (Resource advantage) ตัวอย่าง Singapore Airline มีรัฐบาลสิงคโปร์เป็นเจ้าของสายการบินและเป็นเจ้าของท่าอากาศยานเอง ส่งผลให้ต้นทุนในการบริการต่ำกว่าคู่แข่งขันมาก และ Singapore Airline ยังมีระบบการบริหารกิจกรรมทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี เช่น มีการจัดระบบการจองตั๋วเครื่องบินที่รวดเร็วถูกต้อง และทันสมัยอยู่ตลอดเวลา Singapore Airline จึงมีความได้เปรียบในการแข่งขันตามหลักการของ Asset-Based Competitive Advantage การมีพันธมิตรที่ดีเป็นหนทางสู่ความสำเร็จได้ในอนาคต (Partner advantage) ซึ่ง Singapore Airlines มีเครือข่ายพันธมิตรมากทั้งในแถบยุโรปและอเมริกาซึ่งการมีพันธมิตรจำนวน มาก ส่งผลให้ลูกค้าที่อยู่ทางยุโรปและ อเมริกาสามารถเลือกการเดินทางมายังแถบเอเชียได้โดยใช้บริการของ Singapore Airline เพราะการเดินทางมีความสะดวกและรวดเร็ว

เอาล่ะครับวิชาการกันมากแล้วเดี๋ยวท่านผู้อ่านคงเครียดๆไปนิดนึง ผมเข้าใจคนไทยดีครับไม่ค่อยชอบอ่านอะไรวิชาการมาก เรามาเบาๆวิชาการลงบ้าง ผมขอยกตัวอย่าง ของสายการบินที่มีกลยุทธ์ทางการตลาดในการแข่งขันด้วยการสร้าง ความต่าง (Differentiation) กันครับ

เริ่มจากสายการบิน EVA Air ท่านคงอาจเคยเห็นบ้างเป็นสายการบินระดับ (Premium airlines) ของใต้หวัน ครับ มีสายการบินอย่างChina airlines เป็นคู่แข่งสำคัญ โดยสายการบิน EVA Air ก็ได้มีการสร้างความต่าง ด้วยการนำเอากลยุทธ์ที่เรียกได้ว่าสะดุดตาหลายๆคนจากทั่วโลกเลยทีเดียว กับเครื่องบินสุดน่ารักเก๋ๆ นำเอามาทำลายใหม่ด้วยลายคิตตี้และลายการ์ตูนต่างๆ เท่านั้นยังไม่หมด นอกจากลายที่เครื่องบินจะสวยงามแล้ว ภายในเครื่องบิน อย่างรุ่น Hello Kitty ก็ยังตกแต่งทุกอย่างเป็นสไตล์และมีเอกลักษณ์เรียกได้ว่าอย่างน้อยๆสาวกKitty ก็หมายปองอยากใช้บริการแล้วล่ะครับ

EVA Air ได้นำเครื่อง Airbus A330-300 มาปรับโฉมด้วย 3 theme สุดน่ารัก ฉบับ Hello Kitty คือ Magic Jet, Apple Jet, และ Global Jet ซึ่งทำเอาหลายๆท่านที่ใช้บริการ ถึงกับแอบขนของลงจากเครื่องเลยทีเดียวครับ เพราะหมอน หรือแม้กระทั่งแก้วน้ำทุกอย่างก็เป็นKittyไปหมด เรียกได้ว่าแทบจะขนกันลงมาได้เท่าที่จะขนกันได้เลยทีเดียวครับ ช้อนซ้อมก็มีหายมาแล้ว

นี่ก็เป็นกลยุทธ์ในการสร้างความแตกต่างทางอารมณ์ เป็นที่รู้กันดีในอุตสาหกรรมสายการบินในปัจจุบันมีการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง และมีความสามารถในการทำกำไรต่ำ ดังนั้นการจะอยู่รอดได้ในอุตสาหกรรมนี้จำเป็นต้องมีความแตกต่าง แต่ความแตกต่างที่เป็นเรื่องของเหตุผล (Functional Benefits) มักจะถูกลอกเลียนแบบได้ง่าย เช่น การใช้เครื่องบินรุ่นใหญ่ มีทีวี และอื่นๆ ซึ่งจากวิธีนี้ ทำให้ สายการบิน EVA Air ไม่ต้องการแข่งขันด้านราคากับสายการบินอื่น อย่างไชน่าแอร์ไลน์ และไม่ต้องการให้ลูกค้าใช้ราคาเพื่อเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจซื้อบัตรโดยสารเพื่อเดินทาง และยังไม่หมดเท่านี้Eva Air ยังทำ Brand awareness ให้สูงขึ้น ด้วยความไม่ธรรมดาของเครื่องบินที่มีลวดลาย Hello Kitty ไม่ว่าคุณเองหรือผมเองก็ต้องอยากถ่ายรูปเก็บเอาไว้และนำไปแชร์ต่อ พูดต่อบอกต่อให้คนอื่นได้รับรู้ถึง ประสบการณ์ความสุขที่ได้รับ (Word of Mouth) จากความแปลกทำให้เครื่องบิน Hello Kitty ได้ออกสื่อทีวี ออกข่าว วิทยุ เผยแพร่ไปทั่วโลก เข้าข่ายถ้าไม่แปลกไม่ดัง ปากต่อปาก ทำให้หลายๆสินค้าและการบริการดังและดับได้!!!นะครับ นอกจากนี้ ยังประหยัดงบประมาณการสื่อสารทางการตลาด โดยมีสื่อมวลชนเผยแพร่ให้ฟรีไม่คิดค่าใช้จ่ายทั่วโลก ลองจินตนาการดูว่าเม็ดเงินที่ประหยัดได้จะขนาดไหน รวมทั้งผมเขียนบทวิจารณ์เครื่องบิน Hello Kitty EVA Air โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายอีกต่างหาก อย่างน้อยๆก็ผมคนนึงละที่ยกตัวอย่างเขาอยู่ในนี้ Brand Image เขาได้ไปเต็มๆ เรียกได้ว่า Eva Air ตัดกำลังคู่แข่งขัน สายการบินอื่นที่คิดจะเลียนแบบโดยนำ Hello Kitty ไปทำเหมือนกับ EVA Air ก็ทำยากแล้ว เพราะ EVA Air ได้แย่งซีนหรือการรับรู้จากผู้บริโภคไปหมดแล้ว และ EVA Air ยังเลือกแบรนด์ที่เป็นผู้นำทางด้านอารมณ์ Emotional benefits อย่าง Hello Kitty ไปเป็นพันธมิตรแล้ว

หลายท่านสงสัยทำไมผมถึงต้องนำเสนอเกี่ยวกับการสร้างความแตกต่าง เพราะปัจจุบัน การแข่งขันทางการตลาดของตราสินค้าดังๆ สิ่งที่ซ้อนอยู่ในตราสินค้า คือความทันสมัย และเทคโนโลยีในการออกแบบและการผลิต และจักทำอย่างไรให้ผู้บริโภคยอมรับและเชื่อมั่นในตราสินค้า โดยผู้บริโภคมักเลือกสินค้าและบริการที่ให้คุณค่ามากที่สุด ดังนั้นการที่จะชนะและรักษาไว้ซึ่งลูกค้า เราควรเข้าใจความจำเป็นและกระบวนการซื้อ และธุรกิจต้องให้มากกว่าคู่แข่งขันปฏิบัติ ทั้งการกำหนดตัวเองด้วยราคาที่สูงกว่าพร้อมคุณค่าที่เหนือกว่าโดยการเลือก กลุ่มเป้าหมายที่เด่นชัด ดังนั้น ความแตกต่างด้านบริการที่เหนือกว่า ไม่ว่าทางด้านความรวดเร็ว ความสะดวกสบาย หรือการเอาใจใส่ในการดูแลและการขนส่งจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อดึงดูดให้มีผู้ ใช้บริการ

ต่อมาเรามาดูกรณีศึกษาของสายการบินต้นทุนต่ำ แห่งนึงในประเทศญี่ปุ่นเป็น Low Cost Airlines ที่เรียกได้ว่ากำลังฮือฮาในขณะนี้

ซึ่งจากภาพสาวกแดนปลาดิบคงจะรู้จักกันดี Peach airlines ได้นำ Theme MARIKO JET มาใส่ไว้ในเครื่องบิน ลักษณะคล้ายๆกับของ EVA Air ในเรื่องของหลักการตลาด แต่นี่เป็นสายการบินต้นทุนต่ำ ก็จึงที่จะอยากสร้างความแตกต่างเพื่อให้เป็นจุดสนใจ เรียกลูกค้าเพื่อแข่งขันกับทั้งสายการบินคู่แข่งและรถไฟความเร็วสูง ถึงแม้ว่าจะบินเส้นทางใกล้ๆออกเดินทางจากญี่ปุ่น ไปยังเส้นทาง ฮ่องกง, เกาหลี และ ไต้หวัน ในเขตประเทศเพื่อนบ้านก็ตาม แต่ส่วนแบ่งการตลาดในญี่ปุ่นนั้นก็ร้อนแรงเช่นกัน

มาดูในประเทศไทยบ้างครับ ยกตัวอย่างสายการบินBangkok Airways

(ข้อความที่พิมพ์ครบ10,000อักษรแล้ว มีต่อPart2นะครับ) และขอบคุณทุกlikeและCommentครับ
การแข่งขันตลาดสายการบิน ด้วยการสร้างความแตกต่าง Part1
1. สายการบินระดับพรีเมี่ยม (Premium airlines) คือสายการบินที่ให้บริการตามมาตรฐานสากล ทั่วโลก ซึ่ง ต้องมีชั้นธุรกิจ และ ชั้นประหยัด ในเครื่องบิน แต่บางสายการบินอาจจะมีชั้นหนึ่งหรือชั้นประหยัดพิเศษให้บริการด้วย เช่น THAI AIRWAYS, SINGAPORE AIRLINES เป็นต้น
2. สายการบินเช่าเหมาลำ (Private Jet และ charter flight)
3. สายการบินต้นทุนต่ำ (Low-Cost Airlines)
4. สายการบินในภูมิภาค (Regional airlines) เป็นสารการบินที่บินอยู่ภายในภูมิภาคนั้นๆ ในระยะทางไม่ไกล โดยส่วนมากมักจะใช้ เครื่องบินขนาดเล็กแบบใบพัด ไม่เกิน 100 ที่นั่ง เช่น Kan air เป็นต้น
(Ref. ภาพประกอบจาก CAPA)
ถ้าเรามองในมุมมองของตามหลักการตลาด (Michael E. Potter) ได้กล่าวว่า กลยุทธ์การแข่งขัน มี 3 องค์ประกอบ ได้แก่
2.1 การลดต้นทุนทางการจัดการ (Low – Cost Leadership)
ซึ่งผมจะขอกล่าวถึง 2.2 การสร้างความแตกต่าง (Differentiation) การ สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งขันทางธุรกิจ จะทำให้เป็นเอกลักษณ์ขององค์กรที่เกิดจากกระทำการ ซึ่งเป็นการได้เปรียบทางการแข่งขันทางธุรกิจ อาจจะเป็นความแตกต่างในกระบวนการทำงานขององค์กร หรือสินค้าและบริการ แต่ทั้งนี้ความแตกต่างดังกล่าวจะต้องแสดงให้เห็นถึงประสิทธิผลและ ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าคู่แข่งขัน
2.3 การมุ่งเน้นเฉพาะ (Focus)
ซึ่งการตลาดในอุตสาหกรรมการบิน ผมคิดว่า สิ่งสำคัญที่สุด คือ ความได้เปรียบในการนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่โดดเด่นกว่าคู่แข่ง (product and service advantage) ถือเป็นกลยุทธ์ที่จะสามารถเรียกลูกค้าได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งเรื่องของความได้เปรียบของแหล่งทรัพยากร (System assets / resources advantages) แต่อีกปัจจัยที่ผมคิดว่าถ้ามีก็ไว้ก็จะมีแต่ผลดี คือ ความได้เปรียบในเรื่องพันธมิตร (Partner advantage) การ มีพันธมิตรที่ดีจะช่วยสนับสนุนให้องค์กรสามารถพัฒนาธุรกิจอย่างรวดเร็ว หลายองค์กรพยายามค้นหาคู่ค้าเพื่อสร้างเป็นพันธมิตรในการทำธุรกิจระยะยาว ในธุรกิจการบินก็มีอยู่หลายๆกลุ่ม เช่น Star Alliance , One World เป็นต้น
ซึ่งกลุ่มพันธมิตรเหล่านี้ก็ได้มีการร่วมมือกันในหลายๆด้าน ซึ่งเป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อนสายการบินในกลุ่มให้มีความมั่นคงและมีการที่ ดีขึ้น และประเด็นสำคัญคือ ทำให้สามารถขาดทุนได้น้อยลงและยังสามารถทำให้มีตัวเลือกให้แด่ผู้โดยสารที่ ต้องการเดินทางได้สะดวกในการจองผ่านสายการบินนั้นในครั้งเดียว อาทิเช่น Codeshare airlines บางเที่ยวบินอาจจะมี 2-4 สายการบินที่มีการเอามารวมกันในเครื่องบิน1ลำ โดยแบ่งกันรับผิดชอบค่าใช้จ่ายหรือตกลงกันว่าสายการบินไหนจะเป็นผู้บินไป
หรือ วันไหน จะใช้เครื่องของสายไหน ไฟลท์ไหน สลับกันไป หรือ การบินแบบนี้เป็นการส่งไม้ผล้ดให้กัน โดยมีการส่งต่อผู้โดยสารกันระหว่างสายการบินที่มีข้อตกลงกันอยู่ โดยที่อีกสายหนึ่งไม่มีบินไปในเส้นทางนั้น แต่อีกสายหนึ่งมีเป็นต้น
หรือกรณีกลยุทธ์การสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในเรื่องของการใช้ ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด (Resource advantage) ตัวอย่าง Singapore Airline มีรัฐบาลสิงคโปร์เป็นเจ้าของสายการบินและเป็นเจ้าของท่าอากาศยานเอง ส่งผลให้ต้นทุนในการบริการต่ำกว่าคู่แข่งขันมาก และ Singapore Airline ยังมีระบบการบริหารกิจกรรมทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี เช่น มีการจัดระบบการจองตั๋วเครื่องบินที่รวดเร็วถูกต้อง และทันสมัยอยู่ตลอดเวลา Singapore Airline จึงมีความได้เปรียบในการแข่งขันตามหลักการของ Asset-Based Competitive Advantage การมีพันธมิตรที่ดีเป็นหนทางสู่ความสำเร็จได้ในอนาคต (Partner advantage) ซึ่ง Singapore Airlines มีเครือข่ายพันธมิตรมากทั้งในแถบยุโรปและอเมริกาซึ่งการมีพันธมิตรจำนวน มาก ส่งผลให้ลูกค้าที่อยู่ทางยุโรปและ อเมริกาสามารถเลือกการเดินทางมายังแถบเอเชียได้โดยใช้บริการของ Singapore Airline เพราะการเดินทางมีความสะดวกและรวดเร็ว
เอาล่ะครับวิชาการกันมากแล้วเดี๋ยวท่านผู้อ่านคงเครียดๆไปนิดนึง ผมเข้าใจคนไทยดีครับไม่ค่อยชอบอ่านอะไรวิชาการมาก เรามาเบาๆวิชาการลงบ้าง ผมขอยกตัวอย่าง ของสายการบินที่มีกลยุทธ์ทางการตลาดในการแข่งขันด้วยการสร้าง ความต่าง (Differentiation) กันครับ
เริ่มจากสายการบิน EVA Air ท่านคงอาจเคยเห็นบ้างเป็นสายการบินระดับ (Premium airlines) ของใต้หวัน ครับ มีสายการบินอย่างChina airlines เป็นคู่แข่งสำคัญ โดยสายการบิน EVA Air ก็ได้มีการสร้างความต่าง ด้วยการนำเอากลยุทธ์ที่เรียกได้ว่าสะดุดตาหลายๆคนจากทั่วโลกเลยทีเดียว กับเครื่องบินสุดน่ารักเก๋ๆ นำเอามาทำลายใหม่ด้วยลายคิตตี้และลายการ์ตูนต่างๆ เท่านั้นยังไม่หมด นอกจากลายที่เครื่องบินจะสวยงามแล้ว ภายในเครื่องบิน อย่างรุ่น Hello Kitty ก็ยังตกแต่งทุกอย่างเป็นสไตล์และมีเอกลักษณ์เรียกได้ว่าอย่างน้อยๆสาวกKitty ก็หมายปองอยากใช้บริการแล้วล่ะครับ
EVA Air ได้นำเครื่อง Airbus A330-300 มาปรับโฉมด้วย 3 theme สุดน่ารัก ฉบับ Hello Kitty คือ Magic Jet, Apple Jet, และ Global Jet ซึ่งทำเอาหลายๆท่านที่ใช้บริการ ถึงกับแอบขนของลงจากเครื่องเลยทีเดียวครับ เพราะหมอน หรือแม้กระทั่งแก้วน้ำทุกอย่างก็เป็นKittyไปหมด เรียกได้ว่าแทบจะขนกันลงมาได้เท่าที่จะขนกันได้เลยทีเดียวครับ ช้อนซ้อมก็มีหายมาแล้ว
นี่ก็เป็นกลยุทธ์ในการสร้างความแตกต่างทางอารมณ์ เป็นที่รู้กันดีในอุตสาหกรรมสายการบินในปัจจุบันมีการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง และมีความสามารถในการทำกำไรต่ำ ดังนั้นการจะอยู่รอดได้ในอุตสาหกรรมนี้จำเป็นต้องมีความแตกต่าง แต่ความแตกต่างที่เป็นเรื่องของเหตุผล (Functional Benefits) มักจะถูกลอกเลียนแบบได้ง่าย เช่น การใช้เครื่องบินรุ่นใหญ่ มีทีวี และอื่นๆ ซึ่งจากวิธีนี้ ทำให้ สายการบิน EVA Air ไม่ต้องการแข่งขันด้านราคากับสายการบินอื่น อย่างไชน่าแอร์ไลน์ และไม่ต้องการให้ลูกค้าใช้ราคาเพื่อเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจซื้อบัตรโดยสารเพื่อเดินทาง และยังไม่หมดเท่านี้Eva Air ยังทำ Brand awareness ให้สูงขึ้น ด้วยความไม่ธรรมดาของเครื่องบินที่มีลวดลาย Hello Kitty ไม่ว่าคุณเองหรือผมเองก็ต้องอยากถ่ายรูปเก็บเอาไว้และนำไปแชร์ต่อ พูดต่อบอกต่อให้คนอื่นได้รับรู้ถึง ประสบการณ์ความสุขที่ได้รับ (Word of Mouth) จากความแปลกทำให้เครื่องบิน Hello Kitty ได้ออกสื่อทีวี ออกข่าว วิทยุ เผยแพร่ไปทั่วโลก เข้าข่ายถ้าไม่แปลกไม่ดัง ปากต่อปาก ทำให้หลายๆสินค้าและการบริการดังและดับได้!!!นะครับ นอกจากนี้ ยังประหยัดงบประมาณการสื่อสารทางการตลาด โดยมีสื่อมวลชนเผยแพร่ให้ฟรีไม่คิดค่าใช้จ่ายทั่วโลก ลองจินตนาการดูว่าเม็ดเงินที่ประหยัดได้จะขนาดไหน รวมทั้งผมเขียนบทวิจารณ์เครื่องบิน Hello Kitty EVA Air โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายอีกต่างหาก อย่างน้อยๆก็ผมคนนึงละที่ยกตัวอย่างเขาอยู่ในนี้ Brand Image เขาได้ไปเต็มๆ เรียกได้ว่า Eva Air ตัดกำลังคู่แข่งขัน สายการบินอื่นที่คิดจะเลียนแบบโดยนำ Hello Kitty ไปทำเหมือนกับ EVA Air ก็ทำยากแล้ว เพราะ EVA Air ได้แย่งซีนหรือการรับรู้จากผู้บริโภคไปหมดแล้ว และ EVA Air ยังเลือกแบรนด์ที่เป็นผู้นำทางด้านอารมณ์ Emotional benefits อย่าง Hello Kitty ไปเป็นพันธมิตรแล้ว
หลายท่านสงสัยทำไมผมถึงต้องนำเสนอเกี่ยวกับการสร้างความแตกต่าง เพราะปัจจุบัน การแข่งขันทางการตลาดของตราสินค้าดังๆ สิ่งที่ซ้อนอยู่ในตราสินค้า คือความทันสมัย และเทคโนโลยีในการออกแบบและการผลิต และจักทำอย่างไรให้ผู้บริโภคยอมรับและเชื่อมั่นในตราสินค้า โดยผู้บริโภคมักเลือกสินค้าและบริการที่ให้คุณค่ามากที่สุด ดังนั้นการที่จะชนะและรักษาไว้ซึ่งลูกค้า เราควรเข้าใจความจำเป็นและกระบวนการซื้อ และธุรกิจต้องให้มากกว่าคู่แข่งขันปฏิบัติ ทั้งการกำหนดตัวเองด้วยราคาที่สูงกว่าพร้อมคุณค่าที่เหนือกว่าโดยการเลือก กลุ่มเป้าหมายที่เด่นชัด ดังนั้น ความแตกต่างด้านบริการที่เหนือกว่า ไม่ว่าทางด้านความรวดเร็ว ความสะดวกสบาย หรือการเอาใจใส่ในการดูแลและการขนส่งจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อดึงดูดให้มีผู้ ใช้บริการ
ต่อมาเรามาดูกรณีศึกษาของสายการบินต้นทุนต่ำ แห่งนึงในประเทศญี่ปุ่นเป็น Low Cost Airlines ที่เรียกได้ว่ากำลังฮือฮาในขณะนี้
ซึ่งจากภาพสาวกแดนปลาดิบคงจะรู้จักกันดี Peach airlines ได้นำ Theme MARIKO JET มาใส่ไว้ในเครื่องบิน ลักษณะคล้ายๆกับของ EVA Air ในเรื่องของหลักการตลาด แต่นี่เป็นสายการบินต้นทุนต่ำ ก็จึงที่จะอยากสร้างความแตกต่างเพื่อให้เป็นจุดสนใจ เรียกลูกค้าเพื่อแข่งขันกับทั้งสายการบินคู่แข่งและรถไฟความเร็วสูง ถึงแม้ว่าจะบินเส้นทางใกล้ๆออกเดินทางจากญี่ปุ่น ไปยังเส้นทาง ฮ่องกง, เกาหลี และ ไต้หวัน ในเขตประเทศเพื่อนบ้านก็ตาม แต่ส่วนแบ่งการตลาดในญี่ปุ่นนั้นก็ร้อนแรงเช่นกัน
มาดูในประเทศไทยบ้างครับ ยกตัวอย่างสายการบินBangkok Airways
(ข้อความที่พิมพ์ครบ10,000อักษรแล้ว มีต่อPart2นะครับ) และขอบคุณทุกlikeและCommentครับ