[CR] [CR] Shirakawa-go ในวันที่ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีและมินชูขุโยชิโร่ของคุณยายสุดน่ารัก

อาศัยห้องนี้หาข้อมูลการไปเที่ยวญี่ปุ่นมาตลอด วันนี้ก็ขอรีวิวอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นการตอบแทนนะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ในห้องนี้ที่กำลังวางแผนไปเที่ยวญี่ปุ่นบ้างค่ะ

เราไปญี่ปุ่นสองอาทิตย์ ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม ถึง 11 พฤศจิกายน ข้อมูลส่วนใหญ่และแรงบันดาลใจมาจากหนังสือญี่ปุ่นคนเดียวก็เที่ยวได้ของคุณบาส และข้อมูลประกอบอื่น ๆ จากคุณติวเตอร์ตู่และเว็บไซต์ Japan-guide.com ซึ่งก็ต้องขอขอบพระคุณไว้ตรงนี้ด้วยค่ะ

สถานที่ที่ประทับใจมากที่สุดแห่งหนึ่งในทริปนี้คือหมู่บ้านชาวนา Shirakawa-go ตั้งแต่เห็นภาพของหมู่บ้านนี้ครั้งแรก เป็นภาพที่ถ่ายจากมุมสูง มองเห็นหมู่บ้านทั้งหมู่บ้าน ก็ตกหลุมรักทันทีและตั้งใจว่าจะไปเยือนสักครั้งให้ได้ จากที่อ่านรีวิวจากอินเตอร์เน็ตทราบว่าเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ใช้เวลาเที่ยววันเดียวก็หมด แต่เราชอบบรรยากาศของหมู่บ้าน อยากเดินช้า ๆ ในหมู่บ้าน อยากสัมผัสชิราคาวะโกะตอนกลางคืนและตอนเช้าตรู่ที่ไม่มีผู้คน เลยตกลงใจว่าจะค้างในหมู่บ้านหนึ่งคืนค่ะ


การจองที่พักในชิราคาวะโกะสามารถทำได้ผ่าน Shirakawa-go Tourist Association ค่ะ ยังสามารถจองตั๋วรถบัส Nohi Bus Takayama-Shirakawago-Kanazawa ผ่านทางนี้ได้ด้วยนะคะ รับจองล่วงหน้า 1 เดือนค่ะ
Shirakawa-go Tourist Association
T: +81 5769-6-1013 office hours: 9.00-17.00
info@shirakawa-go.gr.jp

ที่พักมีหลายแบบให้เลือกทั้งโรงแรม เรียวกัง หรือโฮมสเตย์แบบมินชูขุ ราคาก็แตกต่างกันไป เราเลือกพักแบบมินชูขุ กินนอนในบ้านชาวนา ราคาคืนละ 8000 เยน รวมอาหารเย็นและอาหารเช้า

ได้พักที่ Yoshiro ค่ะ
Yoshiro, a gassho style house (farmhouse)
T: +81 (0) 5769-6-1175
F: +81 (0) 5769-6-1049


เช็คอินตอนบ่ายสามโมง แต่เรามาถึงตอนราว ๆ สิบโมงเช้า (รถบัสเที่ยว 8.45 จากคานาซาว่า) มาถึงแล้วให้ไปติดต่อที่ Tourist Office ก่อนค่ะ เค้าจะให้แผนที่มาและชี้ให้ดูว่าบ้านที่เราจะพักอยู่ตรงไหน สามารถเอากระเป๋าไปฝากไว้ก่อนได้
แผนที่มีหลายภาษา เราขอมาทั้งภาษาไทย อังกฤษ และญี่ปุ่น

เมื่อฝากกระเป๋าแล้วก็ไปเที่ยวชิราคาวะโกะกันเลยค่ะ
ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำ Shokawa เข้ามาในหมู่บ้าน


บรรยากาศของหมู่บ้านในตอนใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี




วันที่ไป ฟ้าปิด ไม่มีแดด พอบ่ายฝนก็ตกลงมา และตกต่อเนื่องไปจนถึงกลางคืน
เราสามารถเยี่ยมชมภายในบ้านที่เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ได้นะคะ เราเข้าไปสามที่ค่ะ
Wada House (Admission fee 300 yen)
Kanda House (Admission fee 300 yen)
Myozenji Temple and Museum (Admission fee 300 yen)

ภายในบ้านจัดแสดงสิ่งของและเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ




เตาไฟ เหมือนเป็นศูนย์กลางของบ้าน อันนี้อยู่ที่วัดเมียวเซ็นจิ


เราเจอคอสเพลย์ด้วยค่ะ เค้าบอกแล้วล่ะว่าแต่งเป็นตัวอะไรเรื่องอะไร แต่เราไม่รู้จัก



อาหารเที่ยงที่ชิราคาวะโกะ เนื้อฮิดะย่างแบบมิโสะสไตล์
Lunch Set 2100 เยน



คืนวันเสาร์-อาทิตย์จะมี Light-up ที่พิพิธภัณฑ์ The Heritage
ค่าเข้าชม 500 เยน




บ่ายสามเช็คอินเข้าที่พักค่ะ
มินชูขุโยชิโร่


ทางเดินภายในบ้าน


ห้องน้ำ


ห้องที่เรานอน



ช่วงที่เรากินข้าวเย็น จะมีคนมาปูที่นอนให้ค่ะ และช่วงที่กินข้าวเช้าก็จะมาเก็บที่นอนให้


ช่วงที่เราพักมีคนญี่ปุ่นกลุ่มนึงกับฮ่องกงหนึ่งคู่พักอยู่ด้วยค่ะ
เวลากินข้าวก็กินด้วยกันอย่างนี้ค่ะ


อาหารเย็น จัดเต็มค่ะ อร่อยมาก ยกเว้นชามเล็ก ๆ ที่ใส่เส้นสีขาว ๆ นั่นนะคะ หน้าตาเหมือนไชเท้าหั่นฝอยแล้วคลุกด้วยอะไรไม่รู้คล้าย ๆ ไข่ขาว มันยืด ๆ ได้ เวลากินเข้าไปมันหยึย ๆ บอกไม่ถูก ทานได้ไม่กี่คำก็ต้องขอยอมแพ้


เนื้อฮิดะ เต็มปากเต็มคำค่ะ
ตรงนี้คุณยายเจ้าของเป็นห่วงว่าเราทราบไหมว่าจะกินอย่างไร ย่างเป็นไหม แต่เรามีประสบการณ์จากอาหารเที่ยงมาแล้วค่ะ สบายมาก


ระหว่างกินข้าวเย็น คุณยายสีซอให้ฟังด้วยค่ะ เล่น 2 เพลงคือโดราเอมอนกับ Sukiyaki (นั่งนึกชื่อเพลงอยู่นาน นึกไม่ออก พอคุณพี่ญี่ปุ่นแปลเนื้อเพลงให้คุณพี่ฮ่องกงฟัง คุณพี่ฮ่องกงพูดชื่อสุกี้ยากี้ขึ้นมาเลยร้องอ๋อ)


หน้าตาอาหารเช้าค่ะ
ถั่วสีส้ม ๆ อันนั้นอร่อยมากเลยค่ะ ไม่แน่ใจว่าเป็นนัตโตะรึเปล่า เพื่อนบอกว่ามีแบบแห้งกับแบบหนืด ถ้าใช่ อันนี้น่าจะแบบแห้ง อร่อยสุด ๆ
ส่วนที่อยู่บนเตาคือมิโสะคลุกกับเห็ดเข็มทองและเห็ดหอมหั่นฝอย ย่างให้ร้อน เอามาคลุกกับข้าว แต่เราว่ามันเค็มไปหน่อยค่ะ


ประทับใจกับการมาชิราคาวะโกะและพักมินชูขุครั้งนี้มากเลยค่ะ คุณยายดูแลอย่างดี อาหารก็อร่อยมากด้วย ถ้าได้กลับมาอีกก็อยากจะพักแบบนี้อีกค่ะ
ก่อนกลับขอถ่ายรูปกับคุณยายหน่อย คุณยายน่ารักมากค่ะ ตอนชมว่าอาหารอร่อย คุณยายทำท่าเขิน เอาสองมือแนบแก้ม คาวาอี้สุด ๆ เลยค่ะ >______<
จุดนี้ขออนุญาต crop ตัวเองออกไปนะคะ แบ๊วน่ารักสู้คุณยายไม่ได้เลยจริง ๆ ค่ะ ขอยอมแพ้


ตอนที่เขียนเล่าเรื่องไปญี่ปุ่นลงใน Facebook ของตัวเอง เพื่อนชมว่าอ่านสนุกดีเลยฮึกเหิม ขอเอามาลงให้อ่านกันเล่น ๆ นะคะ เป็นสเตตัสสองอันที่เขียนเกี่ยวกับชิราคาวะโกะค่ะ

สิ่งที่ชอบในญี่ปุ่น 6: Shirakawa-go, คุณยายเจ้าของ Minsyuku "Yoshiro", Light-up ที่พิพิธภัณฑ์ The Heritage
ไฮไลท์ของการเดินทางครั้งนี้ เป็นสถานที่ที่ฝันอยากมามากที่สุด ชิราคาวะโกะเป็นหมู่บ้านชาวนาที่มีบ้านหลังคาลาดจนเกือบถึงพื้นเรียกว่า Gasshozukuri เป็นหมู่บ้านที่ยังมีคนอาศัยอยู่จริง ๆ แต่ก็เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมได้ และหมู่บ้านนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้วด้วย
ก้าวแรกหลังจากข้ามสะพานแขวนข้ามแม่น้ำโชคาวะเข้ามาในหมู่บ้านเหมือนกับกำลังก้าวเข้าสู่แดนมหัศจรรย์อย่างไรอย่างนั้น ทุกอย่างสวยมาก เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ล้อมรอบด้วยภูเขาซึ่งใบไม้กำลังจะเปลี่ยนสี วิวสวยชนิดที่ว่าเวลาจะถ่ายรูป แค่ยกกล้องขึ้นมาแล้วกด ๆ ไม่ต้องเล็งไม่ต้องหามุมให้เสียเวลาก็ออกมาสวยทุกรูปละ
เลือกพักที่หมู่บ้านหนึ่งคืน เป็นอารมณ์แบบโฮมสเตย์ กินนอนกับเจ้าของบ้าน ได้นอนบ้านชื่อ Yoshiro เป็นหลังเดียวกับที่อ่านเจอในรีวิวซึ่งบอกว่าคุณยายเจ้าของพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ถามอะไรไม่ยอมตอบ ไม่ให้ถ่ายรูปด้วย ก่อนมาเลยหวาด ๆ เล็กน้อย แต่เอาเข้าจริงคนละเรื่องเลย เหมือนได้เจอคุณยายรุ่นปรับปรุงใหม่ \^O^/
คุณยายเข้าใจภาษาอังกฤษได้ดีพอใช้ พูดได้เป็นคำ ๆ บวกกับภาษามือก็พอสื่อสารกันได้ แถมใจดีด้วย พอบอกว่า หนูอยากไปออนเซ็น คุณยายก็ควักบัตรลดออนเซ็นมาให้ทันที กับข้าวบ้านคุณยายก็อร่อย จัดมาชุดใหญ่มาก มีปลารสเค็ม ๆ หนึ่งตัวกับเนื้อฮิดะย่างบนเตาด้วย ระหว่างกินข้าว คุณยายยังสีซอให้ฟังอีก เล่นสองเพลง คือเพลงโดราเอมอนกับ Sukiyaki
เปรี้ยวมากค่า~ >____<
คุณยายยังแนะนำที่เที่ยวให้ได้อีก
ตอนกินข้าว หลังสีซอเสร็จ
คุณยาย: ทูเดย์ ไล้โตะ อัพปุ ไล้โตะ อัพปุ เฮาส์ เฮาส์ (ชี้ไปทางแม่น้ำ) ไล้โตะ ไนน์ สต็อป (ทำมือไขว้กันเป็นรูปกากบาท)
พยายามมากคุณยาย ^^"
คุณยาย: Eat, eat and go!
พูดจบก็ควักบัตรลดขึ้นมาแจก เป็นบัตรลดค่าเข้าชม Light-up ที่พิพิธภัณฑ์ The Heritage!
คุณยายมีบัตรลดทุกสิ่งอันบนโลกใบนี้ *O*
Sugoi!
การไปชม Light-up ก็คุ้มค่ามากมาย บ้านชาวนาที่มีแสงไฟสปอตไลท์สาดส่องสวยยิ่งกว่าในตอนกลางวันซะอีก เค้าจะเปิดให้ชมถึงแค่สามทุ่มก่อนจะปิดไฟแต่ที่สุดยอดที่สุดสำหรับการมาค้างคืนคือการเดินในหมู่บ้านชิราคาวะโกะในยามค่ำคืน หมู่บ้านทั้งหมู่บ้านมืดมิดและเงียบสงบมาก มีการตามไฟเฉพาะจุดและก็ไม่ได้สว่างมากมายอะไร บรรยากาศต่างจากตอนกลางวันที่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวลิบลับ ยิ่งเวลาขากลับจากพิพิธภัณฑ์ ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำโชคาวะกลับ มองไปที่หมู่บ้านแทบไม่เห็นแสงไฟ มีหมอกเป็นสายลอยอยู่เหนือหมู่บ้าน มันเหมือนกับกำลังเดินเข้าสู่แดนสนธยาและถูกความมืดกลืนหายไป
จินตนาการบรรเจิดเลยเหอะ สุดยอด!
ไม่ผิดหวังเลยจริง ๆ กับสิ่งที่เฝ้าฝันมานาน
P.S. แถมพิเศษ
1. ประตูบ้านคุณยายฝืดมาก ออกแรงผลักตั้งนานเปิดได้คืบเดียว แต่พอดีเป็นผู้หญิงตัวเล็กน่ารักเลยเข้าออกได้โดยไร้ปัญหา ใครจะมาพักที่โยชิโร่ ควรเอาน้ำมันหยอดประตูมาเป็นของฝากให้คุณยาย
มารู้ทีหลังว่าตัวเองเปิดประตูผิดด้านค่ะ คุณยายขา ที่ว่าประตูบ้านคุณยายฝืด หนูขอโทษค่า T^T
2. การไปชม Light-up ในตอนกลางคืน ควรเอาไฟฉายไปด้วย ทางมันมืด เดินไม่ระวัง ตกน้ำไม่รู้ด้วยนะ

เรื่องขำขันในญี่ปุ่น 1: เข้าห้องผิด
ในมินชูขุ โยชิโร่ ของคุณยายจะแบ่งเป็นห้อง ๆ ให้แขกพัก มีทั้งห้องพักเดี่ยวและห้องที่พักได้หลายคน แบ่งเป็นสองแถวซ้ายกับขวา ประตูเป็นบานเลื่อน ห้องก็ต่อ ๆ กันไป ไม่มีหมายเลขห้อง ใช้วิธีจำและสังเกตเอาเอง ตอนกลางวันมันก็ไม่มีปัญหาหรอก แต่ตอนกลางคืนนี่สิ
ระหว่างที่นุ่นกำลังเช็คกล้อง เสียงประตูเลื่อนดังครืด หันไปมอง คุณพี่ญี่ปุ่นยืนขมวดคิ้วอยู่ตรงประตู ท่าทางไม่ค่อยพอใจที่เห็นนุ่นอยู่ในห้อง
ก็มองหน้าคุณพี่ แล้วหันไปมองกระเป๋าเป้ตัวเอง คุณพี่มองตาม
คุณพี่ญี่ปุ่น: อ๊ะ (ทำเสียงตกใจ หน้าตาตื่น) โกเมนนาไซ โกเมนนาไซ
นุ่น: ไดโจบุ (ยิ้มหวาน โบกมือเลียนแบบโช อาราชิในรายการ VS Arashi ที่ดูที่ฮาโกเน่)
ก่อนกินข้าว นั่งเช็คแผนของพรุ่งนี้ เสียงประตูเลื่อนดังครืด (ครั้งที่ 2) คุณพี่ญี่ปุ่นอีกท่านชะงักกึก รีบขอโทษแล้วปิดประตู
สงสัยห้องจะจำยากจริง ๆ แฮะ *O*
หลังจากกลับจากดู Light-up ล้างหน้าล้างตาเรียบร้อย กำลังจะฉีดสเปรย์ผมก่อนนอน ผมก่อนฉีดก็จะฟูยุ่งเหยิงไปทั้งหัว (นึกสภาพอีลำยองตอนเมายาดอง)
เสียงประตูเลื่อนดังครืด (ครั้งที่ 3)
หันไปมองทั้งที่ผมฟู ๆ ยุ่ง ๆ สยายยาวปิดหน้าปิดตา
คุณพี่ฮ่องกงแต่งชุดยูกาตะหลังอาบน้ำ ยืนตาค้างอ้าปากค้างเหมือนกับเห็นผี
(สตั๊นท์ไปราวสามวินาที)
นุ่นยิ้มหวานให้
คุณพี่จ้องแบบไม่ยอมละสายตาแล้วค่อย ๆ ก้าวถอยหลังพร้อมกับปิดประตูแบบเงียบกริบ
ถ้าเห็นนุ่นโป๊คิดว่าคุณพี่คงไม่ตกใจเท่านี้ ^^"
ชื่อสินค้า:   Shirakawa-go Japan
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่