อย่าไปฟังพวกเสียงนกเสียงกาที่ต่างพากันออกมาเรียกหาความรับผิดชอบด้วยการลาออก หรือยุบสภานะครับ มันจะไปเข้าทางพวกนั้นนะครับ
ถ้าจำกันได้ ตอนที่คนเสื้อแดงชุมนุมเพื่อให้รัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ยุบสภา กลับแลกมาด้วยชีวิตเกือบร้อย บาดเจ็บอีกเกือบสองพัน พวกเราเคยเห็นไหมครับ พวกนี้ออกมาเรียกร้องให้นายกฯรับผิดชอบ มีบ้างไหมครับ ที่ออกมาเรียกร้องให้ยุบสภา
แต่เมื่อรัฐบาลคุณปูได้ออก พรบ.นิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่ง มันก็เป็นการกระทำตามกติกามิใช่หรือครับ แต่เมื่อประชาชนส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ รัฐบาลคุณปูก็พร้อมจะรับฟัง และถอนออกไปเสียทุกฉบับ มันจึงเป็นการกระทำตามความต้องการของคนส่วนใหญ่ ดังนั้นมันจึงไม่มีเงื่อนไขอะไรที่จะมาชุมนุมกันต่อไปอีกแล้วนี่ครับ
แต่ที่การชุมนุมยังยึดเยื้อ เป็นเพราะ พรบ.นิรโทษกรรมเป็นเพียงเป้าหมายดึงมวลชนให้มีส่วนร่วม แต่เป้าหลักนั้นคือ ต้องการล้มรัฐบาลต่างหากล่ะครับ
เพราะผมไม่เคยเชื่อคุณอภิสิทธิ์ที่ออกมาสัมภาษณ์แต่แรก เป้าหมายแค่ พรบ. ไม่เคยคิดล้มรัฐบาล ก็เป็นเพียงหนึ่งในหลายร้อยหลายพันครั้งที่คุณอภิสิทธิ์มักจะพูดอย่างทำอย่างอยู่แล้วนะครับ สำหรับคนๆนี้มันล้มละลายทางความน่าเชื่อถือไปหมดแล้วครับ
เพราะผมไม่เคยเชื่อคุณวิทยาที่บอกว่า พรบ.จบ ม็อบก็จบ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นแล้วแต่ประชาชน ฟังแล้วเป็นไงครับคุณปู พวกมะกอกสามตะกร้าปาไม่มีวันถูกจริงๆ
เพราะผมไม่เคยศรัทธากับเหล่า 40 สว. ที่คอยทำตัวเป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลมาตลอด มันเป็นการเล่นการเมืองที่แย่ยิ่งกว่า สภาผัวเมียอย่างที่พวกนั้นกล่าวร้าย เพราะพวกนี้จับกลุ่มกันกับพรรคการเมือง แล้วอาศัยการเมืองโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของประเทศชาติและประชาชน เพราะไม่ได้เชื่อมโยงมาจากประชาชนไงครับ พวกนี้จึงยังกล้าที่จะยื้อเวลาในการคว่ำ พรบ.เจ้าปัญหา เพื่อลากเวลาให้คนบนถนนได้ยกระดับการชุมนุม
คุณปูครับ หมดประเด็นเรื่อง พรบ. พวกเขาก็ยังรอคดีศาลโลกเรื่องเขาพระวิหาร เมื่อหมดประเด็นเขาพระวิหาร ก็มีประเด็นใหม่ เรื่องความชอบธรรม ป๊าดโธ่ ทำคนตายกลางเมืองหลวงเป็นร้อย ยังมีความชอบธรรมบริหารประเทศต่อ แต่การยอมถอยกฎหมายที่ประชาชนไม่ต้องการ กลับจะมาบอกว่า ขาดความชอบธรรม คนพวกนี้มันคงคิดว่าคนส่วนใหญ่โง่เหมือนสาวกกันหมดกระมัง
คุณปูครับ ยิ่งนานวัน ประชาชนยิ่งเห็นธาตุแท้ของพวกชุมนุมกันหมดแล้วครับ ต่อต้านการล้างผิด แต่กลับยุยงให้ประชาชนทำผิดเสียเอง ต่อต้านรัฐบาลทำให้ประเทศเสียหาย ด้วยการยุยงให้ประชาชนหยุดงาน ไม่จ่ายหรือชะลอการจ่ายภาษี อย่างนี้มันบอกว่าเป็นการชุมนุมตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ
ถ้าคุณปูยอมถอยให้พวกนี้อีกก้าว ก็จะกลายเป็นบรรทัดฐานให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมในอนาคตนะครับ ต่อไปถ้าจะล้มรัฐบาล ก็จะใช้วิธีที่ไม่ถูกต้อง ผิดกฎหมาย ภายใต้วาทกรรม “อารยะขัดขืน” แล้วประเทศจะเดินหน้าได้อย่างไรได้ครับคุณปู
และยิ่งเจตนารมณ์ของผู้ชุมนุม เป้าหมายที่แท้จริงยังไม่ใช่แค่ล้มรัฐบาลคุณปูนะครับ มันไปไกลถึงขนาดจะล้มระบอบทักษิณกันเลยทีเดียว อย่างนี้แล้วคุณปูคงไม่ไปเชื่อว่า การยุบสภาเป็นการแก้ปัญหาได้นะครับ
เพราะต่อให้เลือกตั้งใหม่ ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล ก็จะมาอีหรอบเดิม นั่นคือการขับไล่ระบอบทักษิณ ดังนั้นการเลือกตั้งจึงต้องมีทางออกเพียงทางเดียว นั่นคือ ปชป.ต้องได้เป็นรัฐบาลเท่านั้นเรื่องถึงจะจบ อย่างนี้แล้วมันเป็นประชาธิปไตยตรงไหน จริงไหมครับคุณปู
และต่อให้คุณปูยุบสภาตามความเรียกร้องของกลุ่มคนที่พยายามหาทางลงให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม ถ้าคนเหล่านั้นไม่มั่นใจในชัยชนะจากการเลือกตั้ง ก็จะสร้างประเด็นขึ้นมาใหม่อีก
อย่างขอนายกฯมาตรา 7 พวกนี้ก็ทำมาแล้ว
อย่างขอคืนพระราชอำนาจ พวกนี้ก็ทำมาแล้ว
อย่างบอยคอตการเลือกตั้ง พวกนี้ก็ทำมาแล้ว
อย่างสนับสนุนให้กองทัพเข้ามายึดอำนาจ พวกนี้ก็ทำมาแล้ว
อย่างถวายฎีกาของสภาประชาชน พวกนี้ก็ทำมาแล้ว
ยังจะตั้งศาลประชาชนกันเอง พวกนี้ก็พยายามจะทำ
แล้วยังไม่รู้ว่า ต่อไปยังจะมีประเด็นใหม่ๆเพิ่มขึ้นมาอีก
ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่า คนเหล่านี้อาศัยอำนาจอะไรมากระทำเรื่องเหล่านี้
จะว่าเป็นเสียงส่วนใหญ่ ก็คงไม่ต้องใช้วิธีเหล่านี้ให้ผู้คนไยไพ
จะว่าทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศ ก็คงไม่ใช้วิธีให้ชาติเสียหายอย่างนี้
จะว่าทำเพื่อไม่ให้รัฐบาลทุจริต ก็ยังไม่มีหลักฐานอะไรที่เกี่ยวโยงกับคนในรัฐบาล
ดังนั้นการยอมเทหมดหน้าตัก ไม่ใส่ใจกับภาพลักษณ์ ไม่คำนึงถึงผลกระทบ ไม่สนใจกับข้อกฎหมาย จึงเป็นเพียงความพยายามที่จะช่วงชิงอำนาจรัฐกลับคืนมาให้เร็วที่สุด เพื่อแบ่งปันผลประโยชน์ให้แก่กันและกัน ดังที่ขับไล่คุณทักษิณสำเร็จไงครับ
ข้อสำคัญ คดีความต่างๆมันเริ่มงวดเข้ามาทุกทีแล้ว มีแต่ยึดครองอำนาจรัฐเท่านั้น จึงจะสามารถกลับผิดให้เป็นถูก กลับดำให้เป็นขาว นี่ต่างหากครับจึงน่าจะเป็นเจตนาที่แท้จริง ผมคิดของผมอย่างนี้ครับคุณปู
ดังนั้นจึงอยากฝากคุณปูว่า ต้องเข้มแข็งไว้นะครับ ต้องไม่ถอยไปมากกว่านี้ เพราะการลาออกหรือยุบสภา ไม่ใช่ทางออกของประเทศอย่างแท้จริง และต้องอย่าให้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมายนะครับคุณปู
ถ้าต้องการหาทางออกให้กับประเทศ จึงมีเพียงวิธีเดียวครับคุณปู ต้องรักษานิติรัฐ นิติธรรมอย่างที่คุณอภิสิทธิย้ำเตือนเสมอ นั่นคือการเร่งรัดคดีความทางการเมืองต่างๆให้อย่างเท่าเทียมกัน จะต้องไม่มีฝ่ายหนึ่งลืมขัง อีกฝ่ายขังลืมอีกต่อไป จากนั้นจะมาเซทซีโร่ค่อยกลับมาเจรจากันใหม่ คงจะง่ายกว่านะครับคุณปู
แล้วคุณปูก็บริหารเรื่องบริหารจัดการน้ำให้เป็นระบบ และทำเป้าหมายที่จะปรับโครงสร้างพื้นฐานประเทศให้สำเร็จ แม้จะไม่สำเร็จในวาระนี้ แต่อย่างน้อยก็ควรจะเริ่มต้นทำ เพื่อให้รัฐบาลใหม่ซึ่งจะเป็นรัฐบาลของคุณปูหรือรัฐบาลอื่นที่ประชาชนต้องการ เข้ามาสานต่อให้สำเร็จให้ได้ เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชนต่อไป
ส่วนจะได้เป็นรัฐบาลต่อไปในครั้งหน้าหรือไม่ คงต้องรอให้คนส่วนใหญ่เป็นผู้ตัดสินนะครับ ไม่ใช่คุณสุเทพ คุณอภิสิทธิ์ คุณสนธิ คุณสุริยะไสหรือแม้แต่คุณจำลอง จะมาเจ้ากี้เจ้าการบงการทิศทางของประเทศนะครับคุณปู คนเสื้อแดงคงไม่มีวันยอมแน่ๆ เชื่อผมเถอะครับ คุณปู
********** คุณปูครับ เข้มแข็งไว้นะครับ *********
ถ้าจำกันได้ ตอนที่คนเสื้อแดงชุมนุมเพื่อให้รัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ยุบสภา กลับแลกมาด้วยชีวิตเกือบร้อย บาดเจ็บอีกเกือบสองพัน พวกเราเคยเห็นไหมครับ พวกนี้ออกมาเรียกร้องให้นายกฯรับผิดชอบ มีบ้างไหมครับ ที่ออกมาเรียกร้องให้ยุบสภา
แต่เมื่อรัฐบาลคุณปูได้ออก พรบ.นิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่ง มันก็เป็นการกระทำตามกติกามิใช่หรือครับ แต่เมื่อประชาชนส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ รัฐบาลคุณปูก็พร้อมจะรับฟัง และถอนออกไปเสียทุกฉบับ มันจึงเป็นการกระทำตามความต้องการของคนส่วนใหญ่ ดังนั้นมันจึงไม่มีเงื่อนไขอะไรที่จะมาชุมนุมกันต่อไปอีกแล้วนี่ครับ
แต่ที่การชุมนุมยังยึดเยื้อ เป็นเพราะ พรบ.นิรโทษกรรมเป็นเพียงเป้าหมายดึงมวลชนให้มีส่วนร่วม แต่เป้าหลักนั้นคือ ต้องการล้มรัฐบาลต่างหากล่ะครับ
เพราะผมไม่เคยเชื่อคุณอภิสิทธิ์ที่ออกมาสัมภาษณ์แต่แรก เป้าหมายแค่ พรบ. ไม่เคยคิดล้มรัฐบาล ก็เป็นเพียงหนึ่งในหลายร้อยหลายพันครั้งที่คุณอภิสิทธิ์มักจะพูดอย่างทำอย่างอยู่แล้วนะครับ สำหรับคนๆนี้มันล้มละลายทางความน่าเชื่อถือไปหมดแล้วครับ
เพราะผมไม่เคยเชื่อคุณวิทยาที่บอกว่า พรบ.จบ ม็อบก็จบ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นแล้วแต่ประชาชน ฟังแล้วเป็นไงครับคุณปู พวกมะกอกสามตะกร้าปาไม่มีวันถูกจริงๆ
เพราะผมไม่เคยศรัทธากับเหล่า 40 สว. ที่คอยทำตัวเป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลมาตลอด มันเป็นการเล่นการเมืองที่แย่ยิ่งกว่า สภาผัวเมียอย่างที่พวกนั้นกล่าวร้าย เพราะพวกนี้จับกลุ่มกันกับพรรคการเมือง แล้วอาศัยการเมืองโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของประเทศชาติและประชาชน เพราะไม่ได้เชื่อมโยงมาจากประชาชนไงครับ พวกนี้จึงยังกล้าที่จะยื้อเวลาในการคว่ำ พรบ.เจ้าปัญหา เพื่อลากเวลาให้คนบนถนนได้ยกระดับการชุมนุม
คุณปูครับ หมดประเด็นเรื่อง พรบ. พวกเขาก็ยังรอคดีศาลโลกเรื่องเขาพระวิหาร เมื่อหมดประเด็นเขาพระวิหาร ก็มีประเด็นใหม่ เรื่องความชอบธรรม ป๊าดโธ่ ทำคนตายกลางเมืองหลวงเป็นร้อย ยังมีความชอบธรรมบริหารประเทศต่อ แต่การยอมถอยกฎหมายที่ประชาชนไม่ต้องการ กลับจะมาบอกว่า ขาดความชอบธรรม คนพวกนี้มันคงคิดว่าคนส่วนใหญ่โง่เหมือนสาวกกันหมดกระมัง
คุณปูครับ ยิ่งนานวัน ประชาชนยิ่งเห็นธาตุแท้ของพวกชุมนุมกันหมดแล้วครับ ต่อต้านการล้างผิด แต่กลับยุยงให้ประชาชนทำผิดเสียเอง ต่อต้านรัฐบาลทำให้ประเทศเสียหาย ด้วยการยุยงให้ประชาชนหยุดงาน ไม่จ่ายหรือชะลอการจ่ายภาษี อย่างนี้มันบอกว่าเป็นการชุมนุมตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ
ถ้าคุณปูยอมถอยให้พวกนี้อีกก้าว ก็จะกลายเป็นบรรทัดฐานให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมในอนาคตนะครับ ต่อไปถ้าจะล้มรัฐบาล ก็จะใช้วิธีที่ไม่ถูกต้อง ผิดกฎหมาย ภายใต้วาทกรรม “อารยะขัดขืน” แล้วประเทศจะเดินหน้าได้อย่างไรได้ครับคุณปู
และยิ่งเจตนารมณ์ของผู้ชุมนุม เป้าหมายที่แท้จริงยังไม่ใช่แค่ล้มรัฐบาลคุณปูนะครับ มันไปไกลถึงขนาดจะล้มระบอบทักษิณกันเลยทีเดียว อย่างนี้แล้วคุณปูคงไม่ไปเชื่อว่า การยุบสภาเป็นการแก้ปัญหาได้นะครับ
เพราะต่อให้เลือกตั้งใหม่ ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล ก็จะมาอีหรอบเดิม นั่นคือการขับไล่ระบอบทักษิณ ดังนั้นการเลือกตั้งจึงต้องมีทางออกเพียงทางเดียว นั่นคือ ปชป.ต้องได้เป็นรัฐบาลเท่านั้นเรื่องถึงจะจบ อย่างนี้แล้วมันเป็นประชาธิปไตยตรงไหน จริงไหมครับคุณปู
และต่อให้คุณปูยุบสภาตามความเรียกร้องของกลุ่มคนที่พยายามหาทางลงให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม ถ้าคนเหล่านั้นไม่มั่นใจในชัยชนะจากการเลือกตั้ง ก็จะสร้างประเด็นขึ้นมาใหม่อีก
อย่างขอนายกฯมาตรา 7 พวกนี้ก็ทำมาแล้ว
อย่างขอคืนพระราชอำนาจ พวกนี้ก็ทำมาแล้ว
อย่างบอยคอตการเลือกตั้ง พวกนี้ก็ทำมาแล้ว
อย่างสนับสนุนให้กองทัพเข้ามายึดอำนาจ พวกนี้ก็ทำมาแล้ว
อย่างถวายฎีกาของสภาประชาชน พวกนี้ก็ทำมาแล้ว
ยังจะตั้งศาลประชาชนกันเอง พวกนี้ก็พยายามจะทำ
แล้วยังไม่รู้ว่า ต่อไปยังจะมีประเด็นใหม่ๆเพิ่มขึ้นมาอีก
ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่า คนเหล่านี้อาศัยอำนาจอะไรมากระทำเรื่องเหล่านี้
จะว่าเป็นเสียงส่วนใหญ่ ก็คงไม่ต้องใช้วิธีเหล่านี้ให้ผู้คนไยไพ
จะว่าทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศ ก็คงไม่ใช้วิธีให้ชาติเสียหายอย่างนี้
จะว่าทำเพื่อไม่ให้รัฐบาลทุจริต ก็ยังไม่มีหลักฐานอะไรที่เกี่ยวโยงกับคนในรัฐบาล
ดังนั้นการยอมเทหมดหน้าตัก ไม่ใส่ใจกับภาพลักษณ์ ไม่คำนึงถึงผลกระทบ ไม่สนใจกับข้อกฎหมาย จึงเป็นเพียงความพยายามที่จะช่วงชิงอำนาจรัฐกลับคืนมาให้เร็วที่สุด เพื่อแบ่งปันผลประโยชน์ให้แก่กันและกัน ดังที่ขับไล่คุณทักษิณสำเร็จไงครับ
ข้อสำคัญ คดีความต่างๆมันเริ่มงวดเข้ามาทุกทีแล้ว มีแต่ยึดครองอำนาจรัฐเท่านั้น จึงจะสามารถกลับผิดให้เป็นถูก กลับดำให้เป็นขาว นี่ต่างหากครับจึงน่าจะเป็นเจตนาที่แท้จริง ผมคิดของผมอย่างนี้ครับคุณปู
ดังนั้นจึงอยากฝากคุณปูว่า ต้องเข้มแข็งไว้นะครับ ต้องไม่ถอยไปมากกว่านี้ เพราะการลาออกหรือยุบสภา ไม่ใช่ทางออกของประเทศอย่างแท้จริง และต้องอย่าให้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมายนะครับคุณปู
ถ้าต้องการหาทางออกให้กับประเทศ จึงมีเพียงวิธีเดียวครับคุณปู ต้องรักษานิติรัฐ นิติธรรมอย่างที่คุณอภิสิทธิย้ำเตือนเสมอ นั่นคือการเร่งรัดคดีความทางการเมืองต่างๆให้อย่างเท่าเทียมกัน จะต้องไม่มีฝ่ายหนึ่งลืมขัง อีกฝ่ายขังลืมอีกต่อไป จากนั้นจะมาเซทซีโร่ค่อยกลับมาเจรจากันใหม่ คงจะง่ายกว่านะครับคุณปู
แล้วคุณปูก็บริหารเรื่องบริหารจัดการน้ำให้เป็นระบบ และทำเป้าหมายที่จะปรับโครงสร้างพื้นฐานประเทศให้สำเร็จ แม้จะไม่สำเร็จในวาระนี้ แต่อย่างน้อยก็ควรจะเริ่มต้นทำ เพื่อให้รัฐบาลใหม่ซึ่งจะเป็นรัฐบาลของคุณปูหรือรัฐบาลอื่นที่ประชาชนต้องการ เข้ามาสานต่อให้สำเร็จให้ได้ เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชนต่อไป
ส่วนจะได้เป็นรัฐบาลต่อไปในครั้งหน้าหรือไม่ คงต้องรอให้คนส่วนใหญ่เป็นผู้ตัดสินนะครับ ไม่ใช่คุณสุเทพ คุณอภิสิทธิ์ คุณสนธิ คุณสุริยะไสหรือแม้แต่คุณจำลอง จะมาเจ้ากี้เจ้าการบงการทิศทางของประเทศนะครับคุณปู คนเสื้อแดงคงไม่มีวันยอมแน่ๆ เชื่อผมเถอะครับ คุณปู