คิดไงกะ "In Time"

ตั้งใจจะเขียนนานแล้ว ไม่แน่ใจว่าหลายคนคิดเหมือนผมไหม เพราะดูจาก imdb กับรายได้ US เลยเหมาไปว่า คงไม่คิดเหมือเราเท่าไร

จากที่ชอบดูหนังมาตั้งแต่เด็ก ชอบหนัง action ที่ดาร์กๆและชอบหักเหลี่ยม พอร์ตเรื่องเทพๆแต่ทำไห้ไม่เครียด
เจอหนังเรื่องนี้เข้าไปถึงกับสตั้นเลย ก่อนดูโรงไม่ได้คาดหวังไรเลย (จนต้องกลับมาดูซ้ำแผ่นหลายรอบ) เมื่อไม่ได้คาดหวังจึงทำไห้เกินความคาดหวัง แต่ก็มานั่งคิดว่า ถ้าผมคาดหวังมาก ผมก็ยังคิดว่าเรื่องนี้เกินที่คาดหวังอยู่ดี งงมะ? เหตุที่ไม่หวังเพราะตัวอย่างหนังไม่ดึงดูดเอามากมาย แต่ก็อยากดูไม่รู้ทำไม เลยไปดูไห้รู้แล้วรู้รอดไป

เรื่องนี้พอร์ตเรื่องบอกได้เลยว่าเชื่อมโยงกับสังคมของเราจริงๆ เวลาคือเงิน ไม่มีเวลา ไม่มีเงิน คือตาย มันสื่อถึงชีวิตของคนเราในปัจุบันจริงๆ
บางคนหาผลประโยชจากอีกฝ่ายโดยไม่สนใจว่าจะอยู่หรือตาย สนใจแต่ว่า "กูได้มา" และไม่เคยพอ ถึงคนจะตายเป็นเบื่อก็ไม่สนใจ (เหมือนการเมืองไทยชิปหาย)

พระเอก
ดูจากหนังดูเหมือนมันกำลังบอกว่า เวลานั้นมีค่านัก แต่จะทำยังไงกะมัน ไช้มันยังไง ต่างคนต่างมีวิถีดำเนินชีวิตที่ต่างกัน จะไช้ไห้เกิดประโยชน์ไห้ได้มากที่สุดอย่างไร ทำดีไห้เคยชิน ทำไปทำมาจนเป็นนิสัย ขนาดเข้าเมือง เวลาเหลือเป็นร้อยปี ยังวิงเลย ทำดีทำตัวไห้มีค่าบ่อยๆ มันก็ชินไปเอง ว่ามะ พระเอกเป็นคิดถึงคนอื่นดีแต่ไม่ค่อยคิดถึงผมที่ตามมาเท่าไร

ตอนแม่พระเอกตาย เหมือนจะบอกว่า มีเงินมีเวลาแค่ไหน ถ้าสายไป มีเวลาเหลือเยอะแค่ไหนก็ย้อนกลับไปไม่ได้หรอก เศร้า ผมว่าจัสตินเล่นดีนะ ในสายตาผม

และชอบคำพูดพระเอกตอนท้ายเรื่องมากที่บอกว่า ไม่ควรมีใครได้เป็นอมตะ ถ้าต้องมีใครตายแม้แต่ตนเดียว แต่เชื่อเหอะ พ่อนางเอกไม่คิดหรอก เพราะความโลบเข้าครอบงำล่ะ (เหมือนนักการเมืองอีกล่ะ) เพราะขนาดขอเวลาไปไถ่ลูกสาว ยังไม่ไห้เลย กลัวเสียระบบ

นางเอง
ผมมองว่าไม่มีไรสำคัญ แค่เป็นอีกคนที่คล้อยตามคนที่มีหลักการและเชื่อว่าคนๆนั้นคิดถูกและพร้อมทำตาม แต่ช่วงเรกๆก็คัดๆ เพราะอยู่อีกสังคมมานาน แต่พอเจอโลกกว้างก็เริ่มไม่เชื่อความคิดตัวเองแล้ว คิดเองไม่ได้เท่าไร สวยแต่ผมมองว่าแสดงไม่เท่าไร ยังไม่ถึง แต่ดูทั้งเรื่องก็เนียนได้อยู่

time keeper
ชอบเป็นพิเศษ มันสื่อถึงตงชิ๋น ซื่อสัตย์แต่เกินไป หลักการ แต่ไม่ยืดหยุน ควรมีไว้ในสังคมแต่อย่าเยอะ สุดท้าย ทุ่มเทมาทั้งชีวิต แต่ไม่ได้อะไรเลย ไม่มีใครจดจำแม้กระทั้งผู้คน นี้ล่ะน่า คนดีในสังคมตอนนี้

พ่อนางเอก
นักการเมืองชัดๆ น่าซื่อ ทำตัวซื่อ ห่วงผลปรโยชน์ขององค์กรมากกว่าผลกระทบต่อสังคม ไม่ได้เก่งแต่มีคนหนุนหลัง ไม่ได้กล้าหารแต่มีอำนาจจากการเอาเปรียบผู้อื่น ปากบอกรักลูกแต่ยังไม่เท่ากับรักตัวเอง (เหมือนกับบอกรักประชาชนมะ,,, อิอิ)

ผมว่ามีอีกหลายมุมนะ เช่นตอนปล้นธนาคารแต่ทำไห้ดอกเบี้ยสูงขึ้น คือต่างคนต่างไม่ยอมกัน แต่ถ้าทุกคนร่วมใจกันจริงๆ สุดท้ายก็จะไม่มีการแบ่งโซนกัน คือสู้เพื่อความถูกต้องแล้วอย่าถ้อย ถ้าร่วมมือร่วมใจกัน อาจจะมีอุปสรรคบ้างแต่ก็ไปได้ แต่มันก็แค่ในหนังนะ

ขอบคุณที่อ่านนะครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
เป็นหนังที่ชอบมาก ได้แง่คิดหลายมุมนะ ถือเป็นหนังดีมากๆเรื่องนึงเลย


แต่จขกท พิมผิดเยอะไปหน่อยนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่