*กรณีหมอนิ่ม* อยากรู้ข้อมูลการแท้งลูกค่ะ ช่วยคิดหน่อยนะคะ (เข้ามาดูข้อมูลและหลักฐานประกอบด้านในเลยค่ะ)

เอาเป็นว่าขอลบเนื้อหาทั้งหมดแล้วกันค่ะ อมยิ้ม17

ไม่ได้อยากเป็นนักสืบหรอกค่ะ แต่ตามข่าวตลอด พออ่านข่าวหรือฟังสัมภาษณ์หลายๆ ครั้ง
มันก็อดสังสัยไม่ได้ค่ะ เพราะบางเรื่องมันขัดแย้งกัน หรือแต่ละคนพูดไม่ตรงกัน

พอมีความสงสัย ก็คิดวิเคราะไล่เรียงเหตุการณ์ ก็ทำให้อยากไปหาข้อมูลเกี่ยวกับการแท้ง
ก็น่าสนใจดี ถือว่าเป็นความรู้ค่ะ แต่ถ้าได้ความรู้จากคนสายอาชีพนี้โดยตรงเลย น่าจะชัดเจนกว่า

จะว่า ยิ้ม ก็ได้ค่ะ 5555 (ขออภัยในความสงสัยด้วยค่ะ)

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
งั้นขอสรุปคร่าวๆ เผื่อท่านอื่นๆ อยากรู้ จากข้อมูล และความน่าจะเป็นเลยนะคะ

สรุป ก็อาจจะเป็นอย่างที่ คุณสมาชิกท่านหนึ่ง กล่าวไว้ค่ะ ว่าสามารถแท้ง 2 ครั้งได้
- ครั้งแรก 29 ก.ค
- ครั้งสอง 22 ส.ค

แสดงว่าวันที่ 29 ก.ค คุณหมอนิ่มไปตรวจ นอนอยู่ รพ. จริง
> ตามที่เจ๊แหม่มให้สัมภาษณ์ไว้ ว่าวันแรกที่เกิดเหตุหมอนิ่มแท้ง แม่หมอนิ่มนัดไปคุยในห้องพักฟื้น ซึ่งหมอนิ่มก็นอนอยู่บนเตียง
> หมอนิ่ม ก็สัมภาษณ์บอกโดนวางยาสลบ ยานอนหลับ ทราบแต่ว่ามีคนมา แต่ไม่รู้ว่าใคร จำเหตุการณ์อะไรไม่ได้เลย ไป 1 อาทิตย์

แสดงว่าหมอนิ่มนอนรักษาตัว สลึมสะลือ เพราะยานอนหลับ มา 1 อาทิตย์
*** ถ้าไปครั้งแรก ยังไม่แท้งจริง แสดงว่ายังไม่ได้ขูดมดลูกใช่มั๊ยคะ ทำไมถึงโดนยาสลบ ยานอนหลับ หลายวันจังคะ

พอวันที่ 22 ส.ค ก็แท้งอีกรอบ ไป รพ. อีกรอบ ?

*** ตอนนี้มีอีกสัมภาษณ์ ของแม่หมอนิ่ม บอกว่าแท้งก่อนเข้าพบคุณปวีณา คือก่อนวันที่ 11 ก.ค 56
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
ผมขอให้ข้อมูลอย่างนี้นะครับ
1. คุณหมอนิ่มแท้งจริงหรือไม่
คนทั่วไปที่ตั้งครรภ์และมีเลือดออกระหว่างตั้งครรภ์มักคิดว่าตนเองแท้ง
แต่จริงๆทางการแพทย์ เราต้องรู้ก่อนว่า แท้งจริง หรือไม่ใช่การแท้ง
องค์ประกอบคือ
ก. ต้องท้องก่อนครับ คือตรวจการตั้งครรภ์ให้ผลบวก จาการปัสสาวะ ผลเลือด หรืออัลตราซาวด์ก็แล้วแต่
ข. อายุครรภ์ที่จะเรียกว่า "แท้ง" ได้นั้น จะต้องไม่เกิน 20 สัปดาห์ หรือ ก็คือ 5 เดือน น้ำหนักตัวของทารกในครรภ์จะไม่เกิน 500 กรัม
(บางตำราเอาที่ 28 สัปดาห์ คือ 7 เดือน น้ำหนักทารก ไม่เกิน 1000 g ก็แล้วแต่ว่านิยามที่ประเทศไหน ประเทศที่สามารถดูแลทารกได้ดี เทคโนโลยีการแพทย์ดีมาก อาจจะเอาที่ 20 สัปดาห์ ก็ได้ เพราะสามารถดูแล เด็กที่คลอดออกมา 800g ให้รอดได้ เป็นต้น)
ค. ต้องมีการสิ้นสุดการตั้งครรภ์ ในช่วงระเวลาที่ระบุมาในข้อ ข.
ซึ่งการสิ้นสุดการตั้งครรภ์นั้น จะวินิจฉัยโดยแพทย์ เช่น มีเลือดออกทางช่องคลอด มีชิ้นส่วนของทารกหลุดออกมา มีตัวทารกออกมาเลย หรืออัลตราซาวด์ดูแล้วไม่มีตัวทารก เช่น ท้องลม ( Blighed Ovum) ,ไม่มีการเต้นของหัวใจของทารกในครรภ์แล้ว ตัวทารกยุ่ยแล้ว  เป็นต้น

2. ท้องแต่ไม่แท้ง แต่มีเลือดออกทางช่องคลอด ทำให้เข้าใจผิดคิดว่าแท้ง
เช่น เป็นมูกเลือด แต่ไม่ใช่เลือดสดๆ (Mucous bloody show) , รกเกาะต่ำ (Placenta previa) , รกลอกตัวก่อนกำหนด (Placenta abruption), เส้นเลือดที่ขอบๆรกฉีกขาด (Marginal sinus bleeding), แผลฉีกขาดในช่องคลอด เช่น จากการร่วมเพศ อุบัติเหตุ, ความผิดปกติของปากมดลูก เช่น ติ่งเนื้อ การติดเชื้อ มะเร็งปากมดลูก , มดลูกแตก พวกนี้เป็นต้น
แต่ข้อ 2 ที่พูดมานี้ ในกรณีของคุณหมอนิ่ม ผมว่าไม่น่าจะใช่ เพราะ
ก. คุณหมอนิ่ม เป็นหมอ ความผิดปกติต่างๆในข้อ 2 คุณหมอย่อมรู้ดี ทำให้ไม่น่าจะเข้าใจผิดคิดว่าแท้งได้
ข.หลายภาวะไม่เกิดในอายุครรภ์น้อยๆอย่างในกรณีหมอนิ่ม แต่จะเกิดในอายุครรภ์มากๆแล้ว หรือใกล้คลอดแล้ว
ดังนั้น ส่วนตัว เชื่อว่า คุณหมอนิ่มน่าจะแท้งจริง เนื่องจาก อายุครรภ์ที่คุณหมอให้ข้อมูลมา มีความสัมพันธ์กัน

3. ทีนี้มาวิเคราะห์ว่า ถ้าหมอนิ่มจะแท้ง จะแท้งแบบใด
ปกติเราจะแบ่งการแท้ง ออกเป็น 2 แบบ คือ แท้งที่เกิดขึ้นเอง (Spontaneous abortion ) กับ แท้งที่เกิดจากสาเหตุภายนอกหรือมีการชักนำให้เกิดการแท้ง (Induced abortion)
3.1 แบบแรก คือแท้งที่เกิดขึ้นเองนั้น มีสาเหตุหลายอย่างเลย เช่น อายุของมารดาที่สูงขึ้น อย่างของหมอนิ่มก็อายุ 38 ปีแล้ว (เกิน 35ปี) ก็ถือว่าเสี่ยงต่อภาวะนี้อยู่แล้ว , นอกจากนี้อัตราการเกิดการแท้งเองจะยังสูงขึ้นในท้องหลังๆ ซึ่งหมอนิ่มท้องที่ว่าแท้งนี้ ก็ท้องที่ 3 แล้วด้วย ก็ถือว่าเสี่ยงเช่นกัน, อายุของสามีที่เพิ่มขึ้น ก็ถือว่ามีส่วน, อีกทั้งถ้าเกิดว่าการตั้งครรภ์นี้เกิดขึ้นในช่วง 3 เดือนหลังคลอดลูกคนที่แล้ว คือไม่ได้พักท้องบ้างเลย ก็มีโอกาสแท้งเองได้สูงเช่นกัน (แต่ลูกชายคนล่าสุด 1 ขวบแล้ว ความเสี่ยงข้อนี้ก็ลดลง) สาเหตุอื่นๆก็เช่นความผิดปกติของโครโมโซมของทารกในครรภ์ เช่น โรคทางพันธุกรรม บางอย่าง (ซึ่งส่วนใหญ่ 95% มาจากความผิดปกติของไข่ของฝ่ายหญิง ส่วน 5% เกิดจากความผิดปกติของอสุจิจากฝ่ายชาย) และอื่นๆที่ไม่ทราบสาเหตุ
ดังนั้น ถ้าพิจารณาเฉพาะภาวะเสี่ยง กรณีของหมอนิ่มแล้ว บอกได้เลยว่า "ต่อให้ไม่โดนต่อยท้อง ก็ถือว่าเสี่ยงที่จะแท้งเองได้ง่ายกว่าคนทั่วไปอยู่แล้ว"
ทีนี้มาดูกันว่า ถ้าคุณหมอนิ่มจะแท้งแบบชนิดแท้งเอง จะเป็นแท้งแบบไหนได้บ้าง

3.1.1 ถ้าภายใน ไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ (3เดือนแรก) ซึ่งเข้าข่ายในกรณีของคุณหมอ สาเหตุที่พบได้บ่อยๆคือ ท้องลม (Blighted Ovum)
ท้องลมคือท้องแบบที่ไม่มีตัวเด็ก เมื่อเราอัลตราซาวด์จะเจอแต่ถุงการตั้งครรภ์ ไม่เจอตัวทารกเลย
ท้องลมนี้ ร่างกายจะพยายามทำให้เกิดการแท้งเองโดยธรรมชาติตามมา เพราะร่างกายรู้ว่าเป็นท้องที่ไม่ปกติ เป็นท้องที่เสียไปแล้ว มดลูกจะพยายามบีบตัว ขับท้องลมนี้ออกมา ทำให้มีเลือดออกทางช่องคลอด และก็จะหลุดออกมาได้เอง แต่บางครั้งมันก็ไม่หลุด และทำให้เลือดออกมาก ออกบ่อย แพทย์ก็จะทำการขูดมดลูกเอามันออกให้ โดยไม่รอให้มันหลุดเองเพราะอันตรายต่อคุณแม่ที่ตั้งครรภ์
ทีนี้กลับมาดูกรณีคุณหมอนิ่ม ถามว่ามีอากาสเป็นไปได้ไหมที่คุณหมอนิ่ม จะแท้งจากการเป็นท้องลม
ผมขอตอบว่า “สบายมาก” เพราะจากปัจจัยเสี่ยงหลายๆอย่าง ที่เข้าได้ อีกทั้งภาวะนี้ก็เป็นสาเหตุหลักๆที่พบได้บ่อยอยู่แล้ว
ถ้าพิจารณาจากประวัติ ที่จขกท. ให้มา แจ้งว่าแท้ง 2 ครั้ง คือวันที่ 29 ก.ค. และ 22 ส.ค. มีความเป็นไปได้ครับ ที่จะเป็นท้องในครั้งเดียวกันและแท้งในครั้งเดียวกันทั้ง 2 เหตุการณ์ กรณีที่อาจเป็นไปได้คือ คุณหมอทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ หลังจากนั้นอาจมีการเลือดออกทางช่องคลอด จึงไปพบแพทย์ ช่วงวันที่ 29 ก.ค. อัลตราซาวด์แล้วพบว่า เป็นท้องลม เพราะฉะนั้นทราบแล้วว่าแท้งแน่ ไม่ได้ลูกแน่แล้ว แต่ถ้าเลือดออกไม่มาก คุณหมอเองอาจจะรอให้แท้งเองคือหลุดออกมาเอง แต่ปรากฎว่ามันไม่แท้งเอง ไม่หลุดออกมาเอง และอาจมีเลือดออกอีกเป็นระยะๆตามมา จึงกลับไปพบคุณหมอ ในช่วงวันที่ 22 ส.ค. ,คุณหมอจึงแนะนำขูดมดลูกดีกว่า เพื่อความสบายใจและความปลอดภัยของตัวคุณหมอนิ่ม แล้วจึงได้รับการขูดมดลูกช่วงนั้น หรือวันนั้นอาจเป็นวันที่คุณหมอพร้อมและเป็นวันนัดขูดมดลูกเลยก็เป็นได้ ดังนั้นจึงไม่แปลกถ้าคุณหมอนิ่มจะให้เหตุผลว่าแท้ง 2 ครั้ง ในช่วงระยะเวลา 1 -2 เดือน เพราะการแท้งนั้นเป็นการแท้งต่อเนื่อง และแท้งครั้งเดียวกันนั่นเอง
ส่วนถ้าหากแท้งในไตรมาสที่ 2 คือช่วงอายุครรภ์ 3 เดือนขึ้นไปจนถึง 5 เดือนนั้น มักเกิดจากความผิดปกติของโครโมโซมของทารกในครรภ์มากกว่าสาเหตุอื่นๆ ซึ่งมันก็สัมพันธ์กับอายุของผู้ตั้งครรภ์อยู่แล้ว ถ้าเกิน 35 ปีขึ้นไปก็ถือว่าเสี่ยง จึงไม่แปลกอีกเช่นกัน หากคนหมอนิ่มจะแท้งเองในช่วงอายุครรภ์เลย 3 เดือนไปแล้ว แต่ก็อาจต้องพิจารณาภาวะเสี่ยงอื่นๆด้านตัวมารดาเองด้วย เช่น เบาหวานขณะตั้งครรภ์ (อายุเกิน 35 ก็เสี่ยงอีกเช่นกัน) , โรคธัยรอยด์, ภาวะติดเชื้อ, บุหรี่ สุรา กาแฟ สารเคมี, อุบัติเหตุ, เนื้องอกในโพรงมดลูกร่วมด้วย, ได้รับรังสีโดยตรง, โรคทางภูมิคุ้มกัน เป็นต้น

3.1.2 แท้งคุกคาม (Threatened Abortion)  เป็นโรคของการแท้งเองอีกโรคหนึ่งซึ่งก็ยังเป็นไปได้สำหรับคุณหมอนิ่ม  แท้งคุกคามนี้เป็นแท้งที่มีเลือดออกทางช่องคลอดเช่นกัน แต่ว่ามีตัวเด็ก และหัวใจเด็กยังดีอยู่ ชิ้นส่วนรกและตัวเด็กอยู่ครบ ปากมดลูกก็ปิดดี แต่ร้อยละ 50 จะแท้งจริงคือเสียลูกตามมาในอนาคต อีกราว 50 % จะตั้งครรภ์เป็นเด็กได้ปกติ แต่อาจเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด คลอดแล้วตัวเล็ก หรือคลอดแล้วเสียชีวิตได้
ซึ่งหากพิจารณากับเคสคุณหมอนิ่ม ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน เพราะตัวคุณหมอนิ่มมีความเสี่ยงต่อการแท้งเองดังที่กล่าวมาแล้ว การมาพบแพทย์ครั้งแรกหรือแจ้งว่าแท้งครั้งแรกในช่วงวันที่ 29 ก.ค. นั้น อาจเป็นครั้งแรกที่หมอนิ่มรู้ตัวว่าแท้งคุกคาม คือมีเลือดออกทางช่องคลอด แต่ว่าเมื่อตรวจดูแล้วเด็กยังดีอยู่ ก็เฝ้าสังเกตติดตามอาการต่อไป เพราะร้อยละ 50 ก็อาจจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ก็ต้องเฝ้าระวังแท้งจริงตามมาได้อีก 50% แต่ปรากฎว่าหลังจากนั้น ช่วงวันที่ 22 ส.ค. อาจจะเกิดภาวะแท้งจริงตามมา จึงแจ้งว่าแท้งอีกครั้ง และครั้งนี้เมื่อแท้งจริง อาจมีปัญหาเช่น แท้งไม่ครบ ชิ้นส่วนทารกหลุดออกไม่หมด หรือพบว่าหัวใจทารกหยุดเต้นแล้ว แต่ทารกไม่หลุดออกมา จึงต้องเข้ารับการรักษาในรพ. เหน็บยา กระตุ้นการเปิดของปากมดลูก หรือว่าอาจจะได้รับการขูดมดลูกก็เป็นได้ (เหตุการณ์ครั้งที่2 นี้ อาจจะเป็นแท้งไม่ครบ แท้งครบ แท้งค้างอะไรก็ได้)

สรุป โดยความเห็นส่วนตัว เป็นไปได้ที่คุณหมอนิ่มจะแท้งจริงๆ และถ้าจะเป็นการแท้ง ก็น่าจะเป็นแท้งแบบท้องลม หรือแท้งคุกคาม นี่ล่ะ และประวัติที่แจ้งว่าแท้ง 2 ครั้ง ตามที่ จขกท.กล่าวมา คือ 29 ก.ค. กับ 22 ส.ค. นั้นเป็นไปได้ว่าจะเป็นการแท้งต่อเนื่องในครั้งเดียวกัน โอกาสที่จะเป็นการแท้ง 2 ครั้งติดกัน เป็นไปได้น้อยมาก เพราะยะเวลาห่างกันเพียง 1 เดือนเท่านั้น

3.1.3 การแท้งอื่นๆ ที่เป็นการแท้งเอง เช่น แท้งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ (Inevitable abortion) นั้น ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเป็นการแท้งที่ต้องยุติการตั้งครรภ์เดี๋ยวนั้นแน่ จึงมีโอกาสน้อยมากที่จะเกิดการแท้งซ้ำในอีก 1 เดือนถัดมา เหตุผลเดียวกันนี้ใช้อธิบายการแท้งเองแบบอื่นๆ อย่าง แท้งไม่ครบ (Incomplete abortion) , แท้งครบ (Complete abortion) , แท้งค้าง (Missed abortion) ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งประเด็น 3.1.3 นี้ คิดถึงน้อย

3.2 แบบที่ 2 การแท้งที่เกิดจากการชักนำให้แท้ง (Induced Abortion) คือการทำให้แท้งด้วยวิธีต่างๆ อาจจะทำโดยแพทย์ โดยหมอตำแย โดยหมอทำแท้งเถื่อน โดยใครก็แล้วแต่ อันนี้คิดว่าไม่น่าจะมีน้ำหนักมากนักในกรณีของคุณหมอนิ่ม เชื่อว่าคุณหมอนิ่มเจตนามีลูกคนนี้ คนที่3 นี้ เหตุผลใดที่จะไปทำให้แท้ง หรือข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ใดที่จะต้องทำให้แท้ง อันนี้ผมไม่ทราบ
แต่โดยส่วนตัว เชื่อว่าแม่เกือบทุกคนรักลูก
เอาล่ะครับ
ผมขอออกความเห็นไว้ดังนี้ จขกท.ลองพิจารณาดูเองนะครับ
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่