ผิดตรงไหน...!!

เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 56 เวลา ประมาณ 10.00 น. ได้ขับรถจะไปมหาวิทยาลัย แถวๆย่านรังสิต ได้ไปเจอด่านตำรวจ และตำรวจ นาย 1 ได้โบกและให้ชิดซ้ายก็ทำตาม
ตำรวจก็ขอดูใบขับขี่ ก็ให้ไป แล้วตำรวจก็พูดขึ้นว่า "รถคุณใส่ฝากระโปรงสีดำ (เคฟล่า) ได้ไปแจ้งกับเจ้าหน่าที่หรือยัง" (เราด้วยความไม่รู้เพราะพ่อทำให้ทุกอย่าง งงจ้า แต่ก็บอกไปว่า ทำแล้วค่ะ พ่อทำมาให้แล้ว) ตำรวจก็บอกเอาสำเนารถ มาดู เราก็ยื่นให้ (รถเราเป็นสีเทา แต่ฝา
กระโปรง เป็นสีดำ (สำเนาก็ระบุ ว่า เทา-ดำ ) แต่...ตำรวจบอกไม่ใช่ใบนี้ เราก็งงนะ ตำรวจบอก ให้ลงไปคุยที่โต๊ะ เราก็เดินไป บอกให้เราจ่าย เงิน 300บาท พร้อมเขียนใบสั่งให้ (ข้อหา เปลี่ยนแปลงสีโดยไม่แจ้งให้นายทะเบียนทราบ) เราก็เดินกับมาเอาเงินที่รถและโทรหาแฟน แฟนเราบอกว่า ไม่ต้องจ่าย บอกให้เอาใบสั่งมาเดี๋ยวไปจ่ายที่โรงพักเอง ตำรวจ ก็เคาะกระจกเรียก ถามเราว่าจะเอายังไง เราก็บอกว่าเด๋วไปจ่ายที่โรงพักค่ะ หลังจากนั้นเราก็ขับรถออกไปมหาวิทยาลัย และได้ถ่ายรูป ใบสั่ง พร้อม สำเนารถ ไปให้แฟนดู
ซึ่งในเวลาหลังจากนั้นแฟนเราก็หาข้อมูลต่างๆในอินเทอร์เน็ต พอให้มีความรู้(อันนี้แฟนมาบอกที่หลังนะคะ)
และแฟนเราก็ โทรไปถามที่โรงพัก ว่า เราผิดข้อหาอะไร ตำรวจก็ถาม ว่าโดนในใบสั่งว่าอะไร แฟนเราก็บอกว่า "ตำรวจเขียนมาว่า เปลี่ยนแปลงสีโดยไม่แจ้งให้นายทะเบียนทราบ" ตำรวจในสายก็พูดว่าก็ใช่รถคุณทำสีมาใหม่มันผิด แฟนเราก็บอกว่าแจ้งเปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว ตำรวจในสายก็บอกมาคุยกัน ที่โรงพัก และให้เอาหลักฐานมา
พอไปถึงโรงพัก ตำรวจนาย 1 นั่งอยู่ แล้วก็บอก วางใบสั่งในตะกร้า แฟนเราก็บอก ไม่ได้มาจ่าย แต่จะมาถามว่าผิดเรื่องอะไร ตำรวจก็เอาใบสั่งไปดูแล้วก็บอกว่าคุณทำสีรถมา แฟนเราเลยยื่นสำเนารถไปให้ ตำรวจก็บอกว่า ก็คุณอ่ะไปดริฟสีรถ เท่านั้น แหละ งงกว่าเก่า แฟนเราก็บอกไม่เข้าใจ คืออะไร แฟนเราพยายามจะอธิบาย ว่าเปลี่ยนฝากระโปรง หน้า หลัง เป็น เคฟล่า แต่ไม่เข้าใจคำว่าดริฟสีรถเถียงกันซักพัก ตำรวจลุกขึ้นจะไปหยิบใบขับขี่เรา แล้วหันมาถามแฟนเรา คุณจะรับข้อกล่าวหาไหม แฟนเราบอกไม่รับ ตำรวจ ก็บอกงั้นไปคุย กับ สารวัตร ชั้น 3 แฟนเราก็เดินขึ้นไปชั้น 3 พอไปถึงหน้าห้องก็เคราะ ประตู ท่านสารวัตรก็มาเปิด ถามมีเรื่องอะไร แฟนเราก็เล่า เหตุการณ์ให้ฟังพร้อมยื่นใบสั่งให้ และถามว่าผิดตรงไหน ท่านสารวัตรก็ดู แล้วก็ถามว่ารถสีอะไร แฟนเราก็บอกว่า สีเทา แต่ว่าเปลี่ยนฝากระโปรง หน้า หลัง เป็น เคฟล่า(สีดำ) ท่านก็บอกว่า แล้วแจ้งเปลี่ยนสีรถไหม แฟนเราก็ยื่น สำเนารถไปให้ ท่านบอกขอลงมาดูรถหน่อย แฟนเราก็บอกว่า ถ่ายรูปมาหรือท่านสารวัตร จะลงมาดูเองก็ได้ ท่านเลยขอดูจากมือถือ แล้วท่านก็พูดว่า ต้องขอโทษด้วย แล้วผมจะว่ากล่าวตักเตือน ให้ครับ แล้วท่านก็บอกว่า ไปครับเดี๋ยวลงไปเอาใบขับขี่ให้ สุดท้ายเราก็ได้ใบขับขี่แบบไม่เสียเงิน

สิ่งที่เราอยากรู้ คือ
1.เราผิดข้อหาอะไรค่ะ ถ้าเราไม่รู้เรื่องเนี่ยเราต้องเสียเงินไปฟรีๆหรอคะ
2.ดริฟท์สีรถคืออะไร


ขอบคุณเพื่อนๆที่เขามาอ่านคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
การติดสติกเกอร์ หรือการเพนท์ลาย เกิน 30 % ของพื้นที่สีรถ ต้องแจ้งให้ทางขนส่งทราบครับ

การ ดริฟสีรถ หรืออาจจะเรียกว่า แร็พรถ เป็นการติดสติกเกอร์ แทนการทำสี ซึ้งสะดวก กว่ามาก

ถ้าพูดถึงมหาลัยแถวรังสิต ผมนึกถึงมอรังสิต มีร้านแร็พรถอยู่ใกล้ๆ เข้าไปทางเข้าเมืองเอก ไปสอบถามได้ครับ

ตามที่เล่ามาคุณผิดครับ เพราะไม่แจ้งเปลี่ยนสีรถ สีรถเดิมเป็นเทา ไปดริฟสีดำมา ต้องแจ้งเปลี่ยนสีรถ เป็น เทา ดำ

เพราะเปลี่ยนสีรถเป็นสีดำเกิน 30% ถ้าแค่กระโปรงหน้าจะไม่ถึง 30% แต่มีกระโปรงหลังด้วย เลยเกิน 30%






หากคุณต้องการเปลี่ยนสีรถยนต์ให้ถูกต้องตามกฎหมายแล้วละก็ สามารถทำได้ไม่ยากครับ
เพียงแค่ไปจดแจ้งเปลี่ยนสีรถยนต์ที่กรมขนส่งทางบก ซึ่งใช้เวลาประมาณครึ่งวันก็เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ
โดยตามกฎหมายมีข้อกำหนดว่าหากการเปลี่ยนสีรถยนต์มีมากกว่า30%ของพื้นที่สีรถทั้งหมด
เจ้าของรถมีหน้าที่ต้องแจ้งเปลี่ยนสีรถยนต์ต่อกรมขนส่งทางบก
แต่ถ้าเป็นการเปลี่ยนสีเฉพาะส่วน โดยมีพื้นที่ไม่ถึง 30 % ของพื้นผิวรถยนต์ ก็ไม่จำเป็นต้องแจ้งครับ
เช่นการเปลี่ยนสีเฉพาะส่วน หลังคา , ฝากระโปรงหน้า แบบนี้ไม่ถึง 30% ไม่ต้องจดแจ้งครับ

ส่วนวิธีในการจดแจ้งเปลี่ยนสีรถยนต์นั้น สามารถทำได้ไม่ยาก
เพียงแค่เรานำรถเข้าไปรับการตรวจสภาพที่กรมขนส่งทางบก และเตรียมเอกสารไปตามรายการข้างล่างนี้ครับ
1    สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนเจ้าของรถ
2    สำเนาทะเบียนบ้านเจ้าของรถ
3    เล่มทะเบียนรถ หรือ สำเนา
4    ใบเสร็จ หรือบิลเงินสดค่าทำสีรถ ติดอากรแสตมป์ 5 บาท
    ( บิลเงินสดต้องลงวันที่ไม่เกิน 7 วัน นับจากวันที่ลงในบิล ถึงวันที่มายื่นเรื่อง ถ้าเกินกำหนด 7 วัน จะโดนค่าปรับ 200 บาท )
    

    
ในกรณีที่เจ้าของไม่ได้ไปเองต้องเตรียมเอกสารแนบเพิ่มดังนี้ครับ
1    สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบอำนาจ (กรณีผู้ดำเนินการไม่ใช่เจ้าของรถ)
2    หนังสือมอบอำนาจจากเจ้าของรถ ติดอากรแสตมป์ 10 บาท (กรณีผู้ดำเนินการไม่ใช่เจ้าของรถ)

น่าแปลกที่สารวัตรทำแบบนั้น....

รูปที่ให้สารวัตรดูคือรูปแบบไหนนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่