หนังทำเงินอเมริกา 10 พฤศจิกาฯ ธอร์ ทุบแหลก

US BOX OFFICE November 8-10, 2013

(แปลและเรียบเรียงจาก www.boxofficemojo.com)

Thor: The Dark World ยึดตำแหน่งแชมป์อันดับหนังทำเงินในอเมริกา สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้จะไม่สามารถทำเงินในระดับซูเปอร์ฮีโรบัตรทอง ที่ต้องเปิดตัวในระดับ 100 ล้านเหรียญก็ตามที ด้วยโรงฉาย 3,841 โรง หนังเรื่องที่ 2 ของทีมซูเปอร์ฮีโรในทีมอเวนเจอร์ส หลังหนัง The Avengers เปิดตัวด้วยรายได้ 85.7 ล้านเหรียญ ซึ่งมากกว่าภาคแรกที่เปิดตัวไป 65.7 ล้านเหรียญ 30% และถือเป็นการออกตัวที่ดีมากๆ ของหนังมาร์เวลที่ไม่ใช่ และไม่มีไอออน แมนร่วมสังฆกรรมในเรื่อง แม้รายได้จะต่ำกว่า 174.1 ล้านเหรียญของ Iron Man 3 กว่าครึ่งก็ตามที แต่อย่าลืมว่านี่คือหนังของคริส เฮมสเวิร์ธ ซึ่งไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังมากมายเมื่อเทียบกับโรเบิร์ท ดาวนีย์ จูเนียร์ ที่เล่นเป็นโทนี สตาร์ค

อ่านคำวิจารณ์ เทพเจ้าแห่งอสนีบาต Thor: The Dark World ได้ที่ http://bit.ly/1ens5KN


รายได้ที่เพิ่มจากหนังภาคแรกถึง 30% มองกันว่าน่าจะเป็นเพราะแรงส่งจากหนัง The Avengers ที่ทำให้คนรู้จักธอร์มากขึ้น รวมไปถึงโลกิ ที่เล่นโดย ทอม ฮิดเดิลสตัน ที่มีบทบาทอย่างมากในการทำการตลาดของหนังเรื่องนี้ หากเปรียบเทียบกับ Iron Man 3 ที่ทำรายได้ดีกว่า Iron Man 2  36% ก็ดูจะเปรียบเทียบได้ลำบาก เพราะหนัง Iron Man 3 นั้นมีฉายในระบบ 3 มิติ แต่หนังภาค 2 ไม่มี และสำหรับการฉาย 3 มิติ หนังภาคต่อ มีคนดูในระบบนี้น้อยลง โดยคิดเป็นรายได้แค่ 39% แต่ภาคแรกมากถึง 60% แต่ที่สรุปได้แน่ๆ ก็คือ ทั้ง Thor: The Dark World และ Iron Man 3 ต่างก็ได้รับประโยชน์จาก The Avengers ทั้งคู่

และสำหรับรายได้จากโรง 3 มิติ แค่ 39% ของ Thor: The Dark World นั้น ถือได้ว่าเป็นรายได้ที่น่าผิดหวัง โดยมีการคาดการณ์ว่า หนังอย่าง Gravity จะช่วยให้คนมาสนใจดูหนัง 3 มิติมากขึ้น และทางดิสนีย์/มาร์เวล ก็พยายามกระตุ้นยอดขายตั๋ว 3 มิติของหนังด้วยการบวก 5 นาทีของหนัง Captain America: The Winter Soldier ที่จะออกฉายในปีหน้า ความยาว 5 นาทีให้ได้ชมก่อนดู Thor 2 ในโรง 3 มิติ ซึ่งจากรายได้ที่ออกมา แสดงให้เห้นว่าผู้ชมก็ยังลังเลที่จะจ่ายเพิ่มเพื่อชมหนัง 3 มิติอยู่ดี

แต่กับการฉายในโรง ไอแมกซ์ ถือว่า Thor: The Dark World ไปได้ดี กับรายได้ 5.3 ล้านเหรียญ แม้จะต้องแบ่งโรงฉายให้ Ender's Game ก็ตาม ก็ยังสามารถทำรายได้จากโรงจอยักษ์ได้ถึง 7% ของรายได้ทั้งหมด สำหรับผู้ชมของหนัง 62% เป็นชาย นั่นแสดงให้เห็นว่า เสน่ห์ของคริส เฮมสเวิร์ธ และนาทาลี พอร์ทแมน ไม่สามารถดึงคนดูกลุ่มผู้หญิง มาชมหนังแฟนตาซี/ไซ-ไฟ ได้สำเร็จ และคนดู 61% อายุมากกว่า 25 ปี หนังได้คะแนน A- จากซีนีมาสกอร์ และกับการไม่มีคู่แข่งเลยในสัปดาห์นี้ หนังน่าจะยืนระยะได้ดีกว่าระดับเฉลี่ยทั่วๆ ไป โดยรายได้สุดท้ายน่าจะเกิน 200 ล้านเหรียญ

ขณะที่หนังในอันดับ 2 ในสัปดาห์นี้นั้น ทำรายได้ห่างจาก Thor: The Dark World เป็นล้านๆ ปีแสงเลยทีเดียว โดย Jackass Presents: Bad Grandpa ยังเหนียวในอันดับ 2 ด้วยรายได้ 11.3 ล้านเหรียญ ตกจากสัปดาห์ก่อนหน้า 43% มาถึงตอนนี้รายได้รวมพุ่งไปถึง 78.8 ล้านเหรียญ เป็นหนังชุด Jackass ทำเงินมากสุดตลอดกาลอันดับ 2 และน่าจะทำรายได้เกิน 100 ล้านเมื่อจบโปรแกรม

Free Birds และ Last Vegas ถือว่ายืนระยะได้ดี หนังแอนิเมชันไก่งวงรายได้ตกแค่ 30% ทำเงินมาอีก 11.1 ล้านเหรียญ ส่วนหนังรวมดาวผู้เฒ่ารายได้ตกแค่ 32% ทำเงินได้อีก 11.04 ล้านเหรียญ รายได้รววมของหนังอยู่ที่ 30.1 และ 33.5 ล้านเหรียญตามลำดับ

หลังครองอันดับ 1 ในสัปดาห์ก่อน Ender's Game รายได้ร่วงกราวรูด 62% ทำเงินได้แค่ 10.3 ล้านเหรียญ ผ่าน 10 วันหนังไซ-ไฟเรื่องนี้ทำเงินไปแค่ 44 ล้านเหรียญ ซึ่งน้อยกว่าหนังคว่ำสนั่นซัมเมอร์อย่าง After Earth เล็กน้อย และกับ The Hunger Games: Catching Fire ที่รอจอฉายในอีก 2 สัปดาห์ ดูเหมือนว่าจะทำให้อนาคตของ Ender's Game หมดไปด้วย

Gravity ทำเงินได้อีก 8.5 ล้านเหรียญ รายได้รวมเป็น 231.2 ล้านเหรียญ รั้งอันดับ 7 หนังทำเงินสูงสุดปีนี้ แซงหน้า Star Trek Into Darkness และยังทำรายได้ต่อไปเรื่อยๆ โดยน่าจะทำได้ราวๆ 260 ล้านเหรียญเมื่อจบโปรแกรม

หนังดราม่า ว่าด้วยเรื่องทาส ของสตีฟ แม็คควีน 12 Years a Slave เพิ่มโรงฉายทั่วประเทศเป็น 1,144 โรง ทำเงินมาได้ 6.7 ล้านเหรียญ รายได้รวมขยับเป็น 17.4 ล้านเหรียญ และคงใช้เวลาอีกไม่มากในการแซงหน้าหนังของฟ็อกซ์ เซิร์ชไลท์เหมือนกันอย่าง 127 Hours ที่ทำเงินไป 18.3 ล้านเหรียญ งานนี้หนังสามารถต่อกันติดกับคนดูกลุ่มใหญ่ได้ และสัปดาห์นี้ก็จะขยายโรงเพิ่มอีกเป็นราว 1,300 โรง

กับโรงฉาย 1,200 โรง  ส่ง About Time มาอยู่ที่อันดับ 9 ด้วยรายได้ 4.8 ล้านเหรียญ ซึ่งไม่ใช่รายได้เปิดตัวที่ดีนัก แต่หนังโรแมนซ์ ท่องเวลาเรื่องนี้ ก็เป็นหนังในแบบที่น่าจะยืนโรงได้อีกสัก 2-3 สัปดาห์ ส่วน All Is Lost ที่เพิ่มโรงเป็น 401 โรง พาหนังขยับมาอยู่ใน 12 อันดับแรกได้สำเร็จด้วยรายได้ 1.13 ล้านเหรียญ หนังโรเบิร์ท เรดฟอร์ด หลงทางในทะเลเรื่องนี้ทำเงินไปแล้ว2.8 ล้านเหรียญ ปิดท้ายด้วยหนังดราม่าสงครามโลกครั้งที่ 2  The Book Thief เปิดตัว 105,005 เหรียญจาก 4 โรงใน นิว ยอร์ค และลอส แองเจลีส แต่ทางฟ็อกซ์ก็ยังไม่ชัดเจนในเรื่องการขยายโรงฉายออกไป

ออกจากอเมริกา มาดูรายได้หนังนอกอเมริกาเหนือกันบ้าง กับการฉายสัปดาห์ที่ 2 Thor: The Dark World เติมเงินได้อีก 94 ล้านเหรียญ ทำให้รายได้รวมในช่วงแรกแตะ 240.9 ล้านเหรียญ เรียบร้อย โดยหนังเปิดตัวไปแล้ว 92% ของตลาดนอกอเมริกาทั้งหมด โดยหนังเปิดตัวได้เป็นกอบเป็นกำที่จีนกับ 19.6 ล้านเหรียญ ซึ่งมากกว่า The Avengers และเป็นรายได้ที่มากกว่ารายได้ทั้งโปรแกรมของหนังภาคแรกที่ฉายที่นี่

Thor: The Dark World น่าจะทำรายได้ผ่านหนังภาคแรกที่ทำไว้ 268 ล้านเหรียญในอีกไม่กี่วันต่อจากนี้ โดยยังไม่เปิดตัวในอิตาลี และญี่ปุ่น ด้วยตัวเลขที่คาดการณ์ได้ หนังน่าจะทำรายได้เกิน 400 ล้านเหรียญนอกอเมริกา

Gravity เองก็เดินหน้าไปอย่างมั่นคง ทำเงินมาอีก 26.3 ล้านเหรียญ หนังเปิดตัวอันดับ 1 ที่อังกฤษ 9.8 ล้านเหรียญโดยรวมรายได้จากรอบพรีวิว ซึ่งรายได้ 89% ของหนังจะมากจากสามมิติ นอกจากนี้ยังมี 4.2 ล้านเหรียญจากฝรั่งเศสมาโปะ โดยที่นี่หนังทำรายได้รวมจากการฉาย 3 สัปดาห์มากถึง 32 ล้านเหรียญ ส่งให้หนังทำเงินได้มากที่สุดที่ฝรั่งเศสในตอนนี้ ขณะที่รายได้รวมนอกอเมริกาอยู่ที่ 241.2 ล้านเหรียญ หนังจะเปิดตัวที่จีนในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ด้วยประสบการณ์การชมในโรง 3 มิติ และจอยักษ์ หนังน่าจะทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำที่จีน โดยคาการณ์กันว่าน่าจะไม่ต่ำกว่า 50 ล้านเหรียญ แถมญี่ปุ่นกว่าจะฉายก็ธันวาคม รายได้รวมนอกอเมริกาน่าจะไปถึง 400 ล้านเหรียญได้

ส่วนหนังคู่เก๋า คู่แก่ คุกแตก ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน และอาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์  Escape Plan อาจจะทำเงินได้น่าผิดหวังในอเมริกา แต่ขอโทษ ทั้งคู่ยังขายได้นอกอเมริกา หนังเปิดตัวที่จีนเมื่อวันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน และพอถึงวันพฤหัสฯ ก็ทำรายได้ไปแล้ว 13 ล้านเหรียญ โดยที่ยังไม่รวมรายได้ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตอนนี้หนังทำเงินนอกอเมริกาไปแล้ว 53.5 ล้านเหรียญ และยังเหลือตลาดให้เปิดตัวที่ ฝรั่งเศส, เยอรมันนี, ออสเตรเลีย, เากหลีใต้, สเปน และญี่ปุ่น  

อ่านแล้วชอบคลิก Like ได้ที่ www.facebook.com/Sadaos และติดตามข่าวสาร, อ่านเรื่องราว บทวิจารณ์หนัง-เพลงได้ที่ www.sadaos.com
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่