ผมขอโทษหากความเห็นนี้กระทบความรู้สึกต่อใครบ้าง
เพราะเมื่อแต่ละครั้งเรารู้สึกว่าทำไมจึงมีนักการเมืองไม่ดีปกครองบ้านเมือง
ทำไมไม่มีสิ่งดีๆเกิดขึ้นบ้าง
เราคุยกัน บ่นกัน แต่ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านั้น
เพราะไม่มีทางเลือกมากไปกว่า_การไปเลือกตั้ง
แต่เมื่อในเหตุการณ์นี้มีคนหลายๆคนเสียสละออกแรง รวมคน
เพื่อต่อต้านสิ่งที่เลวร้ายต่อสังคมส่วนรวมในอนาคตต่อลูกหลานของเรา
แต่มีหลายๆคนเลือกที่จะอยู่เฉย
ผมเชื่อว่าแท้จริงแล้ว ในใจนั้น เราแต่ละคนย่อมรู้ว่าสิ่งที่ควรทำ สิ่งที่ควรเป็น เป็นอย่างไร
มีพี่ที่นับถือท่านหนึ่ง เคยเปรียบเทียบเหมือน ตอนกรุงแตก
เราจะเลือกเป็นนางสนมของขุนหลวงขี้เรือน หรือเป็นชาวบ้านบางระจัน
ที่เลือกเป็นผู้รับผิดชอบต่อบ้านเมือง
หรือเป็นผู้ทนถูกกระทำ ที่จะถูกคนเลวหัวเราะเยาะว่า มันจะทำอะไรก็ได้
เพราะในบ้านเมืองนี้ มีแต่คนโง่ที่จะปั่นหัวให้มีเศษเนื้อกินอิ่มท้องมันก็พอใจ
หรืออีกพวกที่ใครจะทำอะไรก็ไม่สนใจ เหมือนหมูในเล้าที่รอถูกเชือด
เราคงไม่ยอมที่จะอยู่ในบ้านเมืองที่มีคนชั่วครองเมือง ที่ทำชั่วอย่างไรก็ได้ แล้วแก้กฏให้ผิดเป็นถูก
เรามองออกได้ไม่ยากว่า เขาซื้อเสียงจากคนไม่รู้ ครองเมืองเป็นสัมปทานมือถือ
ติดสินบนคนมีเสียง บังคับหรือซื้อตัวผู้ที่ควรเป็นผู้แทนปวงชนไปเป็นพนักงานตน
เพื่อพวกเขาไม่ยอมเลิกที่จะครองเมืองยาวๆ
เราคงไม่ยอมให้บ้านเมืองพังไปต่อหน้าต่อตา ในยามที่พอมีทางแก้ไขได้
เราคงไม่ปล่อยให้ เพื่อนผู้เสียสละออกไปดูแลบ้านเมืองโดยลำพัง
โดยเราไม่ช่วยอะไรเลยแม้มีโอกาสที่พอช่วยได้บ้าง
เรากำลังผจญอยู่กับคนเลวที่หยาบช้า ที่กล้าทำทุกสิ่ง ทั้งโกหก ฆ่าคน หลอกคน
ขายผืนแผ่นดิน ดองญาติกับศัตรูของประเทศ เอาทรัพยสินของทุกคนเป็นของตัว
ไม่มีหลักการ อุดมการณ์ใด สารพัดรูปแบบ
สรุปได้ว่าอะไรก็ได้ขอให้รวย เป็นอาการป่วยทางจิต ที่พาเอาประเทศป่วยไปด้วย
หลายคนเป็นห่วงว่าการออกมาต่อต้าน จะเสี่ยงหรือถูกหลอก หรือจะอันตราย จึงลังเล
อยากจะบอกว่า เราเลือกได้ที่จะแสดงการต่อต้าน
โดยมาในสถานที่ๆไม่อันตราย กลางวันหรือตอนเย็น
ไม่เข้าไปปะทะในจุดที่กลุ่มหัวขบวนนำเคลื่อนไป ก็ปลอดภัย
เราแค่ไปแสดงตัวให้มากๆ ว่าเราไม่ยอมอยู่ในสังคมที่กลัวหงอ
ยอมให้มันปล้นชาติประเทศอยู่ได้ เราจะไม่เป็นเครื่องมือของฝ่ายใด
เราเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง ที่จะไม่ละอายต่อมโนสำนึกเท่านั้น
เราจึงกระทำสิ่งนี้
ธรรมาธรรมะสงคราม
เพราะเมื่อแต่ละครั้งเรารู้สึกว่าทำไมจึงมีนักการเมืองไม่ดีปกครองบ้านเมือง
ทำไมไม่มีสิ่งดีๆเกิดขึ้นบ้าง
เราคุยกัน บ่นกัน แต่ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านั้น
เพราะไม่มีทางเลือกมากไปกว่า_การไปเลือกตั้ง
แต่เมื่อในเหตุการณ์นี้มีคนหลายๆคนเสียสละออกแรง รวมคน
เพื่อต่อต้านสิ่งที่เลวร้ายต่อสังคมส่วนรวมในอนาคตต่อลูกหลานของเรา
แต่มีหลายๆคนเลือกที่จะอยู่เฉย
ผมเชื่อว่าแท้จริงแล้ว ในใจนั้น เราแต่ละคนย่อมรู้ว่าสิ่งที่ควรทำ สิ่งที่ควรเป็น เป็นอย่างไร
มีพี่ที่นับถือท่านหนึ่ง เคยเปรียบเทียบเหมือน ตอนกรุงแตก
เราจะเลือกเป็นนางสนมของขุนหลวงขี้เรือน หรือเป็นชาวบ้านบางระจัน
ที่เลือกเป็นผู้รับผิดชอบต่อบ้านเมือง
หรือเป็นผู้ทนถูกกระทำ ที่จะถูกคนเลวหัวเราะเยาะว่า มันจะทำอะไรก็ได้
เพราะในบ้านเมืองนี้ มีแต่คนโง่ที่จะปั่นหัวให้มีเศษเนื้อกินอิ่มท้องมันก็พอใจ
หรืออีกพวกที่ใครจะทำอะไรก็ไม่สนใจ เหมือนหมูในเล้าที่รอถูกเชือด
เราคงไม่ยอมที่จะอยู่ในบ้านเมืองที่มีคนชั่วครองเมือง ที่ทำชั่วอย่างไรก็ได้ แล้วแก้กฏให้ผิดเป็นถูก
เรามองออกได้ไม่ยากว่า เขาซื้อเสียงจากคนไม่รู้ ครองเมืองเป็นสัมปทานมือถือ
ติดสินบนคนมีเสียง บังคับหรือซื้อตัวผู้ที่ควรเป็นผู้แทนปวงชนไปเป็นพนักงานตน
เพื่อพวกเขาไม่ยอมเลิกที่จะครองเมืองยาวๆ
เราคงไม่ยอมให้บ้านเมืองพังไปต่อหน้าต่อตา ในยามที่พอมีทางแก้ไขได้
เราคงไม่ปล่อยให้ เพื่อนผู้เสียสละออกไปดูแลบ้านเมืองโดยลำพัง
โดยเราไม่ช่วยอะไรเลยแม้มีโอกาสที่พอช่วยได้บ้าง
เรากำลังผจญอยู่กับคนเลวที่หยาบช้า ที่กล้าทำทุกสิ่ง ทั้งโกหก ฆ่าคน หลอกคน
ขายผืนแผ่นดิน ดองญาติกับศัตรูของประเทศ เอาทรัพยสินของทุกคนเป็นของตัว
ไม่มีหลักการ อุดมการณ์ใด สารพัดรูปแบบ
สรุปได้ว่าอะไรก็ได้ขอให้รวย เป็นอาการป่วยทางจิต ที่พาเอาประเทศป่วยไปด้วย
หลายคนเป็นห่วงว่าการออกมาต่อต้าน จะเสี่ยงหรือถูกหลอก หรือจะอันตราย จึงลังเล
อยากจะบอกว่า เราเลือกได้ที่จะแสดงการต่อต้าน
โดยมาในสถานที่ๆไม่อันตราย กลางวันหรือตอนเย็น
ไม่เข้าไปปะทะในจุดที่กลุ่มหัวขบวนนำเคลื่อนไป ก็ปลอดภัย
เราแค่ไปแสดงตัวให้มากๆ ว่าเราไม่ยอมอยู่ในสังคมที่กลัวหงอ
ยอมให้มันปล้นชาติประเทศอยู่ได้ เราจะไม่เป็นเครื่องมือของฝ่ายใด
เราเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง ที่จะไม่ละอายต่อมโนสำนึกเท่านั้น
เราจึงกระทำสิ่งนี้