สำหรับเด็กผู้ชายอย่างเราๆ เชื่อว่าสมัยเด็กหลายคนเคยมีความฝันที่จะมีบ้านบนต้นไม้หรือบ้านของตัวเองในป่า ได้ใช้ชีวิตที่มีอิสระเสรี อยู่กับเพื่อนๆ พร้อมกับผจญภัยไปด้วยกัน แต่มันก็เป็นแค่ฝัน
เด็กแทบทุกคนถูกพ่อแม่ผู้ปกครองตั้งกฏระเบียบมากมายมาครอบไว้ ไม่ว่าจะ ห้ามกลับบ้านดึก ห้ามกินขนมหวาน ห้ามออกไปเล่นนอกบ้าน ห้ามไปค้างบ้านเพื่อน ห้ามนอนดึก ห้ามเสียงดัง ห้ามเล่นของมีคม ห้ามๆๆๆๆๆ
ตัวละครใน The Kings of Summer จึงเหมือนเป็นตัวแทนของใครหลายคนในการก้าวพ้นออกจากเสียงคำสั่งของพ่อแม่ เพื่อไปใช้ชีวิตช่วงหนึ่งด้วยตัวเอง ในตอนปิดเทอมฤดูร้อน หนังเป็นแนว Coming of age (ตัวละครก้าวพ้นวัย) เปิดฉายครั้งแรกในเทศกาลหนังซันแดนส์ 2013 ได้รับความสนใจจากผู้ชมพอสมควร
หนังเล่าถึงวัยรุ่นไฮสคูลชาย 3 คน โจ (นิค โรบินสัน), แพทริค (เกเบรียล บาสโซ่) และ บีอาจิโอ้ (มอยเลส เอเลียส) ที่ตัดสินใจแอบสร้างบ้านของพวกเขาในป่าก่อนจะหนีออกจากบ้านไปอาศัยอยู่ที่นั่น แต่ละคนมีเหตุผลต่างกัน
โจ หนุ่มสุดเห้ยประจำโรงเรียน ต้องอยู่กับพ่อที่ชอบบังคับให้เขาทำสิ่งที่เขาไม่อยากทำ แพทริค เพื่อนซี้ของโจ หนุ่มนักกีฬาโดนพ่อกับแม่จู้จี้กับชีวิตส่วนตัวอย่างกับเขาเป็นเด็ก8ขวบ ส่วน บิอาจิโอ เป็นเด็กที่จู่ๆก็โผล่มากลางงานปาร์ตี้และติดสอยห้อยตามโจเข้าป่ามา
ชีวิตอิสระในฤดูร้อนแรกเริ่มก็เหมือนจะสวยงาม โลกทั้งใบเหมือนเป็นของพวกเขา ตั้งกฏกันเอง ตื่นเมื่อไหร่ก็ได้ เล่นอะไรก็ได้ ไว้หนวดเคราก็ได้ กินอะไรก็ได้(ถ้าหามาได้) ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป โจ เริ่มมีปัญหากับ แพทริค เมื่อเขาพา เคลลี่(อีริน มอริอาตี้) สาวที่แอบชอบมาที่บ้านกลางป่า แทนที่ เคลลี่ จะปลื้ม โจ มากขึ้น เธอกลับประทับใจในตัว แพทริค จนทั้งคู่สานสัมพันธ์กัน โจ ที่ทำตัวเป็นหัวหน้า เป็นเจ้าของบ้าน ไม่พอใจ โวยวายทำลายข้าวของและไล่ทุกคนออกไป สุดท้ายเขาต้องใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง
บทหนังไม่ได้แปลกใหม่อะไร แต่ที่ยอดเยี่ยมคือความสดใหม่ในการนำเสนอและตัวละครที่มีสเน่ห์ จอร์ดอน โว้ค โรเบิร์ต ไม่ได้นำเสนอหนังแนวก้าวพ้นวัยในทางดราม่าหดหู่ ฟูมฟายนํ้าตาไหลพราก ในทางตรงกันข้าม เขาถ่ายทอดในแง่มุมที่ตลกขบขันและอบอุ่น ถ่ายทอดภาพในชนบทและป่าเขาของประเทศสหรัฐฯออกมาได้สวยงาม
ข้อดีของการใช้นักแสดงหน้าใหม่หรือนักแสดงที่ยังมีชื่อเสียงไม่มากคือ การแสดงที่สดใส เป็นธรรมชาติ นิค โรบินสัน ทำได้ดีพอสมควรในบทโจ ทั้งในซีนสนุกสนานและซีนอารมณ์เกเบรียล บาสโซ่ ที่เล่นเป็น แพทริค เพื่อนซี้ของโจดูโดดเด่นขึ้นกว่าเรื่องก่อนๆที่เคยแสดงมา แต่ยังไม่ดีพอที่จะเป็นคู่แข่งทางหัวใจกับพระเอก ด้วยบทที่ส่งมาตลอดว่าเคลลี่ แอบชอบ โจ แต่การพลิกมาให้ฝ่ายหญิงจู่ๆหันมาชอบ แพทริค ในเวลาสั้นๆ ดูไม่สมเหตุผลเท่าไหร่
บิอาจิโอ ที่แสดงโดย มอยเลส เอเลียส คือตัวละครที่มีสเน่ห์ที่สุด เขาคือจอมขโมยซีนที่สร้างเสียงหัวเราะได้ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง เคลลี่ สาวต้นเหตุความขัดแย้งของสองเพื่อนซี้น่ารักสมวัย ควรค่าแก่การแย่งชิงหัวใจ นิค ออฟเฟอร์แมน ที่เล่นเป็น แฟรงค์ พ่อของโจคือตัวแทนที่ดีในการถ่ายทอดมุมของของพ่อแม่ที่มีต่อลูก
The Kings of Summer เป็นภาพยนตร์ที่เหมาะกับทุกวัย ดูง่าย สร้างความประทับใจได้ไม่ยาก วัยรุ่นจะได้เห็นแง่มุมหลายอย่างในชีวิต วัยทำงานจะเหมือนย้อนเวลากลับไป เพื่อนๆและการละเล่นสมัยเด็กจะผุดพรายมาเต็มความทรงจำ วัยผู้ใหญ่ที่มีลูกมีหลานก็จะเข้าใจหัวอกของเด็กๆมากขึ้น
เสียดายที่หนังขาดเรื่องราวที่หนักแน่นสมจริงจากตัวละครแปลกๆหรือมีนิสัยแปลก อาทิ บิอาจิโอ พ่อแม่ของแพทริค สองตำรวจในพื้นที่ แม้จะสร้างเสียงหัวเราะได้ดี แต่ก็ไม่หนักแน่นจริงจังพอหากต้องการจะเล่าถึงปัญหาในสถาบันครอบครัวที่เป็นเรื่องใหญ่ จึงขาดพลังที่กระทบใจคนดูเหมือน Stand by me , Mud , Into The Wild
หนังเป็นแนวฟิลกู้ด ทุกอย่างจึงค่อยๆคลี่คลายในตอนท้าย พร้อมกับบทเรียนมากมายให้กับตัวละครทุกคน เมื่อกลับบ้านจึงเหมือนกับว่าทุกคนพบโลกอีกใบในโลกใบเดิม ชีวิตวัยรุ่นหากเปรียบกับฤดูก็คงเป็นฤดูร้อนอันสดใส ไม่มีเมฆฝนลมหนาวอะไรต้องกังวล เราสามารถกระโดดโลดต้นบนทุ่งหญ้ากว้างขวางอย่างอิสระเสรี ค่อยๆเรียนรู้ เติบโต ไปพร้อมๆกับ มิตรภาพ ความรัก และ ความฝัน
คะแนน 7.5/10
โดย นกไซเบอร์
ที่มาจาก
http://movie.bugaboo.tv/watch/90422
วิจารณ์หนัง : The Kings of summer ฤดูร้อน อิสรภาพ และ การเติบโต
สำหรับเด็กผู้ชายอย่างเราๆ เชื่อว่าสมัยเด็กหลายคนเคยมีความฝันที่จะมีบ้านบนต้นไม้หรือบ้านของตัวเองในป่า ได้ใช้ชีวิตที่มีอิสระเสรี อยู่กับเพื่อนๆ พร้อมกับผจญภัยไปด้วยกัน แต่มันก็เป็นแค่ฝัน
เด็กแทบทุกคนถูกพ่อแม่ผู้ปกครองตั้งกฏระเบียบมากมายมาครอบไว้ ไม่ว่าจะ ห้ามกลับบ้านดึก ห้ามกินขนมหวาน ห้ามออกไปเล่นนอกบ้าน ห้ามไปค้างบ้านเพื่อน ห้ามนอนดึก ห้ามเสียงดัง ห้ามเล่นของมีคม ห้ามๆๆๆๆๆ
ตัวละครใน The Kings of Summer จึงเหมือนเป็นตัวแทนของใครหลายคนในการก้าวพ้นออกจากเสียงคำสั่งของพ่อแม่ เพื่อไปใช้ชีวิตช่วงหนึ่งด้วยตัวเอง ในตอนปิดเทอมฤดูร้อน หนังเป็นแนว Coming of age (ตัวละครก้าวพ้นวัย) เปิดฉายครั้งแรกในเทศกาลหนังซันแดนส์ 2013 ได้รับความสนใจจากผู้ชมพอสมควร
หนังเล่าถึงวัยรุ่นไฮสคูลชาย 3 คน โจ (นิค โรบินสัน), แพทริค (เกเบรียล บาสโซ่) และ บีอาจิโอ้ (มอยเลส เอเลียส) ที่ตัดสินใจแอบสร้างบ้านของพวกเขาในป่าก่อนจะหนีออกจากบ้านไปอาศัยอยู่ที่นั่น แต่ละคนมีเหตุผลต่างกัน
โจ หนุ่มสุดเห้ยประจำโรงเรียน ต้องอยู่กับพ่อที่ชอบบังคับให้เขาทำสิ่งที่เขาไม่อยากทำ แพทริค เพื่อนซี้ของโจ หนุ่มนักกีฬาโดนพ่อกับแม่จู้จี้กับชีวิตส่วนตัวอย่างกับเขาเป็นเด็ก8ขวบ ส่วน บิอาจิโอ เป็นเด็กที่จู่ๆก็โผล่มากลางงานปาร์ตี้และติดสอยห้อยตามโจเข้าป่ามา
ชีวิตอิสระในฤดูร้อนแรกเริ่มก็เหมือนจะสวยงาม โลกทั้งใบเหมือนเป็นของพวกเขา ตั้งกฏกันเอง ตื่นเมื่อไหร่ก็ได้ เล่นอะไรก็ได้ ไว้หนวดเคราก็ได้ กินอะไรก็ได้(ถ้าหามาได้) ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป โจ เริ่มมีปัญหากับ แพทริค เมื่อเขาพา เคลลี่(อีริน มอริอาตี้) สาวที่แอบชอบมาที่บ้านกลางป่า แทนที่ เคลลี่ จะปลื้ม โจ มากขึ้น เธอกลับประทับใจในตัว แพทริค จนทั้งคู่สานสัมพันธ์กัน โจ ที่ทำตัวเป็นหัวหน้า เป็นเจ้าของบ้าน ไม่พอใจ โวยวายทำลายข้าวของและไล่ทุกคนออกไป สุดท้ายเขาต้องใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง
บทหนังไม่ได้แปลกใหม่อะไร แต่ที่ยอดเยี่ยมคือความสดใหม่ในการนำเสนอและตัวละครที่มีสเน่ห์ จอร์ดอน โว้ค โรเบิร์ต ไม่ได้นำเสนอหนังแนวก้าวพ้นวัยในทางดราม่าหดหู่ ฟูมฟายนํ้าตาไหลพราก ในทางตรงกันข้าม เขาถ่ายทอดในแง่มุมที่ตลกขบขันและอบอุ่น ถ่ายทอดภาพในชนบทและป่าเขาของประเทศสหรัฐฯออกมาได้สวยงาม
ข้อดีของการใช้นักแสดงหน้าใหม่หรือนักแสดงที่ยังมีชื่อเสียงไม่มากคือ การแสดงที่สดใส เป็นธรรมชาติ นิค โรบินสัน ทำได้ดีพอสมควรในบทโจ ทั้งในซีนสนุกสนานและซีนอารมณ์เกเบรียล บาสโซ่ ที่เล่นเป็น แพทริค เพื่อนซี้ของโจดูโดดเด่นขึ้นกว่าเรื่องก่อนๆที่เคยแสดงมา แต่ยังไม่ดีพอที่จะเป็นคู่แข่งทางหัวใจกับพระเอก ด้วยบทที่ส่งมาตลอดว่าเคลลี่ แอบชอบ โจ แต่การพลิกมาให้ฝ่ายหญิงจู่ๆหันมาชอบ แพทริค ในเวลาสั้นๆ ดูไม่สมเหตุผลเท่าไหร่
บิอาจิโอ ที่แสดงโดย มอยเลส เอเลียส คือตัวละครที่มีสเน่ห์ที่สุด เขาคือจอมขโมยซีนที่สร้างเสียงหัวเราะได้ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง เคลลี่ สาวต้นเหตุความขัดแย้งของสองเพื่อนซี้น่ารักสมวัย ควรค่าแก่การแย่งชิงหัวใจ นิค ออฟเฟอร์แมน ที่เล่นเป็น แฟรงค์ พ่อของโจคือตัวแทนที่ดีในการถ่ายทอดมุมของของพ่อแม่ที่มีต่อลูก
The Kings of Summer เป็นภาพยนตร์ที่เหมาะกับทุกวัย ดูง่าย สร้างความประทับใจได้ไม่ยาก วัยรุ่นจะได้เห็นแง่มุมหลายอย่างในชีวิต วัยทำงานจะเหมือนย้อนเวลากลับไป เพื่อนๆและการละเล่นสมัยเด็กจะผุดพรายมาเต็มความทรงจำ วัยผู้ใหญ่ที่มีลูกมีหลานก็จะเข้าใจหัวอกของเด็กๆมากขึ้น
เสียดายที่หนังขาดเรื่องราวที่หนักแน่นสมจริงจากตัวละครแปลกๆหรือมีนิสัยแปลก อาทิ บิอาจิโอ พ่อแม่ของแพทริค สองตำรวจในพื้นที่ แม้จะสร้างเสียงหัวเราะได้ดี แต่ก็ไม่หนักแน่นจริงจังพอหากต้องการจะเล่าถึงปัญหาในสถาบันครอบครัวที่เป็นเรื่องใหญ่ จึงขาดพลังที่กระทบใจคนดูเหมือน Stand by me , Mud , Into The Wild
หนังเป็นแนวฟิลกู้ด ทุกอย่างจึงค่อยๆคลี่คลายในตอนท้าย พร้อมกับบทเรียนมากมายให้กับตัวละครทุกคน เมื่อกลับบ้านจึงเหมือนกับว่าทุกคนพบโลกอีกใบในโลกใบเดิม ชีวิตวัยรุ่นหากเปรียบกับฤดูก็คงเป็นฤดูร้อนอันสดใส ไม่มีเมฆฝนลมหนาวอะไรต้องกังวล เราสามารถกระโดดโลดต้นบนทุ่งหญ้ากว้างขวางอย่างอิสระเสรี ค่อยๆเรียนรู้ เติบโต ไปพร้อมๆกับ มิตรภาพ ความรัก และ ความฝัน
คะแนน 7.5/10
โดย นกไซเบอร์
ที่มาจาก http://movie.bugaboo.tv/watch/90422