สรุปมติของศาลโลก กรณีพิพาท ไทย-กัมพูชา

ศาลโลก :มติเอกฉันท การขอตีความคดีของ กัมพูชานั้นสิ่งเหล่านี้ศาลมีอํานาจรับฟ้องโดยมติ เอกฉันท์แถลงว่าโดยการตีความวาคําพิพากษาวัน ที่ 15มิ.ย. 2505 วินิจฉัยว่ากัมพูชามีอธิปไตยในดินแดนทั้งหมดของปราสาทพระวิหารและโดยผลประเทศไทยจึงมีพันธกรณีต้องถอนจาก เขตแดนดังกลาวทั้งกําลังทหารตํารวจผู้เฝ้ายาม ที่ประจําการในดินแดนดังกลาว

ทั้งสองฝายจําต้องมีวิธีแก้ไขปัญหาขอพิพาท ระหว่างกันด้วยวิธีอื่นกัมพูชากับไทยต้องหารือ กันเองภายใต้การดูแลให้เป็นมรดกโลกของยูเนส โก

ทั้งนี้ ก่อนนี้กระทรวงการต่างประเทศวิเคราะห์ 4 แนวทางคําพิพากษาคือ

1.ศาลไม่มีอํานาจตีความหรือหากศาลเห็นวามี อํานาจก็ไม่เห็นวาจําเป็นตองตีความ

2.ศาลตัดสินว่าขอบเขต "บริเวณใกลเคียง ปราสาท"เป็นไปตามแผนที่มาตราสวน 1 : 200,000ซึ่งเป็นไปตามข้อต่อสู้ของกัมพูชาหรือ ใกล้เคียง

3.ศาลตัดสินว่าขอบเขต "บริเวณใกล้เคียง ปราสาท"เป็นไปตามเสนมติคณะรัฐมนตรีของ ไทยเมื่อปี 2505ซึ่งเป็นไปตามข้อต่อสู้ของไทย หรือใกล้เคียง

4.ศาลตัดสินกลางๆโดยกําหนดหลักการที่ศาล เห็นสมควรเพื่อให้ ทั้งสองฝ่ายไปเจรจากันต่อไป ตามกฎกติการะหว่างประเทศนั้นคําตัดสินของ ศาลโลกไม่สามารถอุทธรณ์ได้ และมีผลผูกพัน ทั้งไทยและกัมพูชาในฐานะสมาชิก สหประชาชาติ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่