เหตุผลที่ รัฐบาลนี้ จะต้อง "ยุบสภา" เพระว่า
- พยายามอย่างยิ่งในการ ผลักดัน(ทุรัง) พรบ. นิรโทษ กรรม ฉบับดังกล่าว ในวาระ 2 และ วาระ 3 พร้อมทั้ง ลงมติ เห็นชอบ ในขณะที่ ฝ่ายที่ไม่เห็นชอบ walk out นั่นหมายถึงว่า กฎหมายดังกล่าวนี้ รัฐบาล ได้ พิจารณาเป็นอย่างดีแล้ว ว่าจะเป็น ประโยชน์ ต่อประชาชน จึง ทำการผลักดันให้ผ่านวาระของ สภาผู้แทนราษฎรไปสู่ วุฒิสภา
ถ้าหาก วุฒิ สภา มี มติ ไม่เห็นชอบ และ ตีกลับ กฎหมายดังกล่าว เข้ามาใน สภาผู้แทนราษฎร ... แม้ว่า สภาฯ จะมีการ ลงนาม สัตยาบันร่วมกันแล้ว ว่า จะไม่ขอผลักดัน กม. นิรโทษกรรม ฉบับใด ๆ ซ้ำอีก ก็ ตามที
แต่ รัฐบาล จะมี คำชี้แจงอย่างไร ให้ การ ดันทุรัง ผลักดัน วาระ 2 และ วาระ 3 ที่ผ่านมาให้กับ ประชาชน ที่แม้แต่ พวกเดียวกัน ยังหาข้ออ้างให้ลำบาก
การยุบสภาในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการ ยอมแพ้ ต่อ แรงกดดันต่อมวลชนแต่ประการใด มันเป็นเพียงการ เริ่มต้นใหม่ ของรัฐบาลหน้า ซึ่ง ถ้า รัฐบาลแน่ใจได้ว่า ฝ่ายตนเองจะได้รับการเห็นชอบให้เป็นรัฐบาลอีก ก็ ไม่น่ามีปัญหาอะไร
นโยบายใด ที่ผิดพลาด ก็ หยุดซะ อะไรที่ดี ก็ ทำต่อไป เช่นเดียวกัน ส.ส. คนไหน คือ น้ำเน่า ของ พรรค ก็ ปรับออกไป ทีม ครม. คนไหน ทำงานไม่มีผลงานก็ ปรับออกไป .... หรือ แม้แต่ นายกรัฐมนตรี ถ้า พรรคเพื่อไทย เห็นว่า มี คนอื่น จะทำหน้าที่ได้ดีว่า น.ส. ยิ่งลักษณ์ ก็ ปรับออกไป
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการ เปิด โอกาสให้ ประชาชน ที่ อาจจะคิดว่า ตัดสินใจพลาด ได้ ตัดสินใจใหม่ หรือ ไม่แน่ว่า ฝ่ายที่ไม่ได้ลงคะแนนให้ ใคร ก็ อาจจะลงคะแนนให้ ท่าน ก็ ได้
หนึ่งเหตุผลที่ รัฐบาลนี้ ควรจะ "ยุบสภา"
- พยายามอย่างยิ่งในการ ผลักดัน(ทุรัง) พรบ. นิรโทษ กรรม ฉบับดังกล่าว ในวาระ 2 และ วาระ 3 พร้อมทั้ง ลงมติ เห็นชอบ ในขณะที่ ฝ่ายที่ไม่เห็นชอบ walk out นั่นหมายถึงว่า กฎหมายดังกล่าวนี้ รัฐบาล ได้ พิจารณาเป็นอย่างดีแล้ว ว่าจะเป็น ประโยชน์ ต่อประชาชน จึง ทำการผลักดันให้ผ่านวาระของ สภาผู้แทนราษฎรไปสู่ วุฒิสภา
ถ้าหาก วุฒิ สภา มี มติ ไม่เห็นชอบ และ ตีกลับ กฎหมายดังกล่าว เข้ามาใน สภาผู้แทนราษฎร ... แม้ว่า สภาฯ จะมีการ ลงนาม สัตยาบันร่วมกันแล้ว ว่า จะไม่ขอผลักดัน กม. นิรโทษกรรม ฉบับใด ๆ ซ้ำอีก ก็ ตามที
แต่ รัฐบาล จะมี คำชี้แจงอย่างไร ให้ การ ดันทุรัง ผลักดัน วาระ 2 และ วาระ 3 ที่ผ่านมาให้กับ ประชาชน ที่แม้แต่ พวกเดียวกัน ยังหาข้ออ้างให้ลำบาก
การยุบสภาในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการ ยอมแพ้ ต่อ แรงกดดันต่อมวลชนแต่ประการใด มันเป็นเพียงการ เริ่มต้นใหม่ ของรัฐบาลหน้า ซึ่ง ถ้า รัฐบาลแน่ใจได้ว่า ฝ่ายตนเองจะได้รับการเห็นชอบให้เป็นรัฐบาลอีก ก็ ไม่น่ามีปัญหาอะไร
นโยบายใด ที่ผิดพลาด ก็ หยุดซะ อะไรที่ดี ก็ ทำต่อไป เช่นเดียวกัน ส.ส. คนไหน คือ น้ำเน่า ของ พรรค ก็ ปรับออกไป ทีม ครม. คนไหน ทำงานไม่มีผลงานก็ ปรับออกไป .... หรือ แม้แต่ นายกรัฐมนตรี ถ้า พรรคเพื่อไทย เห็นว่า มี คนอื่น จะทำหน้าที่ได้ดีว่า น.ส. ยิ่งลักษณ์ ก็ ปรับออกไป
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการ เปิด โอกาสให้ ประชาชน ที่ อาจจะคิดว่า ตัดสินใจพลาด ได้ ตัดสินใจใหม่ หรือ ไม่แน่ว่า ฝ่ายที่ไม่ได้ลงคะแนนให้ ใคร ก็ อาจจะลงคะแนนให้ ท่าน ก็ ได้