ภาพลวงตา ของเหล่าแฟนผีจะหายไปใน คืนวันอาทิตย์นี้

กระทู้สนทนา
ภาพลวงตา ของเหล่าแฟนผีจะหายไปใน คืนวันอาทิตย์นี้

               หลังจากผลงาน 5 นัดล่าสุดของ เดหวิด มอย  
  1.เฉีอนโซเซียแดดในบ้าน 1-0  
  2.เฉือนสโต้คแบบหืดจับในบ้าน 3-2    
  3.กินนิ่มนอริชในบ้าน 4-0  
  4.ทุบบอลไล่โค้ช ฟูลแลม 1-3
  5.บุกไปเสมอโซเซียแดด แบบน่าชนะ 0-0
         ผลงานชนะ 4 นัด จาก 5 นัดหลังสุด โดยไม่แพ้ใคร 5 นัดติด  มันช่างดูสวยหรูยิ่งนัก
             สาวกผีแดงหลายๆคนต่างคิดว่า ทุกๆอย่างมันเริ่มลงตัว เรากำลังจะกลับมาสู่เส้นทางที่เคยจะเป็น แต่วันอาทิตย์นี้ เราจะได้รู้กันว่า 5 นัดที่ผ่านมามันเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น แม้จะได้เล่นในบ้าน แถม 4-5 ปีหลังจะเห็นว่า
ผลงานทางฝั่งแมนยู มันจะออกมาดีกว่าเสมอ ยามได้เจอกับเหล่าขุนพลปืนใหญ่ แต่ปี้นี้ปัจจัยต่างๆ มันเปลี่ยนไป จึงไม่น่าจะเป็นเรื่องแปลก หาก ปืนใหญ่ อาเซนอล จะบุกมาเก็บสามแต้ม ถึงถิ่ง โอลแทรฟฟอร์ด เพื่อแสดงให้เห็นว่าทีมของ
อาแซนเวนเกอร์ พร้อมแล้วที่จะกลับมาเป็นแชมป์ พรีเมียลีค หลังจากไม่เคยเฉียดเข้าใกล้เลย นับตั้งแต่ เข้าสู่ยุค ทุนนิยม ที่ใช้เงินดูดนักเตะชั้นยอดมากมาย เข้ามาสู่พรีเมียลีค นับตั้งแต่ยุคของ เชลซี แมนซีตี้ ล่าสุด เสปอร์ ใช้เงินร้อยกว่าล้านปอนด์ ในการสูบนักเตะ
เข้าสู่สโมสร  รวมถึงอาเซนอล ที่ กล้าทุ่มเงินเป็นประวัติศาสตร์ ในการซื้อ เมซุสโอซิล ที่ 42.5 ล้านปอนด์ ซึ่งเมื่อมาถึงจุดนี้ ต้องยอมรับว่าเม็ดเงินที่ลงทุนไป คุ้มค่า ยิ่งนัก ถึงแม้ฟอร์มโดยรวมของโอซิลจะไม่ถึงขนาดเปรี้ยงปร้าง โดดเด่นมากมาย แต่การที่ อาเซนอล
ได้นักเตะ ระดับ เมซุสโอซิล เข้ามา ทีมของอาแซนเวนเกอร์  นอกจากจะได้นักเตะระดับโลกมาสู่ทีมแล้ว เมซุสโอซิล ยังเข้ามา เติมเต็ม "หัวใจ" ของนักเตะ อาเซนอล ทั้งทีม ที่เคยขาดหายไป เราจะเห็นได้ว่า ทีมของเวนเกอร์ หลายๆปีที่ผ่านมา ยามเมื่อเจอกับทีใหญ่ๆ
ที่มีนักเตะมากประสบการณ์ มักจะเล่นไม่ออก ทั้งๆที่ เวลาเจอกับทีมระดับกลางหรือระดับล่าง ผลงาน ออกมาดูดีเหลือเกิน สิ่งที่ทำให้เป็นเช่นนั้น ก็คือ หัวใจของทีมที่มักจะมองว่า ทีมของตัวเองยังด้อยกว่า ยังเด็กกว่า แต่ ณ วันนี้ โอซิลเข้ามาเปลี่ยนความคิดนั้นไป
นักเตะทุกคน มีความมั่นใจ ว่าทีมของพวกเค้า สามารถเอาชนะได้ทุกทีม
          สำหรับฝั่ง แมนยู การเข้ามาของ เดหวิด มอย ในปีนี้ ส่งผลกระทบในเชิงลบ กับ ทั้งทีมเป็นอย่างมาก ทั้งการเปลี่ยนทีมงาน สต้าฟทั้งชุด สภาพจิตในของนักเตะความไม่มั่นใจในสถานะ ของผู้เล่น ทิศทางของทีม รวมถึง ทัศนคติ ในการทำทีมของ เดหวิด มอย อีกด้วย
เราจะเห็นได้ว่า โดยรวมแล้ววิธีการเล่นของ แมนยู ปีนี้ ไม่ได้แตกต่างจาก ปีที่แล้วเท่าไหร่นัก แต่ผลงานกลับออกมา แย่กว่าปีที่แล้วมาก ซึ่งเหตุผลหลักๆคงต้อง มองไปที่ เดหวิด มอย นั่นเอง มอยไม่ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงระบบการเล่นของทีมให้เป็นแบบที่ตัวเองถนัด แต่เป็นการ ปรับจังหว่ะ
การเล่นให้เล่นช้าลง ซึ่งส่งผลให้ ประสิทธิภาพ ในการทำเกมส์รุก หายไป แถมปัญหาเก่าตั้งแต่ปีที่แล้ว คือ เกมส์รับ ยังคงอยู่ การโดนยิงประตูก่อน  ของแมยนู ปีที่แล้ว แต่มีเกมส์รุก พลิกเกมส์ ให้กลับมาได้ จนถูกล้อ ว่าเป็น โดนนำสไตล์ เปลี่ยนเป็น การโดนยิงประตูก่อน แต่กลับมาไม่ได้ ผลงานที่
ออกมาจึงแย่กว่าปีที่แล้วแบบเห็นได้ชัด หาก มอย กล้า ที่จะเปลี่ยน แมนยู ให้ เล่น แบบ ที่ตัวเอง ถนัด ผลงานอาจจะออกมาดีกว่านี้ แต่จะส่งผลกระทบไปถึง บรรดานักเตะ ที่เล่นริมเส้น ทั้งหลายของ แมนยู เป็นแน่  เพราะ มอย ถนัด เน้น เกมส์ ตรงกลาง การใส่ กองกลางลงไป 4-5 คน และให้ แบ็ค เติม
ขึ้นมา ครอสบอล เข้าทำ เป็ส สไลย์ ถนัด ของ เดหวิด มอย การที่มีกองกลาง หลายๆคน ทำให้เกมส์ แดนกลาง แน่น เกมส์รับ ก็จะเหนียวแน่น ตาม ซึ่งเป็นเหตุผลว่า ทำไม เอเวอร์ตัน มักจะทำผลงานได้ดี กับ ทีมใหญ่ แต่การที่ มอย ไม่กล้าเปลี่ยน ระบบการเล่น เพราะยัง เกรงใจ นักเตะ อยู่ มันจึงส่งผลถึงผลงาน
ที่ออกมา ณ ตอนนี้ ซึ่งจะเห็นได้ กับเกมส์ ที่ เจอ กับ แมนซิตี้ ทั้งที่ สมัย คุม เอเวอร์ตัน มันจะเป็นตัวแสบ แบ่งแต้ม หรือ พลิก ชนะ ได้ บ่อยๆ จึงไม่น่าแปลกใจ อะไร หาก อาทิตย์นี้ มอย จะถูก ทีมปืนใหญ่ บุกมา ชนะ ได้ถึง โอลแทรฟฟอร์ แบบ สบายๆ


ผลที่น่าจะออกมา  แมนยู 1 - 3 อาเซนอล
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่