เตือนภัยเรื่องการเอาเงินฝากธนาคารกสิกรไทย
เรื่องมีอยู่ว่า วันที่ 8 พฤศจิกายน 2556 ดิฉันนำเงินสดไปฝากที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนพังงา จำนวนเงิน 200,000 บาทถ้วน ซึ่งเป็นเงินที่เก็บมาจากลูกค้า แต่สิ่งที่ดิฉันพลาดและไว้ใจมากเกินไปคือ ดิฉันไม่ได้นับเงินและแยกไว้เป็นปึ๊ง และเมื่อดิฉันต้องถือเงินจำนวนมากๆดิฉันจะแต่งตัวชุดค่อนข้างเก่า เพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจ วันนั้นดิฉันก็ทำเหมือนปกติ พอถึงหน้าเคาท์เตอร์ดิฉันก็ยื่นเงินทั้งก้อนให้พนักงานแล้วแจ้งว่า รบกวนช่วยใส่เครื่องนับให้ด้วยค่ะ ซึ่งดิฉันสามารถจะนับตรงหน้าเคาท์เตอร์ก็ได้ แต่เนื่องจากเวลาที่ไปใช้บริการคือช่วงประมาณ 12.00-12.30น. เจ้าหน้าที่ประจำเคาท์เตอร์เพียง 2 ช่องเท่านั้นและคนรอเยอะมาก ดิฉันเลยส่งเงินให้พนักงานนับ และพนักงานก็รับเงินไปทั้งหมดและใส่เครื่องนับ ซึ่งเครื่องก็อยู่ข้างๆพนักงานนั่นเอง และเมื่อนับหมดทั้งกอง ก็ปรากฏยอดเงินตามที่ดิฉันรับมาจากลูกค้าคือ 200,000บาท ซึ่งพนักงานก็เงยหน้ามาพูดกับดิฉันว่า " หนูรับเงินคุณพี่มาทั้งหมด 200,000บาทนะค่ะ " ดิฉันก็ตอบไปว่าถูกต้องค่ะ ( ถ้าเงินไม่ครบ 200,000บาท ดิฉันต้องไม่ฝากและนำเงินกลับเนื่องจากต้องติดต่อแจ้งลูกค้าว่าเงินไม่ครบ) แล้วดิฉันยื่นใบนำฝากให้พนักงาน " ซึ่งพนักงานก็เงยหน้ามาถามอีกว่า " คุณพี่จะฝาก 150,000 บาทนะค่ะ และนำเงินกลับไป 50,000บาท" ดิฉันก็ตอบว่าใช่ค่ะ หลังจากนั้นพนักงานก็กดเครื่องนับเงินใหม่ เป็น 100 และนำเงินใส่แล้วกดเครื่องให้นับเงิน หลังจากเครื่องนับครบ 100ใบ (100,000บาท,ทั้งหมดเป็นธนบัตร 1 พันบาท) พนักงานก็หยิบเงินออกมาแล้วใส่แถบพลาสติก เก็บใส่ลิ้นชัก แล้วพนักงานก็กดรีเซีตเครื่องจาก 100 เป็น 50 และนับเงินที่เหลือ เมื่อเครื่องนับครบ 50ใบ (50,000บาท) พนักงานก็ดึงมาวางหน้าเครื่องนับ และกดนับส่วนที่เหลืออีกครั้ง พอเครื่องนับส่วนที่เหลือครบ 50ใบ พนักงานก็ดึงเงินออกจากเครื่อง แล้วมัดด้วยหนังยางและยื่นคืนให้ดิฉัน ซึ่งดิฉันก็มองอยู่ว่าทำไมไม่เก็บเงินที่นับก่อนหน้านี้ลงลิ้นชัก แต่นั่นไม่ใช่ธุระของดิฉัน เพราะว่าหล่อนทำงาน หล่อนต้องรู้ว่าทำอะไรอยู่ หลังจากนั้น พนักงานก็ทำรายการนำฝากจนเสร็จ แล้วดิฉันก็เดินออกมา พอเวลาประมาณ 20.00น.ในวันเดียวกัน มีเจ้าหน้าที่จากธนาคารโทรมาหาดิฉัน ซึ่งจริงๆแล้วโทรเข้าเบอร์ของสำนักงานแต่ดิฉันโอนสายเข้ามาที่มือถือ ดิฉันจึงเห็นว่ามีสายไม่ได้รับทั้งหมด 5 สาย ตั้งแต่เวลาประมาณ 17.00น. ซึ่งเลิกงานแล้ว เมื่อดิฉันเห็นว่ามีสายไม่ได้รับโทรเข้ามา ดิฉันจึงติดต่อกลับไป และเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าโทรจาก ธนาคารกสิกรไทย และถามดิฉันว่า " วันนี้คุณพี่เอาเงินมาฝากเท่าไหร่ค่ะ ดิฉันก็แจ้งว่า เอาเงินไป 200,000 บาท ฝาก 150,000 บาท เอากลับมา 50,000 บาทค่ะ " แล้วเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวก็ถามว่า " มีเงินเกินไปกับคุณพี่มั้ยค่ะ ซึ่งไม่ได้แจ้งจำนวนเงิน ดิฉันก็ตอบว่าไม่มีนี่ค่ะ" จากนั้นก็วางสายไป แต่เรื่องไม่จบ มีสายโทรเข้ามาอีก และถามแบบเดิม ดิฉันก็ตอบแบบเดิมตามความจริง ทีนี้เจ้าหน้าที่คนที่ 2 ก็ถามดิฉันว่า "คุณแน่ใจได้อย่างไรว่าคุณเอาเงินมาทั้งหมด 200,000 บาท ทั้งๆที่คุณไม่นับมาก่อน เพิ่งมาให้พนักงานใส่เครื่องนับ " ดิฉันก็ตอบไปว่า "ดิฉันเก็บเงินจากลูกค้ามา แล้วก็เอามาเข้าธนาคารและที่สำคัญลูกค้ารายนี้ดิฉันรับเงินสดมาตลอดระยะเวลาที่ทำธุรกิจกันมา ไม่เคยมีปัญหาอะไร" แล้วเจ้าหน้าที่ก็ถามดิฉันว่า " ถ้ารู้ว่าเงินเท่าไหร่แล้วทำไมต้องให้พนักงานเอาใส่เครื่องนับอีก และใบนำฝากก็มีแค่ 150,000 บาทเท่านั้น ถ้ารู้ว่าจะฝาก แค่นั้นทำไมไม่นับและแยกมาให้เรียบร้อย" ดิฉันก็ตอบไปว่า "ดิฉันประสงค์จะฝากแค่ 150,000 บาท แล้วเอากลับมา 50,000บาทก็ไม่ใช่ธุระของคุณนะค่ะ" แล้วเจ้าหน้าที่ก็ตะคอกใส่ดิฉันมาว่า " ถ้างันก็เป็นไปได้ว่าคุณพี่นำเงินมาไม่ครบและรับเงินเกินกลับไป" ดิฉันก็แจ้งกับพนักงานว่า " คุณค่ะ ดิฉันทราบว่าเงินที่มีคือ 200,000 บาท แต่ด้วยความรีบจะเอาเงินเข้าธนาคารจึงเอาให้พนักงานใส่เครื่องนับ เพื่อจะได้ไม่เสียเวลายืนนับ และที่ดิฉันจะฝากแค่ 150,000 บาทก็เพราะว่ากลางเดือนแล้ว พนักงานบริษัทฯจะเบิกเงินเดือนกลางเดือน ดังนั้นดิฉันไม่อยากมาธนาคารอีกรอบ" แต่เจ้าหน้าคนดังกล่าวไม่ยอม และคาดคั้นให้ดิฉันเข้าไปดูกล้อง ดิฉันก็แจ้งว่า ถ้าเป็นไปได้จะเข้าไปดูวันจันทร์ที่ 11 ไม่ระบุเวลา เพราะดิฉันติดประชุมทั้งวัน แล้วดิฉันถามว่าดูกล้องหรือยัง เจ้าหน้าที่บอกว่าดูแล้ว และเห็นว่า ดิฉันรับเงินจากพนักงานจริงและใส่ถุงพลาสติกจริง ซึ่งหล่อนว่าเห็นพนักงานเคาท์เตอร์หยิบเงินจากเครื่องแค่ครั้งเดียว ซึ่งดิฉันยืนยันว่า ดิฉันเห็นน้องเค้าหยิบเงินมาวางหน้าเครื่องนับเงินแล้วกดครื่องเพื่อนับเงินที่เหลือ เพราะว่าเงินที่น้องเค้าหยิบจากเครื่องคือเงินที่น้องเค้ารัดด้วยหนังยางและคืนมาให้ดิฉัน
ดิฉันต้องแจ้งเรื่องนี้เป็นการเตือนภัยของการเข้าไปใช้บริการธนาคารกสิกรไทยค่ะ และดิฉันกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากการพูดจากของเจ้าหน้านี่นั้น แสดงให้เห็นเลยว่า ยังงัยก็เราผิด ดิฉันมีประสบการณ์แย่ๆกับธนาคารนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง เรื่องการโอนเงินออนไลน์แล้วใส่เลขบัญชีเกินไป 1 ตัว ปรากฏว่าระบบออนไลน์ตัดเลขบัญชีออกตามอำเภอใจไป 1 ตัว ทำให้เงินไปเข้าของบุคคลอื่น แล้วทีนี้ก็มาเรื่องนี้อีก เรียนตามตรง มีเจ้าหน้าที่กสิกรอยู่มั้ยช่วยแก้ปัญหาด้วยค่ะ
ปล.ลืมบอกไปว่า ดิฉันไม่ใช่พนักงานบริษัท แต่ดิฉันเป็นเจ้าของบริษัท ดังนั้นดิฉันไม่มีความจำเป็นต้องโกงเงินใครเพื่อความอยู่รอด และดิฉันมีบัญชีกับธนาคารนี้ทั้งหมด 4 บัญชี ทั้งส่วนตัวและบริษัท เป็นลูกค้ามากว่า 14 ปี และนี่หรือคือการตอบแทน
ปัทมา ผู้เดือดร้อน
กสิกรไทย อีกแล้วค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า วันที่ 8 พฤศจิกายน 2556 ดิฉันนำเงินสดไปฝากที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนพังงา จำนวนเงิน 200,000 บาทถ้วน ซึ่งเป็นเงินที่เก็บมาจากลูกค้า แต่สิ่งที่ดิฉันพลาดและไว้ใจมากเกินไปคือ ดิฉันไม่ได้นับเงินและแยกไว้เป็นปึ๊ง และเมื่อดิฉันต้องถือเงินจำนวนมากๆดิฉันจะแต่งตัวชุดค่อนข้างเก่า เพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจ วันนั้นดิฉันก็ทำเหมือนปกติ พอถึงหน้าเคาท์เตอร์ดิฉันก็ยื่นเงินทั้งก้อนให้พนักงานแล้วแจ้งว่า รบกวนช่วยใส่เครื่องนับให้ด้วยค่ะ ซึ่งดิฉันสามารถจะนับตรงหน้าเคาท์เตอร์ก็ได้ แต่เนื่องจากเวลาที่ไปใช้บริการคือช่วงประมาณ 12.00-12.30น. เจ้าหน้าที่ประจำเคาท์เตอร์เพียง 2 ช่องเท่านั้นและคนรอเยอะมาก ดิฉันเลยส่งเงินให้พนักงานนับ และพนักงานก็รับเงินไปทั้งหมดและใส่เครื่องนับ ซึ่งเครื่องก็อยู่ข้างๆพนักงานนั่นเอง และเมื่อนับหมดทั้งกอง ก็ปรากฏยอดเงินตามที่ดิฉันรับมาจากลูกค้าคือ 200,000บาท ซึ่งพนักงานก็เงยหน้ามาพูดกับดิฉันว่า " หนูรับเงินคุณพี่มาทั้งหมด 200,000บาทนะค่ะ " ดิฉันก็ตอบไปว่าถูกต้องค่ะ ( ถ้าเงินไม่ครบ 200,000บาท ดิฉันต้องไม่ฝากและนำเงินกลับเนื่องจากต้องติดต่อแจ้งลูกค้าว่าเงินไม่ครบ) แล้วดิฉันยื่นใบนำฝากให้พนักงาน " ซึ่งพนักงานก็เงยหน้ามาถามอีกว่า " คุณพี่จะฝาก 150,000 บาทนะค่ะ และนำเงินกลับไป 50,000บาท" ดิฉันก็ตอบว่าใช่ค่ะ หลังจากนั้นพนักงานก็กดเครื่องนับเงินใหม่ เป็น 100 และนำเงินใส่แล้วกดเครื่องให้นับเงิน หลังจากเครื่องนับครบ 100ใบ (100,000บาท,ทั้งหมดเป็นธนบัตร 1 พันบาท) พนักงานก็หยิบเงินออกมาแล้วใส่แถบพลาสติก เก็บใส่ลิ้นชัก แล้วพนักงานก็กดรีเซีตเครื่องจาก 100 เป็น 50 และนับเงินที่เหลือ เมื่อเครื่องนับครบ 50ใบ (50,000บาท) พนักงานก็ดึงมาวางหน้าเครื่องนับ และกดนับส่วนที่เหลืออีกครั้ง พอเครื่องนับส่วนที่เหลือครบ 50ใบ พนักงานก็ดึงเงินออกจากเครื่อง แล้วมัดด้วยหนังยางและยื่นคืนให้ดิฉัน ซึ่งดิฉันก็มองอยู่ว่าทำไมไม่เก็บเงินที่นับก่อนหน้านี้ลงลิ้นชัก แต่นั่นไม่ใช่ธุระของดิฉัน เพราะว่าหล่อนทำงาน หล่อนต้องรู้ว่าทำอะไรอยู่ หลังจากนั้น พนักงานก็ทำรายการนำฝากจนเสร็จ แล้วดิฉันก็เดินออกมา พอเวลาประมาณ 20.00น.ในวันเดียวกัน มีเจ้าหน้าที่จากธนาคารโทรมาหาดิฉัน ซึ่งจริงๆแล้วโทรเข้าเบอร์ของสำนักงานแต่ดิฉันโอนสายเข้ามาที่มือถือ ดิฉันจึงเห็นว่ามีสายไม่ได้รับทั้งหมด 5 สาย ตั้งแต่เวลาประมาณ 17.00น. ซึ่งเลิกงานแล้ว เมื่อดิฉันเห็นว่ามีสายไม่ได้รับโทรเข้ามา ดิฉันจึงติดต่อกลับไป และเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าโทรจาก ธนาคารกสิกรไทย และถามดิฉันว่า " วันนี้คุณพี่เอาเงินมาฝากเท่าไหร่ค่ะ ดิฉันก็แจ้งว่า เอาเงินไป 200,000 บาท ฝาก 150,000 บาท เอากลับมา 50,000 บาทค่ะ " แล้วเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวก็ถามว่า " มีเงินเกินไปกับคุณพี่มั้ยค่ะ ซึ่งไม่ได้แจ้งจำนวนเงิน ดิฉันก็ตอบว่าไม่มีนี่ค่ะ" จากนั้นก็วางสายไป แต่เรื่องไม่จบ มีสายโทรเข้ามาอีก และถามแบบเดิม ดิฉันก็ตอบแบบเดิมตามความจริง ทีนี้เจ้าหน้าที่คนที่ 2 ก็ถามดิฉันว่า "คุณแน่ใจได้อย่างไรว่าคุณเอาเงินมาทั้งหมด 200,000 บาท ทั้งๆที่คุณไม่นับมาก่อน เพิ่งมาให้พนักงานใส่เครื่องนับ " ดิฉันก็ตอบไปว่า "ดิฉันเก็บเงินจากลูกค้ามา แล้วก็เอามาเข้าธนาคารและที่สำคัญลูกค้ารายนี้ดิฉันรับเงินสดมาตลอดระยะเวลาที่ทำธุรกิจกันมา ไม่เคยมีปัญหาอะไร" แล้วเจ้าหน้าที่ก็ถามดิฉันว่า " ถ้ารู้ว่าเงินเท่าไหร่แล้วทำไมต้องให้พนักงานเอาใส่เครื่องนับอีก และใบนำฝากก็มีแค่ 150,000 บาทเท่านั้น ถ้ารู้ว่าจะฝาก แค่นั้นทำไมไม่นับและแยกมาให้เรียบร้อย" ดิฉันก็ตอบไปว่า "ดิฉันประสงค์จะฝากแค่ 150,000 บาท แล้วเอากลับมา 50,000บาทก็ไม่ใช่ธุระของคุณนะค่ะ" แล้วเจ้าหน้าที่ก็ตะคอกใส่ดิฉันมาว่า " ถ้างันก็เป็นไปได้ว่าคุณพี่นำเงินมาไม่ครบและรับเงินเกินกลับไป" ดิฉันก็แจ้งกับพนักงานว่า " คุณค่ะ ดิฉันทราบว่าเงินที่มีคือ 200,000 บาท แต่ด้วยความรีบจะเอาเงินเข้าธนาคารจึงเอาให้พนักงานใส่เครื่องนับ เพื่อจะได้ไม่เสียเวลายืนนับ และที่ดิฉันจะฝากแค่ 150,000 บาทก็เพราะว่ากลางเดือนแล้ว พนักงานบริษัทฯจะเบิกเงินเดือนกลางเดือน ดังนั้นดิฉันไม่อยากมาธนาคารอีกรอบ" แต่เจ้าหน้าคนดังกล่าวไม่ยอม และคาดคั้นให้ดิฉันเข้าไปดูกล้อง ดิฉันก็แจ้งว่า ถ้าเป็นไปได้จะเข้าไปดูวันจันทร์ที่ 11 ไม่ระบุเวลา เพราะดิฉันติดประชุมทั้งวัน แล้วดิฉันถามว่าดูกล้องหรือยัง เจ้าหน้าที่บอกว่าดูแล้ว และเห็นว่า ดิฉันรับเงินจากพนักงานจริงและใส่ถุงพลาสติกจริง ซึ่งหล่อนว่าเห็นพนักงานเคาท์เตอร์หยิบเงินจากเครื่องแค่ครั้งเดียว ซึ่งดิฉันยืนยันว่า ดิฉันเห็นน้องเค้าหยิบเงินมาวางหน้าเครื่องนับเงินแล้วกดครื่องเพื่อนับเงินที่เหลือ เพราะว่าเงินที่น้องเค้าหยิบจากเครื่องคือเงินที่น้องเค้ารัดด้วยหนังยางและคืนมาให้ดิฉัน
ดิฉันต้องแจ้งเรื่องนี้เป็นการเตือนภัยของการเข้าไปใช้บริการธนาคารกสิกรไทยค่ะ และดิฉันกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากการพูดจากของเจ้าหน้านี่นั้น แสดงให้เห็นเลยว่า ยังงัยก็เราผิด ดิฉันมีประสบการณ์แย่ๆกับธนาคารนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง เรื่องการโอนเงินออนไลน์แล้วใส่เลขบัญชีเกินไป 1 ตัว ปรากฏว่าระบบออนไลน์ตัดเลขบัญชีออกตามอำเภอใจไป 1 ตัว ทำให้เงินไปเข้าของบุคคลอื่น แล้วทีนี้ก็มาเรื่องนี้อีก เรียนตามตรง มีเจ้าหน้าที่กสิกรอยู่มั้ยช่วยแก้ปัญหาด้วยค่ะ
ปล.ลืมบอกไปว่า ดิฉันไม่ใช่พนักงานบริษัท แต่ดิฉันเป็นเจ้าของบริษัท ดังนั้นดิฉันไม่มีความจำเป็นต้องโกงเงินใครเพื่อความอยู่รอด และดิฉันมีบัญชีกับธนาคารนี้ทั้งหมด 4 บัญชี ทั้งส่วนตัวและบริษัท เป็นลูกค้ามากว่า 14 ปี และนี่หรือคือการตอบแทน
ปัทมา ผู้เดือดร้อน