สืบเนื่องจากกระทู้ที่แล้ว
http://pantip.com/topic/31215714 งงๆกับลูกแมวตัวผู้ ทำไมทำแบบนี้
เราเจอปัญหาเจ้าลูกชายฉี่ไปทั่วบ้าน เลยไปสรรหาน้ำยาดับกลิ่นทั้งหลายมาใช้ แล้วก็ไปเจอบทความนี้เข้า
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
สัตว์เลี้ยงน่ารักอย่างน้องหมา น้องแมว มีไว้ก็ช่วยให้หายเหงาได้ไม่น้อย แต่เหล่าคนรักสัตว์ก็จำต้องยอมรับปัญหาเรื่องสิ่งปฏิกูลของเจ้าสี่ขาอย่างช่วยไม่ได้ ถ้าดูแลจัดการได้ดีก็หายห่วง แต่ถ้าเกิดฝึกเขาแล้วยังติดนิสัยฉี่เรี่ยราดใส่พรมอีกก็คงเพลียใจเพราะกลิ่นฉุน ๆ น่าดู ถ้าเจอปัญหาน่าปวดหัวแบบนี้รีบแก้ไขโดยด่วนด้วยวิธีต่อไปนี้ดีกว่าค่ะ
1. อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีแอมโมเนีย
เมื่อน้องหมาน้องแมวฉี่ใส่พรม เราก็คงวุ่นวายหาวิธีจัดการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกอย่างรวดเร็ว แต่ถึงจะรีบยังไงก็อย่าเผลอใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีแอมโมเนียเป็นส่วนผสมเด็ดขาด ถ้าไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมอีกครั้ง เพราะในฉี่ของเจ้าสี่ขา ก็มีแอมโมเนียอยู่เหมือนกัน ซึ่งอาจทำให้เขาสับสนได้ว่ากลิ่นผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ก็คือกลิ่นฉี่ของเขา จนอาจจะฉี่ซ้ำรอยเดิมเป๊ะ ๆ ตามสัญชาตญาณนั่นเอง
2. ซับให้แห้งโดยเร็ว
ถ้าสัตว์เลี้ยงเพิ่งปล่อยของเสียออกมาใหม่ ๆ ให้รีบใช้ทิชชูซับน้ำออกจากพรมให้ได้มากที่สุดทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ฉี่ของเขาซึมลึกฝังแน่นบนพรม จนกำจัดออกยาก หรือถ้ามีเครื่องดูดฝุ่นชนิดที่สามารถดูดได้ทั้งแห้งและเปียก ก็ให้รีบนำมาใช้กับรอยเปื้อนโดยด่วนเลยค่ะ
3. กำจัดกลิ่นด้วยน้ำส้มสายชู
หลังจากซับสิ่งปฏิกูลของน้องหมา น้องแมวจนเกือบหมดแล้ว ให้ผสมน้ำสายชู กับน้ำธรรมดา ในปริมาณเท่า ๆ กัน แล้วนำมาซับลงไปบนพรมจนชุ่มพอประมาณ เสร็จแล้วให้รีบนำกระดาษทิชชูหรือผ้าแห้งซับอีกครั้งให้แห้งให้ได้มากที่สุด กรดในน้ำส้มสายชูจะช่วยกำจัดกลิ่นฉี่ของน้องหมา น้องแมว ได้หายห่วง หมดปัญหาเจ้าสี่ขากลับมาฉี่ซ้ำรอยเดิมแน่นอน
4. ย้ำอีกครั้งด้วยเบกกิ้งโซดา
หากกลัวว่าน้ำส้มสายชูอาจจะช่วยดับกลิ่นได้ไม่ดีพอ ก็ลองโรยผงเบกกิ้งโซดาลงบนจุดที่มีปัญหาสักนิด แล้วใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ทำความสะอาดอีกครั้ง อย่าลืมเช็กดูให้ดีด้วยว่า ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ไม่มีส่วนผสมของแอมโมเนียด้วยนะคะ เสร็จแล้วก็ซับพรมให้แห้งด้วยผ้าอีกรอบก็เรียบร้อย
5. กำจัดคราบฝังแน่นให้หมดจด
สำหรับกลิ่นฉี่ที่ฝังแน่นอยู่นานแล้วบนพรม ให้ใช้น้ำเจือจางคราบก่อน แล้วใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ไม่มีส่วนผสมของแอมโมเนียทำความสะอาดอีกครั้ง จากนั้นให้นำผ้าขนหนูชุบน้ำกลั่นมาวาง แล้วทับด้วยของมีน้ำหนัก เช่น หนังสือเล่มใหญ่ ๆ หรือก้อนอิฐ ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง วางผ้าแห้งไว้รอบ ๆ เพื่อให้คอยซับน้ำส่วนเกินที่ซึมออกมาด้วยก็ดีค่ะ ขั้นตอนสุดท้ายให้โรยเบกกิ้งโซดา แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นชนิดแห้งและเปียกดูดผงเบกกิ้งโซดาและความชื้นออกจากพรมให้หมด
6. มองหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม
เพื่อการแก้ปัญหาอย่างตรงจุด ลองมองหาผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ของสัตว์เลี้ยงจากร้านขายของสำหรับน้องหมา น้องแมว โดยเฉพาะก็ได้ เพราะที่นั่นจะมีผลิตภัณฑ์หลายชนิดให้คุณได้เลือกมาลองใช้ดู ถ้าเป็นไปได้ควรจะลองใช้ผลิตภัณฑ์ให้หลากหลาย เพื่อจะได้รู้ว่าผลิตภัณฑ์แบบไหนใช้ได้ผลดีที่สุด แต่ก็อย่าลืมนะคะว่าไม่มีผลิตภัณฑ์ไหนในโลกที่ใช้ครั้งเดียวแล้วจะแก้ปัญหาให้คุณได้ทันทีเลย โดยเฉพาะกับรอยเปื้อนที่ฝังแน่นมานาน ดังนั้นก็ควรทำความสะอาดซ้ำหลาย ๆ ครั้ง แล้วคอยดูว่าผลิตภัณฑ์ไหนที่ทำให้คุณเหนื่อยน้อยที่สุดค่ะ
ถ้าเจ้าสี่ขาตัววุ่นของเราเขารู้เรื่องกว่านี้ ก็คงไม่อยากสร้างความวุ่นวายให้เราอย่างแน่นอนล่ะค่ะ แต่ปัญหาแบบนี้จริง ๆ ก็เป็นเหตุสุดวิสัย ดังนั้นเจ้าของอย่างเราก็ต้องคอยดูแลและแก้ปัญหากันต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าวิธีที่เรานำเสนอมาทั้งหมดนี้ จะเป็นตัวช่วยที่ดีของคุณได้อย่างแน่นอน ยังไงก็ลองนำไปใช้กันดูนะจ๊ะ
ขอบคุณข้อมูล เครดิตจากhttp://home.kapook.com/view63066.html
เราก็เลยลองผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำแบบอัตราส่วน 1:1 ในฟรอกกี้ค่ะ แล้วฉีดปรื้ดๆ ทั่วพื้นบ้าน เอาให้สะใจไปเลย 555 แต่ขอบอกว่ากลิ่นน้ำส้มสายชูนี่ส่งกลิ่นอบอวลสุดๆไปเลยค่ะ ทิ้งไว้สักพักพอพื้นแห่งกลิ่นก็หายไปค่ะ แล้วเราก็เริ่มสังเกตว่าเจ้าลูกชายจะมาฉีดอีกมั้ย ก็เห็นตอนเขาปวดฉีดดมไปทั่วพื้นห้องบริเวณที่เขาเคยฉีด ใจตุ้มๆต่อมๆว่าน้ำส้มสายชูมันจะได้ผลรึเปล่า ปรากฎว่าเจ้าขี้ดื้อดมอยู่นาน แล้วก็เดินจากไป หากลิ่นฉี่ตัวเองไม่เจอล่ะซี่ 5555

อิแม่มันก็เลยร่าเริงมากค่ะ แถมกลิ่นฉี่เก่าๆก็หายไปด้วย หมดปัญหากับการฉี่เลอะเทอะของเจ้าแมวเหมียวไปโดยปริยาย วิธีนี้ใช้ได้กับสัตว์เลี้ยงแทบทุกชนิดนะคะ
ขั้นตอนง่ายๆที่หาได้ตามครัวเรือนค่ะ ตามนี้นะคะ
-น้ำ+นำส้มสายชู
-น้ำ+น้ำส้มสายชู+เบกกิ้งโซดา
-น้ำ+น้ำส้มสายชู+น้ำยาล้างจาน
-น้ำ+น้ำส้มสายชู+น้ำยาบ้วนปาก (พวกลิสเตอร์รีน)
ชาบู ชาบูแด่น้ำส้มสายชูดับกลิ่นฉี่ ^^
เราเจอปัญหาเจ้าลูกชายฉี่ไปทั่วบ้าน เลยไปสรรหาน้ำยาดับกลิ่นทั้งหลายมาใช้ แล้วก็ไปเจอบทความนี้เข้า
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
สัตว์เลี้ยงน่ารักอย่างน้องหมา น้องแมว มีไว้ก็ช่วยให้หายเหงาได้ไม่น้อย แต่เหล่าคนรักสัตว์ก็จำต้องยอมรับปัญหาเรื่องสิ่งปฏิกูลของเจ้าสี่ขาอย่างช่วยไม่ได้ ถ้าดูแลจัดการได้ดีก็หายห่วง แต่ถ้าเกิดฝึกเขาแล้วยังติดนิสัยฉี่เรี่ยราดใส่พรมอีกก็คงเพลียใจเพราะกลิ่นฉุน ๆ น่าดู ถ้าเจอปัญหาน่าปวดหัวแบบนี้รีบแก้ไขโดยด่วนด้วยวิธีต่อไปนี้ดีกว่าค่ะ
1. อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีแอมโมเนีย
เมื่อน้องหมาน้องแมวฉี่ใส่พรม เราก็คงวุ่นวายหาวิธีจัดการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกอย่างรวดเร็ว แต่ถึงจะรีบยังไงก็อย่าเผลอใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีแอมโมเนียเป็นส่วนผสมเด็ดขาด ถ้าไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมอีกครั้ง เพราะในฉี่ของเจ้าสี่ขา ก็มีแอมโมเนียอยู่เหมือนกัน ซึ่งอาจทำให้เขาสับสนได้ว่ากลิ่นผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ก็คือกลิ่นฉี่ของเขา จนอาจจะฉี่ซ้ำรอยเดิมเป๊ะ ๆ ตามสัญชาตญาณนั่นเอง
2. ซับให้แห้งโดยเร็ว
ถ้าสัตว์เลี้ยงเพิ่งปล่อยของเสียออกมาใหม่ ๆ ให้รีบใช้ทิชชูซับน้ำออกจากพรมให้ได้มากที่สุดทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ฉี่ของเขาซึมลึกฝังแน่นบนพรม จนกำจัดออกยาก หรือถ้ามีเครื่องดูดฝุ่นชนิดที่สามารถดูดได้ทั้งแห้งและเปียก ก็ให้รีบนำมาใช้กับรอยเปื้อนโดยด่วนเลยค่ะ
3. กำจัดกลิ่นด้วยน้ำส้มสายชู
หลังจากซับสิ่งปฏิกูลของน้องหมา น้องแมวจนเกือบหมดแล้ว ให้ผสมน้ำสายชู กับน้ำธรรมดา ในปริมาณเท่า ๆ กัน แล้วนำมาซับลงไปบนพรมจนชุ่มพอประมาณ เสร็จแล้วให้รีบนำกระดาษทิชชูหรือผ้าแห้งซับอีกครั้งให้แห้งให้ได้มากที่สุด กรดในน้ำส้มสายชูจะช่วยกำจัดกลิ่นฉี่ของน้องหมา น้องแมว ได้หายห่วง หมดปัญหาเจ้าสี่ขากลับมาฉี่ซ้ำรอยเดิมแน่นอน
4. ย้ำอีกครั้งด้วยเบกกิ้งโซดา
หากกลัวว่าน้ำส้มสายชูอาจจะช่วยดับกลิ่นได้ไม่ดีพอ ก็ลองโรยผงเบกกิ้งโซดาลงบนจุดที่มีปัญหาสักนิด แล้วใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ทำความสะอาดอีกครั้ง อย่าลืมเช็กดูให้ดีด้วยว่า ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ไม่มีส่วนผสมของแอมโมเนียด้วยนะคะ เสร็จแล้วก็ซับพรมให้แห้งด้วยผ้าอีกรอบก็เรียบร้อย
5. กำจัดคราบฝังแน่นให้หมดจด
สำหรับกลิ่นฉี่ที่ฝังแน่นอยู่นานแล้วบนพรม ให้ใช้น้ำเจือจางคราบก่อน แล้วใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ไม่มีส่วนผสมของแอมโมเนียทำความสะอาดอีกครั้ง จากนั้นให้นำผ้าขนหนูชุบน้ำกลั่นมาวาง แล้วทับด้วยของมีน้ำหนัก เช่น หนังสือเล่มใหญ่ ๆ หรือก้อนอิฐ ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง วางผ้าแห้งไว้รอบ ๆ เพื่อให้คอยซับน้ำส่วนเกินที่ซึมออกมาด้วยก็ดีค่ะ ขั้นตอนสุดท้ายให้โรยเบกกิ้งโซดา แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นชนิดแห้งและเปียกดูดผงเบกกิ้งโซดาและความชื้นออกจากพรมให้หมด
6. มองหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม
เพื่อการแก้ปัญหาอย่างตรงจุด ลองมองหาผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ของสัตว์เลี้ยงจากร้านขายของสำหรับน้องหมา น้องแมว โดยเฉพาะก็ได้ เพราะที่นั่นจะมีผลิตภัณฑ์หลายชนิดให้คุณได้เลือกมาลองใช้ดู ถ้าเป็นไปได้ควรจะลองใช้ผลิตภัณฑ์ให้หลากหลาย เพื่อจะได้รู้ว่าผลิตภัณฑ์แบบไหนใช้ได้ผลดีที่สุด แต่ก็อย่าลืมนะคะว่าไม่มีผลิตภัณฑ์ไหนในโลกที่ใช้ครั้งเดียวแล้วจะแก้ปัญหาให้คุณได้ทันทีเลย โดยเฉพาะกับรอยเปื้อนที่ฝังแน่นมานาน ดังนั้นก็ควรทำความสะอาดซ้ำหลาย ๆ ครั้ง แล้วคอยดูว่าผลิตภัณฑ์ไหนที่ทำให้คุณเหนื่อยน้อยที่สุดค่ะ
ถ้าเจ้าสี่ขาตัววุ่นของเราเขารู้เรื่องกว่านี้ ก็คงไม่อยากสร้างความวุ่นวายให้เราอย่างแน่นอนล่ะค่ะ แต่ปัญหาแบบนี้จริง ๆ ก็เป็นเหตุสุดวิสัย ดังนั้นเจ้าของอย่างเราก็ต้องคอยดูแลและแก้ปัญหากันต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าวิธีที่เรานำเสนอมาทั้งหมดนี้ จะเป็นตัวช่วยที่ดีของคุณได้อย่างแน่นอน ยังไงก็ลองนำไปใช้กันดูนะจ๊ะ
ขอบคุณข้อมูล เครดิตจากhttp://home.kapook.com/view63066.html
เราก็เลยลองผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำแบบอัตราส่วน 1:1 ในฟรอกกี้ค่ะ แล้วฉีดปรื้ดๆ ทั่วพื้นบ้าน เอาให้สะใจไปเลย 555 แต่ขอบอกว่ากลิ่นน้ำส้มสายชูนี่ส่งกลิ่นอบอวลสุดๆไปเลยค่ะ ทิ้งไว้สักพักพอพื้นแห่งกลิ่นก็หายไปค่ะ แล้วเราก็เริ่มสังเกตว่าเจ้าลูกชายจะมาฉีดอีกมั้ย ก็เห็นตอนเขาปวดฉีดดมไปทั่วพื้นห้องบริเวณที่เขาเคยฉีด ใจตุ้มๆต่อมๆว่าน้ำส้มสายชูมันจะได้ผลรึเปล่า ปรากฎว่าเจ้าขี้ดื้อดมอยู่นาน แล้วก็เดินจากไป หากลิ่นฉี่ตัวเองไม่เจอล่ะซี่ 5555
ขั้นตอนง่ายๆที่หาได้ตามครัวเรือนค่ะ ตามนี้นะคะ
-น้ำ+นำส้มสายชู
-น้ำ+น้ำส้มสายชู+เบกกิ้งโซดา
-น้ำ+น้ำส้มสายชู+น้ำยาล้างจาน
-น้ำ+น้ำส้มสายชู+น้ำยาบ้วนปาก (พวกลิสเตอร์รีน)