คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
ดีใจน้ำตาไหลพรากๆๆๆ เจอว่าที่รุ่นน้อง 555
ตอนนี้อยู่ม.อะไรครับ แต่ละม.แนะนำไม่เหมือนกันนะ ถ้าม.6 ถ้ายังไม่เริ่มอ่านก็รอซิ่ว -..- แต่ถ้าม.4-5 ก็ยังมีเวลาเก็บ ตั้งใจเรียนเนื้อหาในห้องให้รู้เรื่องไว้ก่อน ดีทีุ่สุด ข้อสอบมันไม่ยาก แต่คนส่วนมากเรียนไม่รู้เรื่อง อันนี้คือเรื่องจริง
เข้าสู่โหมดวิชาการ
แพทย์ทหารนั้นรับจากหลาย ส่วนหลักๆก็จะมี
1)วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
2)จบปริญญาตรีคณะแพทยศาสตร์ที่ไหนก็ได้ แล้วสอบบรรจุตามเหล่าทัพต่างๆ ในกรณีนี้พี่จะพูดถึงวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า(วพม.)
ที่วพม.จะรับตรงผ่านกสพท. หรือกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย โดยมีสัดส่วนคะแนนคือ
1)วิชาเฉพาะแพทย์ 30%(เชื่อมโยง จริยธรรม ไอคิว)
2)7 วิชาสามัญ เลข ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ สังคม ไทย อังกฤษ 70%
โดยไม่มีการใช้เกรดมาเกี่ยวข้อง แต่จะต้องผ่านเกณฑ์ O-NET 60% โดยปกติแล้วคะแนนของวพม.จะต่ำสุดประมาณ 60 แต่ถ้าเอาปลอดภัยจริงๆ 63 ก็กำลังดี(ผู้ชายรับ 60 คน)
เรียกง่ายๆคือ การสอบเข้าเหมือนการสอบคณะแพทยศาสตร์ทั่วไป น้องไปหาอ่านได้เลย เพราะมีแนะแนวไว้เยอะมาก เพียงแต่ตอนเลือกอันดับ น้องก็แค่เลือกวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้าไว้เป็นอันดับ 1(เลือกเพศชายนะ อย่าเลือกเพศหญิง 555) แล้วก็รอลุ้นผล
ต่อไปเป็นเรื่องที่น้องถามมา น้องโชคดีแล้วที่เกิดมาเป็นผู้ชาย
เพราะวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า รับเพียงแค่ร้อยคนก็จริง ผู้ชายได้กระบี่สั้น มีสิทธิ์แต่งเครื่องแบบเหมือนกันก็จริง แต่ไม่ได้เป็นทหารทุกคนนะน้อง
ใน 100 คนเส้นทางหลังจบจะเป็นดังนี้
1)ทุนกองทัพบก 20 คน อันนี้คือสิ่งที่น้องควรจะมาอยู่ในประเภทนี้ เพราะโอเคที่สุดในกรณีน้องเป็นผู้ชาย และอยากเป็นแพทย์ทหาร
- จบไปแล้วจะได้ยศ ร.ต.นพ. (ก้าวหน้าได้ถึงพลเอกในบางเหล่า แต่ส่วนมากมักจะกองๆกันอยู่ที่พลตรี เพราะเราไม่ใช่สายคุมกำลัง)
- บรรจุเป็นนายทหารประเภท ก. เหมือนจปร.
- รับกระบี่พร้อมจปร. เทียบรุ่นกับจปร.
- ค่าเรียนฟรี มีเงินเดือน มีเิ้ครื่องแบบ(เหมือนจปร.ยกเว้นพวกสายรัดคางกับสังกัดต่างๆ) สวัสดิการเพียบบ
- ใช้ทุน 12 ปี
- ถ้าอยากเป็น"แพทย์ทหาร"จริงๆ อยู่ในส่วนนี้ดีที่สุด
2)แพทย์สังกัดกระทรวงสาธารณสุข 80 คน(ชาย-หญิง)
- เสียค่าเทอมเอง รู้สึกจะปีละสองหมื่นฝ่าๆ
- จบไปได้เป็นนายแพทย์เฉยๆ ไม่ได้ยศ ใช้ทุนตามโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข
- ใช้ทุน 3 ปี
- ระหว่างเรียนเหมือนกับนักเรียนทุนกองทัพบกทุกอย่าง
- แต่บางคนเรียนมา 6 ปี ความเป็นทหารอยู่ในกระแสเลือด พวกนี้ก็จะนำวุฒิไปสอบเทียบเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรในเหล่าทัพต่างๆ เช่น กองทัพเรือ กองทัพอากาศ หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ได้(แต่ส่วนมากเป็นทหารกันซะมากกว่า) เช่น นพท.เพศชายที่ไม่ได้ทุนกองทัพบก หรือผู้หญิงก็จะเข้าเป็นทหารในส่วนนี้ ซึ่งตรงนี้จะมีทั้งสามเหล่าทัพ ดังนั้นถ้าสมมติว่าน้องอยากเป็นแพทย์ทหาร แต่ไม่อยากเป็นทหารบก อยากเป็นทหารอากาศรักษาแผลใจให้หนุ่มนักบิน น้องก็ต้องรอตรงส่วนนี้ ซึ่งเมื่อทางกองทัพต่างๆต้องการรับ เค้าเลือกที่จะรับจากวพม.ก่อนครับ คิดๆดูแล้วก็เกินครึ่งรุ่นที่เป็นทหารครับ
***แต่เรื่องพวกนี้ถ้าน้องเข้าได้ เค้าจะมีการชี้แจงให้รู้อีกทีนึงอยู่ดีครับ
แต่จะเป็นแพทย์ทหาร น้องต้องคิดดีๆก่อนนะ เพราะมันไม่ใช่อาชีพที่สบาย และบางทีอาจจะเสียเปรียบกว่าหมอปกติทั้งๆที่ก็จบหมอมาเหมือนกัน(แต่เราเลือกเอง) เช่น
- เป็นข้าราชการ แต่เนื่องจากเราอิงระบบทหาร มีชั้นยศ เทียบกับข้าราชการปกติแล้วความก้าวหน้าอาจจะน้อยกว่า บางทีเกษียณได้สายสะพายแค่สายสอง แต่เพื่อนที่เป็นอาจารย์หรือข้าราชการทั่วไปได้สายสี่ไปแปดชาติแล้ว
- แพทย์ทหารเงินเดือนน้อยกว่าแพทย์ปกตินะ เช่นแพทย์ปกติต้องลงไป 3 จังหวัดชายแดนใต้ ก็จะมีเงินค่าความเสี่ยงให้หลายหมื่นอยู่ แต่หมอทหารไม่มีนะน้อง แล้วบางทีก็ต้องออกพื้นที่เหมือนกัน บางคนไปลงที่ค่าย ไปลงหน่วยรบ ฯลฯ ความสบายไม่เหมือนแพทย์ทั่วไปแน่นอน
- ความก้าวหน้าทางทหารก็ไม่เท่ากับนายร้อยสายตรง เพราะไม่ใช่สายคุมกำลัง ส่วนมากจะกองๆกันอยู่ที่ พลตรี-พันเอก(พิเศษ) แต่ก็มีบางคนที่ได้ระดับพลโท หรือพลเอก(เช่น พล.อ.อ.นพ. วราวุธ คันธา) หรืออีกท่านที่ก้าวหน้าได้จนถึงระดับสูง คือ พล.ต.ท.นพ.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์(ที่ก้าวหน้าถึงระดับผช.ผบ.ตร. แต่ท่านไม่เลื่อนขึ้น) แต่เอาเข้าจริงจบจปร.มา ติดอยู่ที่พันเอกก็เยอะน้อง แต่ถ้าหวังห้าเสือ น้องเลิกหวังได้เลย
- เป็นทหาร อาจต้องย้ายไปย้ายมาตามวาระ อาจอยู่ห่างครอบครัว เกิดมีสงคราม เค้าส่งเราไปช่วย เราก็ไปตามไป
- เบ่งได้นิดๆตามฉบับทหาร เป็นหมออีกต่างหาก 555(อันนี้นับเป็นข้อเสียไหม -..-)
ถ้าน้องอ่านแล้วยังอยากเป็นอยู่ ก็เข้ามาหาที่ว่างเฉพาะตัวกันเถอะ 555
ส่วนเรื่องการสอบเข้าทุนกองทัพบก จะดูจากเกรดตอนปี 1 กับมีการสอบพลศึกษา ซึ่งไม่มีอะไรมากมายน้อง มาเจอระบบนักเรียนใหม่ หนักกว่านั้นเยอะ 555 อย่างไรก็ตามมีอะไรหลังไมค์มาถามพี่ได้ แต่ถ้าเจอในวพม.อาจจะไม่ใจดีอย่างนี้นะ หึหึ
สู้ๆครับ ยินดีต้อนรับล่วงหน้าสู่รั้วอินทนิล
ตอนนี้อยู่ม.อะไรครับ แต่ละม.แนะนำไม่เหมือนกันนะ ถ้าม.6 ถ้ายังไม่เริ่มอ่านก็รอซิ่ว -..- แต่ถ้าม.4-5 ก็ยังมีเวลาเก็บ ตั้งใจเรียนเนื้อหาในห้องให้รู้เรื่องไว้ก่อน ดีทีุ่สุด ข้อสอบมันไม่ยาก แต่คนส่วนมากเรียนไม่รู้เรื่อง อันนี้คือเรื่องจริง
เข้าสู่โหมดวิชาการ
แพทย์ทหารนั้นรับจากหลาย ส่วนหลักๆก็จะมี
1)วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
2)จบปริญญาตรีคณะแพทยศาสตร์ที่ไหนก็ได้ แล้วสอบบรรจุตามเหล่าทัพต่างๆ ในกรณีนี้พี่จะพูดถึงวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า(วพม.)
ที่วพม.จะรับตรงผ่านกสพท. หรือกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย โดยมีสัดส่วนคะแนนคือ
1)วิชาเฉพาะแพทย์ 30%(เชื่อมโยง จริยธรรม ไอคิว)
2)7 วิชาสามัญ เลข ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ สังคม ไทย อังกฤษ 70%
โดยไม่มีการใช้เกรดมาเกี่ยวข้อง แต่จะต้องผ่านเกณฑ์ O-NET 60% โดยปกติแล้วคะแนนของวพม.จะต่ำสุดประมาณ 60 แต่ถ้าเอาปลอดภัยจริงๆ 63 ก็กำลังดี(ผู้ชายรับ 60 คน)
เรียกง่ายๆคือ การสอบเข้าเหมือนการสอบคณะแพทยศาสตร์ทั่วไป น้องไปหาอ่านได้เลย เพราะมีแนะแนวไว้เยอะมาก เพียงแต่ตอนเลือกอันดับ น้องก็แค่เลือกวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้าไว้เป็นอันดับ 1(เลือกเพศชายนะ อย่าเลือกเพศหญิง 555) แล้วก็รอลุ้นผล
ต่อไปเป็นเรื่องที่น้องถามมา น้องโชคดีแล้วที่เกิดมาเป็นผู้ชาย
เพราะวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า รับเพียงแค่ร้อยคนก็จริง ผู้ชายได้กระบี่สั้น มีสิทธิ์แต่งเครื่องแบบเหมือนกันก็จริง แต่ไม่ได้เป็นทหารทุกคนนะน้อง
ใน 100 คนเส้นทางหลังจบจะเป็นดังนี้
1)ทุนกองทัพบก 20 คน อันนี้คือสิ่งที่น้องควรจะมาอยู่ในประเภทนี้ เพราะโอเคที่สุดในกรณีน้องเป็นผู้ชาย และอยากเป็นแพทย์ทหาร
- จบไปแล้วจะได้ยศ ร.ต.นพ. (ก้าวหน้าได้ถึงพลเอกในบางเหล่า แต่ส่วนมากมักจะกองๆกันอยู่ที่พลตรี เพราะเราไม่ใช่สายคุมกำลัง)
- บรรจุเป็นนายทหารประเภท ก. เหมือนจปร.
- รับกระบี่พร้อมจปร. เทียบรุ่นกับจปร.
- ค่าเรียนฟรี มีเงินเดือน มีเิ้ครื่องแบบ(เหมือนจปร.ยกเว้นพวกสายรัดคางกับสังกัดต่างๆ) สวัสดิการเพียบบ
- ใช้ทุน 12 ปี
- ถ้าอยากเป็น"แพทย์ทหาร"จริงๆ อยู่ในส่วนนี้ดีที่สุด
2)แพทย์สังกัดกระทรวงสาธารณสุข 80 คน(ชาย-หญิง)
- เสียค่าเทอมเอง รู้สึกจะปีละสองหมื่นฝ่าๆ
- จบไปได้เป็นนายแพทย์เฉยๆ ไม่ได้ยศ ใช้ทุนตามโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข
- ใช้ทุน 3 ปี
- ระหว่างเรียนเหมือนกับนักเรียนทุนกองทัพบกทุกอย่าง
- แต่บางคนเรียนมา 6 ปี ความเป็นทหารอยู่ในกระแสเลือด พวกนี้ก็จะนำวุฒิไปสอบเทียบเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรในเหล่าทัพต่างๆ เช่น กองทัพเรือ กองทัพอากาศ หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ได้(แต่ส่วนมากเป็นทหารกันซะมากกว่า) เช่น นพท.เพศชายที่ไม่ได้ทุนกองทัพบก หรือผู้หญิงก็จะเข้าเป็นทหารในส่วนนี้ ซึ่งตรงนี้จะมีทั้งสามเหล่าทัพ ดังนั้นถ้าสมมติว่าน้องอยากเป็นแพทย์ทหาร แต่ไม่อยากเป็นทหารบก อยากเป็นทหารอากาศรักษาแผลใจให้หนุ่มนักบิน น้องก็ต้องรอตรงส่วนนี้ ซึ่งเมื่อทางกองทัพต่างๆต้องการรับ เค้าเลือกที่จะรับจากวพม.ก่อนครับ คิดๆดูแล้วก็เกินครึ่งรุ่นที่เป็นทหารครับ
***แต่เรื่องพวกนี้ถ้าน้องเข้าได้ เค้าจะมีการชี้แจงให้รู้อีกทีนึงอยู่ดีครับ
แต่จะเป็นแพทย์ทหาร น้องต้องคิดดีๆก่อนนะ เพราะมันไม่ใช่อาชีพที่สบาย และบางทีอาจจะเสียเปรียบกว่าหมอปกติทั้งๆที่ก็จบหมอมาเหมือนกัน(แต่เราเลือกเอง) เช่น
- เป็นข้าราชการ แต่เนื่องจากเราอิงระบบทหาร มีชั้นยศ เทียบกับข้าราชการปกติแล้วความก้าวหน้าอาจจะน้อยกว่า บางทีเกษียณได้สายสะพายแค่สายสอง แต่เพื่อนที่เป็นอาจารย์หรือข้าราชการทั่วไปได้สายสี่ไปแปดชาติแล้ว
- แพทย์ทหารเงินเดือนน้อยกว่าแพทย์ปกตินะ เช่นแพทย์ปกติต้องลงไป 3 จังหวัดชายแดนใต้ ก็จะมีเงินค่าความเสี่ยงให้หลายหมื่นอยู่ แต่หมอทหารไม่มีนะน้อง แล้วบางทีก็ต้องออกพื้นที่เหมือนกัน บางคนไปลงที่ค่าย ไปลงหน่วยรบ ฯลฯ ความสบายไม่เหมือนแพทย์ทั่วไปแน่นอน
- ความก้าวหน้าทางทหารก็ไม่เท่ากับนายร้อยสายตรง เพราะไม่ใช่สายคุมกำลัง ส่วนมากจะกองๆกันอยู่ที่ พลตรี-พันเอก(พิเศษ) แต่ก็มีบางคนที่ได้ระดับพลโท หรือพลเอก(เช่น พล.อ.อ.นพ. วราวุธ คันธา) หรืออีกท่านที่ก้าวหน้าได้จนถึงระดับสูง คือ พล.ต.ท.นพ.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์(ที่ก้าวหน้าถึงระดับผช.ผบ.ตร. แต่ท่านไม่เลื่อนขึ้น) แต่เอาเข้าจริงจบจปร.มา ติดอยู่ที่พันเอกก็เยอะน้อง แต่ถ้าหวังห้าเสือ น้องเลิกหวังได้เลย
- เป็นทหาร อาจต้องย้ายไปย้ายมาตามวาระ อาจอยู่ห่างครอบครัว เกิดมีสงคราม เค้าส่งเราไปช่วย เราก็ไปตามไป
- เบ่งได้นิดๆตามฉบับทหาร เป็นหมออีกต่างหาก 555(อันนี้นับเป็นข้อเสียไหม -..-)
ถ้าน้องอ่านแล้วยังอยากเป็นอยู่ ก็เข้ามาหาที่ว่างเฉพาะตัวกันเถอะ 555
ส่วนเรื่องการสอบเข้าทุนกองทัพบก จะดูจากเกรดตอนปี 1 กับมีการสอบพลศึกษา ซึ่งไม่มีอะไรมากมายน้อง มาเจอระบบนักเรียนใหม่ หนักกว่านั้นเยอะ 555 อย่างไรก็ตามมีอะไรหลังไมค์มาถามพี่ได้ แต่ถ้าเจอในวพม.อาจจะไม่ใจดีอย่างนี้นะ หึหึ
สู้ๆครับ ยินดีต้อนรับล่วงหน้าสู่รั้วอินทนิล
แสดงความคิดเห็น
ผมอยากเป็นหมอทหาร