คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
1. การทำโป๊ะส่วนมาก คนทำโป๊ะคำนวณว่าอยู่บริเวณฝั่ง ก็ทำได้แล้วใช่ไหม และต้องห่างจากฝั่งมากไหมครับ
-กรมประมงจะออกใบอนุญาติในความลึกที่กำหนด ปัจจุบันพื้นที่สมุทรปราการอนุญาติให้ทำได้ที่ความลึกโดยประมาณ 3 วา , 4วา , 5วา ,6วา
ความลึกแต่ละแนวทำได้ตลอดเลียบฝั่ง แต่ไม่นิยมทำกันที่ความลึก 6 วา เพราะไม้ไผ่ที่ปักลงดินที่ความลึกขนาดนี้หายากและราคาแพง พังง่าย.. คลื่นลมแรง แนวตื้นกว่านั้นกรมประมงไม่อนุญาติให้ทำโป๊ะครับ แต่สามารถปักไม้ล่อหอยได้ที่แนวความลึก 6 ศอก 8 ศอก และ 10 ศอก ตื้นกว่านี้ก็ไม่อนุญาติครับ ที่แต่ล่ะแปลงจะมีเอกสารคล้ายโฉนดบอกพิกัดตำแหน่ง แต่ล่ะแปลงต่อ ๆ กันไป
2. ปากทางโป๊ะ(ที่ปลาทูเข้ามา)หันออกทางทะเลใช่ไหมครับ
-ไม่ใช่ครับ ปากทางที่ปลาเข้าจะหันหน้าเข้าฝั่งเสมอ (อาจเอียงหรือเฉียงนิดหน่อย ขึ้นกับกระแสน้ำ) เนื่องจากจะดักปลาออกจากฝั่งได้ดีเวลาน้ำลงครับ
3. ปลาทูจะว่ายจากทะเลเข้าหาฝั่ง แต่ดันโดนบังคับโดยแนวกั้นไม้ให้ว่ายเข้าโป๊ะ ใช่ไหมครับ (แล้วที่ว่ายเข้าฝั่งคือเพื่อจะไปหาอาหารกินใช่หรือเปล่า)
-ว่ายเข้าหาฝั่งเพื่อวางไข่ เป็นวัฎจักรครับแล้วแต่ฤดูแต่ล่ะที่ไม่เหมือนกัน แนวกั้นไม้ไผ่ที่ปักห่าง ๆ ไม่มีผลให้ปลาไม่ว่ายเข้าฝั่ง แต่มีผลเหมือนล่อปลาให้เข้ามาในแนวไม้ เพื่อหลบภัย กินอาหาร หลบกระแสน้ำแรง พอน้ำลงก็จะว่ายออกจากแนวไม้ โดยเลาะไปตามแนวไม้ไผ่ที่ปักไว้เป็นช่องหน้ากว้างไปหาแคบและที่สุดทางแคบ ก็มีวงโป๊ะดักไว้ตอนน้ำลง
4. น้ำขึ้นน้ำลงเกี่ยวกับการจับปลาทูด้วยหรือเปล่าครับ (มีผลช่วงเวลาไหนบ้างไหม)
-เกี่ยวกับปลาทุกชนิดครับ ชาวประมงที่ทำโป๊ะจะกู้อวนเวลาน้ำลงเต็มที่ เพราะดักปลาได้เต็มเวลาของวันแล้ว ถ้าปล่อยเลยไปน้ำขึ้นพัดอวนให้ตีบไปหาหน้าประตูปลาก็จะออก และเมื่อน้ำลงเต็มที่จะทำงานง่ายสุดครับ เพราะกระแสน้ำ ลม คลื่น เบาที่สุดของวัน นี่คิออีกเหตุผลที่ทำไมโป๊ะออกแบบให้จับปลาตอนน้ำลง
5. ใต้ไม้(ในน้ำทะเล)ที่ปักล้อมวงกลมเป็นโป๊ะขึ้นมา มีอวนตาข่ายขึงอยู่ใต้น้ำตลอดเลยใช่ไหมครับเพื่อดักปลาทูไว้ เพราะผมคิดว่า ถ้าไม่มีอวนตาข่ายแล้ว ปลาทูเล็ดลอดไปได้แน่ๆ
-ใช่ครับ เป็นวงกลม มีคู้แหลม ปากทางเข้าใหญ่ แล้วไล่ลงมาเล็ก จนถึงหน้าประตู ในส่วนท้องก็ทำโค้งไปถึงปากทางเข้าใหญ่ คล้ายสามเหลี่ยม เรียกว่าคู้ ถ้าปลาว่ายเลาะอวน จะไม่มีทางออกได้เลยครับ เพราะหน้าปากประตูทางเข้าเมื่อออกมาจากคู้ก็จะลงท้องอวนอีกที เว้นแต่ปลาว่ายสเปะสปะ(ปลาเยอะ) ก็จะมีย้อนออกได้บ้าง หน้าประตูส่วนใหญ๋จะทำไว้ที่ความกว้าง 6-8 ศอก ตาอวนจะเล็กมาก ประมาณ 2-3 มิล.
6. ปลาจะว่ายไปแต่ข้างหน้าอย่างเดียวเหรอครับ ถ้ามันติดอยู่ในโป๊ะแล้ว (คือสงสัยว่า สัญชาตญาณปลาไม่ว่ายกลับบ้างเลยเหรอ เพราะตัวเองก็ยังอยู่ในน้ำ ถ้าเหมือนมีอะไรมาขวาง คนทำโป๊ะถึงจับปลาทูได้เยอะทีเดียว)
-ว่ายเลาะอวนบ้าง ว่ายสเปะสปะบ้าง ออกบ้าง ไม่ได้อยู่ครบทุกตัวที่เข้ามาหรอกครับ บางทีเรือไปจอดปลาก็สะเทือนออกเยอะแล้ว การทำงานกับโป๊ะจึงต้องเงียบที่สุด เบาที่สุด เวลาจะเข้ากู้อวน
7. เนื้อปลาทูจากโป๊ะที่มีคุณภาพมากกว่าอวน นอกจากเรื่องแพลงตอนที่มีเพียงพอแล้ว การไม่ต้องดิ้นรนของปลาทู(หรือเปล่า)หรือว่ามีวิธีการจับปลาใดๆอีกที่ทำให้มีผลกับความอร่อยของเนื้อปลาทู
-ปลาทูใจเสาะ เนื้อนิ่มครับ ชนอวนติดตาไม่นานก็ตาย ในส่วนคอที่ติดตาก็จะมีรอยช้ำ ไหนจะตอนปลดออกจากตาอวน เนื้อก็ช้ำเข้าไปอีก แต่ปลาทูโป๊ะไม่ติดตา กู้อวนมาแล้วใช้สวิงช้อนปลาทูยังดิ้นบนเรือ แล้วโกยใส่น้ำแข่งแช่เลย หรือปลาไม่ตื่นมากนั่นแหละครับ เนื้อก็ไม่ช้ำเพราะไม่ได้ติดตาอวน และชาวประมงแทบไม่ได้ใช้มือสัมผัสตัวปลา เนื้อเลยแข็งทั้งตัวไม่มีส่วนไหนนิ่มช้ำ. และโป๊ะจะกู้อวนวันต่อวัน เข้ามาขายเป็นปลาสดมาก
8. อันนี้สงสัยแบบขำๆ จะมีแต่ปลาทูอย่างเดียวเหรอครับที่หลงกลกับดักเจ้าโป๊ะนี้ แปลกใจจัง
-ปลาทุกอย่างครับ ปลาไส้ตัน ตัวเล็ก ๆ ยังไม่รอด แมงกระพรุนก็มี ฉลามก็มี 9ล9
จากคนเคยทำโป๊ะ
-กรมประมงจะออกใบอนุญาติในความลึกที่กำหนด ปัจจุบันพื้นที่สมุทรปราการอนุญาติให้ทำได้ที่ความลึกโดยประมาณ 3 วา , 4วา , 5วา ,6วา
ความลึกแต่ละแนวทำได้ตลอดเลียบฝั่ง แต่ไม่นิยมทำกันที่ความลึก 6 วา เพราะไม้ไผ่ที่ปักลงดินที่ความลึกขนาดนี้หายากและราคาแพง พังง่าย.. คลื่นลมแรง แนวตื้นกว่านั้นกรมประมงไม่อนุญาติให้ทำโป๊ะครับ แต่สามารถปักไม้ล่อหอยได้ที่แนวความลึก 6 ศอก 8 ศอก และ 10 ศอก ตื้นกว่านี้ก็ไม่อนุญาติครับ ที่แต่ล่ะแปลงจะมีเอกสารคล้ายโฉนดบอกพิกัดตำแหน่ง แต่ล่ะแปลงต่อ ๆ กันไป
2. ปากทางโป๊ะ(ที่ปลาทูเข้ามา)หันออกทางทะเลใช่ไหมครับ
-ไม่ใช่ครับ ปากทางที่ปลาเข้าจะหันหน้าเข้าฝั่งเสมอ (อาจเอียงหรือเฉียงนิดหน่อย ขึ้นกับกระแสน้ำ) เนื่องจากจะดักปลาออกจากฝั่งได้ดีเวลาน้ำลงครับ
3. ปลาทูจะว่ายจากทะเลเข้าหาฝั่ง แต่ดันโดนบังคับโดยแนวกั้นไม้ให้ว่ายเข้าโป๊ะ ใช่ไหมครับ (แล้วที่ว่ายเข้าฝั่งคือเพื่อจะไปหาอาหารกินใช่หรือเปล่า)
-ว่ายเข้าหาฝั่งเพื่อวางไข่ เป็นวัฎจักรครับแล้วแต่ฤดูแต่ล่ะที่ไม่เหมือนกัน แนวกั้นไม้ไผ่ที่ปักห่าง ๆ ไม่มีผลให้ปลาไม่ว่ายเข้าฝั่ง แต่มีผลเหมือนล่อปลาให้เข้ามาในแนวไม้ เพื่อหลบภัย กินอาหาร หลบกระแสน้ำแรง พอน้ำลงก็จะว่ายออกจากแนวไม้ โดยเลาะไปตามแนวไม้ไผ่ที่ปักไว้เป็นช่องหน้ากว้างไปหาแคบและที่สุดทางแคบ ก็มีวงโป๊ะดักไว้ตอนน้ำลง
4. น้ำขึ้นน้ำลงเกี่ยวกับการจับปลาทูด้วยหรือเปล่าครับ (มีผลช่วงเวลาไหนบ้างไหม)
-เกี่ยวกับปลาทุกชนิดครับ ชาวประมงที่ทำโป๊ะจะกู้อวนเวลาน้ำลงเต็มที่ เพราะดักปลาได้เต็มเวลาของวันแล้ว ถ้าปล่อยเลยไปน้ำขึ้นพัดอวนให้ตีบไปหาหน้าประตูปลาก็จะออก และเมื่อน้ำลงเต็มที่จะทำงานง่ายสุดครับ เพราะกระแสน้ำ ลม คลื่น เบาที่สุดของวัน นี่คิออีกเหตุผลที่ทำไมโป๊ะออกแบบให้จับปลาตอนน้ำลง
5. ใต้ไม้(ในน้ำทะเล)ที่ปักล้อมวงกลมเป็นโป๊ะขึ้นมา มีอวนตาข่ายขึงอยู่ใต้น้ำตลอดเลยใช่ไหมครับเพื่อดักปลาทูไว้ เพราะผมคิดว่า ถ้าไม่มีอวนตาข่ายแล้ว ปลาทูเล็ดลอดไปได้แน่ๆ
-ใช่ครับ เป็นวงกลม มีคู้แหลม ปากทางเข้าใหญ่ แล้วไล่ลงมาเล็ก จนถึงหน้าประตู ในส่วนท้องก็ทำโค้งไปถึงปากทางเข้าใหญ่ คล้ายสามเหลี่ยม เรียกว่าคู้ ถ้าปลาว่ายเลาะอวน จะไม่มีทางออกได้เลยครับ เพราะหน้าปากประตูทางเข้าเมื่อออกมาจากคู้ก็จะลงท้องอวนอีกที เว้นแต่ปลาว่ายสเปะสปะ(ปลาเยอะ) ก็จะมีย้อนออกได้บ้าง หน้าประตูส่วนใหญ๋จะทำไว้ที่ความกว้าง 6-8 ศอก ตาอวนจะเล็กมาก ประมาณ 2-3 มิล.
6. ปลาจะว่ายไปแต่ข้างหน้าอย่างเดียวเหรอครับ ถ้ามันติดอยู่ในโป๊ะแล้ว (คือสงสัยว่า สัญชาตญาณปลาไม่ว่ายกลับบ้างเลยเหรอ เพราะตัวเองก็ยังอยู่ในน้ำ ถ้าเหมือนมีอะไรมาขวาง คนทำโป๊ะถึงจับปลาทูได้เยอะทีเดียว)
-ว่ายเลาะอวนบ้าง ว่ายสเปะสปะบ้าง ออกบ้าง ไม่ได้อยู่ครบทุกตัวที่เข้ามาหรอกครับ บางทีเรือไปจอดปลาก็สะเทือนออกเยอะแล้ว การทำงานกับโป๊ะจึงต้องเงียบที่สุด เบาที่สุด เวลาจะเข้ากู้อวน
7. เนื้อปลาทูจากโป๊ะที่มีคุณภาพมากกว่าอวน นอกจากเรื่องแพลงตอนที่มีเพียงพอแล้ว การไม่ต้องดิ้นรนของปลาทู(หรือเปล่า)หรือว่ามีวิธีการจับปลาใดๆอีกที่ทำให้มีผลกับความอร่อยของเนื้อปลาทู
-ปลาทูใจเสาะ เนื้อนิ่มครับ ชนอวนติดตาไม่นานก็ตาย ในส่วนคอที่ติดตาก็จะมีรอยช้ำ ไหนจะตอนปลดออกจากตาอวน เนื้อก็ช้ำเข้าไปอีก แต่ปลาทูโป๊ะไม่ติดตา กู้อวนมาแล้วใช้สวิงช้อนปลาทูยังดิ้นบนเรือ แล้วโกยใส่น้ำแข่งแช่เลย หรือปลาไม่ตื่นมากนั่นแหละครับ เนื้อก็ไม่ช้ำเพราะไม่ได้ติดตาอวน และชาวประมงแทบไม่ได้ใช้มือสัมผัสตัวปลา เนื้อเลยแข็งทั้งตัวไม่มีส่วนไหนนิ่มช้ำ. และโป๊ะจะกู้อวนวันต่อวัน เข้ามาขายเป็นปลาสดมาก
8. อันนี้สงสัยแบบขำๆ จะมีแต่ปลาทูอย่างเดียวเหรอครับที่หลงกลกับดักเจ้าโป๊ะนี้ แปลกใจจัง
-ปลาทุกอย่างครับ ปลาไส้ตัน ตัวเล็ก ๆ ยังไม่รอด แมงกระพรุนก็มี ฉลามก็มี 9ล9
จากคนเคยทำโป๊ะ
แสดงความคิดเห็น
ใครพอทราบวิธีการจับปลาของโป๊ะปลาทูและพฤติกรรมของปลาบริเวณปากอ่าวบ้างครับ
คือเหมือนคนจับปลาทูเค้าเอาแท่งไม้ปักลงพื้นดินในทะเลให้แน่นหนา โดยปักล้อมเป็นวงกลมใหญ่ แต่เว้นปักช่วงนึงให้โหว่ไว้เสมือนปากประตู เจ้าด้านที่โหว่จะเป็นเหมือนทางให้ปลาเข้ามา ส่วนการที่ปลาเข้ามาได้นั้น จะมีไม้ปักเป็นแถวๆ หลายๆแถว เป็นช่วงๆ โดยปักเอียงองศาเป็นแนวให้หันเข้าปากทาง อะไรประมาณนี้ (ไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า)
ที่ผมสงสัยคือ
1. การทำโป๊ะส่วนมาก คนทำโป๊ะคำนวณว่าอยู่บริเวณฝั่ง ก็ทำได้แล้วใช่ไหม และต้องห่างจากฝั่งมากไหมครับ
2. ปากทางโป๊ะ(ที่ปลาทูเข้ามา)หันออกทางทะเลใช่ไหมครับ
3. ปลาทูจะว่ายจากทะเลเข้าหาฝั่ง แต่ดันโดนบังคับโดยแนวกั้นไม้ให้ว่ายเข้าโป๊ะ ใช่ไหมครับ (แล้วที่ว่ายเข้าฝั่งคือเพื่อจะไปหาอาหารกินใช่หรือเปล่า)
4. น้ำขึ้นน้ำลงเกี่ยวกับการจับปลาทูด้วยหรือเปล่าครับ (มีผลช่วงเวลาไหนบ้างไหม)
5. ใต้ไม้(ในน้ำทะเล)ที่ปักล้อมวงกลมเป็นโป๊ะขึ้นมา มีอวนตาข่ายขึงอยู่ใต้น้ำตลอดเลยใช่ไหมครับเพื่อดักปลาทูไว้ เพราะผมคิดว่า ถ้าไม่มีอวนตาข่ายแล้ว ปลาทูเล็ดลอดไปได้แน่ๆ
6. ปลาจะว่ายไปแต่ข้างหน้าอย่างเดียวเหรอครับ ถ้ามันติดอยู่ในโป๊ะแล้ว (คือสงสัยว่า สัญชาตญาณปลาไม่ว่ายกลับบ้างเลยเหรอ เพราะตัวเองก็ยังอยู่ในน้ำ ถ้าเหมือนมีอะไรมาขวาง คนทำโป๊ะถึงจับปลาทูได้เยอะทีเดียว)
7. เนื้อปลาทูจากโป๊ะที่มีคุณภาพมากกว่าอวน นอกจากเรื่องแพลงตอนที่มีเพียงพอแล้ว การไม่ต้องดิ้นรนของปลาทู(หรือเปล่า)หรือว่ามีวิธีการจับปลาใดๆอีกที่ทำให้มีผลกับความอร่อยของเนื้อปลาทู
8. อันนี้สงสัยแบบขำๆ จะมีแต่ปลาทูอย่างเดียวเหรอครับที่หลงกลกับดักเจ้าโป๊ะนี้ แปลกใจจัง
ประมาณนี้น่ะครับ