ถ้ารัฐบาลสมัยมาร์คบอกว่าเป็นจราจลไม่ใช่ก่อการร้ายและไม่สั่งการทหารออกมาทำร้ายประชาชน

แล้วจับเสื้อแดงเข้าคุกยัดข้อหาเผาบ้านเผาเมือง
ปัญหาก็คงไม่บานปลายสร้างความร้าวฉานแตกแยกขึ้นในบ้านเมืองอย่างใหญ่โตเช่นนี้หรอก
จนถึงรัฐบาลสมัยนี้ต้องมาออกพรบ. นิรโทษกรรม เพื่อสร้างความปรองดองแห่งชาติ
และจุดชนวนให้เห็นว่า ผู้ที่ถูกตัดสินเซ็นต์ชื่อให้ภริยาไปซื้อที่ดินมีความผิดใหญ่หลวงนัก
อภัยให้ไม่ได้  ต้องนิรโทษกรรมไม่ได้  
แต่สำหรับผู้สั่งการฆ่าประชาชนอย่างอำมหิตเลือดเย็นนั้น
กลับสามารถกลายมาเป็นพระเอกโดยสิ้นเชิงเพียงข้ามวันได้อย่างชอบธรรม
แถมยังมีเพื่อนพระเอกกลายเป็นเพื่อนผู้ร้ายผสมโรงในข้ามวันได้อีกแน่ะ
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสังคมไทยไปแล้ว  ที่ไหลรื่นไปกับกระแสคลื่นออนไลน์ โซเชียลมีเดียตามๆ กัน
โดยไม่ต้องพินิจพิเคราะห์ว่า จากวันนั้นเกิดอะไรขึ้น ใครเป็นผู้ก่อแล้วทำให้เกิดผลวันนี้
เป็นสิ่งที่น่าสะพรีงกลัวมากหากสังคมไทยยังอ่อนไหวในเรื่องนี้ สงครามกลางเมืองคงไม่ไกลเกินฝันเสียแล้ว
เพียงแค่เอาสัญญลักษณ์นกหวีดมานำก็สามารถเรียกแขกได้เยอะจริง ๆ
เหมือนกับที่เคยมี  มือตบ  ตีนตบ  มาแล้ว
งานนี้ผู้ร้ายในคราบพระเอก  ได้แต้มกลับไปอักโขเชียว
ถ้ายุบสภาตอนนี้แล้วเลือกตั้งใหม่อีกคงได้กลับมาเป็นพระเอกหล่ออีกครั้งสมใจแน่เลยงานนี้
สังคมไทยยุคนี้คงบิดเบี้ยวไปแล้วที่หลงเชื่อนักปลุกระดมได้อย่างง่ายดายโดยขาดสติ
ซ้ำร้ายยังไม่สามารถก้าวข้ามคนคนเดียวไปได้อีกนี่ซิ
หรือต้องรอให้ประเทศชาติล่มจมก่อนแล้วค่อยออก  " พรบ. กู้ชาติ " คืนมา
เอ! แล้วจะมีชาติไหนให้เรากู้หนอ