ผมได้พบข่าวผุ้พิพากษาจำนวนหนึ่งที่ประกอบไปด้วยหัวหน้าคณะทั้งจากศาลฎีกาสาลอุทธรณ์และศาลชั้นต้น ในนามตุลาการผู้รักความยุติธรรม แถลงการณ์คัดค้านกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม ไม่ถูกต้องตามนิติรัฐ นั่นคือ พรบ.นิรโทษฉบับนี้ที่กำลังเป็นข่าวดังในขณะนี้
ผมคนหนึ่งที่มีความเห็นเช่นเดียวกับท่าน คือไม่อาจยอมรับร่างกฎหมายฉบับนี้ได้ แต่อดไม่ได้ที่อยากให้ท่านสะท้อนปัญหาความไม่เป็นธรรมที่ตุลาการยื่นให้แก่ประชาชนตที่ตกเป็นคู่ความในคดี โดยการทบทวนคดีต่างๆที่สร้างความไม่เป็นธรรมให้แก่ประชาชน พูดง่ายๆก็คือ เมื่อท่านยังไม่ทนไม่ได้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ท่านก็ควรยื่นความถูกต้องให้ประชาชนเช่นกัน มีตัวอย่างสองสามเรื่องที่อยากขอให้ท่านตุลาการได้พิจารณา
1. คดีผู้บริโภคคดีหนึ่ง โจทก์ขออนุญาตฎีกา โดยอ้างว่า "คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ไปเปลี่ยนแปลงคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ให้โจทก์ธนาคารได้รับชำระหนี้..." มีข้อเท็จจริงประกอบคือ คดีนี้ธนาคารไม่เคยยื่นขอรับชำระหนี้ จึงไม่มีคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ให้ธนาคารได้รับชำระหนี้แม้แต่ฉบับเดียว แต่สุดท้าย ทำไมศาลฎีกาจึงมีคำสั่งรับฎีกา ฎีกาของโจทก์จะมีผลให้เปลี่ยนแปลงคำพิพากษาไปตามที่ธนาคารฎีกาได้หรือ อะไรคือสาระที่ควรรับฎีกา ระยะเวลาและความเสียหายที่เสียไปจากผลการรับฎีกาโดยไม่ชอบธรรม ใครจะรับผิดชอบได้บ้าง
2. ในคดีแพ่งสามัญคดีหนึ่ง มีคำพิพากษาถึงที่สุดในศาลชั้นต้นตั้งแต่ปี 2550 ไม่มีการอุทธรณ์คำพิพากษา ศาลสั่งให้บุคคลที่สามจ่ายเงินที่เป็นส่วนของจำเลยจำนวนหนึ่งให้แก่โจทก์ ซึ่งน่าจะไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อมีการยื่นเรื่องถ่วงเวลาจากบุคคลที่ต้องจ่ายเงินโดยอ้างโน่นอ้างนี้ จนกระทั่งปี 2553 ศาลจึงสั่งเด็ดขาดให้บุคคลที่สามจ่ายเงินให้แก่โจทก์ตามคำพิพากษาเดิมภายในพฤษภาคม 2553 ต่อมาก่อนถึงเวลาที่ต้องชำระเงิน บุคคลที่สามได้นำเงินมาวางต่อศาลเพื่อขอทุเลาการบังคับคดีโดยของดการบังคับคดี ศาลมีคำสั่งไม่ให้งดการบังคับคดี แต่กลับสั่งให้รับเงินไว้เป็นการทุเลาการบังคับคดีจนกว่าศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่งคำร้องขอทุเลาการบังคับคดี คำถามคือ ศาลเอาอำนาจใดมาอนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดีได้ในเมื่อมันเลยขั้นตอนการยื่นขอทุเลามาตั้งแต่ปี 2550 แล้ว และที่สำคัญไม่มีใครไปยื่นคำร้องขอทุเลาต่อศาลอุทธรณ์เลย แล้วทำไมศาลชั้นต้นจึงอ้างมาอย่างนี้
3. ในการพิจารณาตัดสินพิพากษาคดี ศาลแพ่งศาลอาญา จะมีประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ความอาญา ศาลคดีผู้บริโภคฯจะมีข้อกำหนดวิธีพิจารณา ฯ ศาลปกครองจะมีข้อกำหนดศาลปกครอง มาเป็นหลักในการปฏิบัติ คำถามคือ ศาลรัฐธรรมนูญใช้อะไรมาเป็นวิธีปฏิบัติ แม้จะมีบทบัญญัติให้ประธานศาลรัฐธรรมนูญออกระเบียบชั่วคราวมาใช้ได้จนกว่าจะมีข้อกำหนดของประธานศาลรัฐธรรมนูญออกมาใช้ แต่ข้อกำหนดนี้ต้องให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปี คำถามคือ ตอนนี้ระยะเวลาล่วงเลยมาหลายปีแล้ว ท่ายยังจะใช้ระเบียบเดิมๆมาปฏิบัติ อาจมีปัญหาตามมาแน่นอนว่า คำสั่งต่างๆของศาลรัฐธรรมนูญมีผลตามกฎหมายหรือไม่
นี่คือตัวอย่างที่อยากให้ คณะตุลาการผู้รักความเป็นธรรม ได้กลับมาย้อนดูบ้านตัวเองบ้างนะครับ .....ด้วยความเคารพ
ฝากข้อความถึงคณะตุลาการผู้รักความเป็นธรรมด้วย
ผมคนหนึ่งที่มีความเห็นเช่นเดียวกับท่าน คือไม่อาจยอมรับร่างกฎหมายฉบับนี้ได้ แต่อดไม่ได้ที่อยากให้ท่านสะท้อนปัญหาความไม่เป็นธรรมที่ตุลาการยื่นให้แก่ประชาชนตที่ตกเป็นคู่ความในคดี โดยการทบทวนคดีต่างๆที่สร้างความไม่เป็นธรรมให้แก่ประชาชน พูดง่ายๆก็คือ เมื่อท่านยังไม่ทนไม่ได้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ท่านก็ควรยื่นความถูกต้องให้ประชาชนเช่นกัน มีตัวอย่างสองสามเรื่องที่อยากขอให้ท่านตุลาการได้พิจารณา
1. คดีผู้บริโภคคดีหนึ่ง โจทก์ขออนุญาตฎีกา โดยอ้างว่า "คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ไปเปลี่ยนแปลงคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ให้โจทก์ธนาคารได้รับชำระหนี้..." มีข้อเท็จจริงประกอบคือ คดีนี้ธนาคารไม่เคยยื่นขอรับชำระหนี้ จึงไม่มีคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ให้ธนาคารได้รับชำระหนี้แม้แต่ฉบับเดียว แต่สุดท้าย ทำไมศาลฎีกาจึงมีคำสั่งรับฎีกา ฎีกาของโจทก์จะมีผลให้เปลี่ยนแปลงคำพิพากษาไปตามที่ธนาคารฎีกาได้หรือ อะไรคือสาระที่ควรรับฎีกา ระยะเวลาและความเสียหายที่เสียไปจากผลการรับฎีกาโดยไม่ชอบธรรม ใครจะรับผิดชอบได้บ้าง
2. ในคดีแพ่งสามัญคดีหนึ่ง มีคำพิพากษาถึงที่สุดในศาลชั้นต้นตั้งแต่ปี 2550 ไม่มีการอุทธรณ์คำพิพากษา ศาลสั่งให้บุคคลที่สามจ่ายเงินที่เป็นส่วนของจำเลยจำนวนหนึ่งให้แก่โจทก์ ซึ่งน่าจะไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อมีการยื่นเรื่องถ่วงเวลาจากบุคคลที่ต้องจ่ายเงินโดยอ้างโน่นอ้างนี้ จนกระทั่งปี 2553 ศาลจึงสั่งเด็ดขาดให้บุคคลที่สามจ่ายเงินให้แก่โจทก์ตามคำพิพากษาเดิมภายในพฤษภาคม 2553 ต่อมาก่อนถึงเวลาที่ต้องชำระเงิน บุคคลที่สามได้นำเงินมาวางต่อศาลเพื่อขอทุเลาการบังคับคดีโดยของดการบังคับคดี ศาลมีคำสั่งไม่ให้งดการบังคับคดี แต่กลับสั่งให้รับเงินไว้เป็นการทุเลาการบังคับคดีจนกว่าศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่งคำร้องขอทุเลาการบังคับคดี คำถามคือ ศาลเอาอำนาจใดมาอนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดีได้ในเมื่อมันเลยขั้นตอนการยื่นขอทุเลามาตั้งแต่ปี 2550 แล้ว และที่สำคัญไม่มีใครไปยื่นคำร้องขอทุเลาต่อศาลอุทธรณ์เลย แล้วทำไมศาลชั้นต้นจึงอ้างมาอย่างนี้
3. ในการพิจารณาตัดสินพิพากษาคดี ศาลแพ่งศาลอาญา จะมีประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ความอาญา ศาลคดีผู้บริโภคฯจะมีข้อกำหนดวิธีพิจารณา ฯ ศาลปกครองจะมีข้อกำหนดศาลปกครอง มาเป็นหลักในการปฏิบัติ คำถามคือ ศาลรัฐธรรมนูญใช้อะไรมาเป็นวิธีปฏิบัติ แม้จะมีบทบัญญัติให้ประธานศาลรัฐธรรมนูญออกระเบียบชั่วคราวมาใช้ได้จนกว่าจะมีข้อกำหนดของประธานศาลรัฐธรรมนูญออกมาใช้ แต่ข้อกำหนดนี้ต้องให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปี คำถามคือ ตอนนี้ระยะเวลาล่วงเลยมาหลายปีแล้ว ท่ายยังจะใช้ระเบียบเดิมๆมาปฏิบัติ อาจมีปัญหาตามมาแน่นอนว่า คำสั่งต่างๆของศาลรัฐธรรมนูญมีผลตามกฎหมายหรือไม่
นี่คือตัวอย่างที่อยากให้ คณะตุลาการผู้รักความเป็นธรรม ได้กลับมาย้อนดูบ้านตัวเองบ้างนะครับ .....ด้วยความเคารพ