สนุกจุงเบยครับ
กับการถกเถียงกันเรื่อง พรบ.นิรโทษกรรม
เพราะทั้ง 2 ฝ่ายต่างมีทั้งข้อมูล , เหตุผล , อคติ , อารมณ์
ไปจนถึงแม้กระทั่ง "มโนภาพ" สร้างจินตนาการไปล่วงหน้ายิ่งกว่าหนังของ "สปีลเบิร์ก" ซะอีก
ผมสนับสนุนร่างของ "เสี่ยเงาะ" วรชัย เหมะ ครับ
เพราะผมมองว่ามันคือการช่วย "เหยื่อ" การเมืองตัวเล็กๆ
"เหยื่อ" ที่เป็นคนธรรมดาแบบเราๆท่านๆที่นั่งเล่นเน็ทกันอยู่นี่แหละครับ
ผมไม่สนับสนุนร่างแบบ "เหมาเข่ง"
เพราะผมไม่ได้สนใจเลยว่าแม้วจะได้กลับบ้านหรือไม่
แม้วจะพเนจรไปอีก 10 ปี หรือ 20 ปี มันก็ไม่ได้มีความหมายกับผมเลยซักนิด
เพราะแม้วไม่ได้มาจ่ายเงินเดือนเลี้ยงปากเลี้ยงท้องผม ดังนั้นจะพเนจรต่อไปก็เรื่องของแม้ว
คน (ลักษณะแบบผม) ที่ชอบแม้วนั้น
ไม่ได้แคร์อะไรเลยกับเรื่องแม้วกลับบ้าน หรือ ไม่ได้กลับ
เพราะตราบเท่าที่ยังมีคนที่พร้อมจะทำงานโดยใช้นโยบาบแบบแม้ว
ไม่ว่าจะเป็น สมัคร , สมชาย , ยิ่งลักษณ์ ( หรือ เยาวภา , หรือ โอ๊ค , หรือ นิวัฒน์ธำรงค์ , หรือ ชัชชาติ)
คน (ลักษณะแบบผม) ก็พร้อมที่จะออกไปกาบัตรเพื่อเลือกเขาและเธออีกครั้ง โดยที่ไม่มีทางเปลี่ยนใจไปเลือกพรรคแมงสาปแน่นอน
เพราะตัวตนของแม้ว
ไม่ได้มีผลอะไรเลยซักนิด
แต่ "นโยบาย" แบบ "แม้ว แม้ว" ต่างหากที่มีผลต่อการตัดสินใจ
ดังนั้นแม้วจะกลับบ้าน หรือ จะพเนจร ก็เป็นเรื่องของแม้วครับ.....ผมไม่สนเลยซักนิด
ในความเป็นจริงนั้น
ร่าง พรบ.ฉบับหัวเขียง
มันโคตรจะทุเรศบัดซบตั้งแต่การ "แปรญัตติ" แล้วครับ
และที่ทุเรศยิ่งกว่า
ก็คือในสภาฯ , ในชั้นของกรรมมาธิการที่มีการแปรญัตติ และ เกิดการแก้ไขเนื้อหานั้น
มันก็มีทั้งรัฐบาล และ ฝ่ายค้าน อยู่ด้วยกันนั่นแหละครับ แต่มันกลับไม่ต่อสู้กันซักแอะ
เพราะต่างคนต่างได้ประโยชน์จากการแปรญัตติแบบเหมาเข่งนี้
ผมอยากให้แม้วพเนจรต่อไป
โดยที่ไม่ต้องอาศัย พรบ.เหมาเข่งกลับบ้าน
ผมอยากให้มาร์ค และ เทือก ขึ้นศาลตามการสั่งฟ้องของ อสส.
ให้มาร์ค และ เทือก พิสูจน์ตนเองตามกระบวนการยุติธรรมปกติ (แบบที่สู้กัน 3 ศาล)
แม้วจะเร่ร่อนไปอีก 10 ปี
หรือ คดีของมาร์ค และ เทือก จะสืบพยานกัน 10 ปี
ทั้ง 2 อย่างล้วนแล้วแต่คือกระบวนการที่มันควรจะเป็นทั้งสิ้น
หากมาร์ค และ เทือก ไม่ผิด
กระบวนการยุติธรรม (แบบปกติ) จะเป็นคนตัดสินเอง
และ หากแม้วอยากกลับบ้าน ต้องไม่ใช่ พรบ.เหมาเข่ง แต่ต้องเป็นการแก้มาตรา 309
เพราะ รธน.มาตรา 309 มันเป็น "กฏหมายโจร" ฝุด ฝุด จุงเบยครับ
เขียนออกมาชนิดที่ว่าหากฮิตเล่อร์มาเห็นเข้า
ไม่แน่ว่าฮิตเล่อร์อาจถึงขั้นต้องไปผูกคอตายเลยก็ได้
ค่าที่ว่ามีคนที่เป็นเผด็จการ ที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพยิ่งกว่าฮิตเล่อร์ซะอีก
มาตรา 309 ในรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ระบุว่า
"บรรดาการใดๆ ที่ได้รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ฉบับชั่วคราว พุทธศักราช 2549 ว่าเป็นการชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ
รวมทั้งการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับกรณีดังกล่าวไม่ว่าก่อนหรือหลังวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ ให้ถือว่าการนั้นและ การกระทำนั้นชอบด้วยรัฐธรรมนูญนี้"
มันแปลไทยเป็นไทยว่า
รัฐธรรมนูญมาตรานี้มีไว้เพื่อคุ้มครองเผด็จการครับ
เผด็จการที่ออกมายึดอำนาจ ทำรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ
และตามมาด้วยการออกกฏหมายที่ปกป้องการกระทำของตนเอง
เอารถถังออกมายึดอำนาจแล้ว
ก็เขียนกฏหมายที่ให้การกระทำของตนเองชอบธรรม
เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ที่ประเทศ "ทุยแลนด์" ที่เดียวเท่านั้นครับ
แสดงว่าไอ้ที่พวกมันทั้งหลายยึดอำนาจเขามา
และไอ้ที่พวกมันทั้งหลายจะทำต่อไปในอนาคตนั้น...
จ ะ ไ ม่ มี ท า ง เ อ า ค ว า ม ผิ ด ย้ อ น ห ลั ง ไ ด้ เ ล ย !!!!
แหมมมม.....ฮิตเล่อร์ , มุสโสลินี , คิม จอง อิล , กัดดาฟี่ ,
อีดี้ อามิน , ฟรองซัวร์ ดูวาลิเย่ร์ มาเจอมาตรา 309 ของบ้านเรา คงต้อง "อายม้วน" แน่ๆ
กลับบ้านแบบ "เท่ๆ"
ด้วยการแก้มาตรา 309
ผมว่า "โคดเท่" กว่าไอ้ พรบ.เหมาเข่งห่ะเหวอะไรนี่มากมาย
การ "เหมาเข่ง" มันคือความอัปยศที่มองได้ว่า "ซูเอี๋ย" กัน
เนื่องจากระดับ "แกนนำ" ของทั้ง 2 ฝ่ายต่างได้ประโยชน์กันทั้งนั้น
ในขณะที่ตัวเล็กตัวน้อยที่ตอนนี้ยังอยู่ในคุกเพราะ มาตรา 112 กลับไม่ได้อานิสงค์เลย
อย่าลืมว่ามีคนมากมายในคุก
ที่ติดคุกเพราะมาตรา 112 ในแบบที่มีที่มาที่ไปจาก "การเมือง" นะครับ
แต่นี่แม่มมมจะ "เหมาเข่ง" โดยที่ยกเว้นมาตรา 112
แล้วในขณะเดียวกันกลับอ้าง "ความเสมอภาค" ของกฏหมายที่ต้องปฏิบัติกับทุกคนเท่าเทียมกัน......
ตัวใหญ่รอดหมด
แต่ตัวเล็กก็ผจญเวรต่อไป
"ถรุย" ครับ.......อ่านว่า "ถรุย"
ผมไม่เอาทั้งคนโกงชาติ
และผมก็ไม่เอาทั้งคนที่เป็นฆาตกรครับ
ผมถึงสนับสนุนการลากตัวแม้วมาขึ้นศาล
แต่ต้องเป็นศาลยุติธรรมในกระบวนการปกติ ที่ต้องให้สู้กัน 3 ศาลนะครับ
มาร์ค กับ เทือก ก็เช่นกัน
หากต้องขึ้นศาลก็ต้องเป็นศาลตามกระบวนการแบบปกติ จะได้แฟร์ๆกันทั้ง 2 ฝ่าย
ไม่ใช่ศาลแบบที่ไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้สู้
หรือศาลยุติธรรมประเภทแถลงคดีตอนเช้า และ มีคำวินิจฉัยตอนบ่าย
เพราะท้ายที่สุดมันจะลงเอยแบบที่ "วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์" สารภาพว่าเป็นการตัดสินแบบ "สุกเอาเผากิน"
ขนาดคนที่ทำหน้าที่ตัดสิน
ยังยอมรับเลยว่าสุกเอาเผากิน.....ประเทศนี้แม่มมมมมดัดจริตจริงๆ
ทั้งคนที่โดนกล่าวหาว่าโกง
ทั้งคนที่โดนกล่าวหาว่าเป็นฆาตกร
ทั้งคนที่โดนกล่าวหาในคดีหมิ่น 112
ทั้งคนที่โดนกล่าวหาในเรื่องของการชุมนุมตาม พรก.ฉุกเฉิน
ควรได้รับสิทธิ์ในการต่อสู้คดีตามระบบยุติธรรมแบบปกติ ไม่ใช่กระบวนการยุติธรรมจากรัฐประหารครับ
ผมไม่สนใจ "ตัวตน" ของ แม้ว , มาร์ค และ เทือก
เพราะเวลาที่ผมกาบัตรลงคะแนน ผมดูที่ "นโยบาย" ไม่ใช่ดูที่ตัวบุคคล
ดังนั้น....หากใครจะเร่ร่อนจนตายในต่างแดนตามเวรตามกรรมตามโชคชะตาของเขา
หรือ ใครจะติดคุกติดตะรางจากคำตัดสินของศาลเพราะความอำมหิตของเขา....มันล้วนแล้วแต่ไม่มีผลอะไรกับชีวิตผมเลย
เพราะผมยังคงนอนหลับ , ดูหนัง , ฟังเพลง , อ่านหนังสือ ไปจนถึงชอบกินข้าวกะเพรา และ อร่อยกับมันเหมือนเดิม
++++++++++ ผ ม ช อ บ กิ น ผั ด กะ เ พ ร า จุ ง เ บ ย ++++++++++
กับการถกเถียงกันเรื่อง พรบ.นิรโทษกรรม
เพราะทั้ง 2 ฝ่ายต่างมีทั้งข้อมูล , เหตุผล , อคติ , อารมณ์
ไปจนถึงแม้กระทั่ง "มโนภาพ" สร้างจินตนาการไปล่วงหน้ายิ่งกว่าหนังของ "สปีลเบิร์ก" ซะอีก
ผมสนับสนุนร่างของ "เสี่ยเงาะ" วรชัย เหมะ ครับ
เพราะผมมองว่ามันคือการช่วย "เหยื่อ" การเมืองตัวเล็กๆ
"เหยื่อ" ที่เป็นคนธรรมดาแบบเราๆท่านๆที่นั่งเล่นเน็ทกันอยู่นี่แหละครับ
ผมไม่สนับสนุนร่างแบบ "เหมาเข่ง"
เพราะผมไม่ได้สนใจเลยว่าแม้วจะได้กลับบ้านหรือไม่
แม้วจะพเนจรไปอีก 10 ปี หรือ 20 ปี มันก็ไม่ได้มีความหมายกับผมเลยซักนิด
เพราะแม้วไม่ได้มาจ่ายเงินเดือนเลี้ยงปากเลี้ยงท้องผม ดังนั้นจะพเนจรต่อไปก็เรื่องของแม้ว
คน (ลักษณะแบบผม) ที่ชอบแม้วนั้น
ไม่ได้แคร์อะไรเลยกับเรื่องแม้วกลับบ้าน หรือ ไม่ได้กลับ
เพราะตราบเท่าที่ยังมีคนที่พร้อมจะทำงานโดยใช้นโยบาบแบบแม้ว
ไม่ว่าจะเป็น สมัคร , สมชาย , ยิ่งลักษณ์ ( หรือ เยาวภา , หรือ โอ๊ค , หรือ นิวัฒน์ธำรงค์ , หรือ ชัชชาติ)
คน (ลักษณะแบบผม) ก็พร้อมที่จะออกไปกาบัตรเพื่อเลือกเขาและเธออีกครั้ง โดยที่ไม่มีทางเปลี่ยนใจไปเลือกพรรคแมงสาปแน่นอน
เพราะตัวตนของแม้ว
ไม่ได้มีผลอะไรเลยซักนิด
แต่ "นโยบาย" แบบ "แม้ว แม้ว" ต่างหากที่มีผลต่อการตัดสินใจ
ดังนั้นแม้วจะกลับบ้าน หรือ จะพเนจร ก็เป็นเรื่องของแม้วครับ.....ผมไม่สนเลยซักนิด
ในความเป็นจริงนั้น
ร่าง พรบ.ฉบับหัวเขียง
มันโคตรจะทุเรศบัดซบตั้งแต่การ "แปรญัตติ" แล้วครับ
และที่ทุเรศยิ่งกว่า
ก็คือในสภาฯ , ในชั้นของกรรมมาธิการที่มีการแปรญัตติ และ เกิดการแก้ไขเนื้อหานั้น
มันก็มีทั้งรัฐบาล และ ฝ่ายค้าน อยู่ด้วยกันนั่นแหละครับ แต่มันกลับไม่ต่อสู้กันซักแอะ
เพราะต่างคนต่างได้ประโยชน์จากการแปรญัตติแบบเหมาเข่งนี้
ผมอยากให้แม้วพเนจรต่อไป
โดยที่ไม่ต้องอาศัย พรบ.เหมาเข่งกลับบ้าน
ผมอยากให้มาร์ค และ เทือก ขึ้นศาลตามการสั่งฟ้องของ อสส.
ให้มาร์ค และ เทือก พิสูจน์ตนเองตามกระบวนการยุติธรรมปกติ (แบบที่สู้กัน 3 ศาล)
แม้วจะเร่ร่อนไปอีก 10 ปี
หรือ คดีของมาร์ค และ เทือก จะสืบพยานกัน 10 ปี
ทั้ง 2 อย่างล้วนแล้วแต่คือกระบวนการที่มันควรจะเป็นทั้งสิ้น
หากมาร์ค และ เทือก ไม่ผิด
กระบวนการยุติธรรม (แบบปกติ) จะเป็นคนตัดสินเอง
และ หากแม้วอยากกลับบ้าน ต้องไม่ใช่ พรบ.เหมาเข่ง แต่ต้องเป็นการแก้มาตรา 309
เพราะ รธน.มาตรา 309 มันเป็น "กฏหมายโจร" ฝุด ฝุด จุงเบยครับ
เขียนออกมาชนิดที่ว่าหากฮิตเล่อร์มาเห็นเข้า
ไม่แน่ว่าฮิตเล่อร์อาจถึงขั้นต้องไปผูกคอตายเลยก็ได้
ค่าที่ว่ามีคนที่เป็นเผด็จการ ที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพยิ่งกว่าฮิตเล่อร์ซะอีก
มาตรา 309 ในรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ระบุว่า
"บรรดาการใดๆ ที่ได้รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ฉบับชั่วคราว พุทธศักราช 2549 ว่าเป็นการชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ
รวมทั้งการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับกรณีดังกล่าวไม่ว่าก่อนหรือหลังวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ ให้ถือว่าการนั้นและ การกระทำนั้นชอบด้วยรัฐธรรมนูญนี้"
มันแปลไทยเป็นไทยว่า
รัฐธรรมนูญมาตรานี้มีไว้เพื่อคุ้มครองเผด็จการครับ
เผด็จการที่ออกมายึดอำนาจ ทำรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ
และตามมาด้วยการออกกฏหมายที่ปกป้องการกระทำของตนเอง
เอารถถังออกมายึดอำนาจแล้ว
ก็เขียนกฏหมายที่ให้การกระทำของตนเองชอบธรรม
เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ที่ประเทศ "ทุยแลนด์" ที่เดียวเท่านั้นครับ
แสดงว่าไอ้ที่พวกมันทั้งหลายยึดอำนาจเขามา
และไอ้ที่พวกมันทั้งหลายจะทำต่อไปในอนาคตนั้น...
จ ะ ไ ม่ มี ท า ง เ อ า ค ว า ม ผิ ด ย้ อ น ห ลั ง ไ ด้ เ ล ย !!!!
แหมมมม.....ฮิตเล่อร์ , มุสโสลินี , คิม จอง อิล , กัดดาฟี่ ,
อีดี้ อามิน , ฟรองซัวร์ ดูวาลิเย่ร์ มาเจอมาตรา 309 ของบ้านเรา คงต้อง "อายม้วน" แน่ๆ
กลับบ้านแบบ "เท่ๆ"
ด้วยการแก้มาตรา 309
ผมว่า "โคดเท่" กว่าไอ้ พรบ.เหมาเข่งห่ะเหวอะไรนี่มากมาย
การ "เหมาเข่ง" มันคือความอัปยศที่มองได้ว่า "ซูเอี๋ย" กัน
เนื่องจากระดับ "แกนนำ" ของทั้ง 2 ฝ่ายต่างได้ประโยชน์กันทั้งนั้น
ในขณะที่ตัวเล็กตัวน้อยที่ตอนนี้ยังอยู่ในคุกเพราะ มาตรา 112 กลับไม่ได้อานิสงค์เลย
อย่าลืมว่ามีคนมากมายในคุก
ที่ติดคุกเพราะมาตรา 112 ในแบบที่มีที่มาที่ไปจาก "การเมือง" นะครับ
แต่นี่แม่มมมจะ "เหมาเข่ง" โดยที่ยกเว้นมาตรา 112
แล้วในขณะเดียวกันกลับอ้าง "ความเสมอภาค" ของกฏหมายที่ต้องปฏิบัติกับทุกคนเท่าเทียมกัน......
ตัวใหญ่รอดหมด
แต่ตัวเล็กก็ผจญเวรต่อไป
"ถรุย" ครับ.......อ่านว่า "ถรุย"
ผมไม่เอาทั้งคนโกงชาติ
และผมก็ไม่เอาทั้งคนที่เป็นฆาตกรครับ
ผมถึงสนับสนุนการลากตัวแม้วมาขึ้นศาล
แต่ต้องเป็นศาลยุติธรรมในกระบวนการปกติ ที่ต้องให้สู้กัน 3 ศาลนะครับ
มาร์ค กับ เทือก ก็เช่นกัน
หากต้องขึ้นศาลก็ต้องเป็นศาลตามกระบวนการแบบปกติ จะได้แฟร์ๆกันทั้ง 2 ฝ่าย
ไม่ใช่ศาลแบบที่ไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้สู้
หรือศาลยุติธรรมประเภทแถลงคดีตอนเช้า และ มีคำวินิจฉัยตอนบ่าย
เพราะท้ายที่สุดมันจะลงเอยแบบที่ "วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์" สารภาพว่าเป็นการตัดสินแบบ "สุกเอาเผากิน"
ขนาดคนที่ทำหน้าที่ตัดสิน
ยังยอมรับเลยว่าสุกเอาเผากิน.....ประเทศนี้แม่มมมมมดัดจริตจริงๆ
ทั้งคนที่โดนกล่าวหาว่าโกง
ทั้งคนที่โดนกล่าวหาว่าเป็นฆาตกร
ทั้งคนที่โดนกล่าวหาในคดีหมิ่น 112
ทั้งคนที่โดนกล่าวหาในเรื่องของการชุมนุมตาม พรก.ฉุกเฉิน
ควรได้รับสิทธิ์ในการต่อสู้คดีตามระบบยุติธรรมแบบปกติ ไม่ใช่กระบวนการยุติธรรมจากรัฐประหารครับ
ผมไม่สนใจ "ตัวตน" ของ แม้ว , มาร์ค และ เทือก
เพราะเวลาที่ผมกาบัตรลงคะแนน ผมดูที่ "นโยบาย" ไม่ใช่ดูที่ตัวบุคคล
ดังนั้น....หากใครจะเร่ร่อนจนตายในต่างแดนตามเวรตามกรรมตามโชคชะตาของเขา
หรือ ใครจะติดคุกติดตะรางจากคำตัดสินของศาลเพราะความอำมหิตของเขา....มันล้วนแล้วแต่ไม่มีผลอะไรกับชีวิตผมเลย
เพราะผมยังคงนอนหลับ , ดูหนัง , ฟังเพลง , อ่านหนังสือ ไปจนถึงชอบกินข้าวกะเพรา และ อร่อยกับมันเหมือนเดิม