จากอดีตของเรา
http://pantip.com/topic/30614411
จนวันนี้เรามีลูก อายุได้ 3 เดือนแล้ว
เรา"ไม่เคย" วางแผนอะไรที่เกี่ยวกับตัวของลูกเลย
เราอาจจะมีความคิดที่แตกต่าง หรือหลายคนอาจจะมองว่า คนอย่างเราไม่สมควรเป็นแม่
แต่สำหรับเราแล้ว เราเคยใช้ชีวิตอยู่บนโลกที่สวยงาม สังคมเป็นเลิศ
(โรงเรียนเตรียมแห่งหนึ่ง ที่เป็นโรงเรียนนำร่องและเกรดเฉลี่ยเป็นอันดับต้นๆของกรุงเทพ)
และพบเจอกับหลังฉากของชีวิต เต็มไปด้วยการแข่งขัน การแบ่งแยก ความเครียด
ความคาดหวังของคนอื่นจนเหมือนจะตกลงไปในเหว
เราเลยจะ "ไม่คิดเผื่อ ไม่คาดหวัง ไม่บังคับ" ลูกเราค่ะ
.....................................
เราเห็นหลายคนแทบจะจ่ายค่าเทอมล่วงหน้าเพื่อให้ลูกได้เรียนที่ๆมีการเรียนการสอนที่ดี สังคมที่ดี
บางโรงเรียนก็ไกลบ้านพอสมควร...
สำหรับเราแล้ว
ให้เรียนโรงเรียนใกล้บ้านค่ะ ลูกจะได้ไม่เหนื่อยกับการเดินทาง
ไม่ต้องตื่นเช้าเกิน ไปเรียนก็แสนจะง่วง เลิกเรียนกว่าจะถึงบ้านก็หมดแรง
กลับมาบ้านก็ทบทวนบทเรียนกับพ่อ หรือแม่ ไม่ใช่ให้ท่องจำจนน้ำตาตก
แต่สอนด้วยความสนุก เน้นจินตนาการ โดยเล่นเป็นเกมส์ที่ต้องใช้ไหวพริบ
หลังเลิกเรียน เสาร์อาทิตย์ ไม่มีเรียนพิเศษ ((ยกเว้นลูกจะเอ่ยปากอยากเรียนเอง))
แต่พ่อกับแม่จะสอน+เล่น เช่น ทายปัญหาคณิตศาสตร์ หรือ วาดรูปแล้วทายว่าเป็นตัวอะไร
หรือ ร้องเพลงกับเครื่องดนตรี ((แม่เล่นดนตรีเป็น และเคยเป็นนักร้อง))
ผลการเรียน
ในจุดที่ลูกยังเลือกเรียนไม่ได้ แค่ผ่านก็โอเคแล้วค่ะ
แต่เมื่อเข้ามัธยม ลูกเลือกได้ เราก็จะสนับสนุนค่ะ
เราบอกตรงๆเลยว่า อยากเรียนทางไหน แบบไหน เชิญเลือกได้เลย
อยากไปเรียนสายอาชีพ สายสามัญ หรือไม่เรียนแต่ใบสอบใบรับรองอาชีพ ก็เลือกได้เต็มที่
เราถือว่า อนาคตเป็นของเค้า วันนึงเราต้องตาย เค้าต้องทำมาหากิน
เราไม่ควรเอาความทะยานอยากของเรา หรือ ฐานเงินเดือนของอาชีพมาปูทางให้ลูกค่ะ
เพราะเมื่อเราไม่อยู่...อย่างน้อย เค้าก็จะมีความสุขกับงานที่เค้าได้ทำเพื่อเลี้ยงชีวิตค่ะ
ส่วนเรื่องสังคม
เราไม่สรรหาให้ลูกได้ไปอยู่ในที่ๆมีแต่ภาษาดอกไม้ มีแต่คนดีๆ โลกสวยงามค่ะ
เราให้อยู่ในสังคมบ้านๆนี่แหล่ะ ให้เค้าเรียนรู้ว่า คำพูด การพูด มีหลายแบบ หลายระดับ
คนก็มีนิสัยแต่ต่างกันไป ยาก ดี มี จน ปะปนกัน
เราขอเพิ่มเวลาที่เราจะได้อยู่กับลูก เพื่อสอน แนะนำ สร้างภูมิคุ้มกันให้เค้า
ดีกว่าให้เค้าไปเจอด้านสว่างอย่างเดียว พอมาเจอด้านมืดแล้วไปไม่เป็นน่ะค่ะ
เรื่องผู้ชาย เรื่องเพศ
ตอนนี้แม่นางยังเล็กมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
แต่เมื่อโตขึ้น เราไม่ปิดบังค่ะ สอนกันตรงๆนี่แหล่ะ
ทั้งเรื่องยับยั้งชั่งใจ และเรื่องการป้องกัน ((สอนคู่กันไปค่ะ กันพลาด))
ลูกเรา ถ้าเราไม่สอนเค้าตรงๆ แล้วเค้าจะไปเอาความรู้มาจากไหนคะ
จะรอให้เค้าไปเอามาจากเพื่อน จากอินเตอร์เนต ก็คงจะไม่ดี
ที่สำคัญเวลาลูกมีปัญหา ลูกจะมาหาเราก่อนเลยแหล่ะ
.........................................................
ที่คร่าวๆก็ประมาณนี้
เพราะเรากับแฟนแชร์กันว่า สมัยเด็กๆ ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร
และพ่อ แม่ โรงเรียน สมัยรุ่นเราสอนอะไร และเรามาเจอกับอะไร
แล้วสังคมตอนนี้เป็นยังไง
เลยออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ
............................................................
เราอยากให้ลูกเป็นคนที่ปรับตัวเข้ากับสังคมได้ หาตัวเองเจอ เอาตัวรอดเป็น และเคารพตัวเอง เคารพผู้อื่นค่ะ
เรื่องเรียน เรื่องรวย เรื่องสวย เรื่องหล่อ...ช่างมันค่ะ
.............................................................
ทุกวันนี้ก็ช่วยกันเลี้ยงกับแฟน (มีฝากเลี้ยงวันละ 3-4 ชั่วโมง)
นางไม่งอแงค่ะ เวลาร้องจะไม่อุ้มค่ะ จะเช็คว่าเป็นอะไร แก้ปัญหาถูกจุดก็เงียบ
((บางครั้งลูกแค่อยากให้สนใจ แต่เราไม่อุ้มค่ะ จะนอนลงข้างๆ แล้วกอดแทน))
ส่วนมากจะปล่อยให้นอนคว่ำเล่น หงายเล่นอยู่ในระยะสายตา (ที่ลูกมองเราเห็น)
ตอนนี้ลูกไม่ติดมือค่ะ เวลาทำท่าจะร้อง แค่ไปหอมแก้ม ก็หัวเราะคิกคักเหมือนเดิม
หรือบางทีลูกก็เรียกค่ะ เราก็ตอบกลับไป นางก็หัวเราะ
เลี้ยงแบบไม่ได้เฝ้าตลอดตั้งแต่แรกค่ะ แต่จะส่งเสียง นางเลยไม่ผวาเวลาหาใครไม่เจอ
((อยู่คอนโดค่ะ ห้องไม่ใหญ่ แต่ต้องทำงานบ้านเนอะ))
จะทำแบบนี้ต้องมั่นใจนะคะว่า รอบๆตัวไม่มีอะไรที่ทำให้เกิดอันตรายได้
ตอนนี้จะทำงานบ้าน จะอาบนํ้า สบายค่ะ นางเล่นคนเดียวได้นานสุด 1 ชั่วโมงค่ะ
ชีวิตประจำวันและเวิ่นเว้อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/umi.wansanuo
ตัวเป็นๆ เมื่อตอนทุ่มกว่าๆค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/photo.php?v=330453103759069
...........................................
ขอบคุณที่อ่านค่ะ
((ไม่เคยมีลูก ถ้ามีแนวคิดอะไรก็แนะนำมาได้นะคะ))
แม่จะไม่เลือกอนาคตไว้ให้ แต่จะให้ลูกหาตัวเองให้เจอ แม่จะดูอยู่ห่างๆนะ
http://pantip.com/topic/30614411
จนวันนี้เรามีลูก อายุได้ 3 เดือนแล้ว
เรา"ไม่เคย" วางแผนอะไรที่เกี่ยวกับตัวของลูกเลย
เราอาจจะมีความคิดที่แตกต่าง หรือหลายคนอาจจะมองว่า คนอย่างเราไม่สมควรเป็นแม่
แต่สำหรับเราแล้ว เราเคยใช้ชีวิตอยู่บนโลกที่สวยงาม สังคมเป็นเลิศ
(โรงเรียนเตรียมแห่งหนึ่ง ที่เป็นโรงเรียนนำร่องและเกรดเฉลี่ยเป็นอันดับต้นๆของกรุงเทพ)
และพบเจอกับหลังฉากของชีวิต เต็มไปด้วยการแข่งขัน การแบ่งแยก ความเครียด
ความคาดหวังของคนอื่นจนเหมือนจะตกลงไปในเหว
เราเลยจะ "ไม่คิดเผื่อ ไม่คาดหวัง ไม่บังคับ" ลูกเราค่ะ
.....................................
เราเห็นหลายคนแทบจะจ่ายค่าเทอมล่วงหน้าเพื่อให้ลูกได้เรียนที่ๆมีการเรียนการสอนที่ดี สังคมที่ดี
บางโรงเรียนก็ไกลบ้านพอสมควร...
สำหรับเราแล้ว
ให้เรียนโรงเรียนใกล้บ้านค่ะ ลูกจะได้ไม่เหนื่อยกับการเดินทาง
ไม่ต้องตื่นเช้าเกิน ไปเรียนก็แสนจะง่วง เลิกเรียนกว่าจะถึงบ้านก็หมดแรง
กลับมาบ้านก็ทบทวนบทเรียนกับพ่อ หรือแม่ ไม่ใช่ให้ท่องจำจนน้ำตาตก
แต่สอนด้วยความสนุก เน้นจินตนาการ โดยเล่นเป็นเกมส์ที่ต้องใช้ไหวพริบ
หลังเลิกเรียน เสาร์อาทิตย์ ไม่มีเรียนพิเศษ ((ยกเว้นลูกจะเอ่ยปากอยากเรียนเอง))
แต่พ่อกับแม่จะสอน+เล่น เช่น ทายปัญหาคณิตศาสตร์ หรือ วาดรูปแล้วทายว่าเป็นตัวอะไร
หรือ ร้องเพลงกับเครื่องดนตรี ((แม่เล่นดนตรีเป็น และเคยเป็นนักร้อง))
ผลการเรียน
ในจุดที่ลูกยังเลือกเรียนไม่ได้ แค่ผ่านก็โอเคแล้วค่ะ
แต่เมื่อเข้ามัธยม ลูกเลือกได้ เราก็จะสนับสนุนค่ะ
เราบอกตรงๆเลยว่า อยากเรียนทางไหน แบบไหน เชิญเลือกได้เลย
อยากไปเรียนสายอาชีพ สายสามัญ หรือไม่เรียนแต่ใบสอบใบรับรองอาชีพ ก็เลือกได้เต็มที่
เราถือว่า อนาคตเป็นของเค้า วันนึงเราต้องตาย เค้าต้องทำมาหากิน
เราไม่ควรเอาความทะยานอยากของเรา หรือ ฐานเงินเดือนของอาชีพมาปูทางให้ลูกค่ะ
เพราะเมื่อเราไม่อยู่...อย่างน้อย เค้าก็จะมีความสุขกับงานที่เค้าได้ทำเพื่อเลี้ยงชีวิตค่ะ
ส่วนเรื่องสังคม
เราไม่สรรหาให้ลูกได้ไปอยู่ในที่ๆมีแต่ภาษาดอกไม้ มีแต่คนดีๆ โลกสวยงามค่ะ
เราให้อยู่ในสังคมบ้านๆนี่แหล่ะ ให้เค้าเรียนรู้ว่า คำพูด การพูด มีหลายแบบ หลายระดับ
คนก็มีนิสัยแต่ต่างกันไป ยาก ดี มี จน ปะปนกัน
เราขอเพิ่มเวลาที่เราจะได้อยู่กับลูก เพื่อสอน แนะนำ สร้างภูมิคุ้มกันให้เค้า
ดีกว่าให้เค้าไปเจอด้านสว่างอย่างเดียว พอมาเจอด้านมืดแล้วไปไม่เป็นน่ะค่ะ
เรื่องผู้ชาย เรื่องเพศ
ตอนนี้แม่นางยังเล็กมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
แต่เมื่อโตขึ้น เราไม่ปิดบังค่ะ สอนกันตรงๆนี่แหล่ะ
ทั้งเรื่องยับยั้งชั่งใจ และเรื่องการป้องกัน ((สอนคู่กันไปค่ะ กันพลาด))
ลูกเรา ถ้าเราไม่สอนเค้าตรงๆ แล้วเค้าจะไปเอาความรู้มาจากไหนคะ
จะรอให้เค้าไปเอามาจากเพื่อน จากอินเตอร์เนต ก็คงจะไม่ดี
ที่สำคัญเวลาลูกมีปัญหา ลูกจะมาหาเราก่อนเลยแหล่ะ
.........................................................
ที่คร่าวๆก็ประมาณนี้
เพราะเรากับแฟนแชร์กันว่า สมัยเด็กๆ ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร
และพ่อ แม่ โรงเรียน สมัยรุ่นเราสอนอะไร และเรามาเจอกับอะไร
แล้วสังคมตอนนี้เป็นยังไง
เลยออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ
............................................................
เราอยากให้ลูกเป็นคนที่ปรับตัวเข้ากับสังคมได้ หาตัวเองเจอ เอาตัวรอดเป็น และเคารพตัวเอง เคารพผู้อื่นค่ะ
เรื่องเรียน เรื่องรวย เรื่องสวย เรื่องหล่อ...ช่างมันค่ะ
.............................................................
ทุกวันนี้ก็ช่วยกันเลี้ยงกับแฟน (มีฝากเลี้ยงวันละ 3-4 ชั่วโมง)
นางไม่งอแงค่ะ เวลาร้องจะไม่อุ้มค่ะ จะเช็คว่าเป็นอะไร แก้ปัญหาถูกจุดก็เงียบ
((บางครั้งลูกแค่อยากให้สนใจ แต่เราไม่อุ้มค่ะ จะนอนลงข้างๆ แล้วกอดแทน))
ส่วนมากจะปล่อยให้นอนคว่ำเล่น หงายเล่นอยู่ในระยะสายตา (ที่ลูกมองเราเห็น)
ตอนนี้ลูกไม่ติดมือค่ะ เวลาทำท่าจะร้อง แค่ไปหอมแก้ม ก็หัวเราะคิกคักเหมือนเดิม
หรือบางทีลูกก็เรียกค่ะ เราก็ตอบกลับไป นางก็หัวเราะ
เลี้ยงแบบไม่ได้เฝ้าตลอดตั้งแต่แรกค่ะ แต่จะส่งเสียง นางเลยไม่ผวาเวลาหาใครไม่เจอ
((อยู่คอนโดค่ะ ห้องไม่ใหญ่ แต่ต้องทำงานบ้านเนอะ))
จะทำแบบนี้ต้องมั่นใจนะคะว่า รอบๆตัวไม่มีอะไรที่ทำให้เกิดอันตรายได้
ตอนนี้จะทำงานบ้าน จะอาบนํ้า สบายค่ะ นางเล่นคนเดียวได้นานสุด 1 ชั่วโมงค่ะ
ชีวิตประจำวันและเวิ่นเว้อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตัวเป็นๆ เมื่อตอนทุ่มกว่าๆค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
...........................................
ขอบคุณที่อ่านค่ะ
((ไม่เคยมีลูก ถ้ามีแนวคิดอะไรก็แนะนำมาได้นะคะ))