ทบทวนความจำ

เอ..! "ใครคนหนึ่ง" (อดีตนายก) พ้อปฎิวัติประเทศเสียหาย แต่ตนกลับเจริญเติบโตและได้ดีมาจากทหารท่านหนึ่ง ที่เป็นเจ้าของวาทะ "ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน" (อดีตหัวหน้า ปว.ที่เคยให้โอกาสเรื่องดาวเทียม ไทยคม)

แด่ใครคนหนึ่งผู้เคยเป็น "มหาอำมาตย์ ผู้หลอกล่อ ไพร่"
ผู้ที่มีฉายา "อัศวินคลื่นลูกที่สาม" ผู้ที่เป็นมหาอำมาตย์สมัยแรกผู้คนทั้งแผ่นดินให้การสนับสนุนไปทั่ว แต่พอคลื่นลูกที่สามพัดถึงแผ่นดิน กลับหาแผ่นดินเกิดอยู่ไม่ได้.
ใครคนนั้นเคยกล่าวว่า
"โจร(ใต้)กระจอก..."
"ผู้ใดครอบครองสื่อ ผู้นั้นครอบครองโลก"
"แม้แข็งเพียงใด ก็เอาเงินง้างได้ ในโลกนี้พระเจ้าคือ เงินตรา"
"อย่าให้ผู้คนได้เรียนรู้มาก เอาแค่ต้องรู้ว่าเราเป็นผู้ให้โดยเฉพาะก่อนเลือกตั้ง คนฉลาดปกครองยาก"
"ความจริงสามารถสร้างความเท็จมาเพื่อกลบเกลื่อนปกปิดว่า ความเท็จเท่านั้นที่คนชื่นชอบ ฝันไปวัน ๆ ด้วยความหวังที่สร้างให้"

สิ่งนั้น ผู้คน ๆ นั้นกล่าวไว้ทำนองนี้ อย่าได้บอกว่า มีความภักดีอย่างจริงใจ (เพียงแต่คิดว่า ล้มล้างไม่ได้ก็ "ทำให้เป็นเพียงสัญลักษณ์ที่จับต้องไม่ได้")

สิ่งนั้น ผู้คน ๆ นั้นกล่าวไว้ทำนองนี้ อย่าได้บอกว่า มีความเป็นประชาธิปไตยอย่างจริงใจ (เพียงแต่ไม่เห็นคุณค่าของสถาบันหลักที่สามารถคงเอกราชไว้ให้ชาวไทยจนทุกวันนี้ แต่คนผู้นั้นพร้อมที่จะยกผลประโยชน์บ้านเมืองให้กับชาติใดก็ได้ที่หนุนอยู่เบื้องหลัง "พึงทำสนามรบ ให้เป็นสนามการค้า" ค้าได้ทุกอย่าง ขายได้ทุกอย่างแม้กระทั่งชาติของตัวเพื่อความร่ำรวยของตนและพรรคพวก มากกว่าความสงบสุขของชาวไทย)

"คนไทยคิดคำนึง" จาก ผจก
http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9560000137625

ข้อสงสัย การปูทางเพื่อมีส่วนได้แบ่งกำไรกับสมบัติชาติ หรือไม่

http://www.kpi.ac.th/wiki/index.php/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%95%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B8%B3%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%87

วิกฤตต้มยำกุ้ง
ผู้เรียบเรียง รศ.ดร.นิยม รัฐอมฤต
ผู้ทรงคุณวุฒิประจำบทความ รศ.ดร.ปธาน สุวรรณมงคล


วิกฤตต้มยำกุ้ง หมายถึงวิกฤตเศรษฐกิจ ปี พ.ศ. 2540 ที่เกิดขึ้นกับประเทศไทย ในยุครัฐบาล พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ จุดแตกหักของวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้เกิดขึ้นตอนเช้าตรู่วันที่ 2 กรกฎาคม 2540 เมื่อรัฐบาลประกาศลอยตัวค่าเงินบาท ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนตัวอย่างทันทีทันใด จากเดิมประมาณ 25.60 บาทต่อ 1 ดอลล่าร์สหรัฐ เป็น 28.75 บาทต่อ 1 ดอลล่าร์สหรัฐในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง และค่าเงินบาทอ่อนลงตามลำดับ ในช่วงต่ำสุดเคยตกลงถึง 55 บาทต่อ 1 ดอลล่าร์สหรัฐ

วิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ นอกจากทำให้ธุรกิจเอกชน เช่น บริษัทบ้านจัดสรร อุตสาหกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรมผลิตวัสดุก่อสร้าง สถาบันการเงิน ธนาคาร ธุรกิจการพิมพ์การโฆษณา ถูกกระทบอย่างรุนแรง หลายแห่งต้องปิดกิจการ หลายแห่งมีหนี้ท่วมตัว พนักงานจำนวนมากถูกปลดออกจากงาน และรัฐบาลถูกกดดันให้ลาออกแล้ว วิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ยังส่งผลให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจในประเทศมาเลย์เซีย อินโดนีเซีย เกาหลี ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ รัสเซีย และประเทศอื่นๆ มากบ้างน้อยบ้าง

ความพยายามของธนาคารแห่งประเทศไทยในการพยุงค่าเงินบาท ทำให้เงินสำรองเงินตราต่างประเทศหมดคลังจนต้องขอกู้จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศจำนวน 17,200 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อพยุงฐานะทางการเงินของประเทศ และรัฐบาลไทยจำต้องยอมรับเงื่อนไขต่าง ๆ ที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศกำหนดขึ้น เช่น งบประมาณแผ่นดินจะต้องตั้งเกินดุล 1 เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ ภาษี มูลค่าเพิ่มจะต้องเพิ่มจากร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 10 ต้องแปรรูปรัฐวิสาหกิจ

สาเหตุของวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ เข้าใจกันว่าเกิดจากการดำเนินนโยบายผิดพลาดที่สำคัญ 2 ประการของธนาคารแห่งประเทศไทย ได้แก่

1) การใช้เงินกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินไปช่วยเหลือสถาบันการเงินจนเกิดความเสียหายเกินที่จะเยียวยา และจำต้องปิดบริษัทไฟแนนซ์ 56 แห่ง

2) การสูญเสียเงินสำรองระหว่างประเทศในการปกป้องการโจมตีค่าเงินบาท จนนำไปสู่วิกฤตเงินทุนสำรอง ทำให้เงินบาทขาดเสถียรภาพนับตั้งแต่การตัดสินใจเปลี่ยนระบบอัตราแลกเปลี่ยนจากระบบตะกร้าเงินมาเป็นระบบลอยตัวเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2540

สาเหตุ 2 ประการข้างต้นมีที่มาจากการเร่งรัดเปิดระบบวิเทศธนกิจ หรือ BIBF (Bangkok International Banking Facility) เมื่อปี 2536-2537 ทำให้เกิดการก่อหนี้ต่างประเทศของภาคเอกชนจำนวนมหาศาลถึง 70,000 ล้านบาท ในขณะที่ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐถูกตรึงค่าอยู่ที่ 25.60 บาท ต่อ 1 ดอลล่าร์สหรัฐ

อ่านเพิ่มเติม

http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2008/09/I7009379/I7009379.html#6

แต่เมื่อปล่อยค่าเงินบาทลอยตัว ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐสูงถึง 45-50 บาท ต่อดอลล่าร์สหรัฐในช่วงหลังวิกฤตได้ไม่นาน ทำให้หนี้เงินกู้ของบริษัทเอกชนเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว และพากันล้มละลายหรือมีหนี้ท่วมตัว

ปรส เกิด ขึ้น เพราะต้องใช้ IMF หรือไม่

และรัฐบาลไทยจำต้องยอมรับเงื่อนไขต่าง ๆ ที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ IMF กำหนดขึ้น เช่น งบประมาณแผ่นดินจะต้องตั้งเกินดุล 1 เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ ภาษี มูลค่าเพิ่มจะต้องเพิ่มจากร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 10 ต้องแปรรูปรัฐวิสาหกิจ

หากไม่มีคน เล่นแผนปล่อยเงินบาทลอยตัว ทำลายเศรษฐกิจ และบางคนล้มบนฟูกเพราะรู้แผนล่วงหน้าวิกฤติอาจไม่เกิดมากจนต้องพึ่ง IMF และที่สำคัญ แผนสูงคือ ต้องการให้เกิดการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ เพื่อตัวเองจะได้นำเงินมาซื้อหุ้นร่วมกอบโกยกำไรมหาศาลจากสมบัติชาติ

คิดดูดีๆว่ามันเป็นแผนการทั้งสิ้น หรือไม่ และมีการวางหมากเดินเพื่อจะมีส่วนได้ในกำไรของรัฐวิสาหกิจ เมื่อแปรรูปแล้ว

ใคร ละ คือคนที่ทำให้เงินบาทวิกฤติ เศรษฐกิจ พินาศ จนต้องไปพึ่ง IMF

ใครกันแน่ คือ ต้นเหตของปัญหาจนวันนี้ ที่ทำให้คนไทย มองต่างมุมขัดแย้งกันว่า เค้าโกงหรือไม่โกง และเค้าโดนแกล้งด้วยการรัฐประหาร


จำเรื่องราวก่อนรัฐประหารได้ไหม เกิดอะไรขึ้นบ้าง

เช่น กรณีถอดรายการสื่อที่วิจารณ์ รัฐบาล

คนติดตามรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ คิดว่าไม่ใช่วิถีของ ปชต ที่สื่อจะวิจารณ์รัฐบาลไม่ได้ ใครวิจารร์ต้องปลดออก

และ การเบ่งบานของ ขบวนการหมิ่นสถาบัน และการเฉยเมยของรัฐ จนเป็นข้อ กล่าวนึงในการ ทำ รัฐประหาร 49

http://www.positioningmag.com/magazine/printnews.aspx?id=75980

รัฐประหาร 19 กันยา 49 สาเหตุก็เกิดมาจากอะไร

http://talk.mthai.com/topic/130173
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่