สวัสดีสมาชิกห้องบลูค่ะ

พอดีได้มีโอกาสไป
กึ่งติ่งกึ่งเที่ยวที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียมา ก็เลยเก็บประสบการณ์มาเล่าให้ฟังเผื่อใครที่สนใจอยากจะไปเที่ยวเมืองนี้ หรือไปกลับมาแล้วคิดถึง จะมานั่งดูรูปย้อนความหลังไปด้วยกันเพลินๆก็ได้นะคะ

แนะนำตัวกันก่อนเลยเนอะ เราไปกันในนาม
'Madame Chill' ค่ะ เราที่ว่าก็คือเจ้าของกระทู้กับเพื่อนอีกคนหนึ่ง และที่ว่าทริปนี้เป็นทริป
กึ่งติ่งกึ่งเที่ยว ก็เพราะว่าแรกเริ่มเดิมทีเลย เราสองคนเป็นแอดมินบ้านซับไทยรายการหัวใจแข็งแรงค่ะ แต่ไปๆมาๆ เราโดนผู้ชายทำของใส่ 5555+ ผู้ชายที่ว่าคือ VIXX ค่ะ (ถ้าไม่รู้จักว่าพวกเขาเป็นใคร เดี๋ยวจะได้รู้จักกันจากทริปนี้ค่ะ) แล้วผู้ชายพวกนี้เขาก็มีโชว์เคสไปเล่นที่กัวลาลัมเปอร์ เราสองคนก็เลยต้องหอบผ้าหอบผ่อนพากันข้ามน้ำข้ามทะเลตามไปด้วย แล้วก็ถือโอกาสเที่ยวไปในตัวเลยค่ะ
ส่วนชาวห้องบลูที่ไม่รู้จักมักคุ้นกับสาย K ก็ไปเที่ยวกับเราได้นะคะ เพราะหลังจากดูหนุ่มๆเสร็จเราก็เที่ยวแหลกจ้า ไปเยือนบ้านเค้าทั้งทีก็ต้องเอาให้คุ้มเนาะ ^^
----------------------------------------------------------------------
มาเริ่มกันตั้งแต่เรื่องการจองตั๋ว/โรงแรมก่อนเลยนะคะ
ตั๋วเครื่องบิน: เราบินกับหางแดงเจ้าถิ่นค่ะ เรียกว่านั่งรีเฟรชหน้าจอกันทุก 5 นาทีเหมือนเฝ้าหุ้นเลยค่ะ เพราะพี่เขาเล่นเปลี่ยนราคาไปมาแทบจะทุกครึ่งชั่วโมงเลย วันที่จะจองนี่ โห ไม่เป็นอันทำงานทำการเลยค่ะ เครียดมาก กดได้ไฟลท์ที่ตั้งใจแล้ว พอจะเลือกที่นั่ง ดันแย่งเขาไม่ทัน พอกลับมา เอ้า ราคาขึ้นไปแล้ว ทำรายการไม่ได้ (แทบจะกรี๊ดมันในออฟฟิศนั่นล่ะค่ะ) ต้องรอรอบใหม่ กว่าจะจองได้นี่รู้สึกเหมือนอายุสั้นลงไปสองวันเลย
แต่สุดท้าย ด้วยพลังแห่งผู้ชาย (ไม่เกี่ยว) ด้วยความตั้งใจอันแรงกล้าที่จะจองเที่ยวบินที่ถูกที่สุดทั้งไปและกลับให้จงได้! (เพราะค่าตั๋วโชว์เคสน้องก็จะครึ่งหมื่นละค่ะ

) เราก็สามารถคว้าเที่ยวบินที่ถูกที่สุดเท่าที่จะหาได้ในช่วงเวลานั้นมาครอบครองทั้งขาไปและขากลับค่ะ
(ตกคนละประมาณ 3,xxx บาท รวมค่าจองที่นั่งแบบธรรมดา(ที่สุด) ประกันการเดินทาง และค่าตั๋ว Sky Bus เข้ากัวลาลัมเปอร์ด้วยค่ะ)
หารู้ไม่เลยว่านี่แหละ คือสาเหตุให้เราต้องไปตกรถอยู่ที่มาเลเซีย 5555555+
ได้พาหนะแล้วก็หาที่พักกันต่อค่ะ
สำหรับพวกเราไม่มีอะไรมากค่ะ เน้น
ถูก และ
ใกล้ สถานที่จัดงานและระบบขนส่งมวลชนของบ้านเขา แค่สองอย่างนี้จริงๆ เพราะไม่ได้หวังจะไปรับบริการอะไรจากที่พักอยู่แล้ว
ขอแค่มีที่ให้ไว้ของและซุกหัวนอนก็พอค่ะ 55555+
สถานที่จัดงานโชว์เคสอยู่นอกโซนที่นักท่องเที่ยวชอบไปกันค่ะ เราไปได้โรงแรมใกล้ๆ ที่เดินไปสถานที่จัดงานได้ ชื่อว่าโรงแรม
Grand Pacific Hotel ค่ะ (ซึ่งคนขับรถไม่รู้จัก ต้องบอกชื่อโรงแรมข้างๆ ถึงจะอ๋อ 55555+) เป็น
โรงแรมระดับ 2 ดาว จองกันไปสองคืน
ตกคนละเกือบ 1,000 บาทค่ะ ซึ่งตอนจองนั้น บอกตามตรงว่าดูแต่ที่ตั้งอย่างเดียวจริงๆ จนเมื่อจองไปแล้วถึงได้มาอ่านรีวิว ซึ่งทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
สกปรกและกลางคืนเสียงดังมาก แต่ให้เปลี่ยนไปจองโรงแรมดังข้างๆ ก็เกินงบค่ะ ณ จุดนั้น ศรี(คิดว่า)ทนได้
แต่พอเช็คอินจริง
เออ แย่จริงว่ะ 555555555555+
คือมันก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นค่ะ พนักงานก็แบบ ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้สนใจ ขอพาสปอร์ต รูดบัตรเครดิต แล้วยื่นกุญแจให้ - ปิดเคส -
เรียกว่า
"ปฏิบัติตามหน้าที่" ก็แล้วกันค่ะ ซึ่งจริงๆ พนักงานทุกคนที่นี่ก็น่ารักนะคะ ตอนไปขอน้ำแข็งที่เลาจ์ก็ให้ฟรี (หรือจริงๆมันก็ฟรี? อันนี้ศรีไม่มีประสบการณ์การขอน้ำแข็งโรงแรมมาก่อน ขออภัย) ถามไถ่อะไรเขาก็ตอบดีค่ะ คล้ายว่าคนบ้านเขาจะพูดน้อยยิ้มน้อยกว่าเราเท่านั้นเองค่ะ (แต่หน้าตาดุกว่า ศรีเลยกลัวไปเอง ขอโทษนะ) แต่เรื่อง
เสียงรบกวนยามค่ำคืนนี่ร้ายจริง คือถ้าคุณไม่ได้อ่อนเพลียแสนสาหัสมาอย่างเราสองคน คุณจะหลับไม่ลงเลยค่ะ เพราะผับแขกอยู่ข้างล่าง ตื๊ดๆๆ กันจนฟ้าสางเลยจ้า
แต่เอาเป็นว่าโดยรวมก็พอถูๆไถๆไปได้ ไม่ได้ร้ายลืม หรือดีเลิศอะไรค่ะ (แถมห้องที่ได้มองเห็นตึกแฝดด้วยนะ)
---------------------------------------------------------
เดี๋ยวถึงบ้านแล้วมาต่อนะคะ เลิกงานแหล่ว เอาวิวตึกแฝดถ่ายจากห้องในโรงแรมของเราไปชมกันก่อนนะคะ
หอบผ้าตามผู้ชายไปมาเลย์ ตอนที่ 1 "ตกรถที่สนามบินตอนตี 2"
พอดีได้มีโอกาสไปกึ่งติ่งกึ่งเที่ยวที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียมา ก็เลยเก็บประสบการณ์มาเล่าให้ฟังเผื่อใครที่สนใจอยากจะไปเที่ยวเมืองนี้ หรือไปกลับมาแล้วคิดถึง จะมานั่งดูรูปย้อนความหลังไปด้วยกันเพลินๆก็ได้นะคะ
แนะนำตัวกันก่อนเลยเนอะ เราไปกันในนาม 'Madame Chill' ค่ะ เราที่ว่าก็คือเจ้าของกระทู้กับเพื่อนอีกคนหนึ่ง และที่ว่าทริปนี้เป็นทริปกึ่งติ่งกึ่งเที่ยว ก็เพราะว่าแรกเริ่มเดิมทีเลย เราสองคนเป็นแอดมินบ้านซับไทยรายการหัวใจแข็งแรงค่ะ แต่ไปๆมาๆ เราโดนผู้ชายทำของใส่ 5555+ ผู้ชายที่ว่าคือ VIXX ค่ะ (ถ้าไม่รู้จักว่าพวกเขาเป็นใคร เดี๋ยวจะได้รู้จักกันจากทริปนี้ค่ะ) แล้วผู้ชายพวกนี้เขาก็มีโชว์เคสไปเล่นที่กัวลาลัมเปอร์ เราสองคนก็เลยต้องหอบผ้าหอบผ่อนพากันข้ามน้ำข้ามทะเลตามไปด้วย แล้วก็ถือโอกาสเที่ยวไปในตัวเลยค่ะ
ส่วนชาวห้องบลูที่ไม่รู้จักมักคุ้นกับสาย K ก็ไปเที่ยวกับเราได้นะคะ เพราะหลังจากดูหนุ่มๆเสร็จเราก็เที่ยวแหลกจ้า ไปเยือนบ้านเค้าทั้งทีก็ต้องเอาให้คุ้มเนาะ ^^
มาเริ่มกันตั้งแต่เรื่องการจองตั๋ว/โรงแรมก่อนเลยนะคะ
ตั๋วเครื่องบิน: เราบินกับหางแดงเจ้าถิ่นค่ะ เรียกว่านั่งรีเฟรชหน้าจอกันทุก 5 นาทีเหมือนเฝ้าหุ้นเลยค่ะ เพราะพี่เขาเล่นเปลี่ยนราคาไปมาแทบจะทุกครึ่งชั่วโมงเลย วันที่จะจองนี่ โห ไม่เป็นอันทำงานทำการเลยค่ะ เครียดมาก กดได้ไฟลท์ที่ตั้งใจแล้ว พอจะเลือกที่นั่ง ดันแย่งเขาไม่ทัน พอกลับมา เอ้า ราคาขึ้นไปแล้ว ทำรายการไม่ได้ (แทบจะกรี๊ดมันในออฟฟิศนั่นล่ะค่ะ) ต้องรอรอบใหม่ กว่าจะจองได้นี่รู้สึกเหมือนอายุสั้นลงไปสองวันเลย
แต่สุดท้าย ด้วยพลังแห่งผู้ชาย (ไม่เกี่ยว) ด้วยความตั้งใจอันแรงกล้าที่จะจองเที่ยวบินที่ถูกที่สุดทั้งไปและกลับให้จงได้! (เพราะค่าตั๋วโชว์เคสน้องก็จะครึ่งหมื่นละค่ะ
หารู้ไม่เลยว่านี่แหละ คือสาเหตุให้เราต้องไปตกรถอยู่ที่มาเลเซีย 5555555+
ได้พาหนะแล้วก็หาที่พักกันต่อค่ะ
สำหรับพวกเราไม่มีอะไรมากค่ะ เน้น ถูก และ ใกล้ สถานที่จัดงานและระบบขนส่งมวลชนของบ้านเขา แค่สองอย่างนี้จริงๆ เพราะไม่ได้หวังจะไปรับบริการอะไรจากที่พักอยู่แล้ว ขอแค่มีที่ให้ไว้ของและซุกหัวนอนก็พอค่ะ 55555+
สถานที่จัดงานโชว์เคสอยู่นอกโซนที่นักท่องเที่ยวชอบไปกันค่ะ เราไปได้โรงแรมใกล้ๆ ที่เดินไปสถานที่จัดงานได้ ชื่อว่าโรงแรม Grand Pacific Hotel ค่ะ (ซึ่งคนขับรถไม่รู้จัก ต้องบอกชื่อโรงแรมข้างๆ ถึงจะอ๋อ 55555+) เป็นโรงแรมระดับ 2 ดาว จองกันไปสองคืน ตกคนละเกือบ 1,000 บาทค่ะ ซึ่งตอนจองนั้น บอกตามตรงว่าดูแต่ที่ตั้งอย่างเดียวจริงๆ จนเมื่อจองไปแล้วถึงได้มาอ่านรีวิว ซึ่งทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สกปรกและกลางคืนเสียงดังมาก แต่ให้เปลี่ยนไปจองโรงแรมดังข้างๆ ก็เกินงบค่ะ ณ จุดนั้น ศรี(คิดว่า)ทนได้
แต่พอเช็คอินจริง
เออ แย่จริงว่ะ 555555555555+
คือมันก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นค่ะ พนักงานก็แบบ ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้สนใจ ขอพาสปอร์ต รูดบัตรเครดิต แล้วยื่นกุญแจให้ - ปิดเคส -
เรียกว่า "ปฏิบัติตามหน้าที่" ก็แล้วกันค่ะ ซึ่งจริงๆ พนักงานทุกคนที่นี่ก็น่ารักนะคะ ตอนไปขอน้ำแข็งที่เลาจ์ก็ให้ฟรี (หรือจริงๆมันก็ฟรี? อันนี้ศรีไม่มีประสบการณ์การขอน้ำแข็งโรงแรมมาก่อน ขออภัย) ถามไถ่อะไรเขาก็ตอบดีค่ะ คล้ายว่าคนบ้านเขาจะพูดน้อยยิ้มน้อยกว่าเราเท่านั้นเองค่ะ (แต่หน้าตาดุกว่า ศรีเลยกลัวไปเอง ขอโทษนะ) แต่เรื่องเสียงรบกวนยามค่ำคืนนี่ร้ายจริง คือถ้าคุณไม่ได้อ่อนเพลียแสนสาหัสมาอย่างเราสองคน คุณจะหลับไม่ลงเลยค่ะ เพราะผับแขกอยู่ข้างล่าง ตื๊ดๆๆ กันจนฟ้าสางเลยจ้า
แต่เอาเป็นว่าโดยรวมก็พอถูๆไถๆไปได้ ไม่ได้ร้ายลืม หรือดีเลิศอะไรค่ะ (แถมห้องที่ได้มองเห็นตึกแฝดด้วยนะ)
เดี๋ยวถึงบ้านแล้วมาต่อนะคะ เลิกงานแหล่ว เอาวิวตึกแฝดถ่ายจากห้องในโรงแรมของเราไปชมกันก่อนนะคะ