[CR] The Voice Thailand Review: Battle Round 3/11/2013

โอ่ย!!!! งานยุ่งเหมือนยุงตีกัน กว่าจะหาเวลามาเขียน Review สัปดาห์นี้ได้ก็ปาเข้าไปบ่ายสองวันอังคารแล้วล่ะครับ ขอโทษทีนะครับสำหรับท่านที่หลังไมค์ไปตาม แต่พอเหลือบไปเห็นกระทู้ Review ของคุณ เซียวเล้ง ที่เขียนให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันไปบ้างแล้วก็รู้สึกดีใจครับ ช่วย ๆ กันเขียนสนุกดีครับ

เหมือนเดิมนะครับ ใครอยากออกความเห็นอะไรก็ทำได้ตามสบายสำหรับกระทู้นี้ แต่ขอให้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์แล้วกันนะครับ

วิธีการ Review ของผม
-    ค้นหาความหมายของเพลง
-    ฟังรอบที่ 1 เพื่อจับประเด็นการร้องทั้งเรื่อง น้ำเสียง วิธีการร้อง เทคนิคการร้อง การสื่อสารความหมายของเพลงมายังผู้ฟัง (ไม่ฟัง Comment โค้ช)
-    เขียน Review เวอร์ชั่นแรก
-    ฟังรอบที่ 2 เพื่อจับรายละเอียดคุณภาพการร้อง ข้อผิดพลาดที่เห็นได้ชัด การแสดงบนเวที(ไม่ฟัง Comment โค้ช)
-    เขียน Review เวอร์ชั่นที่ 2
-    ฟังรอบที่ 3 และ ฟัง Comment โค้ช เพื่อประมวณเหตุผลในการเข้ารอบ
-    เขียน Review เวอร์ชั่นเต็ม

น้ำ VS กอล์ฟ VS อิ้งค์ – อยากหยุดเวลา

การร้องเพลงคู่ ชายกับหญิง สิ่งที่ยากมากอย่างนึงคือการหาคู่ที่มี Range ของเสียงที่เหมาะสมกันนะครับ เพราะฉะนั้นคนที่มี Range เสียงที่กว้างจะได้เปรียบ และส่วนใหญ่ผู้ชายจะได้เปรียบเพราะสามารถร้องเสียงหลบแล้วคุณภาพเสียงยังมีน้ำมีเนื้อได้อยู่ ส่วนผู้หญิงยากกว่าเพราะลงเสียงต่ำได้ไม่ลึกนั่นคือความยากของการร้องคู่กัน

น้ำ – ผมว่าเสียงน้องน้ำอยู่ในขั้นเรียกว่าใช้ได้นะครับ ไม่ถึงกับดีมากแล้วก็ไม่ได้มีเอกลักษณ์อะไรมากนัก ดูเหมือนน้องจะทำอารมณ์ใส่เพลงนี้มากไปนิดนึง แรก ๆ ร้องได้ดี คุมตัวโน๊ตได้ดี แต่หลัง ๆ พอจะขึ้นเสียงสูง หรือ Improvise มากขึ้นเห็นว่าน้องเค้าเอาไม่อยู่อ่ะครับ คุมเสียงตัวเองไม่ได้ อาจจะเป็นเพราะใส่อารมณ์มากเกินไป ความผิดพลาดมีอยู่มากพอสมควรโดยเฉพาะที่พยายามจะ Improvise ขึ้นเสียงสูง ๆ

กอล์ฟ – ถือว่าเป็นโชคหรืออะไรก็ตามแต่ ที่น้องได้ร้องเพลงที่ง่าย และคีย์ที่ร้องค่อนข้างสบาย ๆ (มากกก) และด้วยเพราะเนื้อเสียงของน้องกอล์ฟเองก็ไม่ได้มีความพิเศษอะไรมากมาย รวมถึงเทคนิคการร้องก็ไม่ได้ดีมากนัก เพราะฉะนั้นการที่ไม่พยายามจะใส่มากเกินไป หรือ Improvise โดยไม่จำเป็น นั่นคือความฉลาด แค่คุมการร้องใน Part ของตัวเองให้เสียงเต็ม ไม่เพี้ยน (มีแกว่งบ้างนิดหน่อยตอนพยายามจะ Improvise) ที่เหลือก็ไม่มีอะไรยากแล้ว

อิ้งค์ – บางท่อนที่น้องอิงค์ร้องนี่ผมนึกถึง แอม เสาวลักษณ์เลยครับ ยอมรับว่าเสียงของน้องมีเอกลักษณ์และมีความลึกอยู่มากพอสมควรเลยทีเดียวโดยเฉพาะเสียงโทนต่ำ แต่!!! น้องต้องได้ร้องเพลงที่เหมาะกับน้องเท่านั้นศักยภาพถึงจะออกมาได้เต็มที่ เพราะพอไปเจอเพลงที่เสียงสูง ๆ จุดอ่อนจะเผยออกมาได้ชัดมาก นั่นคือเสียงลม ทำให้เสียงในภาพรวมออกมาไม่น่าฟัง ไม่มีน้ำหนักเอาเสียเลย

สรุป: เพลงนี้ตัดสินกันที่ความผิดพลาดนะครับ น้องน้ำคุมเสียงตัวเองไม่อยู่เวลา Improvise ส่วนน้องอิงค์เวลาร้องเสียงสูงก็ทำได้ไม่ดีเพราะเสียงไม่มีน้ำหนัก มีแต่ลม เพราะฉะนั้น น้องกอล์ฟคือคนที่ผิดพลาดน้อยที่สุด ไม่พยายามจะใส่อารมณ์ว่าเป็นการแข่งขัน  แค่คุมการร้องใน Part ของตัวเองให้ดีนั่นคือสิ่งที่ทำให้น้องได้เข้ารอบครับ

อั้มพ์ VS หนุ่ม – อมพระมาพูด

สำหรับเพลงนี้ รายละเอียดในการร้องของทั้งคู่ แทบไม่มีอะไรเป็นพิเศษเลยนะครับ อาจจะเป็นเพราะ Melody ของเพลงนี้ไม่ได้หวือหวามากนัก ที่เพลงต้นฉบับฟังดูมีสีสันนั่นเพราะ พี่เบิร์ดกับเสกนั่นอย่างที่เรารู้ ๆ อยู่ว่าเป็นนักร้องระดับไหนกันแล้ว เทคนิคการร้องของทั้งคู่ที่ใส่มาในเพลงมันเลยทำให้เพลงดูมีสีสันนั่นเอง

อั้มพ์ – จริง ๆ น้ำเสียงอั้มพ์ไม่ได้เหมาะกับเพลงนี้สักเท่าไหร่ มีบางท่อนที่ร้องออกมาเพี้ยนบ้างบางโน๊ต แล้วจริง ๆ เสียงคำรามที่ทำออกมาบ่อย ๆ ผมมีความรู้สึกว่ามันมากเกินไปนิดนึง ทำแค่บางท่อนก็พอ เพราะคำรามออกมาบ่อย ๆ ฟังแล้วน่ารำคาญมากกว่าน่าฟังอีกครับ

หนุ่ม – เพลงนี้จริง ๆ เข้าปากน้องหนุ่มเลยนะครับ แต่น่าเสียดายตรงที่น้องเค้าดูเป็นคนไม่ค่อยประดิดประดอยในการร้องสักเท่าไหร่ คือร้องออกไปตรง ๆ ไม่ต้องใส่เทคนิคอะไรทั้งสิ้น ใช้เสียงล้วน ๆ ของตัวเองอย่างเดียว มันก็เลยน่าเสียดายมาก ถ้าน้องเค้าใส่อะไรลงไปในเพลงอีกสัก 20 – 30 เปอร์เซ็นต์ ภาพรวมในการร้องเพลงของเค้าจะมีอะไรให้จับต้องได้มากกว่านี้เลยครับ

สรุป: การตัดสินก็เหมาะสมดีแล้วครับ น้องหนุ่มร้องธรรมดาเกินไป ทั้ง ๆ ที่อั้มพ์ก็ไม่ได้มีความพิเศษโด่ดเด่นอะไรมากนัก เพลงนี้ตัดสินกันที่ ผงชูรสที่เติมลงไปในเพลงว่าใครจะเติมสีสันลงไปได้มากกว่ากัน แค่นั้นเองครับ

ฟ้า VS ผึ้ง – ขอใจเธอแลกเบอร์โทร

ผมว่ามันอาจจะเร็วไปนิดนึงนะครับ ที่โค้ชโจอี้จะทำการแสดงออกมาให้เป็นรูปแบบของโชว์ จริง ๆ รอบนี้น่าจะยังเน้นไปที่การร้องเป็นอันดับแรก ๆ เฉพาะการเลือกเพลงนี้มาใช้ ผมมีความรู้สึกว่าคนฟังไม่ค่อยได้อะไรมากนัก รวมถึงตัวโค้ชเองก็จะไขว้เขวในการเลือกด้วย อาจทำให้ตัวเองเลือกได้ไม่เหมาะสมด้วย

ฟ้า – เอาจริง ๆ นอกจากความเท่ห์ ความห้าว และสีสันแล้ว ผมยังไม่ได้ฟังการร้องเพลงจากน้องฟ้าแบบเป็นเรื่องเป็นราวเลยนะครับ ทั้งรอบ Blind และรอบนี้ เพราะฉะนั้นจะให้วิจารณ์การร้อง และน้ำเสียงจริง ๆ จัง ๆ คงลำบากมาก รู้แต่ว่าร้องเร่งจังหวะอยู่ช่วงนึงแบบเต็ม ๆ นอกนั้นก็มีแต่ความสนุกสนานที่พยายามจะใส่เข้าไปในเพลงซึ่ง พอดีบ้าง เกินไปบ้าง อันนี้ก็อยู่ที่ความรู้สึกของแต่ละคนครับ แต่น้องเค้าก็ดู ฮา ๆ ดีนะครับ

ผึ้ง – ผมจำไม่ได้ว่ารอบ Blind คุณผึ้งร้องเพลงอะไรนะครับ แต่ฟังจากน้ำเสียงและเทคนิคการร้องแล้ว น่าจะเป็นคนร้องเพลงสากลได้ดีคนนึงเลย ร้องเสียงออกมาค่อนข้างเต็ม แล้วเรื่อง Timing ก็ดีใช้ได้ เสียดายที่จับมาร้องเพลงนี้จังเลยครับ น่าจะให้ร้องเพลงที่เน้นการร้องมากกว่านี้สักหน่อย
สรุป: ผมไม่รู้ว่าทำไมโค้ชโจอี้เลือกเพลงนี้มาให้ทั้งคู่ร้องในรอบนี้ เพราะมันแทบจะไม่ได้อะไรนอกจากความสนุกสนานเลย ในเมื่อเลือกเพลงมาไม่เหมาะ สิ่งที่ได้กลับไปก็ออกจะ งง ๆ อยู่เหมือนกันว่าเลือกน้องฟ้าเพราะอะไร สำหรับตัวผมเองนึกเหตุผลไม่ค่อยออกครับ ผมรู้แต่ว่าคุณผึ้ง “ร้องเพลง” ได้ดีกว่าน้องฟ้านะครับ

โอม VS ข้าวฟ่าง - มิลล์ – คิดฮอด

คอนเซ็ปต์ของรายการ The Voice ตั้งแต่ซีซั่นแรกมาจนถึงซีซั่นนี้ก็ยังคงคอนเซ็ปต์เดิมไว้ คือโค้ชจะพร้อมใจกัน Comment ออกไปในแง่ดีกันหมด ซึ่งมันเป็นแง่ดีในมุมของผู้เข้าแข่งขัน แต่มันไม่ค่อยดีสำหรับผู้ชมเท่าไหร่ครับ เพราะนอกจากคำชมว่า เยี่ยม ดี สุดยอด น่าฟัง เรา ๆ ทั้งหลายที่เป็นคนฟังควรจะได้คำอธิบายถึงข้อผิดพลาดด้วย เพราะโค้ชแต่ละคนชอบใช้เหตุผลในการเลือกว่า “จะตัดสินจากคนที่ผิดพลาดน้อยที่สุด” แต่แทบไม่เคยได้ยินเหตุผลของข้อผิดพลาดเลย น่าเสียดายจัง

โอม – คนที่เคยมีกีต้าร์ติดตัวตลอดในการร้องเพลง เวลาที่กีต้าร์หายไปนี่สิ่งที่เข้ามาแทนคือ ความไม่มั่นใจ ความกังวล ไม่รู้จะเอามือไปไว้ที่ไหน ซึ่งเป็นเรื่องน่าเห็นใจมาก ๆ ถึงแม้ว่าเพลงนี้จะไม่ใช่สไตล์ของโอมซะทีเดียว แต่เพราะเสียงของโอมและเทคนิคไปจนถึงสไตล์การร้องของโอมนั้นมีดีอยู่ในตัวเองอยู่แล้วครับ ทำให้ไม่ส่งผลกระทบกับโอมสักเท่าไหร่

ข้าวฟ่าง & มิลล์ – อย่างที่ผมเคยเขียนไปแล้วตั้งแต่ Battle สัปดาห์แรกว่า การเป็นนักร้อง Duet นั้นชีวิตไม่ง่ายนะครับ ถ้าร้องออกมาได้ไม่เท่า นิว & จิ๋ว เพราะส่วนผสมต้องลงตัวกันสุด ๆ ทั้ง โทนเสียง ความเข้าใจ ความพอเหมาะพอควร แต่ผมว่าน้องทั้งคู่ทำออกมาได้ดีเลยละครับ อย่างแรกเลยคือโทนเสียงของทั้งคู่เหมาะสมกัน เคมีตรงกัน แม้จะมีบางช่วงที่ประสานเสียงออกมาแล้วเพี้ยนไปบ้าง แต่ผมยกประโยชน์ให้ความตื่นเวทีของทั้งคู่ไปก็แล้วกัน แต่สิ่งที่ขาดและยังทำได้ไม่ถึงก็คือ การรวมกันแล้วสร้างความโด่ดเด่นขึ้นมาได้ อันนี้ยังเป็นสิ่งที่ขาดไปครับ

สรุป: ต่อให้เลือกมาจากบ้าน ก็เลือกไม่ผิดหรอกครับ เพราะโอมนั้นมีดีมากพอและจะมีดีกว่านี้อีกในรอบต่อ ๆ ไป ส่วนน้อง ๆ ข้าวฟ่าง & มิลล์นั้น ยังโด่ดเด่นไม่พอที่จะพาทั้งคู่เข้ารอบหรอกครับ ต่อให้โค้ชคนอื่น ๆ จะชื่นชมแต่ก็ไม่มีใคร Steal เข้าทีมสักคน

วี VS แอน – คุกเข่า

เพลงนี้ กับสไตล์แบบนี้ กับการร้องแบบนี้ บอกเลยว่าถ้าใครชอบก็ชอบเลย ถ้าใครไม่ชอบก็จะไม่ชอบเลยนะครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีการร้องของทั้งคู่คล้ายกัน เสียงของทั้งคู่ออกมาแนวเดียวกัน บางคนฟังแล้วรู้สึกฟิน บางคนฟังแล้วรู้สึกน่ารำคาญเพราะเสียงจะออก แง๊ว ๆ หน่อย อันนี้คงต้องเข้าใจกันนิดนึงครับ

วี – บอกไม่ถูกว่าอะไร แต่มีบางอย่างที่ทำให้ ติดตราตรึงใจ อาจจะเป็นเพราะการผสมผสานการร้องในสไตล์ Jazz กับ Alternative หรือเปล่าก็ไม่รู้ รู้แต่ว่ามันมีเสน่ห์มากอยู่ในเสียง ๆ นี้ น้องไม่ได้ใช้การแสดงออกทางสีหน้า หรือท่าทางเท่าไหร่ ออกจะก้มหน้าก้มตาร้องด้วยซ้ำไป แต่ไอ้ท่าก้มหน้าแล้วสื่อสารด้วยสายตาบวกกับเสียงแบบนี้มันสยบคนดูได้อ่ะครับ

แอน – เสียงใส ๆ ตะแง๊ว ๆ แบบนี้ก็ต้องร้อง Bossa อ่ะครับเหมาะแล้ว แต่น้องคงต้องปรับการร้องคำบางคำหน่อยครับ เพราะบางคำฟังไม่รู้ว่าร้องว่าอะไร แล้วเพลงนี้หลาย ๆ คำร้องออกมา เพี้ยนต่ำไปค่อนข้างเยอะนะครับ บางคนชอบเสียงแบบนี้ บางคนไม่ชอบเพราะเสียงร้องขึ้นจมูกมาก ๆ แบบนี้ฟังแล้วมันบาดหูพิลึกครับ

สรุป: น้องวีเข้ารอบเพราะความมีเสน่ห์ของเสียงและเอกลักษณ์ในการร้อง ไม่มีคำอธิบายเพิ่มเติมไปมากกว่านี้แล้วครับ

เก่ง VS ฟางข้าว - Saving All My Love For You

โรคจิตไปนิดนึงนะครับโค้ชก้องที่จับสองคนนี้มา Battle กัน การเปรียบเทียบของโค้ชคิ้มนั้นเหมาะที่สุดแล้วสำหรับ พระอาทิตย์กับดอกไม้ ทั้งคู่มีความสวยกันคนละแบบ และก็โชคดีอย่างนึงที่ไม่ใส่กันจนเกินเลยเกินไป เลยทำให้เพลงนี้ออกมาพอดีในรูปแบบของการ Battle เพราะผมเห็นหลาย ๆ คู่ที่ต่างคนต่างมาดีมากทั้งคู่ แต่พอมา Battle กันแล้วใส่กันจนเลยเถิดเสียจนฟังไม่ได้ เช่นคู่ กบกับเอ้าท์เมื่อซีซั่นที่แล้วเป็นต้น

คุณเก่ง – ใครสักคนที่ร้องได้แบบนี้ คงไม่มีอะไรให้ต้องวิจารณ์แล้วละครับ นักร้องแต่ละคนก็มีสไตล์ของตัวเองทั้งนั้น ก็สุดแล้วแต่ว่าใครจะชอบหรือไม่ชอบแบบไหน แต่ถ้าร้องสไตล์แบบนี้ก็คงหาคนอื่นมาเทียบกับเธอลำบากครับ

ฟางข้าว – เป็นนักร้องที่มีเสน่ห์มาก ๆ คนนึง ทั้งเรื่องเสียงที่มีเอกลักษณ์ โดยเฉพาะเสียงในโทนต่ำ-กลาง ทั้งเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก (ไม่รวมขนตา 555) แต่น้องยังมีเรื่องที่ต้องปรับปรุงอยู่พอสมควรนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเสียงสูงที่ร้องแล้วบางครั้งเสียงหาย ซึ่งเรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องการรักษาสุขภาพของตัวเอง และการควบคุมสติ เพราะร้องแล้วเสียงยังสั่น (ไม่ใช่การทำ Vibrato) ค่อนข้างชัดเวลาที่ตื่นเต้น แต่โดยรวมแล้วน้องยังมีเวลาให้พัฒนาได้อีกค่อนข้างเยอะ และก็มีศักยภาพเสียด้วยครับ

สรุป: ถ้าไม่เข้าข้างใครเป็นพิเศษยังไงโค้ชก้องก็ต้องเลือกคุณเก่งแน่นอนอยู่แล้วครับ เพราะเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด สำหรับ The Voice ปีนี้ คุณเก่งจะตกรอบได้ก็เพราะเสียงโหวตจากทางบ้านไม่พอเท่านั้นแหล่ะครับ ถ้าเป็นเสียงจากโค้ชล้วน ๆ เธอคงไปได้จนสุดทางแหล่ะครับ
ชื่อสินค้า:   The Voice Thailand 2013
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่