อันนี้เป็นปัญหารอบที่2ที่เกิดขึ้นนะครับ รอบแรกก็ Galaxy Note2 เป็นที่ปากกาเขียนไม่ตรง รอบที่2นี้ตัดสินใจถอย Galaxy Note3 ตอนอยู่ที่ร้านก็ทำการเช็คปากกาอันดับแรก เช็คเครื่องตรวจดูฟังก์ชั่นต่างๆเป็นที่เรียบร้อย ราวๆ 30นาทีได้ จากนั้นเลยลองกล้องเป็นครั้งสุดท้าย
ร้านที่ผมซื้อคือร้านที่มีชื่อย่อว่า TG โฟน (นามสมมติ สมมติตรงๆแบบนี้เลยแหล่ะ5555) สาขามาบุญครอง(ถ่อไปโคตรไกลเพื่อเอาเครื่องที่มีปัญหา ไม่รู้ร้านนี้เป็นอะไร ถอยเมื่อไหร่ก็เจอแต่เครื่องมีปัญหา)
ภาพแรก อืม..... (ไมสว่างงี๊วะ)
ภาพที่2 ภาพโน๊ต2ที่ใช้อยู่ประจำ
ตอนแรกถ่ายออกมาก็ไม่ได้เอ่ะใจอะไร เพราะคิดว่าน่าจะเป็นเพราะว่าเป็นจอ Full HD Super AMOLED เลยทำให้ภาพที่ได้นั้นสว่าง ก็เลยเดินออกร้านมาแบบไม่ได้ใส่ใจอะไร พร้อมกับไปติดฟิล์มกันรอยแบบAnti Shockและแบบติดรอบตัวของ3M หมดไปเกือบ1,000
จากนั้นก็หาไรกิน
อืม.... ไมมันขาวงี๊วะ ไม่ได้ใช้ Camera 360องศา ถ่ายบิวตี้โหมดนี่หว่า....
เช้ามาไปทำงานครับ (เริ่มแปลกใจก็ตรงนี้แหล่ะ)
เอ่อ.... ที่ทำงานหรือสวรรค์วะเนี่ย สว่างเกิ๊น!!
พอลองกล้องหน้าเท่านั้นแหล่ะครับ ความบรรลัยมาเยือน (ซวยแล้วกรู...... T T)
เนื่องจากว่ากล้องหน้า สีที่ได้นั้นเป็นสีที่ตรงกับความจริงที่สุด ส่วนกล้องหลังนั้น สังเกตได้ว่าจะมีสีขาวฟุ้งอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับเลนส์กล้องเปื้อนรอยนิ้วมือ
อันนี้ลองถ่ายย้อนแสงดูนะครับ สีขาวฟุ้งเชียว
ถ่ายลองในห้างอีกครั้ง กันหน้าแตก จากนั้นก็รีบบึ่งไปที่ร้าน TG โฟน สาขางามวงศ์วาน แล้วลองเทียบกล้องระหว่างเครื่องผม กับเครื่องที่ร้านเปิดไว้ให้ลอง ปรากฏว่า ชัดเลยครับ!! สีของกล้องก็ออกมาแบบคนละเรื่องเลย
จากนั้นผมก็ไปบอกพนักงานว่าเอามือถือมาเปลี่ยนในประกัน7วัน (ตอนเดินก้าวท้าวเข้ามาพูดอย่างดี พอบอกว่าเอาเครื่องมาเปลี่ยน ทำหน้าเหมือนกับว่าเรามาขอทาน หรือไม่ก็ขอข้าวกิน ก็คงจะเป็นแบบนี้แหล่ะครับ ไม่ได้เอาตังค์มาให้เหมือนตอนแรกนี่ คนไทยเรานี่ก็แปลกเรื่องการบริการ ตอนก่อนจ่ายตังค์ลูกค้าเหมือนพระเจ้า ตอนจ่ายตังค์เรียบร้อยแล้วลูกค้ากลายเป็นเหมือนขอทานหรือตัวอะไรซักอย่างนึง ที่ไม่อยากจะเหลียวแล ซักวันนึงถ้ามือถือผมมีปัญหาอีก ผมว่าจะถ่ายคลิ๊ปตั้งแต่เดินก่อนเข้าร้านยันเข้าไปในร้านเลย)
พอพูดปัญหาเสร็จปุ๊บ ก็พูดห้วนๆว่าช่วงนี้ของไม่ค่อยมี ต้องรออีก2อาทิตย์(ห๊ะ!! ของไม่มี!! รอ2อาทิตย์!! แล้วที่ขายอยู่นี่หล่ะ พูดแบบนี้ลาออกไปขายน้ำเต้าหู้ดีกว่ามั๊ยครับพี่.....!!!) จากนั้นก็วางกระดาษลง แป๊ะ!! ต่อหน้า แล้วบอกให้กรอก ถามว่ากรอกตรงไหนบ้างก็ไม่ตอบ ผมก็เลยกรอกๆไปเรื่อย จากนั้นก็เดินออกมาจากร้านด้วยความคิดที่ว่า "ถ้าซื้อมือถือครั้งต่อไป ผมคงจะหาร้านใหม่ที่บริการดีกว่านี้"
งานนี้จะว่าร้านอย่างเดียวก็ไม่ได้ครับ ต้องว่า Samsungด้วย ผลิตออกมามีปัญหาประจำ ถ้ามีปัญหาเยอะๆแบบนี้ ปล่อยออกมาขายได้ยังไง
แล้วก็ TG โฟน ที่บริการดูแลลูกค้าแบบแย่ๆ ผมว่านะครับ ติดกล้องพร้อมไมค์กับพนักงานทุกคนเลยดีมั๊ยครับ จะได้รู้ปัญหาของร้านคุณบ้าง
"เรื่องนี้ผมอยากจะบอกก็คือ ถ่าเช็คเครื่องอย่างลืมเช็คกล้องด้วยนะครับ เทียบกับตัวที่วางโชว์หน้าร้านเลยก็ดี จะได้ไม่มีปัญหาแบบผม"
****** หลายๆคนอาจจะคิดว่าผมตั้งค่าไม่เป็น เพ้อไปเองรึเปล่า...? งั้นผมจะให้ดูภาพที่ได้จากเครื่องNote2แล้วเอามาเทียบกันเลยครับ !!***
ภาพแรก By Galaxy Note2
ภาพที่สอง By Galaxy Note2
บอกตามตรงนะครับ ถ้าภาพถ่ายจากกล้องหลังNote3 มันกากกว่า Note2 จะซื้อมาทำ.... อะไรในราคา 23500 ครับ!!!
ก่อนซื้อ Galaxy Note3 เช็คเครื่อง เช็คปากกาแล้วอย่าลืม**เช็คกล้อง**นะครับ ใช้ได้4วัน ส่งศูนย์ให้เปลี่ยนเครื่องอีกแล้ว!!
ร้านที่ผมซื้อคือร้านที่มีชื่อย่อว่า TG โฟน (นามสมมติ สมมติตรงๆแบบนี้เลยแหล่ะ5555) สาขามาบุญครอง(ถ่อไปโคตรไกลเพื่อเอาเครื่องที่มีปัญหา ไม่รู้ร้านนี้เป็นอะไร ถอยเมื่อไหร่ก็เจอแต่เครื่องมีปัญหา)
ภาพแรก อืม..... (ไมสว่างงี๊วะ)
ภาพที่2 ภาพโน๊ต2ที่ใช้อยู่ประจำ
ตอนแรกถ่ายออกมาก็ไม่ได้เอ่ะใจอะไร เพราะคิดว่าน่าจะเป็นเพราะว่าเป็นจอ Full HD Super AMOLED เลยทำให้ภาพที่ได้นั้นสว่าง ก็เลยเดินออกร้านมาแบบไม่ได้ใส่ใจอะไร พร้อมกับไปติดฟิล์มกันรอยแบบAnti Shockและแบบติดรอบตัวของ3M หมดไปเกือบ1,000
จากนั้นก็หาไรกิน
อืม.... ไมมันขาวงี๊วะ ไม่ได้ใช้ Camera 360องศา ถ่ายบิวตี้โหมดนี่หว่า....
เช้ามาไปทำงานครับ (เริ่มแปลกใจก็ตรงนี้แหล่ะ)
เอ่อ.... ที่ทำงานหรือสวรรค์วะเนี่ย สว่างเกิ๊น!!
พอลองกล้องหน้าเท่านั้นแหล่ะครับ ความบรรลัยมาเยือน (ซวยแล้วกรู...... T T)
เนื่องจากว่ากล้องหน้า สีที่ได้นั้นเป็นสีที่ตรงกับความจริงที่สุด ส่วนกล้องหลังนั้น สังเกตได้ว่าจะมีสีขาวฟุ้งอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับเลนส์กล้องเปื้อนรอยนิ้วมือ
อันนี้ลองถ่ายย้อนแสงดูนะครับ สีขาวฟุ้งเชียว
ถ่ายลองในห้างอีกครั้ง กันหน้าแตก จากนั้นก็รีบบึ่งไปที่ร้าน TG โฟน สาขางามวงศ์วาน แล้วลองเทียบกล้องระหว่างเครื่องผม กับเครื่องที่ร้านเปิดไว้ให้ลอง ปรากฏว่า ชัดเลยครับ!! สีของกล้องก็ออกมาแบบคนละเรื่องเลย
จากนั้นผมก็ไปบอกพนักงานว่าเอามือถือมาเปลี่ยนในประกัน7วัน (ตอนเดินก้าวท้าวเข้ามาพูดอย่างดี พอบอกว่าเอาเครื่องมาเปลี่ยน ทำหน้าเหมือนกับว่าเรามาขอทาน หรือไม่ก็ขอข้าวกิน ก็คงจะเป็นแบบนี้แหล่ะครับ ไม่ได้เอาตังค์มาให้เหมือนตอนแรกนี่ คนไทยเรานี่ก็แปลกเรื่องการบริการ ตอนก่อนจ่ายตังค์ลูกค้าเหมือนพระเจ้า ตอนจ่ายตังค์เรียบร้อยแล้วลูกค้ากลายเป็นเหมือนขอทานหรือตัวอะไรซักอย่างนึง ที่ไม่อยากจะเหลียวแล ซักวันนึงถ้ามือถือผมมีปัญหาอีก ผมว่าจะถ่ายคลิ๊ปตั้งแต่เดินก่อนเข้าร้านยันเข้าไปในร้านเลย)
พอพูดปัญหาเสร็จปุ๊บ ก็พูดห้วนๆว่าช่วงนี้ของไม่ค่อยมี ต้องรออีก2อาทิตย์(ห๊ะ!! ของไม่มี!! รอ2อาทิตย์!! แล้วที่ขายอยู่นี่หล่ะ พูดแบบนี้ลาออกไปขายน้ำเต้าหู้ดีกว่ามั๊ยครับพี่.....!!!) จากนั้นก็วางกระดาษลง แป๊ะ!! ต่อหน้า แล้วบอกให้กรอก ถามว่ากรอกตรงไหนบ้างก็ไม่ตอบ ผมก็เลยกรอกๆไปเรื่อย จากนั้นก็เดินออกมาจากร้านด้วยความคิดที่ว่า "ถ้าซื้อมือถือครั้งต่อไป ผมคงจะหาร้านใหม่ที่บริการดีกว่านี้"
งานนี้จะว่าร้านอย่างเดียวก็ไม่ได้ครับ ต้องว่า Samsungด้วย ผลิตออกมามีปัญหาประจำ ถ้ามีปัญหาเยอะๆแบบนี้ ปล่อยออกมาขายได้ยังไง
แล้วก็ TG โฟน ที่บริการดูแลลูกค้าแบบแย่ๆ ผมว่านะครับ ติดกล้องพร้อมไมค์กับพนักงานทุกคนเลยดีมั๊ยครับ จะได้รู้ปัญหาของร้านคุณบ้าง
"เรื่องนี้ผมอยากจะบอกก็คือ ถ่าเช็คเครื่องอย่างลืมเช็คกล้องด้วยนะครับ เทียบกับตัวที่วางโชว์หน้าร้านเลยก็ดี จะได้ไม่มีปัญหาแบบผม"
****** หลายๆคนอาจจะคิดว่าผมตั้งค่าไม่เป็น เพ้อไปเองรึเปล่า...? งั้นผมจะให้ดูภาพที่ได้จากเครื่องNote2แล้วเอามาเทียบกันเลยครับ !!***
ภาพแรก By Galaxy Note2
ภาพที่สอง By Galaxy Note2
บอกตามตรงนะครับ ถ้าภาพถ่ายจากกล้องหลังNote3 มันกากกว่า Note2 จะซื้อมาทำ.... อะไรในราคา 23500 ครับ!!!