วันนี้ผมไปปั่นคนเดียวที่ช๊อกโกแลตวิลล์มาเหมือนเดิม ไปวนรอบใหญ่ซ้อมขึ้นสะพานมา พอรอบสุดท้ายกำลังขี่เลียบมอเตอร์เวย์เข้าช๊อกโกแลตวิลล์ได้แซงพี่เสือภูเขาท่านหนึ่งขี่โดยไม่สวมหมวกนิรภัย
พอผมแซงมาแกก็มาเกาะดูดท้ายตามผมโดยไม่ให้ซุ่มให้เสียง ดีที่ตอนนั้นแดดส่องจากทางฝั่งขวามือผมมีเงาขึ้นมาที่กำแพงฝั่งซ้ายถึงได้รู้ตัว โชคดีหรือร้ายก็ไม่รู้เป็นจังหวะที่ผมกำลังผ่อนหัวใจลงมาเพื่อสปรินท์ จังหวะลดเกียร์ต่ำแล้วกดสปรินท์ขึ้นไป 40 แกก็หลุดหายไป ผมขี่ไปได้ระยะหนึ่งพอหัวใจขึ้นมาแตะ 175 ผมก็ผ่อนลงมาเพื่อกดหัวใจลงมาให้เหลือ 150 ก่อนยิงนัดต่อไป พี่เสือภูเขาท่านั้นก็ตามมาแล้วดูดเงียบๆต่ออีก
พอหัวใจลงมาแตะที่ 150 ผมก็สับเกียร์ลงต่ำแล้วยิงต่อ พอแตะ 175 ก็ผ่อนลงมาตามเดิม สงสัยพี่เสือภูเขาคงนึกว่าผมแกล้งมั้ง คราวนี้ไม่ตามดูดละหนีแซงผมออกไปเลย ^^
แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือ จังหวะนั้นเองมีเสือหมอบเกาะกลุ่มกันมา 3-4 คันแซงผมไป พอหัวลากแซงพี่เสือภูเขาท่านั้นนั้นเท่านั้นแหละ แกก็แทรกเข้าไปอยู่กลางขบวนของกลุ่มนั้นทันที
อันตรายมากๆครับ ทั้งการขี่จักรยานบนถนนโดยไม่สวมหมวกนิรภัย การเข้ามาตามดูดคนอื่นโดยไม่บอกให้เค้ารู้ตัวล่วงหน้า แล้วยิ่งเป็นคนที่ไม่คุ้นเคยกันไม่รุ้จังหวะกันนี่เกี่ยวกันล้มมาหลายรายแล้ว และที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือการแทรกเข้ามากลางขบวนที่เค้ากำลังเกาะกลุ่มกันอยุ่ครับ เป็นการเสียมารยาทแล้วยังเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายอีกด้วย
เลยมาเล่าสุ่กันฟังสำหรับท่านที่อาจจะยังไม่เคยทราบว่ามารยาทของการขี่รถจักรยานบนถนนร่วมกับกลุ่มอื่นเค้าให้ความสำคัญกับอะไรกันบ้าง ครางหน้าคราวหลังเห็นกลุ่มเค้าขี่แซงไปเราอยากเกาะกลุ่มเค้าด้วยก็ตามดูดท้ายกลุ่มเค้าตะโกนบอกเค้านิดหนึ่ง "ขอไปด้วยครับ" เท่านั้นแหละ
แค่นี้สังคมจักรยานก็จะเป็นสังคมดีๆแห่งความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน
วันนี้ไปปั่นอีลุ่ยฉุยแฉกมา ... เจอพฤติกรรมบางอย่างน่าเป็นห่วงเลยมาบอกๆกันไว้ครับเผื่อใครยังไม่ทราบ
พอผมแซงมาแกก็มาเกาะดูดท้ายตามผมโดยไม่ให้ซุ่มให้เสียง ดีที่ตอนนั้นแดดส่องจากทางฝั่งขวามือผมมีเงาขึ้นมาที่กำแพงฝั่งซ้ายถึงได้รู้ตัว โชคดีหรือร้ายก็ไม่รู้เป็นจังหวะที่ผมกำลังผ่อนหัวใจลงมาเพื่อสปรินท์ จังหวะลดเกียร์ต่ำแล้วกดสปรินท์ขึ้นไป 40 แกก็หลุดหายไป ผมขี่ไปได้ระยะหนึ่งพอหัวใจขึ้นมาแตะ 175 ผมก็ผ่อนลงมาเพื่อกดหัวใจลงมาให้เหลือ 150 ก่อนยิงนัดต่อไป พี่เสือภูเขาท่านั้นก็ตามมาแล้วดูดเงียบๆต่ออีก
พอหัวใจลงมาแตะที่ 150 ผมก็สับเกียร์ลงต่ำแล้วยิงต่อ พอแตะ 175 ก็ผ่อนลงมาตามเดิม สงสัยพี่เสือภูเขาคงนึกว่าผมแกล้งมั้ง คราวนี้ไม่ตามดูดละหนีแซงผมออกไปเลย ^^
แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือ จังหวะนั้นเองมีเสือหมอบเกาะกลุ่มกันมา 3-4 คันแซงผมไป พอหัวลากแซงพี่เสือภูเขาท่านั้นนั้นเท่านั้นแหละ แกก็แทรกเข้าไปอยู่กลางขบวนของกลุ่มนั้นทันที
อันตรายมากๆครับ ทั้งการขี่จักรยานบนถนนโดยไม่สวมหมวกนิรภัย การเข้ามาตามดูดคนอื่นโดยไม่บอกให้เค้ารู้ตัวล่วงหน้า แล้วยิ่งเป็นคนที่ไม่คุ้นเคยกันไม่รุ้จังหวะกันนี่เกี่ยวกันล้มมาหลายรายแล้ว และที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือการแทรกเข้ามากลางขบวนที่เค้ากำลังเกาะกลุ่มกันอยุ่ครับ เป็นการเสียมารยาทแล้วยังเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายอีกด้วย
เลยมาเล่าสุ่กันฟังสำหรับท่านที่อาจจะยังไม่เคยทราบว่ามารยาทของการขี่รถจักรยานบนถนนร่วมกับกลุ่มอื่นเค้าให้ความสำคัญกับอะไรกันบ้าง ครางหน้าคราวหลังเห็นกลุ่มเค้าขี่แซงไปเราอยากเกาะกลุ่มเค้าด้วยก็ตามดูดท้ายกลุ่มเค้าตะโกนบอกเค้านิดหนึ่ง "ขอไปด้วยครับ" เท่านั้นแหละ
แค่นี้สังคมจักรยานก็จะเป็นสังคมดีๆแห่งความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน