เรื่องราวของกาลเวลา บทที่ 2

กระทู้คำถาม
อดีต. . . . เป็นสิ่งที่น่าหลงไหล .. .  . . เเต่มันก็น่าขยะเขยงด้วยเช่นกัน

                                หลับตาลงสิ. . . .  มาฟังเรื่องเล่าบทที่ 2 กันเถอะ ... ?




  -- ติ้ก -- ติ้ก -- ติ้ก --

  เสียงเข็มนาฬิกาในนาฬิกาพกยังคงเดินไปเรื่อยๆ เมื่อเด็กสาวเปิดมันอีกครั้งก่อนนอน เธอปล่อยความคิดที่มากวนใจของเธอตั้งเเต่เดินทางออกจากบ้านมา ความสงสัยเกี่ยวกับบุคลลที่พ่อเเม่ของเธอเอ่ยขึ้น ทำให้เธอไม่สามารถข่มตาให้หลับได้ เด็กสาวตัดสินใจเก็บนาฬิกาเรือนนั้นไว้ที่ข้างหมอน ก่อนจะลุกออกจากที่นอน เพื่อออกไปเดินข้างนอก

" จะออกไปหรือ. . . . . " เสียงทุ้มดังขึ้นเบาๆ ทำให้เธอหันไปที่เจ้าของเสียง นักเดินทางเมื่อเช้านั้นเอง เขากำลังนั่งดูแผนที่อะไรบางอย่างอยู่

เธอไม่ตอบคำถามของเขา เพียงเเค่พยักหน้าเท่านั้น ก่อนจะสาวเท้าก้าวออกไป หากเเต่ยังไม่ทันถึงประตูของกระโจม เขาก็หายไปปรากฎตัวอยู่ที่หน้าประตู

" เธอไม่ควรออกไปข้างนอก ที่นี้ไม่ใช่เขตของเรา มันเป็นเขตของ ดูเอล ดินเเดนของอดีต ที่มีเเต่ผู้ที่จมเเต่อดีตเท่านั้น ที่จะอาศัยอยู่ได้เท่านั้น และเวลานี้ มันก็คงไม่ดีเท่าไร ถ้าเธอคิดจะออกไปสูดอากาศข้างนอก " นักเดินทางกล่าวขึ้น

" ดูเอล ? "

" ดูเอล เป็นชื่อดินแดนที่เป็นเหมือนกล่องเก็บความทรงจำของผู้ที่จากไป ถ้ามองในมุมมองของเธอ  นั้นคือป่าช้า แต่สำหรับพวกเราเเล้ว มันเหมือนดินแดนต้องห้าม อากาศที่นี้จะทำให้เธอเหมือนจมอยู่ในอดีต มันทำให้เธออยู่กับความทรงจำ จนไม่อยากจะทำอะไรทั้งสิ้น เเล้วในที่สุดเธอก็จะตายเเบบไม่รู้ตัว "

" แล้วคุณพามาที่นี้ทำไมคะ "

" เรามาพบกับผู้เฒ่าเเห่งความสิ้นหวัง "

" ความสิ้นหวัง ? "

" ใช่เเล้ว พรุ่งนี้เราถึงจะพบกับเขาได้ เพราะเธอเป็นเหมือนคนมาใหม่ ดังนั้นการที่เธอได้พบกับเขาก่อนอาจจะทำให้เธอรู้จักตัวเองมากขึ้น "

" ตัวของฉัน ? "

" ใช่  เธอไม่ใช่เด็กธรรมดาทั่วไป มีใครบางคนเอาเวลาของเธอไป  เวลาที่ควรจะเดินกลับไม่เดินอย่างที่เป็น " นักเดินทางอธิบาย เขายื่นแผ่นกระดาษสีน้ำตาลให้เธอ ก่อนที่จะนั่งลง

" นั้นคือ สถานที่เราจะต้องไปทั้งหมด .... ไม่ต้องขนวดคิ้วหรอก เธอไม่สามารถอ่านมันออกได้ เพราะนั้นไม่ใช่ภาษามนุษย์ " เขากล่าวเสริม เมื่อเห็นเด็กสาวขมวดคิ้วเข้าหากัน

" ถ้าอย่างนั้น คุณก็ไม่ใช่มนุษย์น่ะสิ "

" ก็อาจจะเคยเป็นเมื่อนานมาเเล้ว.... "

" เเล้วคุณ คือ . . . . . ? "

" นักเดินทาง ในมุมมองของพวกเรา เเละ ผู้ส่งสารในความเชื่อของพวกเธอ " นักเดินทางตอบ ก่อนจะล้มตัวลงบนพื้นผ้าที่ปูทิ้งไว้

" เธอควรจะข่มตาให้หลับได้เเล้ว เพราะพรุ่งนี้ เวลาที่เราจะพบกับผู้เฒ่าเเห่งความสิ้นหวังได้ คือ รุ่งเช้าเท่านั้น " เขากล่าวกับเด็กสาวก่อนจะหลับตาลง เธอยังคงมองนักเดินทางที่หลับตาลง ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้ามาใกล้กับนักเดินทาง เธอนั่งลงข้างๆเขา ก่อนจะมองหน้าของนักเดินทางด้วยความตั้งใจ ใบหน้าที่ซ่อนอยู่ภายใต้ผ้าพันคอเกือบครึ่งทำให้เธอจินตนาการว่าเขาอาจจะมีแผลเป็น หรือ คำสาปที่เธอเคยอ่านในหนังสือนิทานก็ได้  เด็กสาวจ้องมองใบหน้าของเขา ช่างเหมือนกับใครสักคนที่เธอเคยพบเมื่อนานมาเเล้ว เเต่เธอก็คิดว่ามันอาจจะเป็นอาการที่คิดไปเองก็ได้  เด็กสาวสะบัดความคิดนั้นออกจากหัว ก่อนจะล้มตัวลงนอนบ้างเพื่อเอาเเรงสำหรับวันพรุ่งนี้ ...

-------------------------


ถ้าจะจินตนาการบ้านของผู้เฒ่าเเห่งความสิ้นหวังในความคิดของเธอนั้น มันคงเป็นบ้านเก่าๆของคุณยายของเธอที่เธอเคยไปเยี่ยมเมื่อครั้งเป็นเด็ก หลังคาที่ปูด้วยไม้ที่เหมือนเคยจะงดงามเมื่อครั้งอดีต เเละตัวของบ้านที่เหมือนผุพังไปตามกาลเวลา ขัดกับเจ้าของบ้านที่เธอจินตนาการเอาไว้ก่อนหน้านี้ เจ้าของบ้านเป็นชายวัยกลางคน ผิวคล้ำ เขายิ้มกว้างเมื่อเห็นแขกทั้งสองผู้มาเยือน

" เจ้าสาวของเจ้าหรือ ? " คำทักทายครั้งเเรก ทำให้นักเดินทางที่อยู่ข้างกายของเธอนั้น ทำสีหน้าประหลาดใจ

" ไม่ใช่ครับ เธอเป็นไทเอล " ชายหนุ่มตอบเจ้าของบ้าน

" ใช่ล่ะ เธอช่างเหมือนฟีเซร่าเหลือเกิน " เจ้าของบ้านกล่าว ก่อนจะชวนให้ทั้งสองเข้ามาในบ้าน ข้างในบ้านนั้นปูพรมสีเขียวทึบ บนฝาผนังเต็มไปด้วยรูปภาพจำนวนมาก ทั้งรอยยิ้ม และ น้ำตา..

" ฉันย้ายมันมาตั้งที่นี้ ตั้งเเต่ฉันเข้ามาอยู่  ย้ายมาทั้งบ้านเลยเเหละ มันดูสวยใช่ไหมล่ะ " เจ้าของบ้านเอ่ยกับเด็กสาวเมื่อเธอจ้องลูกแก้วสีเทาขนาดกลางที่ตั้งกลางห้อง

"  เราควรจะเข้าเรื่องได้เเล้วนะครับ " นักเดินทางกล่าวขึ้น

" นั้นสินะ แล้วนักเดินทางเช่นเจ้า มีสาเหตุอะไรที่เข้ามาในดินแดนนี้ล่ะ "

" ผมอยากให้เธอรู้จักพวกเราให้มากขึ้น และ ถ้าหากเธอไม่ใช่ ผมจะพาเธอกลับไป พร้อมกับลบความทรงจำเธอ "

" เด็กคนนี้ ก็โดนเจ้านั้นเเกล้งหรอ "

" ผมคิดว่าไม่ใช่ครับ น่าจะเป็นฝ่ายข้างบนมากกว่า "

" นั้นสินะ ...... ข้าคงต้องใช้เวลาสักพัก คงต้องเข้าไปหอสมุดที่ใจกลางโลกด้วยสินะ "

" จะยังไงก็ช่างเถอะ ดูแลเด็กคนนี้ดีๆด้วยล่ะกัน ยังไงเจ้าก็แวะมาหาข้าได้ทุกเวลา ส่วนเจ้า.... เด็กน้อย เก็บนาฬิกาพกนั้นให้ดี มันเปรียบเสมือนตัวของเจ้าเอง เหล่านาทีทั้งหลายกำลังรอเจ้านายของมันอยู่ ข้าเห็นเพียงอดีตของเจ้า ตั้งเเต่ครั้งก่อนที่เจ้าจะเกิดเสียอีก เจ้าไม่ได้รับหน้าที่นี้เพียงสุ่มมาหรอก แต่เป็นเพราะอดีตของเจ้าที่จะนำเจ้ามาเจออะไรที่เจ้าไม่คาดคิด ข้ามีเพียงคำแนะนำอย่างเดียว ..... จงอย่าจมกับอดีต.... คงเข้าใจสินะ " ชายวัยกลางคนกล่าวสรุป ก่อนจะดันทั้งสองมาที่กลางบ้าน

" หลับตาซะ ที่ๆพวกเจ้าจะไปที่ต่อไป คือ เมืองดิลา "

" มันคือเมืองอะไรคะ ? "

" เมืองที่เป็นจุดเริ่มต้นของเจ้าหญิงนิทราอย่างไงล่ะ ........ "

ชายวัยกลางคนกล่าวอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะค่อยโรยผงสีเขียวบนตัวของทั้งสอง แล้วเปลวไฟสีเขียวใสก็แผดเผาร่างของทั้งสองหายลับไปจากสายตา เหลือเพียงเเค่เจ้าของบ้านเท่านั้น

" นางกลับมาเเล้ว .. . . . . . สินะ .... บุตรีที่สาบสูญของกาลเวลา ผู้รักษากาลเวลาที่เเท้จริง .... . ... "  เสียงเบาๆของเจ้าของบ้านดังขึ้น ก่อนจะลุกไปทำอาหารเช้าต่อ


                                             TO  BE CONTINUTE。。。。。。。。。。
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่