ผมเรียนไม่จบปริญญาตรี อายุ30ปี ทำอะไรก๊อกแก๊กๆไม่จริงจังมาตลอด จนถึงจุดนึงผมคิดว่าน่าจะไปสมัครงานให้เป็นจริงเป็นจัง แต่ด้วยวุฒิม.ปลาย กับความผิดปกติบางอย่างของผม ทำให้ผมคิดว่าผมน่าจะสร้างความมั่นใจจากจุดที่ง่ายที่สุด ผมเลยเลือกไปสมัครเป็นรปภ.ที่สนง.เล็กๆในตัวเมือง เพราะคิดว่าเป็นอาชีพที่มันไม่ค่อยซับซ้อน และง่ายที่จะเรียนรู้ ไม่จำเป็นต้องทำเป็นกลุ่มก้อน
ผมคิดว่าผมยอมขัดใจกับครอบครัว(เพราะที่บ้านอายที่จะเห็นลูกเป็นยาม) ผมไม่อยากถูกมองว่าเอาเปรียบคนอื่นๆในบ้าน เอาแต่ทำสิ่งที่มันไม่สามารถเลี้ยงตัวเองได้จริงจัง เพื่อจะเริ่มต้นจริงจังกับชีวิตซะที และคิดว่าผมต้องได้แน่ๆ เพราะมีผมสมัครกับอีกคนเดียว โอกาสต้อง1-1 และจากที่คุยกันอีกคนก็บอกว่าไม่สามารถทำงาน7วันได้
วันประกาศ ผมขึ้นตึกไปชั้นสำนักงาน ที่มีใบประกาศติดอยู่กระจกหน้าสำนักงาน พอดูใบประกาศ บอกว่าไม่มีผู้สอบผ่าน แต่เค้าย้ายคนสัมภาษน์อีกคนไปทำตำแหน่งอื่น ผมอึ้ง... ผมยืนค้างหน้าห้องกระจกที่อีกฟากข้างในมีคนเดินกันขวักไขว่(มันจะติดประกาศไว้ที่ตึกชั้นล่างก็ไม่ได้ ต้องมาติดหน้าห้องทำงานอีกต่างหาก อีบ้า) หลังจากยืนค้างซักพักก็เลยเดินลงมาจากตึก หน้าผมค่อนข้างแดง น้ำตามันไหลปริ่มๆออกมาจากตา แล้วมันก็ไหลพรากออกมา ระหว่างขี่รถกลับบ้าน ต้องขี่ไปหยุดไป เพราะน้ำตามันทะลักออกมาผสมกับเหงื่อทำให้แสบตาจนต้องหยุดรถปาดหน้าตัวเองไปตลอดทาง กลับบ้านไปก็ไปนอนร้องไห้อีกพักใหญ่ ทั้งวันแทบจะไม่พูดกับคนที่บ้านเลย
นั่งคิดนอนคิดตลอดว่าตัวเองไม่ผ่านได้ยังไง(วะ) ขนาดอาชีพที่มันแทบจะเรียกได้ว่าต่ำต้อยที่สุดในหมู่อาชีพ อาชีพที่ใครๆเห็นก็คงดูถูก และผมก็ยอมอ่อนข้อถึงที่สุดแล้วที่เลือกจะทำงานนี้ แต่ผมกลับสัมภาษน์ไม่ผ่าน ผมเป็นคนขี้อายแต่ก็ค่อนข้างมั่นใจว่าอย่างน้อย เราก็สามารถเอ็นท์ติดมหาลัยชื่อดังแถวชานเมืองกรุงเทพได้ และถึงแม้จะเรียนไม่จบ แต่ก็เป็นเพราะตัวเองเลือกที่จะออกเพราะมีปัญหาตอนปี3
ตกต่ำถึงขีดสุดแล้ว ชีวิตนี้ไม่รู้สึกแพ้อะไรขนาดนี้...
ผมคิดว่าผมยอมขัดใจกับครอบครัว(เพราะที่บ้านอายที่จะเห็นลูกเป็นยาม) ผมไม่อยากถูกมองว่าเอาเปรียบคนอื่นๆในบ้าน เอาแต่ทำสิ่งที่มันไม่สามารถเลี้ยงตัวเองได้จริงจัง เพื่อจะเริ่มต้นจริงจังกับชีวิตซะที และคิดว่าผมต้องได้แน่ๆ เพราะมีผมสมัครกับอีกคนเดียว โอกาสต้อง1-1 และจากที่คุยกันอีกคนก็บอกว่าไม่สามารถทำงาน7วันได้
วันประกาศ ผมขึ้นตึกไปชั้นสำนักงาน ที่มีใบประกาศติดอยู่กระจกหน้าสำนักงาน พอดูใบประกาศ บอกว่าไม่มีผู้สอบผ่าน แต่เค้าย้ายคนสัมภาษน์อีกคนไปทำตำแหน่งอื่น ผมอึ้ง... ผมยืนค้างหน้าห้องกระจกที่อีกฟากข้างในมีคนเดินกันขวักไขว่(มันจะติดประกาศไว้ที่ตึกชั้นล่างก็ไม่ได้ ต้องมาติดหน้าห้องทำงานอีกต่างหาก อีบ้า) หลังจากยืนค้างซักพักก็เลยเดินลงมาจากตึก หน้าผมค่อนข้างแดง น้ำตามันไหลปริ่มๆออกมาจากตา แล้วมันก็ไหลพรากออกมา ระหว่างขี่รถกลับบ้าน ต้องขี่ไปหยุดไป เพราะน้ำตามันทะลักออกมาผสมกับเหงื่อทำให้แสบตาจนต้องหยุดรถปาดหน้าตัวเองไปตลอดทาง กลับบ้านไปก็ไปนอนร้องไห้อีกพักใหญ่ ทั้งวันแทบจะไม่พูดกับคนที่บ้านเลย
นั่งคิดนอนคิดตลอดว่าตัวเองไม่ผ่านได้ยังไง(วะ) ขนาดอาชีพที่มันแทบจะเรียกได้ว่าต่ำต้อยที่สุดในหมู่อาชีพ อาชีพที่ใครๆเห็นก็คงดูถูก และผมก็ยอมอ่อนข้อถึงที่สุดแล้วที่เลือกจะทำงานนี้ แต่ผมกลับสัมภาษน์ไม่ผ่าน ผมเป็นคนขี้อายแต่ก็ค่อนข้างมั่นใจว่าอย่างน้อย เราก็สามารถเอ็นท์ติดมหาลัยชื่อดังแถวชานเมืองกรุงเทพได้ และถึงแม้จะเรียนไม่จบ แต่ก็เป็นเพราะตัวเองเลือกที่จะออกเพราะมีปัญหาตอนปี3