ทีมวิเคราะห์ข่าวไทยรัฐวันนี้ไม่เข้าใครออกใคร ปอกเปลือกทุกฝ่ายเสมอหน้า"'ดรามา'กันสมบทบาท"..ฟังได้ก็ฟัง ฟังไม่ได้ก็ต้องฟัง

'ดรามา'กันสมบทบาท?


เหยียบคันเร่ง เตรียมลุยซอยกันแล้ว!

ต้องจับตา หลังจากดีเดย์เปิดประชุมสภาฯนัดพิเศษ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับที่มีการแก้ไขในชั้นคณะกรรมาธิการ “ล้างผิดยกเข่ง” ตามยุทธศาสตร์ “ลุยสุดซอย” ของ “นายใหญ่” พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พร้อมกับการ “เรียกแขก” ทั่วทิศแม้แต่เครือข่ายเดียวกันเอง

โดยเฉพาะสถานการณ์ “ม็อบต้าน” การเปิดเวทีนอกสภาฯของฝ่ายค้าน พรรคประชาธิปัตย์ ได้เวลา “ลงสู่ถนน” เป่านกหวีดระดมม็อบบริเวณสถานีรถไฟสามเสน ควบคู่กับอีก 2 เวทีม็อบต้าน ที่สวนลุมพินีและแยกอุรุพงษ์

จะลากเหตุการณ์ลุกลามบานปลายหรือไม่

หรือสุดท้ายแค่ “ม็อบร้อน” เร่งปฏิกิริยา เร้าเกมไปจบที่องค์กรวินิจฉัย ปราการด่านสุดท้าย “ปิดเกม”

แต่แค่เริ่มต้นถึงนาทีเปิดฉาก “ศึกนิรโทษกรรม” ทั้ง 2 ทัพใหญ่ ฝ่ายเร่งดันร่างกฎหมาย กับเครือข่ายฝ่ายต้าน เร้าเกมปลุกกระแสปั่นสถานการณ์เรียกกองเชียร์กันจนหวาดเสียวไปทั้งแผ่นดิน

โฟกัสในเกม “ใบสั่ง” ลูกข่ายขยับดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเหมาเข่งครั้งนี้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ “เข้าเป้า” นอกจากถึงเวลาต้อง “ลองแหย่” โดยไม่กลัว “จุดเสี่ยง” เกิดเหตุพลิกผันอำนาจหลุดมือจาก “นายกฯปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

มีไพ่ล้างกระดาน “ยุบสภา” เงื้อรอไว้อยู่แล้ว

แต่ที่ได้ก็คือ ได้ทั้งเช็กพลัง “แรงต้าน” หนักหนาแค่ไหน อีกทางก็ได้ตรวจทัพเครือข่ายแนวร่วม ทั้งในพรรคและมวลชนแนวร่วม “แดงทักษิณ-แดงประชาธิปไตย” มากน้อยแค่ไหน แล้วก็น่าจะได้ข้อสรุปชัด

ถ้า “ทุบโต๊ะ” อะไรๆก็ต้องเป็นไปตาม “ประกาศิตนายใหญ่”

แต่ที่ทำเอากระอักกระอ่วนใจก็แกนนำม็อบที่เป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย ทางหนึ่งก็ต้องรับฟังคำสั่งนายใหญ่ แต่ก็กลัวเสียมวลชน ทั้งนักวิชาการ ทั้งญาติผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ ถูกจับกุมคุมขังที่ถูกบังคับให้ปาดน้ำตา-กลืนเลือด

นอกจากหาวิธีอธิบายจนออกลูกมั่ว ยังต้องมีลีลา “ดรามา”

ส่วนฝ่าย ส.ส.ที่มีหมวกแกนนำหรือเกิดมาจาก นปช. หลายรายก็ตอบรับแบบสมบทบาท ในการประชุมพรรคเพื่อไทยล่าสุดถึงได้ออกทีท่าลีลาเรียกแต้มกันถ้วนหน้า

ทั้งประกาศจำเป็นต้องกลืนเลือด “โนโหวต” แม้ไม่หนุนใบสั่งนายใหญ่ แต่ก็ไม่กล้า “โหวตสวน”

ลับลวงพราง “ดรามา” กันเนียนๆ

ยังไม่รวมบรรดานักวิชาการ นักกฎหมายในปีกที่เคยมีความเห็นสอดคล้องสนับสนุนคนเสื้อแดงเวลานี้ส่วนใหญ่ดาหน้าออกมาคัดค้านต่อต้านแผนล้างผิดเหมาเข่ง ถึงขั้นวิพากษ์วิจารณ์กันรุนแรง

กลับกลอก หลอกลวง ตระบัดสัตย์ ทรยศ

แต่ก็มีนักวิชาการบางรายที่ตีปี๊บช่วยเหลือ “เหยื่อเสื้อแดง” เปิดอีเวนต์ปฏิญญาหน้าศาล ถึงเวลาเปิดเผยตัวเอง หยิบยกเหตุผลมาอธิบายว่าอย่างไรก็ต้องอุ้ม “กฎหมายนิรโทษ”

เปลือยตัวตนและหัวใจ เอกซเรย์เครือข่าย “คนเสื้อแดง” เรียบวุธ ใคร “ของจริง” สำหรับชาวบ้าน
ใครเป็น “ตัวจริงของนายใหญ่” ไม่สนใจ “เหยื่อการเมือง”

นอกเหนือจากนี้ การจับจ้อง “ดรามาการเมือง” ลวงประชาชนไม่ได้มีเฉพาะในเครือข่ายนายใหญ่  แม้แต่ฝ่ายต้านนิรโทษ คนพรรคประชาธิปัตย์ ที่ประกาศเต็มแรงถึงขั้นให้รองหัวหน้าพรรค 4 ภาคลาออกจากกรรมการบริหารพรรค

แต่ก็ถูกดักคอ ไม่กล้าลงสู่ถนนเต็มทัพ สไตล์ “สู้ไปกั๊กไป”

โดยเฉพาะ “แม่ทัพใหญ่” อย่าง “เทพเทือก” สุเทพ  เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ที่ประกาศเอาชีวิตเดิมพันต้านกฎหมาย “ล้างผิดเหมาเข่ง”  “โละคดี-คืนเงิน” ตามแผนของ “ทักษิณ”

แต่ก็ยังไม่วายมีคนสงสัยว่างานนี้ “เต็มแรง” หรือไม่

เพราะออกแรงต้าน ได้กระแสแต่ก็ต้อง “ออกแรงหนัก” ต้องหา “เจ้าภาพร่วม” ลงขัน รวมทั้งประเมินเกมออกว่า สุดท้ายก็ยังมี “ปราการหินผา” องค์กรวินิจฉัยเป็นด่านสุดท้าย

อาจดึงจังหวะรอ “ตัวช่วย” ตามสไตล์ถนัด ปชป.

ตัวเองได้อานิสงส์ล้างผิดเหมาเข่งด้วย อาจเข้าตำรา “เกลียดตัวแต่กินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง”

เรียกว่าถึงจุดนี้ ปมหนุน-ต้านนิรโทษ ที่เร้าสถานการณ์กัน มา สุดท้ายจะเป็นการซูเอี๋ย-เกี้ยเซี้ยะ

แผนฮั้วของระดับบิ๊กเนมทุกขั้วฝ่ายหรือไม่

แต่ที่แน่ๆกองเชียร์สองฝั่ง ยังหลงบทดรามา และเป็น “เหยื่อการเมือง” เช่นเดิม.


ทีมข่าวการเมือง
ไทยรัฐออนไลน์ 1 พฤศจิกายน 2556, 05:00 น.


                                                ???????????????????????????????????????


"...มีไพ่ล้างกระดาน “ยุบสภา” เงื้อรอไว้อยู่แล้ว

แต่ที่ได้ก็คือ ได้ทั้งเช็กพลัง “แรงต้าน” หนักหนาแค่ไหน อีกทางก็ได้ตรวจทัพเครือข่ายแนวร่วม ทั้งในพรรคและมวลชนแนวร่วม “แดงทักษิณ-แดงประชาธิปไตย” มากน้อยแค่ไหน แล้วก็น่าจะได้ข้อสรุปชัด...."


"....เปลือยตัวตนและหัวใจ เอกซเรย์เครือข่าย “คนเสื้อแดง” เรียบวุธ ใคร “ของจริง” สำหรับชาวบ้าน
ใครเป็น “ตัวจริงของนายใหญ่” ไม่สนใจ “เหยื่อการเมือง”...."


"...สไตล์ถนัด ปชป.
ตัวเองได้อานิสงส์ล้างผิดเหมาเข่งด้วย อาจเข้าตำรา “เกลียดตัวแต่กินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง”..."

แต่ที่แน่ๆกองเชียร์สองฝั่ง ยังหลงบทดรามา และเป็น “เหยื่อการเมือง” เช่นเดิม.




งานนี้อาตมาภาพไม่เก่วใดๆทั้งสิ้น
ทีมข่าวเขาว่าเอง  ไปเฉ่งกันเอาเองก็แร้วกันนะโยม....

ขอแว็บก่อน.....ฟิ้ววววววสสสสส์