วันนี้ผมมีสมาร์ทโฟนจากค่าย Nokia มาฝากครับ เป็นเจ้า Nokia Lumia 1320 ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนที่จอใหญ่ถึง 6 นิ้วกันเลยทีเดียว ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟน Windows Phone 8 ที่จอใหญ่ที่สุดในตอนนี้ และราคาก็ถูกที่สุดอีกด้วย (ถ้าเทียบกันใน Windows Phone ด้วยกันแล้ว) ซึ่งเปิดตัวที่ราคา $349 หรือประมาณ 10,900 บาท ซึ่งถือว่าน่าจัดมาสักเครื่องมาก
ในช่วงที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่า Nokia ไม่ค่อยทำสมาร์ทโฟนที่จอใหญ่มากสักเท่าไหร่ ซึ่ง Nokia ก็ได้เล่งเห็นถึงช่องโหว่ของตัวเองในจุดนี้ จึงได้ออกสมาร์ทโฟนที่จอใหญ่ที่มีราคาไม่แพง ที่สำคัญต้องแรงอีกด้วย Nokia จึงได้เปิดตัว Nokia Lumia 1320 ที่มีขนาดจอถึง 6 นิ้ว สเปกแรง ราคาโดนใจ โดยที่ได้ให้โคดเนมในการพัฒนารุ่นนี้ไว้ว่า "Batman" ซึ่งก็คือ ฮีโร่ที่จะคอยมาอุดช่องโหว่ตรงนี้
ส่วนสเปคของ Nokia Lumia 1320 มีดังนี้
• หน้าจอแสดงผลขนาด 6 นิ้ว, ความละเอียดแบบ HD, 768×1020
• Dual-core processor Snapdragon S4 1.7Ghz
• กราฟฟิค Adreno 305 GPU
• แบตเตอรี่ 3400 mAh
• แรม 1GB
• กล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล แฟลช LED
• บันทึกวิดีโอ 1080p
• กล้องหน้าความละเอียด VGA รูรับแสง f2.8
• พื้นที่ภายใน 8GB
• รองรับการเพิ่ม microSD
• Live Tile ขนาดกลาง 3 ช่อง
• มาพร้อม 4 สีได้แก่เหลือง ดำ ขาวและแดง
จุดเด่นของ Nokia Lumia 1320 ตัวนี้ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ Nokia ตั้งใจทำออกมาเพื่อรองรับตลาดระดับกลางเน้นที่คนต้องการจอที่ใหญ่ ราคาไม่แพง ที่สำคัญเน้นการใช้งาน Windows Phone 8 อย่างเต็มประสิทธิภาพ
มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด HD, และมาพร้อมกับแรม 1GB ซึ่งถือเป็นขั้นต่ำของการใช้งานแอพพลิเคชั่นของ Windows Phone ที่ทำงานหนักๆ เพราะจากที่ผ่านมาเห็นเพื่อนรุ่นกลางและรุ่นล่างบ่นกันเป็นแถวว่าจะกักไว้ทำไม ถึงแม้จะมีวิธีแหกกฎก็เถอะ แต่ผลที่ได้มาคือแอพเด้ง! ค้าง ฯลฯ ซึ่งต่อไปผมคาดว่ารุ่นใหม่ๆ คงมาพร้อมแรมขั้นต่ำ 1GB นอกจากรุ่นล่างสุดจริงๆ เพราะบางคนก็ต้องการใช้แค่แอพพื้นฐานไม่เน้นใช้งานหลักก็คงรับกับแรม 512MB ได้อยู่แล้ว แต่ผมว่าคงเป็นส่วนน้อยล่ะที่เลือกใช้สมาร์ทโฟน
นอกจากแรมที่เพิ่มขึ้นมาแล้วซีพียูก็ถูกอัพเกรดความเร็วขึ้นมาเป็น Snapdragon S4 1.7Ghz แต่ยังคงเป็น Dual-Core อยู่ (ราคาเท่านี้จะเอา Quad-Core ก็ไม่ไหวนะ) มาพร้อม 4 สีได้แก่เหลือง ดำ ขาวและแดง ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนฝาหลัง(สี) ได้ตามใจชอบ รวมไปถึงแบตเตอรี่ที่มาพร้อมความจุ 3400 mAh ถือว่ามากทีเดียว ซึ่งจะสามารถใช้งานได้นานยิ่งขึ้น
ปัญหาที่ต้องคิดกับ Nokia Lumia 1320 คืออะไร
อย่างที่บอก Nokia หวังว่าจะดัน Lumia 1320 มาเพื่อการใช้งานด้านแอพพลิเคชั่นให้เต็มประสิทธิภาพทำให้ต้องดรอปเรื่องการถ่ายภาพลงมาเพื่อไม่ให้กระทบกับต้นทุนที่เกิดขึ้น ซึ่งกล้องหน้ามาพร้อมกับความละเอียด VGA (0.3 ล้านพิกเซล) รูรับแสง f2.8 ส่วนกล้องหลังนั้นมาพร้อมกับความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ซึ่งในรุ่นนี้ทำให้ความสำคัญของเรื่องการถ่ายภาพลดลงเล็กน้อย เพราะเน้นไปเรื่องการทำงานและประสิทธิภาพซะมากกว่า แต่ไม่ใช่ว่าถ่ายภาพออกมาแล้วจะไม่สวย มันสวยอยู่แล้วล่ะ เหมาะสำหรับคนไม่ซีเรียสเรื่องความละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แชร์โซเชียลเน็ตเวิร์ค หรือถ่ายภาพเก็บไว้เป็นความทรงจำก็ยังได้
ส่วนอีกประเด็นหนึ่งคงจะเป็นพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน Nokia บรรจุมาให้บน Lumia 1320 จำนวน 8GB ซึ่ง Nokia รุ่นล่าง – กลางก็มีความจุเท่านี้อยู่แล้ว แต่อย่างที่เห็นกันคือติดตั้งแอพพลิเคชั่น/เกม ไม่กี่เกมก็เต็มแล้ว ซึ่งจุดนี้คงยังเป็นปัญหาอยู่เพราะอย่างที่เรารู้กันว่า Windows Phone นั้นไม่สามารถติดตั้งแอพบนการ์ดได้ แต่ก็ยังดีที่สามารถเพิ่ม microSD สูงถึง 64GB ได้อยู่ เพื่อเก็บไฟล์เพลง วีดีโอและเอกสาร ซึ่งพื้นที่ภายในเครื่องเราก็ให้แอพ/เกมอาศัยไปก่อน
Nokia Lumia 1320 + Windows Phone 8 GDR3/Lumia Black
ที่สำคัญ Nokia เผยว่า Lumia 1320 นั้นจะมาพร้อมกับเฟิร์มแวร์เวอร์ชั่นล่าสุดนั่นก็คือ Windows Phone GDR3 ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติมากมายหนึ่งในนั้นคือ สามารถสร้าง Live tile ได้ถึง 3 กล่อง(ขนาดกลาง) ซึ่งคุณสมบัติตัวนี้จะรองรับกับ Windows Phone ที่มีหน้าจอขนาด 5 นิ้วขึ้นไป นั่นหมายถึงว่ารุ่นก่อนหน้างาน Nokia World 2013 ส่วนมากจะไม่สามารถใช้งานคุณสมบัตินี้ได้ (นอกจาก Lumia 625)
Nokia Camera เป็นแอพพลิเคชั่นกล้องตัวใหม่ จาก Nokia โดยรีแบรนด์จากการเอาคุณสมบัติของ Nokia Pro Cam และ Nokia Smart Camera เข้ามารวมอยู่ในแอพเดียว ซึ่งถือว่าการถ่ายภาพของ Nokia นั้นถือว่าเป็นจุดขายสำคัญอยู่แล้ว ซึ่งไม่ต้องกังวลเลยว่ากล้อง 5 ล้านพิกเซลแล้วภาพจะออกมาไม่ดี มันดีแน่ เพราะมันมาพร้อมกับเทคโลยีของ Nokia
นอกจากคุณสมบัติของ Windows Phone GDR3 ที่มาพร้อมกับ Lumia 1320 ก็ยังมีฟีเจอร์ที่หลายหลายที่เตรียมขนลงมาให้เราอวดโฉมกันแล้ว
(รายละเอียด - http://www.thailumia.com/windows-phone-8-gdr-3-microsoft-update-history-new-feature/)
ฉะนั้นราคาเปิดตัวที่ $349 เหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 10,900 บาท มีให้เลือกถึง 4 สีได้แก่เหลือง ดำ ขาวและแดง ที่มาพร้อม Windows Phone 8 GDR3 ที่มาพร้อมกับแอพคุณภาพอย่าง Office, Nokia Video Director, Nokia Story Teller, Nokia Beamer ,Nokia Camera และ Glance Screen ซึ่งถ้าอยากได้ของถูกและดี ก็ได้มีได้มีเสียกันบ้างจุดด้อยของตัวนี้ก็คือเป็นเรื่องของการถ่ายภาพ นอกนั้นถือว่าเยี่ยม!! ก็รับได้และรอได้ เตรียมเงินให้พร้อม และผมว่าเหมาะกับผู้ใช้รุ่นล่างก่อนหน้านี้ที่ต้องการอัพเกรดเป็นรุ่นที่รองรับการใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น หรือต้องการจอที่มีขนาดใหญ่
ซึ่งเราคงได้เห็นตัวจริงกันเร็วๆ นี้ ซึ่งอาจจะได้เห็นตัวจริงราวๆ เดือนพฤศจิกายนี้ล่ะ เพราะตัวนี้น่าจะไม่มีงานเปิดตัวแบบจัดงานใหญ่ๆ คาดว่าจะเป็น Work Shop ทั่วไป เพราะผมได้ยินจากช็อปแห่งหนึ่งมาว่างานเปิดตัวจะเปิดตัว 2 รุ่นใหญ่มือถือและแท็บเล็ตนั่นก็คือ Nokia Lumia 1520 และ Nokia Lumia 2520 จะเกิดขึ้นในช่วงสิ้นปีหรือเดือนธันวาคมนี้ ส่วนใครที่รอสองตัวนี้เดี๋ยวถ้ามีเวลาจะมานั่งวิเคราะห์ให้ได้ดูกันนะครับ

เรียบเรียงโดย
ทีมงาน ThaiLUMIA
ภาพประกอบ/วิดีโอจาก thenextweb, wpcentral
แหล่งที่มา
http://bit.ly/17v3HVs
บทวิเคราะห์ Nokia Lumia 1320 จอใหญ่และแรง เห็นราคาแล้วต้องกรี๊ด
ในช่วงที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่า Nokia ไม่ค่อยทำสมาร์ทโฟนที่จอใหญ่มากสักเท่าไหร่ ซึ่ง Nokia ก็ได้เล่งเห็นถึงช่องโหว่ของตัวเองในจุดนี้ จึงได้ออกสมาร์ทโฟนที่จอใหญ่ที่มีราคาไม่แพง ที่สำคัญต้องแรงอีกด้วย Nokia จึงได้เปิดตัว Nokia Lumia 1320 ที่มีขนาดจอถึง 6 นิ้ว สเปกแรง ราคาโดนใจ โดยที่ได้ให้โคดเนมในการพัฒนารุ่นนี้ไว้ว่า "Batman" ซึ่งก็คือ ฮีโร่ที่จะคอยมาอุดช่องโหว่ตรงนี้
ส่วนสเปคของ Nokia Lumia 1320 มีดังนี้
• หน้าจอแสดงผลขนาด 6 นิ้ว, ความละเอียดแบบ HD, 768×1020
• Dual-core processor Snapdragon S4 1.7Ghz
• กราฟฟิค Adreno 305 GPU
• แบตเตอรี่ 3400 mAh
• แรม 1GB
• กล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล แฟลช LED
• บันทึกวิดีโอ 1080p
• กล้องหน้าความละเอียด VGA รูรับแสง f2.8
• พื้นที่ภายใน 8GB
• รองรับการเพิ่ม microSD
• Live Tile ขนาดกลาง 3 ช่อง
• มาพร้อม 4 สีได้แก่เหลือง ดำ ขาวและแดง
จุดเด่นของ Nokia Lumia 1320 ตัวนี้ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ Nokia ตั้งใจทำออกมาเพื่อรองรับตลาดระดับกลางเน้นที่คนต้องการจอที่ใหญ่ ราคาไม่แพง ที่สำคัญเน้นการใช้งาน Windows Phone 8 อย่างเต็มประสิทธิภาพ
มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด HD, และมาพร้อมกับแรม 1GB ซึ่งถือเป็นขั้นต่ำของการใช้งานแอพพลิเคชั่นของ Windows Phone ที่ทำงานหนักๆ เพราะจากที่ผ่านมาเห็นเพื่อนรุ่นกลางและรุ่นล่างบ่นกันเป็นแถวว่าจะกักไว้ทำไม ถึงแม้จะมีวิธีแหกกฎก็เถอะ แต่ผลที่ได้มาคือแอพเด้ง! ค้าง ฯลฯ ซึ่งต่อไปผมคาดว่ารุ่นใหม่ๆ คงมาพร้อมแรมขั้นต่ำ 1GB นอกจากรุ่นล่างสุดจริงๆ เพราะบางคนก็ต้องการใช้แค่แอพพื้นฐานไม่เน้นใช้งานหลักก็คงรับกับแรม 512MB ได้อยู่แล้ว แต่ผมว่าคงเป็นส่วนน้อยล่ะที่เลือกใช้สมาร์ทโฟน
นอกจากแรมที่เพิ่มขึ้นมาแล้วซีพียูก็ถูกอัพเกรดความเร็วขึ้นมาเป็น Snapdragon S4 1.7Ghz แต่ยังคงเป็น Dual-Core อยู่ (ราคาเท่านี้จะเอา Quad-Core ก็ไม่ไหวนะ) มาพร้อม 4 สีได้แก่เหลือง ดำ ขาวและแดง ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนฝาหลัง(สี) ได้ตามใจชอบ รวมไปถึงแบตเตอรี่ที่มาพร้อมความจุ 3400 mAh ถือว่ามากทีเดียว ซึ่งจะสามารถใช้งานได้นานยิ่งขึ้น
ปัญหาที่ต้องคิดกับ Nokia Lumia 1320 คืออะไร
อย่างที่บอก Nokia หวังว่าจะดัน Lumia 1320 มาเพื่อการใช้งานด้านแอพพลิเคชั่นให้เต็มประสิทธิภาพทำให้ต้องดรอปเรื่องการถ่ายภาพลงมาเพื่อไม่ให้กระทบกับต้นทุนที่เกิดขึ้น ซึ่งกล้องหน้ามาพร้อมกับความละเอียด VGA (0.3 ล้านพิกเซล) รูรับแสง f2.8 ส่วนกล้องหลังนั้นมาพร้อมกับความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ซึ่งในรุ่นนี้ทำให้ความสำคัญของเรื่องการถ่ายภาพลดลงเล็กน้อย เพราะเน้นไปเรื่องการทำงานและประสิทธิภาพซะมากกว่า แต่ไม่ใช่ว่าถ่ายภาพออกมาแล้วจะไม่สวย มันสวยอยู่แล้วล่ะ เหมาะสำหรับคนไม่ซีเรียสเรื่องความละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แชร์โซเชียลเน็ตเวิร์ค หรือถ่ายภาพเก็บไว้เป็นความทรงจำก็ยังได้
ส่วนอีกประเด็นหนึ่งคงจะเป็นพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน Nokia บรรจุมาให้บน Lumia 1320 จำนวน 8GB ซึ่ง Nokia รุ่นล่าง – กลางก็มีความจุเท่านี้อยู่แล้ว แต่อย่างที่เห็นกันคือติดตั้งแอพพลิเคชั่น/เกม ไม่กี่เกมก็เต็มแล้ว ซึ่งจุดนี้คงยังเป็นปัญหาอยู่เพราะอย่างที่เรารู้กันว่า Windows Phone นั้นไม่สามารถติดตั้งแอพบนการ์ดได้ แต่ก็ยังดีที่สามารถเพิ่ม microSD สูงถึง 64GB ได้อยู่ เพื่อเก็บไฟล์เพลง วีดีโอและเอกสาร ซึ่งพื้นที่ภายในเครื่องเราก็ให้แอพ/เกมอาศัยไปก่อน
Nokia Lumia 1320 + Windows Phone 8 GDR3/Lumia Black
ที่สำคัญ Nokia เผยว่า Lumia 1320 นั้นจะมาพร้อมกับเฟิร์มแวร์เวอร์ชั่นล่าสุดนั่นก็คือ Windows Phone GDR3 ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติมากมายหนึ่งในนั้นคือ สามารถสร้าง Live tile ได้ถึง 3 กล่อง(ขนาดกลาง) ซึ่งคุณสมบัติตัวนี้จะรองรับกับ Windows Phone ที่มีหน้าจอขนาด 5 นิ้วขึ้นไป นั่นหมายถึงว่ารุ่นก่อนหน้างาน Nokia World 2013 ส่วนมากจะไม่สามารถใช้งานคุณสมบัตินี้ได้ (นอกจาก Lumia 625)
Nokia Camera เป็นแอพพลิเคชั่นกล้องตัวใหม่ จาก Nokia โดยรีแบรนด์จากการเอาคุณสมบัติของ Nokia Pro Cam และ Nokia Smart Camera เข้ามารวมอยู่ในแอพเดียว ซึ่งถือว่าการถ่ายภาพของ Nokia นั้นถือว่าเป็นจุดขายสำคัญอยู่แล้ว ซึ่งไม่ต้องกังวลเลยว่ากล้อง 5 ล้านพิกเซลแล้วภาพจะออกมาไม่ดี มันดีแน่ เพราะมันมาพร้อมกับเทคโลยีของ Nokia
นอกจากคุณสมบัติของ Windows Phone GDR3 ที่มาพร้อมกับ Lumia 1320 ก็ยังมีฟีเจอร์ที่หลายหลายที่เตรียมขนลงมาให้เราอวดโฉมกันแล้ว (รายละเอียด - http://www.thailumia.com/windows-phone-8-gdr-3-microsoft-update-history-new-feature/)
ฉะนั้นราคาเปิดตัวที่ $349 เหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 10,900 บาท มีให้เลือกถึง 4 สีได้แก่เหลือง ดำ ขาวและแดง ที่มาพร้อม Windows Phone 8 GDR3 ที่มาพร้อมกับแอพคุณภาพอย่าง Office, Nokia Video Director, Nokia Story Teller, Nokia Beamer ,Nokia Camera และ Glance Screen ซึ่งถ้าอยากได้ของถูกและดี ก็ได้มีได้มีเสียกันบ้างจุดด้อยของตัวนี้ก็คือเป็นเรื่องของการถ่ายภาพ นอกนั้นถือว่าเยี่ยม!! ก็รับได้และรอได้ เตรียมเงินให้พร้อม และผมว่าเหมาะกับผู้ใช้รุ่นล่างก่อนหน้านี้ที่ต้องการอัพเกรดเป็นรุ่นที่รองรับการใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น หรือต้องการจอที่มีขนาดใหญ่
ซึ่งเราคงได้เห็นตัวจริงกันเร็วๆ นี้ ซึ่งอาจจะได้เห็นตัวจริงราวๆ เดือนพฤศจิกายนี้ล่ะ เพราะตัวนี้น่าจะไม่มีงานเปิดตัวแบบจัดงานใหญ่ๆ คาดว่าจะเป็น Work Shop ทั่วไป เพราะผมได้ยินจากช็อปแห่งหนึ่งมาว่างานเปิดตัวจะเปิดตัว 2 รุ่นใหญ่มือถือและแท็บเล็ตนั่นก็คือ Nokia Lumia 1520 และ Nokia Lumia 2520 จะเกิดขึ้นในช่วงสิ้นปีหรือเดือนธันวาคมนี้ ส่วนใครที่รอสองตัวนี้เดี๋ยวถ้ามีเวลาจะมานั่งวิเคราะห์ให้ได้ดูกันนะครับ
เรียบเรียงโดย
ทีมงาน ThaiLUMIA
ภาพประกอบ/วิดีโอจาก thenextweb, wpcentral
แหล่งที่มา http://bit.ly/17v3HVs