Capital One Cup อาจเป็นถ้วยที่เล็กที่สุดในบรรดาถ้วยอื่นๆในโปรแกรมฟุตบอลอังกฤษ จนถูกตั้งฉายาว่า "ถ้วยมิกกี้เมาส์" เพราะหลายคนมองว่า มันไม่ได้มีความหมายมากมายอะไรนัก เป็นถ้วยที่เหมือนเป็นรางวัลปลอบใจมากกว่า
หลายทีมจึงมักส่งนักเตะสำรองของทีมลงเล่นในรายการนี้
เมื่อคืนมียอดทีมจากลอนดอนทั้ง 2 ทีมโคจรมาเจอกันในถ้วยนี้ กลายเป็นลอนดอนดาร์บี้แมตที่น่าติดตามแมตนึง นั่นคือ อาร์เซนอล และ เชลซี เมื่อเห็นรายชื่อของทั้งสองทีมแล้วก็ไม่ผิดจากที่คิดไว้นัก เพราะทั้ง 2 ทีมเลือกส่งผู้เล่นที่ปกติเป็นสำรองในทีมลงเป็นส่วนใหญ่
เซซาร์ อัซปิลิเกวต้า เป็นนักเตะอีกคนของทีมที่ได้รับคำชมเสมอ "เขาซ้อมหนักกว่าใคร" ไม่ใช่คำพูดที่เกินเลย เพราะหลายครั้งเวลามีการสัมภาษณ์นักเตะภายในทีม หลายคนมักพูดถึงเซซาร์เสมอ ว่าเขายอดเยี่ยม และน่านับถือ แม้เซซาร์จะไม่ใช่ชอยส์แรกของทีม แต่เขาก็เป็นผู้เล่นสำรองที่ไว้ใจได้คนนึง และผลงานเมื่อคืนที่เขาสามารถทำประตูได้ทีมได้ 1 ประตูนั้น ก็ดูเหมือนภาพเดจาวู ของตอเรส ในนัดแข่งกับซิตี้อย่างไรอย่างนั้น
เซซาร์วิ่งตามบอลไปจนถึงกรอบเขตโทษของอาร์เซนอล เจนกินสัน พยายามโหม่งเคลียร์บอลให้ฟาเบียงสกี้ผู้รักษาประตู แต่ทั้งคู่พลาด และ เซซาร์ถึงบอลก่อน ความขยันของ เซซาร์ ทำให้เขาเก็บบอลที่พลาดของผู้เล่นอาเซนอลมาทำประตูจนได้
มาต้าเป็นนักเตะที่มีประเด็นมาตั้งแต่ต้นฤดูกาล เพราะแม้เขาจะเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมและเพอร์เฟคแค่ไหนในฤดูกาลที่แล้ว แต่เมื่อ "เดอะ สเปเชียล วัน" ผู้ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือนมาถึง เขาก็เลือกดรอปมาต้าลูกรักของแฟนบอลและเพื่อนร่วมทีมทันที ด้วยเหตุผลว่า "มันไม่ใช่สไตล์" ไม่ว่าเหตุผลของมูริญโญ่จะเป็นอะไรหรือชวนให้ดราม่าแค่ไหน แต่มาต้าก็ยังยืนยันว่า เขาจะขอต่อสู้เพื่อชิงตำแหน่งตัวจริงกลับมาให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งนั่นอาจเป็นสิ่งที่มูริญโญ่ต้องการเช่นกัน
"อยากได้ก็ต้องมาชิงเอาไป"
มาต้าบอกว่า "ผมจะต่อสู้เพื่อชิงตำแหน่งตัวจริงให้ได้ ด้วยความเคารพผมชอบสวมเสื้อทีมนี้จริงๆ" แม้สไตล์ของมาต้านั้น จะไม่เข้ากับระบบของมูริญโญ่ที่เน้นเกมบุกรวดเร็ว และการสวนกลับที่เร็วกว่า และยังต้องสามารถเล่นเกมรับได้ดีด้วย และมูฯต้องการให้มาต้าปรับตัวเข้ากับระบบของเขาให้ได้ หลายครั้งเราอาจจะเห็นได้ว่า มาต้าดูช้า และไม่ได้ดั่งใจในระบบของมูฯ ซึ่งนั่นอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้มูฯเลือกผู้เล่นแบบที่ ถ้าไม่ถึก/ขยัน ก็ต้อง พลิ้ว/ขยัน แบบ เชอร์เล่ และ ออสกาเป็นตัวจริงแทน
จังหวะที่มาต้าได้ทำประตูแรกของฤดูกาลให้กับทีมและกับตัวเองนั้น เป็นตอนที่เชลซีกำลังทำเกมบุก จากลูกทุ่ม วิลเลียนโหม่งบอลได้ในจังหวะ 2 บอลลอยตกพื้น มาตาที่วิ่งมารออยู่ตรงนั้น จับบอลด้วยเท้าซ้าย รอชาร์จ 1 จังหวะ แล้วตะบันประตูด้วยเท้าขวาข้างที่ไม่ถนัด บอลลอยคว้างผ่านมือฟาเบียงสกี้ไปทางเสาสอง มาต้าเอี้ยวตัวมอง และเห็นว่าเป็นประตูจนได้ เขาวิ่งกลับมาดีใจกับแฟนๆที่ริมสนาม
"ตอนนั้น มันก็แค่เร็วมาก ผมเห็นกองหลังกำลังวิ่งเข้ามาบีบ ผมก็แค่ยิงไปเลย ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตอนยิงไปแล้วผมหลับตาด้วยซ้ำ ... แต่วันนี้ผมรู้สึกยินดีกับเซซาร์จริงๆ เขาสมควรได้รับมันด้วยประการทั้งปวง เขาฝึกหนักว่าใคร เขาสมควรได้ประตูนี้และความชื่นชมทั้งหมดด้วย"
"ผู้จัดการทีมเป็นคนตัดสินใจ และผมเองพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อสโมสร นั่นคือสิ่งที่ผมทำมาตลอด และวันนี้ผมสนุกกับมันนะ และผมรู้สึกภูมิใจกับแฟนๆมากด้วย และอีกครั้ง ผมดีใจกับเซซาร์จริงๆ.."
คงเป็นอีกค่ำคื่นที่เต็มไปด้วยคำยินดี...

ค่ำคืนแห่งความยินดี .. มาต้า เซซาร์ และ เชลซี
หลายทีมจึงมักส่งนักเตะสำรองของทีมลงเล่นในรายการนี้
เมื่อคืนมียอดทีมจากลอนดอนทั้ง 2 ทีมโคจรมาเจอกันในถ้วยนี้ กลายเป็นลอนดอนดาร์บี้แมตที่น่าติดตามแมตนึง นั่นคือ อาร์เซนอล และ เชลซี เมื่อเห็นรายชื่อของทั้งสองทีมแล้วก็ไม่ผิดจากที่คิดไว้นัก เพราะทั้ง 2 ทีมเลือกส่งผู้เล่นที่ปกติเป็นสำรองในทีมลงเป็นส่วนใหญ่
เซซาร์ อัซปิลิเกวต้า เป็นนักเตะอีกคนของทีมที่ได้รับคำชมเสมอ "เขาซ้อมหนักกว่าใคร" ไม่ใช่คำพูดที่เกินเลย เพราะหลายครั้งเวลามีการสัมภาษณ์นักเตะภายในทีม หลายคนมักพูดถึงเซซาร์เสมอ ว่าเขายอดเยี่ยม และน่านับถือ แม้เซซาร์จะไม่ใช่ชอยส์แรกของทีม แต่เขาก็เป็นผู้เล่นสำรองที่ไว้ใจได้คนนึง และผลงานเมื่อคืนที่เขาสามารถทำประตูได้ทีมได้ 1 ประตูนั้น ก็ดูเหมือนภาพเดจาวู ของตอเรส ในนัดแข่งกับซิตี้อย่างไรอย่างนั้น
เซซาร์วิ่งตามบอลไปจนถึงกรอบเขตโทษของอาร์เซนอล เจนกินสัน พยายามโหม่งเคลียร์บอลให้ฟาเบียงสกี้ผู้รักษาประตู แต่ทั้งคู่พลาด และ เซซาร์ถึงบอลก่อน ความขยันของ เซซาร์ ทำให้เขาเก็บบอลที่พลาดของผู้เล่นอาเซนอลมาทำประตูจนได้
มาต้าเป็นนักเตะที่มีประเด็นมาตั้งแต่ต้นฤดูกาล เพราะแม้เขาจะเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมและเพอร์เฟคแค่ไหนในฤดูกาลที่แล้ว แต่เมื่อ "เดอะ สเปเชียล วัน" ผู้ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือนมาถึง เขาก็เลือกดรอปมาต้าลูกรักของแฟนบอลและเพื่อนร่วมทีมทันที ด้วยเหตุผลว่า "มันไม่ใช่สไตล์" ไม่ว่าเหตุผลของมูริญโญ่จะเป็นอะไรหรือชวนให้ดราม่าแค่ไหน แต่มาต้าก็ยังยืนยันว่า เขาจะขอต่อสู้เพื่อชิงตำแหน่งตัวจริงกลับมาให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งนั่นอาจเป็นสิ่งที่มูริญโญ่ต้องการเช่นกัน
"อยากได้ก็ต้องมาชิงเอาไป"
มาต้าบอกว่า "ผมจะต่อสู้เพื่อชิงตำแหน่งตัวจริงให้ได้ ด้วยความเคารพผมชอบสวมเสื้อทีมนี้จริงๆ" แม้สไตล์ของมาต้านั้น จะไม่เข้ากับระบบของมูริญโญ่ที่เน้นเกมบุกรวดเร็ว และการสวนกลับที่เร็วกว่า และยังต้องสามารถเล่นเกมรับได้ดีด้วย และมูฯต้องการให้มาต้าปรับตัวเข้ากับระบบของเขาให้ได้ หลายครั้งเราอาจจะเห็นได้ว่า มาต้าดูช้า และไม่ได้ดั่งใจในระบบของมูฯ ซึ่งนั่นอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้มูฯเลือกผู้เล่นแบบที่ ถ้าไม่ถึก/ขยัน ก็ต้อง พลิ้ว/ขยัน แบบ เชอร์เล่ และ ออสกาเป็นตัวจริงแทน
จังหวะที่มาต้าได้ทำประตูแรกของฤดูกาลให้กับทีมและกับตัวเองนั้น เป็นตอนที่เชลซีกำลังทำเกมบุก จากลูกทุ่ม วิลเลียนโหม่งบอลได้ในจังหวะ 2 บอลลอยตกพื้น มาตาที่วิ่งมารออยู่ตรงนั้น จับบอลด้วยเท้าซ้าย รอชาร์จ 1 จังหวะ แล้วตะบันประตูด้วยเท้าขวาข้างที่ไม่ถนัด บอลลอยคว้างผ่านมือฟาเบียงสกี้ไปทางเสาสอง มาต้าเอี้ยวตัวมอง และเห็นว่าเป็นประตูจนได้ เขาวิ่งกลับมาดีใจกับแฟนๆที่ริมสนาม
"ตอนนั้น มันก็แค่เร็วมาก ผมเห็นกองหลังกำลังวิ่งเข้ามาบีบ ผมก็แค่ยิงไปเลย ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตอนยิงไปแล้วผมหลับตาด้วยซ้ำ ... แต่วันนี้ผมรู้สึกยินดีกับเซซาร์จริงๆ เขาสมควรได้รับมันด้วยประการทั้งปวง เขาฝึกหนักว่าใคร เขาสมควรได้ประตูนี้และความชื่นชมทั้งหมดด้วย"
"ผู้จัดการทีมเป็นคนตัดสินใจ และผมเองพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อสโมสร นั่นคือสิ่งที่ผมทำมาตลอด และวันนี้ผมสนุกกับมันนะ และผมรู้สึกภูมิใจกับแฟนๆมากด้วย และอีกครั้ง ผมดีใจกับเซซาร์จริงๆ.."
คงเป็นอีกค่ำคื่นที่เต็มไปด้วยคำยินดี...