จาก รธน.๕๐ ม.๓๐ (ความเสมอภาค)
บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน
การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลเพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่อง ถิ่นกำเนิดเชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ ความพิการ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นทางการเมืองอันไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ จะกระทำมิได้
มาตรการที่รัฐกำหนดขึ้นเพื่อขจัดอุปสรรคหรือส่งเสริมให้บุคคลสามารถใช้ สิทธิและเสรีภาพได้เช่นเดียวกับบุคคลอื่น ย่อมไม่ถือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมตามวรรคสาม
อาจด้วยความทุรภาพในความเข้าใจ หรือความคิดจากผู้ที่รู้เท่าไม่ถึงการ รวมทั้งประเภท หัวหมอต่อกร ที่มีในศัพท์พื้นบ้าน ก็ได้ที่ทำให้เกิดความลำบากใจในความคิด ถึงความผูกพันธ์ กับ พรบ.นิรโทษกรรมเลื่อนเล๊อะลงไป
-------------------------------------------------------------------------------------------
๑.) กฎหมาย “อาญา” ที่มีการบังคับใช้เสมอภาค ต่อบุคคลทั้งหลายภายใต้ รธน. ถ้าจะเอาลักษณะ “พรบ.นิรโทษกรรม” มายึดเป็นระดับ กฎหมายทั่วไป ไม่ใช่กฎหมายเฉพาะการ เพื่อให้มีการบังคับใช้เสมอภาค ก็จะบังเกิดข้อขัดแย้ง ในกฎหมายอาญาในขณะบังคับใช้โดยทันที เพราะกฎหมายอาญา มิได้มีข้อจำกัดยกเว้นถึงที่มาของกรรม อย่างเช่น “กรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมืองหรือการแสดงออกทางการเมือง” เพื่อให้เป็นไปตาม รธน.๕๐ ม.๓๐ ก็จะหมายถึงว่า “คดีอาญาทั้งหลาย” ที่บังเกิดขึ้นในช่วงขณะที่ พรบ.นิรโทษกรรม มีผลบังคับใช้ โดยที่จะให้ไม่เข้าข่าย เป็นการเลือกปฎิบัติ ต้องได้รับ “นิรโทษ” เสมอภาคโดยทั้งหมด ครับ
๒.) แต่ถ้า พรบ.นิรโทษกรรม หมายถึง กฏหมายเฉพาะการ อย่างเช่น พรบ.บริหารราชการในสถานะการฉุกเฉิน อันเป็นสิทธิอำนาจโดย รธน.๕๐ ที่ฝ่ายนิติบัญญัติ สามารถใช้มติส่วนใหญ่ให้มาบังคับเฉพาะการ (๑. ช่วงเวลา จาก...ถึง ๒. ลักษณะคดีอาญาที่มีข้อเกี่ยวพันกับการเมือง ๓. ผู้กระทำผิด) ข้อจำกัดเหล่านี้ ไม่สามารถเรียกร้องหรือใช้สิทธิให้เป็นไปตาม รธน.๕๐ ม.๓๐ ได้ เพราะสิทธิอำนาจที่ระบุไว้ใน รธน.๕๐ แยกบทเฉพาะการรองรับอยู่แล้ว ครับ
๓.) ในขณะเดียวกัน ก็เป็นการก้าวก่าย “กระบวนการยุติธรรมของกฎหมายอาญา” และจะทำให้ ผู้ที่ยังมิได้ถูกพิพากษา ในคดีนั้นๆ กรายเป็น ผู้กระทำผิด อันผิดต่อ รธน.๕๐ ม.๓๐ อย่างเช่น ผู้ที่ถูกจองจำโดยไม่ได้รับสิทธิ์ประกันตัว หรือการพิจารณาคดี ของ ศาลฎีกาแผนกคดีนักการเมือง เป็นต้น บุคคลเหล่านี้ ยังถือไม่ได้ว่า เป็นผู้กระทำผิดเพราะ ยังไม่มีคำพิพากษาตามกระบวนการยุติธรรมปรกติ นั่นเอง ครับ
๔.) ในกรณี การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อ “บุคคล” ที่ระบุเอาไว้ใน รธน.๕๐ ม.๓๐ หมายถึง ความแตกต่างในเรื่อง ถิ่นกำเนิดเชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ ความพิการ สภาพทางกาย หรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจ หรือสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นทางการเมืองอันไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ จะกระทำมิได้ แต่ในฐานะสภาพ ของการเป็น ข้าราชการ หรือ เจ้าหน้าที่รัฐ เป็นการให้สิทธิเฉพาะบุคคลและเฉพาะการ อย่างเช่น จนท.ตำรวจ หรือ ศาล ในขณะปฎิบัติหน้าที่ราชการ เป็นต้น ฉนั้นการกระทำใดๆ ในกรอบของการปฎิบัติหน้าที่ได้รับสิทธิอำนาจคุ้มครองอยู่แล้ว อันเป็นเหตุที่ไม่อยู่ใน รธน.๕๐ ม.๓๐ ฉนั้นเมื่อมีการใช้ กฏหมายเฉพาะการ สำหรับบุคคล จึงไม่มีเหตุผลใด ที่จะให้ผลครอบคุมถึง บุคคลที่ใช้สิทธิอำนาจในการปฎิบัติหน้าที่ ครับ
๕.) ในกรณี การกระทำความผิดในสิทธิอำนาจหรือหน้าที่ ของ จนท.รัฐ ไม่ว่าจะเป็นด้วยลักษณะ ปฎิบัติหรือล๊ะเว้น หรือโดยอาศัยลุแก่สิทธิอำนาจ เป็นการกระทำของบุคคล ที่อยู่ในขณะสถานะภาพของ จนท.รัฐ ฉนั้นถ้ามีการใช้ กฏหมายเฉพาะการ (พรบ.นิรโทษกรรม) ที่ครอบคุมถึง จนท.รัฐ จะทำให้เกิดกรณีขาดความเสมอภาค กับ จนท.รัฐ ที่ปฎิบัติหน้าที่ตามกรอบสิทธิอำนาจ ครับ
อันหมายถึงว่า พรบ.นิรโทษกรรม ที่เป็นลักษณะกฎหมายเฉพาะการ ถ้าจะตีความยึดโยงกับ กฎหมายทั่วไป ตาม รธน.๕๐ ม.๓๐ มีเหตุผลมากหลายที่จะอ้างอิงถึงความไม่ชอบธรรม โดยปริยายอยู่แล้วฉนั้นไม่ว่า เนื้อหาในการลงมติจะออกมาในลักษณะใด ถ้าจะหาเหตุผลให้เป็นความผิด หรือมิชอบธรรม ตาม รธน.๕๐ ม.๓๐ ก็สามารถกระทำได้ แต่ถ้าจะยึดตามลักษณะ ของกฏหมายเฉพาะการ อาจมีข้อจำเพาะเจาะจงอย่าง พรบ.นิรโทษกรรม ร่าง สส.วรชัย เหมะ ก็จะมีความชอบธรรมในตัว และสามารถลงมติประกาศใช้ได้ (สิทธิอำนาจนิติบัญญัติ) ครับ
ในเมื่อ “เขาจะหามหมู ก็ไม่ควรเอาคานเข้าไปสอด” เพราะการเมืองก็คือการเมือง ถูกใหมครับ ไม่ใช่ พรบ.นิรโทษ คือตัวปัญหา แต่น่าจะอยู่ที่การสร้างความแตกแยก ในกลุ่มเสื้อแดง เพื่อง่ายขึ้นสำหรับโค่นล้ม รบ. ทางที่ดีในเมื่อ พรบ.นิรโทษกรรม เป็นเด็กตายในคัลก่อนเกิดอยู่แล้ว เพียงแต่ให้คลอดเป็นพิธีเท่านั้น ควรทำอย่างไรก็ได้ให้ ผนังทองแดงกำแพงเหล็ก โดยไม่ตามกระแสละครการเมือง ให้คงอยู่ในสภาพมั่นคงที่สุด ครับ
เส้นทางของ การหลับตา หาทางออกจาก พรบ.นิรโทษกรรม
บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน
การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลเพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่อง ถิ่นกำเนิดเชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ ความพิการ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นทางการเมืองอันไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ จะกระทำมิได้
มาตรการที่รัฐกำหนดขึ้นเพื่อขจัดอุปสรรคหรือส่งเสริมให้บุคคลสามารถใช้ สิทธิและเสรีภาพได้เช่นเดียวกับบุคคลอื่น ย่อมไม่ถือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมตามวรรคสาม
อาจด้วยความทุรภาพในความเข้าใจ หรือความคิดจากผู้ที่รู้เท่าไม่ถึงการ รวมทั้งประเภท หัวหมอต่อกร ที่มีในศัพท์พื้นบ้าน ก็ได้ที่ทำให้เกิดความลำบากใจในความคิด ถึงความผูกพันธ์ กับ พรบ.นิรโทษกรรมเลื่อนเล๊อะลงไป
-------------------------------------------------------------------------------------------
๑.) กฎหมาย “อาญา” ที่มีการบังคับใช้เสมอภาค ต่อบุคคลทั้งหลายภายใต้ รธน. ถ้าจะเอาลักษณะ “พรบ.นิรโทษกรรม” มายึดเป็นระดับ กฎหมายทั่วไป ไม่ใช่กฎหมายเฉพาะการ เพื่อให้มีการบังคับใช้เสมอภาค ก็จะบังเกิดข้อขัดแย้ง ในกฎหมายอาญาในขณะบังคับใช้โดยทันที เพราะกฎหมายอาญา มิได้มีข้อจำกัดยกเว้นถึงที่มาของกรรม อย่างเช่น “กรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมืองหรือการแสดงออกทางการเมือง” เพื่อให้เป็นไปตาม รธน.๕๐ ม.๓๐ ก็จะหมายถึงว่า “คดีอาญาทั้งหลาย” ที่บังเกิดขึ้นในช่วงขณะที่ พรบ.นิรโทษกรรม มีผลบังคับใช้ โดยที่จะให้ไม่เข้าข่าย เป็นการเลือกปฎิบัติ ต้องได้รับ “นิรโทษ” เสมอภาคโดยทั้งหมด ครับ
๒.) แต่ถ้า พรบ.นิรโทษกรรม หมายถึง กฏหมายเฉพาะการ อย่างเช่น พรบ.บริหารราชการในสถานะการฉุกเฉิน อันเป็นสิทธิอำนาจโดย รธน.๕๐ ที่ฝ่ายนิติบัญญัติ สามารถใช้มติส่วนใหญ่ให้มาบังคับเฉพาะการ (๑. ช่วงเวลา จาก...ถึง ๒. ลักษณะคดีอาญาที่มีข้อเกี่ยวพันกับการเมือง ๓. ผู้กระทำผิด) ข้อจำกัดเหล่านี้ ไม่สามารถเรียกร้องหรือใช้สิทธิให้เป็นไปตาม รธน.๕๐ ม.๓๐ ได้ เพราะสิทธิอำนาจที่ระบุไว้ใน รธน.๕๐ แยกบทเฉพาะการรองรับอยู่แล้ว ครับ
๓.) ในขณะเดียวกัน ก็เป็นการก้าวก่าย “กระบวนการยุติธรรมของกฎหมายอาญา” และจะทำให้ ผู้ที่ยังมิได้ถูกพิพากษา ในคดีนั้นๆ กรายเป็น ผู้กระทำผิด อันผิดต่อ รธน.๕๐ ม.๓๐ อย่างเช่น ผู้ที่ถูกจองจำโดยไม่ได้รับสิทธิ์ประกันตัว หรือการพิจารณาคดี ของ ศาลฎีกาแผนกคดีนักการเมือง เป็นต้น บุคคลเหล่านี้ ยังถือไม่ได้ว่า เป็นผู้กระทำผิดเพราะ ยังไม่มีคำพิพากษาตามกระบวนการยุติธรรมปรกติ นั่นเอง ครับ
๔.) ในกรณี การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อ “บุคคล” ที่ระบุเอาไว้ใน รธน.๕๐ ม.๓๐ หมายถึง ความแตกต่างในเรื่อง ถิ่นกำเนิดเชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ ความพิการ สภาพทางกาย หรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจ หรือสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นทางการเมืองอันไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ จะกระทำมิได้ แต่ในฐานะสภาพ ของการเป็น ข้าราชการ หรือ เจ้าหน้าที่รัฐ เป็นการให้สิทธิเฉพาะบุคคลและเฉพาะการ อย่างเช่น จนท.ตำรวจ หรือ ศาล ในขณะปฎิบัติหน้าที่ราชการ เป็นต้น ฉนั้นการกระทำใดๆ ในกรอบของการปฎิบัติหน้าที่ได้รับสิทธิอำนาจคุ้มครองอยู่แล้ว อันเป็นเหตุที่ไม่อยู่ใน รธน.๕๐ ม.๓๐ ฉนั้นเมื่อมีการใช้ กฏหมายเฉพาะการ สำหรับบุคคล จึงไม่มีเหตุผลใด ที่จะให้ผลครอบคุมถึง บุคคลที่ใช้สิทธิอำนาจในการปฎิบัติหน้าที่ ครับ
๕.) ในกรณี การกระทำความผิดในสิทธิอำนาจหรือหน้าที่ ของ จนท.รัฐ ไม่ว่าจะเป็นด้วยลักษณะ ปฎิบัติหรือล๊ะเว้น หรือโดยอาศัยลุแก่สิทธิอำนาจ เป็นการกระทำของบุคคล ที่อยู่ในขณะสถานะภาพของ จนท.รัฐ ฉนั้นถ้ามีการใช้ กฏหมายเฉพาะการ (พรบ.นิรโทษกรรม) ที่ครอบคุมถึง จนท.รัฐ จะทำให้เกิดกรณีขาดความเสมอภาค กับ จนท.รัฐ ที่ปฎิบัติหน้าที่ตามกรอบสิทธิอำนาจ ครับ
อันหมายถึงว่า พรบ.นิรโทษกรรม ที่เป็นลักษณะกฎหมายเฉพาะการ ถ้าจะตีความยึดโยงกับ กฎหมายทั่วไป ตาม รธน.๕๐ ม.๓๐ มีเหตุผลมากหลายที่จะอ้างอิงถึงความไม่ชอบธรรม โดยปริยายอยู่แล้วฉนั้นไม่ว่า เนื้อหาในการลงมติจะออกมาในลักษณะใด ถ้าจะหาเหตุผลให้เป็นความผิด หรือมิชอบธรรม ตาม รธน.๕๐ ม.๓๐ ก็สามารถกระทำได้ แต่ถ้าจะยึดตามลักษณะ ของกฏหมายเฉพาะการ อาจมีข้อจำเพาะเจาะจงอย่าง พรบ.นิรโทษกรรม ร่าง สส.วรชัย เหมะ ก็จะมีความชอบธรรมในตัว และสามารถลงมติประกาศใช้ได้ (สิทธิอำนาจนิติบัญญัติ) ครับ
ในเมื่อ “เขาจะหามหมู ก็ไม่ควรเอาคานเข้าไปสอด” เพราะการเมืองก็คือการเมือง ถูกใหมครับ ไม่ใช่ พรบ.นิรโทษ คือตัวปัญหา แต่น่าจะอยู่ที่การสร้างความแตกแยก ในกลุ่มเสื้อแดง เพื่อง่ายขึ้นสำหรับโค่นล้ม รบ. ทางที่ดีในเมื่อ พรบ.นิรโทษกรรม เป็นเด็กตายในคัลก่อนเกิดอยู่แล้ว เพียงแต่ให้คลอดเป็นพิธีเท่านั้น ควรทำอย่างไรก็ได้ให้ ผนังทองแดงกำแพงเหล็ก โดยไม่ตามกระแสละครการเมือง ให้คงอยู่ในสภาพมั่นคงที่สุด ครับ