ก่อนเข้าเรื่อง ขอเกริ่นนิดนึง เพื่อเข้าใจแบคกราวนด์ครับ
ผมเคยก่อหนี้จากบัตรเครดิตไว้เมื่อหลายปีก่อนด้วยเหตุผลส่วนตัว ตอนน้ันผมมีบัตรอยู่หลายใบมาก เนื่องจากเคยช่วยเพื่อนทำพร้อมกันไว้หลายใบ แต่ตอนใช้ก็ใช้อยู่แค่บางใบเท่านั้น
แต่พอมีเรื่องจำเป็นอย่างมากของทางบ้าน แม่ผมเป็นหนี้นอกระบบดอกเบี้ยร้อยละ 5-10 ต่อเดือนและมาเจอปัญหากิจการค้าขายหยุดชะงักหลายเดือนเนื่องจากห้างเก่าปิดตัว โดนซื้อกิจการทำห้างใหม่ ไม่มีที่ขายของ รายได้หายไป 3-4 เท่า แต่ต้องส่งดอกหนักทุกเดือน (เงินต้น 2-3 แสน) ไม่มีทางออกต้องกู้เงินเขาเพิ่มเพื่อมาวนจ่ายสภาพคล่อง
พอห้างใหม่เปิด จะเข้าไปขายก็ต้องเสียค่าเข้าห้างทำร้านอีกหลักแสน ก็ต้องกู้อีก และหนักกว่านั้นคือพอห้างใหม่เปิดคิดว่าจะขายดี แต่ตรงกันข้ามขายได้น้อยกว่าเดิมครึ่งๆ อาจจะเพราะห้างใหม่มีของกินให้เป็นทางเลือกเยอะกว่า (เดิมเป็นห้างท้องถิ่น)
กลายเป็นจากยอดหนี้เพิ่มเป็น 4 แสนกว่า ต้องจ่ายดอกหนักขึ้น แต่รายได้น้อยลง ตกอยู่ในภาวะเครียดมาก
ตอนนั้นผมไม่มีทางออกเลยใช้วิธีกดเงินสดจากวงเงินบัตรของทุกใบทั้งบัตรเครดิตและบัตรเงินสดเอามาปิดหนี้นอกระบบทั้งหมดทิ้งหมดเลย แต่สุดท้ายแล้วผมก็วนจ่ายของแต่ละใบต่อไปได้ไม่นานก็ไม่ไหว จึงหยุดชำระไป และโดนฟ้องจบไปบางเคส
มาตอนนี้ผมมีกำลังพอที่จะชำระหนี้แล้ว และที่ผ่านมาผมชำระไปแล้วบางที TMB , K-Bank, HSBC และยังเหลืออีกหลายที่ที่ผมจะตามชำระปิดทีละที่ แต่ขอชำระรายที่ฟ้องจบไปแล้วก่อน
เข้าเรื่องครับ
ผมมีคำถามอยากจะปรึกษา
ตามที่ทุกท่านทราบดีว่า เมื่อหนี้เสียไปแล้ว และคดีเกินอายุความฟ้องร้อง ทางผู้ติดตามหนี้จะยอมตกลงให้ชำระเป็นเงินก้อนที่ต่ำ เพื่อปิดจบ เนื่องจาก ได้น้อยดีกว่าไม่ได้เลย
เช่น บางแบงค์ ผมอาจจะมียอดเงินต้นของบัตรที่ 40k และถ้ารวมดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าทวงถามดำเนินการ อาจจะรวมแล้ว 70k
ทางผู้ติดตามหนี้ ซึ่งเป็นพวกสนง.กฏหมายที่รับทวงหนี้ต่อจากธนาคารอีกทีอาจจะเสนอให้ผมที่ต่ำกว่าเงินต้น เช่น 25k
แต่ถ้าผมอยากชำระที่ 40k ผมสงสัยว่าเงินที่ผมยินดีจ่ายเพิ่มนี้มันจะเข้าธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้ผมจริงๆ หรือเปล่าครับ
เพราะเหมือนได้ยินมาว่า พวกสนง.งานติดตามหนี้เหล่านี้ ซื้อเคสมาจากธนาคารอีกที ถ้าเขาทวงได้เยอะเขาก็ได้เยอะ แต่ธนาคารขายสิทธิในการทวงหนี้นั้นให้เขาเป็นเงินก้อนตายตัวไปแล้ว
ไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมได้ยินมาถูกหรือเปล่า
ท่านใดพอทราบไหมครับ
อยากรู้วิธีการชำระหนี้บัตรเครดิตที่กลายเป็นหนี้เสียไปแล้ว ผมกำลังพยายามตามชำระเจ้าหนี้ทุกรายอยู่ครับ
ผมเคยก่อหนี้จากบัตรเครดิตไว้เมื่อหลายปีก่อนด้วยเหตุผลส่วนตัว ตอนน้ันผมมีบัตรอยู่หลายใบมาก เนื่องจากเคยช่วยเพื่อนทำพร้อมกันไว้หลายใบ แต่ตอนใช้ก็ใช้อยู่แค่บางใบเท่านั้น
แต่พอมีเรื่องจำเป็นอย่างมากของทางบ้าน แม่ผมเป็นหนี้นอกระบบดอกเบี้ยร้อยละ 5-10 ต่อเดือนและมาเจอปัญหากิจการค้าขายหยุดชะงักหลายเดือนเนื่องจากห้างเก่าปิดตัว โดนซื้อกิจการทำห้างใหม่ ไม่มีที่ขายของ รายได้หายไป 3-4 เท่า แต่ต้องส่งดอกหนักทุกเดือน (เงินต้น 2-3 แสน) ไม่มีทางออกต้องกู้เงินเขาเพิ่มเพื่อมาวนจ่ายสภาพคล่อง
พอห้างใหม่เปิด จะเข้าไปขายก็ต้องเสียค่าเข้าห้างทำร้านอีกหลักแสน ก็ต้องกู้อีก และหนักกว่านั้นคือพอห้างใหม่เปิดคิดว่าจะขายดี แต่ตรงกันข้ามขายได้น้อยกว่าเดิมครึ่งๆ อาจจะเพราะห้างใหม่มีของกินให้เป็นทางเลือกเยอะกว่า (เดิมเป็นห้างท้องถิ่น)
กลายเป็นจากยอดหนี้เพิ่มเป็น 4 แสนกว่า ต้องจ่ายดอกหนักขึ้น แต่รายได้น้อยลง ตกอยู่ในภาวะเครียดมาก
ตอนนั้นผมไม่มีทางออกเลยใช้วิธีกดเงินสดจากวงเงินบัตรของทุกใบทั้งบัตรเครดิตและบัตรเงินสดเอามาปิดหนี้นอกระบบทั้งหมดทิ้งหมดเลย แต่สุดท้ายแล้วผมก็วนจ่ายของแต่ละใบต่อไปได้ไม่นานก็ไม่ไหว จึงหยุดชำระไป และโดนฟ้องจบไปบางเคส
มาตอนนี้ผมมีกำลังพอที่จะชำระหนี้แล้ว และที่ผ่านมาผมชำระไปแล้วบางที TMB , K-Bank, HSBC และยังเหลืออีกหลายที่ที่ผมจะตามชำระปิดทีละที่ แต่ขอชำระรายที่ฟ้องจบไปแล้วก่อน
เข้าเรื่องครับ
ผมมีคำถามอยากจะปรึกษา
ตามที่ทุกท่านทราบดีว่า เมื่อหนี้เสียไปแล้ว และคดีเกินอายุความฟ้องร้อง ทางผู้ติดตามหนี้จะยอมตกลงให้ชำระเป็นเงินก้อนที่ต่ำ เพื่อปิดจบ เนื่องจาก ได้น้อยดีกว่าไม่ได้เลย
เช่น บางแบงค์ ผมอาจจะมียอดเงินต้นของบัตรที่ 40k และถ้ารวมดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าทวงถามดำเนินการ อาจจะรวมแล้ว 70k
ทางผู้ติดตามหนี้ ซึ่งเป็นพวกสนง.กฏหมายที่รับทวงหนี้ต่อจากธนาคารอีกทีอาจจะเสนอให้ผมที่ต่ำกว่าเงินต้น เช่น 25k
แต่ถ้าผมอยากชำระที่ 40k ผมสงสัยว่าเงินที่ผมยินดีจ่ายเพิ่มนี้มันจะเข้าธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้ผมจริงๆ หรือเปล่าครับ
เพราะเหมือนได้ยินมาว่า พวกสนง.งานติดตามหนี้เหล่านี้ ซื้อเคสมาจากธนาคารอีกที ถ้าเขาทวงได้เยอะเขาก็ได้เยอะ แต่ธนาคารขายสิทธิในการทวงหนี้นั้นให้เขาเป็นเงินก้อนตายตัวไปแล้ว
ไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมได้ยินมาถูกหรือเปล่า
ท่านใดพอทราบไหมครับ