ภาษีคนตาย... (Dead Tax)

สวัสดีพ่อแม่พี่น้องทุกท่านครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบเรื่องการลงทุน เรื่อยไปจนถึงทุกเรื่องทุกราวที่เกี่ยวข้องกับ Wealth วันนี้ผมมีเรื่องเกี่ยวกับ "ภาษีคนตาย" ที่จะมาแบ่งปันให้กับทุกท่าน

ภาษีคนตาย เราทุกคนรู้จักดีในชื่อ ภาษีมรดก ซึ่งเป็นการจัดเก็บภาษีของสินทรัพย์ทั้งหมดของผู้ตาย ก่อนจะตกทอดไปยังลูกๆหลานๆ ในแต่ละ gen... ต่างประเทศมีการบังคับใช้ภาษีคนตายมาหลายสิบปีแล้วครับ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ สหรัฐอเมริกา รู้มั้ยครับว่าอเมริกาเนี่ย มีการจัดเก็บภาษีมรดกโดยมี rate สูงสุดที่ 46% ของมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดเลยทีเดียว คิดเป็บเกือบๆครึ่งนึงของมรดก นับว่าเยอะมว๊ากก !!! ด้วยเหตุนี้เอง เราจึงมักได้ยินข่าวบ่อยๆว่า เศรษฐีคนนู้นน คนนี้ของอเมริกา ประกาศบริจาคทรัพย์สินมากมายให้แก่การกุศล ส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากกลไกด้านภาษีของอเมริกานี่แหละครับ ยกตัวอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ อภิมหาเศรษฐีอันดับต้นๆของโลก จะบริจาคเงินร้อยละ 85 จากที่มีอยู่ทั้งหมด 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่องค์กรการกุศล ซึ่งเงินบริจาคส่วนใหญ่จะตกไปเป็นของมูลนิธิบิลและเมลินดา เกตส์ (Bill amp; Melinda Gates Foundation) มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก ที่เป็นเพื่อนสนิทของบัฟเฟตต์ เพื่อใช้ในการสนับสนุนการค้นคว้าทางการแพทย์และการให้ทุนการศึกษา

ประเทศไทยนั้นเคยมีการจัดเก็บภาษีมรดกบตั้งแต่ปีพ.ศ. 2476 แต่ภายหลังได้ยกเลิกภาษีดังกล่าวในปี พ.ศ. 2487 โดยเหตุผลในการยกภาษีเนื่องจากมีความซ้ำซ้อน และมีการหลีกเลี่ยงภาษีครับ
โดยการยกเลิกการจัดเก็บภาษีตอนปีนั้น มีประเด็นที่ถกเถียงกันอยู่หลักๆคือ ภาษีมรดกทำให้การออมและการลงทุนลดลง ประเด็นนี้ถูกมองว่า การที่มีภาษีมรดกจะทำให้เกิดแรงจูงใจในการใช้จ่ายมากกว่าที่จะเก็บออมไว้เนื่องจากการเก็บออมไว้ในท้ายที่สุดจะถูกเก็บภาษีมรดก ดังนั้นหากไม่มีการเก็บภาษีมรดก จะส่งผลให้ประชาชนมีการเก็บออมไว้มากขึ้น เช่นเดียวกับการลงทุนที่ประชาชนจะมีแนวโน้มที่จะลดการลงทุน ซึ่งถือเป็นการเพิ่มมูลค่าของสินทรัพย์

นอกจากนี้ยังมีประเด็นอื่นๆเช่น ภาษีมรดกทำให้ส่งผลเสียต่อภาคธุรกิจขนาดเล็ก และมีการจัดเก็บภาษีที่ซ้ำซ้อนกับภาษีเงินได้ ซึ่งประเด็นต่างๆที่ผมบอกไป เป็นประเด็นที่ฝ่ายคัดค้านภาษีมรดกกล่าวไว้

ในส่วนของผู้ที่สนับสนุนภาษีมรดกนั้น ก็ได้ให้ความเห็นว่าภาษีมรดกมีข้อดีมากกว่าข้อเสียคือ
(1)ช่วยให้ประชาชนในสังคมมีโอกาสทางเศรษฐกิจเสมอภาคและลดความได้เปรียบทางเศรษฐกิจ
(2)เป็นภาษีทางตรง ผู้เสียภาษีจะผลักภาษีไม่ได้ ทำให้เกิดความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจแก่ประชาชน
(3)ทำให้เกิดการกระจายความมั่งคั่ง โดยกระจายทรัพย์สินให้แก่ญาติพี่น้องหรือสาธารณะกุศล ซึ่งเป็นการลดช่องว่างระหว่างคนร่ำรวยกับผู้มีรายได้น้อย
(4)เป็นเหตุจูงใจให้เจ้าของมรดกทำงานหรือขยายการลงทุนเพิ่มขึ้น เพื่อเตรียมเงินไว้ให้ทายาทเสียภาษีมรดก
(5)เป็นเหตุจูงใจให้ผู้รับมรดกมีความรู้สึกว่าต้องพึ่งตนเองในการทำงานหรือลงทุนเพิ่มขึ้นโดยไม่มุ่งมรดกอย่างเดียว เนื่องจากต้องเสียภาษีมรดก

ซึ่งผมเองก็เห็นด้วยกับหลายๆข้อ หากประเทศไทยจะมีการจัดเก็บภาษีนี้ โดยมีภาษีมรดกที่จัดเก็บในอัตราภาษีและมีเงื่อนไขการจัดเก็บที่เหมาะสม อาจจะช่วยให้เกิดสถานการณ์ที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ ส่วนหนึ่งซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ผมเห็นด้วยกับภาษีมรดกนั้นคือการลดความเลื่อมล้ำทางสังคม อย่างที่เห็นจากตัวอย่างที่ผมได้บอกไว้ตอนต้น เรื่องของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ด้วยการที่บริจาคเงินให้แก่สาธารณะกุศล ผมว่ามันสามารถนำเงินส่วนนั้น ไปช่วยเหลือผู้อื่นที่ยังขาดโอกาสได้อีกมาก นอกจากนี้ยังเป็นกลไก ที่ทำให้คนเราอยากจะสร้าง wealth ด้วยตัวเองมากขึ้น #ลูกแม่หน่อง#ดอยจังแก

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่