MV ตัวนี้ บอกว่าสร้างมาจากเรื่องจริงของดารา แต่อยากจะบอกว่ามันคล้ายเรื่องของผมมากครับ...
ผมเพิ่มมีโอกาสได้ดูเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทางช่อง one ผมดูแล้วรู้สึกแย่ ความทรงจำเดิมๆย้อนกลับมา
เลยอยากมาระบาย ผมรู้ว่าเธอเล่นเวบนี้อยู่ เธอมักแชร์เรื่องราวกระทู้ในเวบนี้บ่อยใน facebook
ผ่านมาเป็นสิบปีแล้วครับ ตอนนั้นผมกับเธอก็เป็นเพื่อนกันสมัยเรียนมหาวิทยาลัยเหมือนในมิวสิคเพลงแหละครับ เราเป็นเืพื่อนกัน
เธอเป็นคนคุยสนุก และหน้าตาดี ไม่แปลกที่จะมีคนชอบเธอหลายคน แต่เธอก็เปิดตัวมาตลอดว่ามีแฟนแล้วเป็นผู้ชายที่เธอคบมานาน
เธอเคยบอกว่าแฟนเธอเป็นพี่ที่เธอรู้จักตั้งแต่เด็กๆ เธอแอบชอบพี่เค้ามาตั้งแต่เรียนประถม เรียกว่ารักเขามากเลยทีเดียว
เอาจริงๆ ตอนแรกผมไม่เคยคิดชอบเธอ คงเป็นเพราะความอยากเอาชนะของผม ผมเลยอยากลองจีบเธอดู
เพราะก็มั่นใจพอสมควรว่าผมเองก็ไม่ได้หน้าตาแย่ไปซะทีเดียว แต่ตามหยอดเธอไปๆมาๆ ผมดันรักเธอซะเอง
ผมกับเธอเป็นเพื่อน...ที่รู้สึกดีต่อกัน เราไม่เคยเป็นแฟนกัน เพราะเธอมีแฟนอยู่แล้ว เธอรักแฟนเธอมากครับ เฮ้อออ
ผมเคยบอกชอบเธอไป เธอขอบคุณ และตอบมาเพียงว่าเธอบอกว่าเธอก็รู้สึกดีกับผม
ผมไม่รู้หรอก ไอ้คำว่ารู้สึกดี มันเป็นแบบไหน เธอชอบผมบ้างไหม หรือว่าเธอชอบผม แต่ติดที่เธอมีแฟนอยู่แล้ว เลยคบกันไม่ได้
ความสัมพันธ์ของเราก็ดำเนินแบบบอกไ่ม่ถูกเช่นนี้เรื่อยมาจนเราเรียนจบ และแยกย้ายกันไปทำงานครับ
ผมไปเรียนต่อ ส่วนเธอได้งานที่เธอรักทำ ตอนนั้นเรายังคงคุยกันผ่านทาง msn เสมอๆ
ผมเสแสร้งว่าไม่ได้สนใจเธอแล้วด้วยการใช้รูปคู่กับสาวมากหน้าหลายตาเป็นโปรไฟล์ ผมคบผู้หญิงพวกนั้น
ตั้งใจว่าอีกหน่อยคงเจอคนที่ใช่ แต่พอได้คุยกับเธอ ผมก็เหมือนโดนดึงกลับไปที่ความรู้สึกเดิมๆอีกครั้ง
5 ปีผ่านไป ผมเรียนจบ และได้ข่าวว่าเธอกำลังจะแต่งงาน กับแฟนของเธอคนนั้นที่คบมานาน
ผมเคยคิดนะ ว่าถ้าเธอเลิกกับแฟนเธอ เธอคงหันมาคบกับผม ผมพยายามทุกทางให้ทางนั้นเหมือนจะหึง
แต่ทางนั้นเขามีความเป็นผู้ใหญ่มากครับ และเธอก็คงรักเขามาก จนผมยอมแพ้ ผมคิดว่าอีกหน่อยผมคงเจอคนที่ใช่
เรื่องที่เธอจะแต่งงาน ผมเป็นคนสุดท้ายที่รู้เรื่อง ทั้งๆที่เราติดต่อพูดคุยกันแทบทุกวัน
ผมมีโอกาสเจอเธออีกครั้งก่อนเธอจะแต่งงานในงานเลี้ยงรุ่น
ผมรวบรวมความกล้าบอกรักเธออีกครั้ง และหน้าด้านขอให้เธอยกเลิกงานแต่งงาน แน่นอนครับเธอปฏิเสธ
ผมไปร่วมงานแต่งงานของเธอด้วยความรู้สึกแย่ ผิดหวัง เศร้า อิจฉา เกลียด ปนเปกันไปหมด แต่ก็ต้องยิ้มแสดงความดีใจ
หลังจากแต่งงาน เราแทบไม่มีโอกาสได้คุยกันเลย เธอมีความสุขกับชีวิตคู่มาก จนลืมผมไปแล้วมั้ง
ไม่นานจากนั้นผมตัดสินใจใช้ชีวิตคู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ด้วยหลายเรื่องที่เราไม่สามารถเข้ากันได้ ผมและอดีตภรรยา
ตัดสินใจหย่ากันหลังแต่งงานแค่เพียง 2 ปี เราไม่มีลูกด้วยกันครับ เราจากกันด้วยดี ตอนนี้เธอแต่งงานใหม่ มีลูกที่น่ารักแล้ว
ส่วนผมก็ใช้ชีวิตต่อไป ทำงาน ไปเที่ยวเฮฮากับเพื่อน คบสาวๆ
สนุกสนานไปวันๆ คิดแค่เพียงทำอย่างไรก็ได้ให้มีความสุข ตอนนั้นผมแทบลืมเธอไปแล้วจริงๆ
เพื่อนของผมทยอยแต่งงานมีลูกกันไปเกือนจะหมดทุกคนแล้ว แต่เธอ คนที่ผมเคยรัก
เธอแต่งงานเป็นคนแรกๆของรุ่น เธอยังไม่มีลูกครับ ได้ข่าวจากเพื่อนหลายคนบอกว่า เธอพยายามมีลูกด้วยการไปพบหมอ
ให้ผสมเทียมให้ รวมถึงการทำเด็กหลอดแก้ว เพราะสามีของเธอเชื้อไม่แข็งแรง แต่ไม่เคยสำเร็จ
หลังจากฟัง ผมไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายอะไรกับข่าวนี้ ...
ผมและเธอได้เจอกันอีกครั้งในงานแต่งงานของเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งจัดงานที่ต่างจังหวัด เธอมาคนเดียว สามีของเธอไม่ได้มาด้วย
หลังจากเราส่งตัวบ่าวสาวเสร็จ เพื่อนๆในรุ่นก็ชวนไปปาร์ตี้ต่อที่ผับชื่อดังในจังหวัดนั้น เธอกับผมได้คุยกันมากขึ้น หลังจากไม่ได้คุยกันนาน
เธอขอให้ผมพาเธอกลับไปส่งยังที่พักที่โรงแรม ที่บ่าวสาวจองไว้ให้เพื่อนๆพัก เนื่องจากปวดหัว
ผมและเธอเลยปลีกตัวออกมาจากเพื่อนกลุ่มใหญ่ ผมพาเธอไปส่งที่ห้อง เธอมองตาผม และถามผมว่ายังรักเธออยู่ไหม
ผมบอกว่าผมยังหวังดีกับเธอเสมอ เธอกอดและหมอแก้มผม และด้วยความเหงา ความเมา ผสมกับความหลัง ...ในคืนนั้นเรามีอะไรกันครับ
วันต่อมาเธอทำตัวปกติ และยิ้มให้ผม ผมมีความสุขมาก คิดว่าไม่นานเธอคงจะมาคบกับผม เพราะเธอคงเหนื่อยกับสามีของเธอเต็มที
ผมส่งข้อความหาเธอผ่านไลน์บ่อยขึ้น ชวนไปทานข้าว เธอออกมาพบผมทุกครั้ง และเราก็มีอะไรกันเหมือนเดิม
ผมเริ่มอยากมีบทบาทในชีวิตเธอมากขึ้น ผมขอให้เธอเลิกกับสามีของเธอ แต่เธอบอกว่าขอเวลาหน่อย
จนมาพักหลัง ผมชวนเธอผ่านทางไลน์เช่นเคย แต่เธอมักมีข้ออ้างในการปฏิเสธบ่อยขึน จนเธอบอกกับผมว่าเธอทำผิดมามากแล้ว
ขอให้เราจบกันแค่นี้ ขอให้ผมเป็นเพื่อนที่หวังดีกับเธอเสมอเหมือนเดิม เธอยังรักสามีของเธอไม่เปลี่ยนแปลง
ผมโกรธ เสียใจ ลบและบล๊อคเธอออกจากชีวิตในทุกการติดต่อ แต่ก็นั่นแหละ ผมแพ้ตัวเอง ผมแอดและขอกลับเข้าไปหาเธออีกครั้ง
หลังจากเธอรับแอด ผมไล่ดูรูปเธอมาเรื่อยๆ จนเห็นเธอลงรูป 2 ขีดผ่านเฟสบุค มีคนกระหน่ำไลค์มากมาย
คำถามเกิดขึ้นในสมองผม ว่าลูกของผมใช่ไหม สามีเธอเชื้อไม่แข็งแรง ทำหลอดแก้วตั้งหลายครั้งยังไม่ติด เธอจะท้องได้ไง ???
ผมส่งข้อความไปถามเธอ ระบบแจ้งว่าเธออ่าน แต่เธอไม่ได้พิมอะไรตอบกลับมา ผมไม่ท้อ ผมส่งข้อความถามแบบนั้นซ้ำๆทุกวัน
จนเธอคงรำคาญในที่สุด เธอตอบมาสั้นๆว่า "ไม่ใช่" และลบผมออกจากเพื่อน ผมสมัครเฟสใหม่ แอดเพื่อนของเธอหลายๆคน
ทำให้ดูเหมือนว่ามีตัวตน และพอสะสมเพื่อนได้มากพอสมควร ผมก็แอดเธอไป เธอกดรับ ผมไม่พิม ไม่ไลค์อะไร ไปแค่ดูอย่างเดียว
ผมเฝ้ามองพัฒนาการเด็กน้อยผ่านทางเรื่องราวที่เธออัพ ตอนนี้น้องคลอดแล้วครับเด็กชายน่ารักแข็งแรง วัยเกือบขวบ
เธอและสามีมีความสุขมาก ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว ว่าเธอรักสามีของเธอมากจริงๆ เธอคงอยากทำให้ฝันของเธอและสามีเป็นความจริง
เด็กน้อยคนนี้ผมมั่นใจว่าเค้าต้องเป็นลูกของผม ไม่มีเหตผลหรอกครับว่าทำไมถึงเชื่อแบบนั้น มันเป็นเพียงความรู้สึก
ผมยังคงเฝ้ารอเด็กชายคนนี้ต่อไป หวังว่าคงได้พบกับเธอและลูกอีกครั้ง
เวลาเห็นภาพของเธอกับลูก ผมคิดเสมอว่านั่นคือครอบครัวของผม
เมียผมลูกผม แต่บางทีผมอาจจะคิดไปเองก็ได้ หลอดแก้วครั้งนั้นเธออาจจะทำสำเร็จจริงๆก็ได้ ผมมันบ้าไปเอง
--- ความเจ็บยังคงหายใจจริงๆครับ ---
ผมเพิ่มมีโอกาสได้ดูเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทางช่อง one ผมดูแล้วรู้สึกแย่ ความทรงจำเดิมๆย้อนกลับมา
เลยอยากมาระบาย ผมรู้ว่าเธอเล่นเวบนี้อยู่ เธอมักแชร์เรื่องราวกระทู้ในเวบนี้บ่อยใน facebook
ผ่านมาเป็นสิบปีแล้วครับ ตอนนั้นผมกับเธอก็เป็นเพื่อนกันสมัยเรียนมหาวิทยาลัยเหมือนในมิวสิคเพลงแหละครับ เราเป็นเืพื่อนกัน
เธอเป็นคนคุยสนุก และหน้าตาดี ไม่แปลกที่จะมีคนชอบเธอหลายคน แต่เธอก็เปิดตัวมาตลอดว่ามีแฟนแล้วเป็นผู้ชายที่เธอคบมานาน
เธอเคยบอกว่าแฟนเธอเป็นพี่ที่เธอรู้จักตั้งแต่เด็กๆ เธอแอบชอบพี่เค้ามาตั้งแต่เรียนประถม เรียกว่ารักเขามากเลยทีเดียว
เอาจริงๆ ตอนแรกผมไม่เคยคิดชอบเธอ คงเป็นเพราะความอยากเอาชนะของผม ผมเลยอยากลองจีบเธอดู
เพราะก็มั่นใจพอสมควรว่าผมเองก็ไม่ได้หน้าตาแย่ไปซะทีเดียว แต่ตามหยอดเธอไปๆมาๆ ผมดันรักเธอซะเอง
ผมกับเธอเป็นเพื่อน...ที่รู้สึกดีต่อกัน เราไม่เคยเป็นแฟนกัน เพราะเธอมีแฟนอยู่แล้ว เธอรักแฟนเธอมากครับ เฮ้อออ
ผมเคยบอกชอบเธอไป เธอขอบคุณ และตอบมาเพียงว่าเธอบอกว่าเธอก็รู้สึกดีกับผม
ผมไม่รู้หรอก ไอ้คำว่ารู้สึกดี มันเป็นแบบไหน เธอชอบผมบ้างไหม หรือว่าเธอชอบผม แต่ติดที่เธอมีแฟนอยู่แล้ว เลยคบกันไม่ได้
ความสัมพันธ์ของเราก็ดำเนินแบบบอกไ่ม่ถูกเช่นนี้เรื่อยมาจนเราเรียนจบ และแยกย้ายกันไปทำงานครับ
ผมไปเรียนต่อ ส่วนเธอได้งานที่เธอรักทำ ตอนนั้นเรายังคงคุยกันผ่านทาง msn เสมอๆ
ผมเสแสร้งว่าไม่ได้สนใจเธอแล้วด้วยการใช้รูปคู่กับสาวมากหน้าหลายตาเป็นโปรไฟล์ ผมคบผู้หญิงพวกนั้น
ตั้งใจว่าอีกหน่อยคงเจอคนที่ใช่ แต่พอได้คุยกับเธอ ผมก็เหมือนโดนดึงกลับไปที่ความรู้สึกเดิมๆอีกครั้ง
5 ปีผ่านไป ผมเรียนจบ และได้ข่าวว่าเธอกำลังจะแต่งงาน กับแฟนของเธอคนนั้นที่คบมานาน
ผมเคยคิดนะ ว่าถ้าเธอเลิกกับแฟนเธอ เธอคงหันมาคบกับผม ผมพยายามทุกทางให้ทางนั้นเหมือนจะหึง
แต่ทางนั้นเขามีความเป็นผู้ใหญ่มากครับ และเธอก็คงรักเขามาก จนผมยอมแพ้ ผมคิดว่าอีกหน่อยผมคงเจอคนที่ใช่
เรื่องที่เธอจะแต่งงาน ผมเป็นคนสุดท้ายที่รู้เรื่อง ทั้งๆที่เราติดต่อพูดคุยกันแทบทุกวัน
ผมมีโอกาสเจอเธออีกครั้งก่อนเธอจะแต่งงานในงานเลี้ยงรุ่น
ผมรวบรวมความกล้าบอกรักเธออีกครั้ง และหน้าด้านขอให้เธอยกเลิกงานแต่งงาน แน่นอนครับเธอปฏิเสธ
ผมไปร่วมงานแต่งงานของเธอด้วยความรู้สึกแย่ ผิดหวัง เศร้า อิจฉา เกลียด ปนเปกันไปหมด แต่ก็ต้องยิ้มแสดงความดีใจ
หลังจากแต่งงาน เราแทบไม่มีโอกาสได้คุยกันเลย เธอมีความสุขกับชีวิตคู่มาก จนลืมผมไปแล้วมั้ง
ไม่นานจากนั้นผมตัดสินใจใช้ชีวิตคู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ด้วยหลายเรื่องที่เราไม่สามารถเข้ากันได้ ผมและอดีตภรรยา
ตัดสินใจหย่ากันหลังแต่งงานแค่เพียง 2 ปี เราไม่มีลูกด้วยกันครับ เราจากกันด้วยดี ตอนนี้เธอแต่งงานใหม่ มีลูกที่น่ารักแล้ว
ส่วนผมก็ใช้ชีวิตต่อไป ทำงาน ไปเที่ยวเฮฮากับเพื่อน คบสาวๆ
สนุกสนานไปวันๆ คิดแค่เพียงทำอย่างไรก็ได้ให้มีความสุข ตอนนั้นผมแทบลืมเธอไปแล้วจริงๆ
เพื่อนของผมทยอยแต่งงานมีลูกกันไปเกือนจะหมดทุกคนแล้ว แต่เธอ คนที่ผมเคยรัก
เธอแต่งงานเป็นคนแรกๆของรุ่น เธอยังไม่มีลูกครับ ได้ข่าวจากเพื่อนหลายคนบอกว่า เธอพยายามมีลูกด้วยการไปพบหมอ
ให้ผสมเทียมให้ รวมถึงการทำเด็กหลอดแก้ว เพราะสามีของเธอเชื้อไม่แข็งแรง แต่ไม่เคยสำเร็จ
หลังจากฟัง ผมไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายอะไรกับข่าวนี้ ...
ผมและเธอได้เจอกันอีกครั้งในงานแต่งงานของเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งจัดงานที่ต่างจังหวัด เธอมาคนเดียว สามีของเธอไม่ได้มาด้วย
หลังจากเราส่งตัวบ่าวสาวเสร็จ เพื่อนๆในรุ่นก็ชวนไปปาร์ตี้ต่อที่ผับชื่อดังในจังหวัดนั้น เธอกับผมได้คุยกันมากขึ้น หลังจากไม่ได้คุยกันนาน
เธอขอให้ผมพาเธอกลับไปส่งยังที่พักที่โรงแรม ที่บ่าวสาวจองไว้ให้เพื่อนๆพัก เนื่องจากปวดหัว
ผมและเธอเลยปลีกตัวออกมาจากเพื่อนกลุ่มใหญ่ ผมพาเธอไปส่งที่ห้อง เธอมองตาผม และถามผมว่ายังรักเธออยู่ไหม
ผมบอกว่าผมยังหวังดีกับเธอเสมอ เธอกอดและหมอแก้มผม และด้วยความเหงา ความเมา ผสมกับความหลัง ...ในคืนนั้นเรามีอะไรกันครับ
วันต่อมาเธอทำตัวปกติ และยิ้มให้ผม ผมมีความสุขมาก คิดว่าไม่นานเธอคงจะมาคบกับผม เพราะเธอคงเหนื่อยกับสามีของเธอเต็มที
ผมส่งข้อความหาเธอผ่านไลน์บ่อยขึ้น ชวนไปทานข้าว เธอออกมาพบผมทุกครั้ง และเราก็มีอะไรกันเหมือนเดิม
ผมเริ่มอยากมีบทบาทในชีวิตเธอมากขึ้น ผมขอให้เธอเลิกกับสามีของเธอ แต่เธอบอกว่าขอเวลาหน่อย
จนมาพักหลัง ผมชวนเธอผ่านทางไลน์เช่นเคย แต่เธอมักมีข้ออ้างในการปฏิเสธบ่อยขึน จนเธอบอกกับผมว่าเธอทำผิดมามากแล้ว
ขอให้เราจบกันแค่นี้ ขอให้ผมเป็นเพื่อนที่หวังดีกับเธอเสมอเหมือนเดิม เธอยังรักสามีของเธอไม่เปลี่ยนแปลง
ผมโกรธ เสียใจ ลบและบล๊อคเธอออกจากชีวิตในทุกการติดต่อ แต่ก็นั่นแหละ ผมแพ้ตัวเอง ผมแอดและขอกลับเข้าไปหาเธออีกครั้ง
หลังจากเธอรับแอด ผมไล่ดูรูปเธอมาเรื่อยๆ จนเห็นเธอลงรูป 2 ขีดผ่านเฟสบุค มีคนกระหน่ำไลค์มากมาย
คำถามเกิดขึ้นในสมองผม ว่าลูกของผมใช่ไหม สามีเธอเชื้อไม่แข็งแรง ทำหลอดแก้วตั้งหลายครั้งยังไม่ติด เธอจะท้องได้ไง ???
ผมส่งข้อความไปถามเธอ ระบบแจ้งว่าเธออ่าน แต่เธอไม่ได้พิมอะไรตอบกลับมา ผมไม่ท้อ ผมส่งข้อความถามแบบนั้นซ้ำๆทุกวัน
จนเธอคงรำคาญในที่สุด เธอตอบมาสั้นๆว่า "ไม่ใช่" และลบผมออกจากเพื่อน ผมสมัครเฟสใหม่ แอดเพื่อนของเธอหลายๆคน
ทำให้ดูเหมือนว่ามีตัวตน และพอสะสมเพื่อนได้มากพอสมควร ผมก็แอดเธอไป เธอกดรับ ผมไม่พิม ไม่ไลค์อะไร ไปแค่ดูอย่างเดียว
ผมเฝ้ามองพัฒนาการเด็กน้อยผ่านทางเรื่องราวที่เธออัพ ตอนนี้น้องคลอดแล้วครับเด็กชายน่ารักแข็งแรง วัยเกือบขวบ
เธอและสามีมีความสุขมาก ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว ว่าเธอรักสามีของเธอมากจริงๆ เธอคงอยากทำให้ฝันของเธอและสามีเป็นความจริง
เด็กน้อยคนนี้ผมมั่นใจว่าเค้าต้องเป็นลูกของผม ไม่มีเหตผลหรอกครับว่าทำไมถึงเชื่อแบบนั้น มันเป็นเพียงความรู้สึก
ผมยังคงเฝ้ารอเด็กชายคนนี้ต่อไป หวังว่าคงได้พบกับเธอและลูกอีกครั้ง
เวลาเห็นภาพของเธอกับลูก ผมคิดเสมอว่านั่นคือครอบครัวของผม
เมียผมลูกผม แต่บางทีผมอาจจะคิดไปเองก็ได้ หลอดแก้วครั้งนั้นเธออาจจะทำสำเร็จจริงๆก็ได้ ผมมันบ้าไปเอง