ผ่านมาแล้วกว่า 3 เดือน ที่นักท่องเที่ยวไทยได้รับการยกเว้นวีซ่าให้เข้าพำนักอาศัยอยู่ในญี่ปุ่นได้ครั้งละไม่เกิน15 วัน นับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา จากนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว หวังกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ มาตรการนี้เพิ่มความสะดวกสบาย จูงใจให้คนไทยแห่เที่ยวญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้น กรกฎาคมเพียงเดือนเดียวมีมากกว่า 30,000คน และคาดว่าปีนี้ทั้งปีจะมีมากกว่า 500,000 คน มากที่สุดในบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเยือนญี่ปุ่น
การได้มาซึ่งโอกาสครั้งนี้ ต้องผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างเข้มข้นของฝ่ายญี่ปุ่น ซึ่งมีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย สร้างความกังวลใจให้สถานทูตไทยประจำประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก หลังพบว่ามีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่ใช้ช่องโหว่จากโอกาสนี้แฝงตัวลักลอบเข้ามาทำงานในญี่ปุ่นอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ได้รับการยืนยันตัวเลขแล้วกว่า 300 คน และคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากสถิติคนไทยที่เข้ามาขอความช่วยเหลือจากสถานทูต นอกจากนี้การสืบสวนทางลับยังพบว่ามีขบวนการค้ามนุษย์หลอกให้คนไทยมาใช้แรงงานในญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก
“
ในเมืองไทย โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคอีสาน มีขบวนการเข้าไปชักชวนผ่านผู้นำชุมชน หลอกให้มาทำงานในญี่ปุ่น โดยให้ข้อมูลว่า งานสบาย รายได้ดี ไม่ต้องมีวีซ่าก็ไปทำงานได้ เพียง 15 วันสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ต้องจ่ายค่าอำนวยความสะดวกคนละ 300,000 บาท ซึ่งเป็นเงินเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรายได้ที่จะได้รับ ทำให้คนไทยจำนวนไม่น้อยหลงเชื่อ” นายธนาธิป อุปัติศฤงค์ เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว
ไม่ต่างจากข้อมูลของสำนักแรงงานไทยในประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับรายงานว่า มีทั้งคนไทยลักลอบเข้ามาเองและถูกหลอกมาจำนวนหลายสิบคน เข้ามาขอความช่วยเหลือทั้งเรื่องอาหารและที่พัก จากวัดไทยในญี่ปุ่น สร้างความลำบากใจให้กับเจ้าอาวาสในหลายวัด เกรงว่าจะถูกทางการญี่ปุ่นเข้าตรวจสอบ
เช่นเดียวกับร้านนวดไทยที่มีอยู่กว่า 2,000 แห่งทั่วญี่ปุ่น กลายเป็นอาชีพเป้าหมายของคนไทยกลุ่มนี้ เนื่องจากงานสบายและไม่ต้องใช้ทักษะด้านภาษาญี่ปุ่น คุณธิติพร อินทุภูติ เจ้าของร้านนวดไทย “สายน้ำผึ้ง” กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า “
ช่วงนี้มีคนไทยมาขอสมัครเป็นพนักงานนวดไทย ทั้งสมัครด้วยตัวเอง และผ่านระบบนายหน้าเพิ่มมากขึ้น แต่ทางร้านไม่กล้ารับ เนื่องจากส่วนใหญ่เข้ามาญี่ปุ่นในฐานะนักท่องเที่ยวที่ได้รับการยกเว้นวีซ่า 15 วัน ถ้าทางร้านนวดรับเข้าทำงานก็จะมีความผิด ขณะเดียวกัน ตอนนี้ทางการญี่ปุ่นก็คุมเข้มเข้าตรวจสถานประกอบการเกือบทุกแห่ง”
นอกจากทางการญี่ปุ่นจะเข้มงวดสถานประกอบการแล้ว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ของญี่ปุ่น ก็ยังเพิ่มมาตรการตรวจสอบอย่างละเอียด นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องมีหนังสือเดินทางที่ถูกต้อง ตอบคำถามเจ้าหน้าที่ ตม.อย่างตรงไปตรงมา ระบุกิจกรรมที่จะเข้ามาดำเนินการในญี่ปุ่นอย่างชัดเจน ระยะเวลาพำนักอาศัยไม่เกิน 15 วัน ที่สำคัญต้องไม่มีประวัติกระทำผิดกฎหมาย เคยถูกเนรเทศ หรือเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ค้ามนุษย์ และค้าบริการ มิเช่นนั้นจะถูกส่งกลับประเทศทันที
แม้จะรอดพ้นจากสายตาทางการญี่ปุ่นมาได้ แต่ชีวิตก็ไม่ได้อยู่อย่างสุขสบาย ตัวแทนแรงงานหนึ่งในกว่าสามพันคนที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นมานานนับสิบปี โดยไม่มีวีซ่า เล่าว่า พวกเขาเป็นได้แค่กรรมกรก่อสร้างและแรงงานในภาคเกษตรเท่านั้น
“
เราเข้ามาอยู่อย่างผิดกฎหมาย ไม่มีนายจ้างที่ไหนกล้ารับเข้าทำงาน ต้องอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆ ตลอดเวลา มีหลายครั้งที่เกือบพลาดถูกทางการจับตัว เวลาซื้ออาหารก็ต้องฝากเพื่อนชาวญี่ปุ่นไปซื้อให้ ชีวิตไม่ได้สบายเหมือนกับที่เพื่อนเคยเล่าให้ฟัง ก่อนที่จะตัดสินใจลักลอบเข้ามาทำงานที่นี่” ตัวแทนแรงงานผิดกฎหมาย เมืองนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟัง
แม้แรงงานผิดกฎหมายหลายคนจะคิดถึงบ้านและอยากกลับเมืองไทย แต่ก็ไม่สามารถทำตามใจตัวเองได้ เพราะหากเดินทางกลับไปแล้วโอกาสที่จะลักลอบกลับเข้ามาทำงานในญี่ปุ่นอีกครั้งเป็นเรื่องยาก จึงต้องก้มหน้าอดทนทำงานเสี่ยงอันตรายต่อไป เพื่อแลกกับรายได้ส่งให้ครอบครัวในเมืองไทย
มีแรงงานไทยผิดกฎหมายอีกจำนวนมากที่ถูกเอาเปรียบจากนายจ้าง เข้าไม่ถึงการคุ้มครองประกันสุขภาพ หลายรายต้องจบชีวิตลงในญี่ปุ่น บริการกงสุลสัญจรที่จัดขึ้นปีละครั้งจึงเป็นโอกาสที่พวกเขาจะได้รับการตรวจสุขภาพและรักษาฟรี โรคส่วนใหญ่ที่พบคือ เส้นเลือดในสมองแตก อุบัติเหตุ รวมถึงโรคติดต่ออย่าง เอดส์ และวัณโรค
นพ.ซาวาดะ ทาคาชิ ผอ.คลินิก Minatomachi และแพทย์อาสาช่วยเหลือผู้ป่วยต่างชาติ เปิดเผยว่า “
แรงงานไทยผิดกฎหมายส่วนใหญ่เมื่อเจ็บป่วยมักไม่กล้ามาหาหมอรักษาในโรงพยาบาล เนื่องจากค่าใช้จ่ายสูง และกลัวถูกทางการจับตัว หลายคนที่ประสบอุบัติเหตุระหว่างทำงาน นายจ้างพาตัวมาส่งโรงพยาบาล แล้วก็หนีหายไป ไม่ช่วยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการักษา เนื่องจากเป็นแรงงานผิดกฎหมาย ไม่สามารถเรียกร้องอะไรจากนายจ้างได้อยู่แล้ว คนไข้หลายคนถึงขั้นหนีออกจากโรงพยาบาล และต้องไปจบชีวิตลงอย่างน่าสงสาร ”
คุณภาพชีวิตของแรงงานเหล่านี้ตรงกันข้ามกับแรงงานไทยที่เข้ามาทำงานอย่างถูกกฎหมาย ผ่านโครงการต่างๆ ของกระทรวงแรงงาน เช่น โครงการฝึกงานด้านเทคนิคประเทศญี่ปุ่น นอกจากได้รับค่าตอบแทนที่เป็นธรรมไม่น้อยกว่าค่าจ้างขั้นต่ำของแรงงานชาวญี่ปุ่นแล้ว ยังมีหลักประกันที่มั่นคงและได้รับการคุ้มครองด้านสุขภาพอีกด้วย
กรมตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่นคาดการณ์มีแรงงานไทยทำงานในญี่ปุ่นอย่างถูกกฎหมาย กว่า 16,000 คน และแรงงานผิดกฎหมายอีกว่า 3,700 คน ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกจากมาตรการยกเว้นวีซ่านักท่องเที่ยว 15 วัน สุ่มเสี่ยง การมาตายเอาดาบหน้าอาจได้ไม่คุ้มเสีย
คุณฉันทนา บุญอาจ อัครราชทูตที่ปรึกษา สำนักแรงงานในประเทศญี่ปุ่น เตือนคนไทยที่จะมาทำงานในญี่ปุ่นว่า “
ถ้าเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย สภาพการทำงานจะถูกเอาเปรียบในทุกๆ ด้าน อุปสรรคด้านภาษาก็ยิ่งทำให้แรงงานลำบากมากขึ้น สื่อสารกับใครไม่รู้เรื่อง ขณะที่ทางการญี่ปุ่นก็คุมเข้มมาก ยากที่จะรอดพ้นจากสายตาของทางการไปได้ ฉะนั้นถ้าต้องการมาทำงาน ขอให้มาอย่างถูกกฎหมายจะดีที่สุด ”
คนไทยที่คิดลักลอบเข้ามาหางานทำในญี่ปุ่น โดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยว ควรไตร่ตรองให้รอบคอบ เพราะขณะนี้ทั้งนายจ้างคนไทยและนายจ้างญี่ปุ่น ไม่กล้ารับแรงงานผิดกฎหมายเข้าทำงาน หากถูกจับได้ มีโทษหนัก เสียค่าปรับ 3 ล้านเยน ส่วนตัวแรงงาน เสียค่าปรับ 2 ล้านเยน หรือจำคุก 1 ปีครึ่ง ถึง 3 ปี และที่ต้องยิ่งคิดหนัก นอกจากโทษทางกฎหมายแล้ว ยังอาจกระทบถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และภาพลักษณ์ของคนไทยในสายตาญี่ปุ่นอีกด้วย.
ช่องโหว่ญี่ปุ่นยกเว้นวีซ่าให้ไทย ตอน 1
http://www.mcot.net/site/content?id=525d3554150ba04012000214#.Um9deG05qSo
ญี่ปุ่นยกเว้นวีซ่าให้ไทย ตอน 2 : แรงงานผิดกฎหมาย
http://www.mcot.net/site/content?id=525e88b6150ba04a1a0002d4#.Um9ejG05qSo
ญี่ปุ่นยกเลิกวีซ่าให้ไทย : แผนฟื้นฟูท่องเที่ยวเชิงรุกญี่ปุ่น
http://www.mcot.net/site/content?id=525fe053150ba0c137000193#.Um9dRW05qSo
เครดิต :
http://mcot-web.mcot.net/mcot-testing/site/content?id=526e25e9150ba0921b000203#.Um97QHB7I21
คนที่คิดอยากหนีวีซ่าเข้าญี่ปุ่น โปรดอ่านทางนี้ " นายจ้างไม่กล้ารับเข้าทำงาน "
การได้มาซึ่งโอกาสครั้งนี้ ต้องผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างเข้มข้นของฝ่ายญี่ปุ่น ซึ่งมีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย สร้างความกังวลใจให้สถานทูตไทยประจำประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก หลังพบว่ามีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่ใช้ช่องโหว่จากโอกาสนี้แฝงตัวลักลอบเข้ามาทำงานในญี่ปุ่นอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ได้รับการยืนยันตัวเลขแล้วกว่า 300 คน และคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากสถิติคนไทยที่เข้ามาขอความช่วยเหลือจากสถานทูต นอกจากนี้การสืบสวนทางลับยังพบว่ามีขบวนการค้ามนุษย์หลอกให้คนไทยมาใช้แรงงานในญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก
“ในเมืองไทย โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคอีสาน มีขบวนการเข้าไปชักชวนผ่านผู้นำชุมชน หลอกให้มาทำงานในญี่ปุ่น โดยให้ข้อมูลว่า งานสบาย รายได้ดี ไม่ต้องมีวีซ่าก็ไปทำงานได้ เพียง 15 วันสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ต้องจ่ายค่าอำนวยความสะดวกคนละ 300,000 บาท ซึ่งเป็นเงินเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรายได้ที่จะได้รับ ทำให้คนไทยจำนวนไม่น้อยหลงเชื่อ” นายธนาธิป อุปัติศฤงค์ เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว
ไม่ต่างจากข้อมูลของสำนักแรงงานไทยในประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับรายงานว่า มีทั้งคนไทยลักลอบเข้ามาเองและถูกหลอกมาจำนวนหลายสิบคน เข้ามาขอความช่วยเหลือทั้งเรื่องอาหารและที่พัก จากวัดไทยในญี่ปุ่น สร้างความลำบากใจให้กับเจ้าอาวาสในหลายวัด เกรงว่าจะถูกทางการญี่ปุ่นเข้าตรวจสอบ
เช่นเดียวกับร้านนวดไทยที่มีอยู่กว่า 2,000 แห่งทั่วญี่ปุ่น กลายเป็นอาชีพเป้าหมายของคนไทยกลุ่มนี้ เนื่องจากงานสบายและไม่ต้องใช้ทักษะด้านภาษาญี่ปุ่น คุณธิติพร อินทุภูติ เจ้าของร้านนวดไทย “สายน้ำผึ้ง” กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า “ช่วงนี้มีคนไทยมาขอสมัครเป็นพนักงานนวดไทย ทั้งสมัครด้วยตัวเอง และผ่านระบบนายหน้าเพิ่มมากขึ้น แต่ทางร้านไม่กล้ารับ เนื่องจากส่วนใหญ่เข้ามาญี่ปุ่นในฐานะนักท่องเที่ยวที่ได้รับการยกเว้นวีซ่า 15 วัน ถ้าทางร้านนวดรับเข้าทำงานก็จะมีความผิด ขณะเดียวกัน ตอนนี้ทางการญี่ปุ่นก็คุมเข้มเข้าตรวจสถานประกอบการเกือบทุกแห่ง”
นอกจากทางการญี่ปุ่นจะเข้มงวดสถานประกอบการแล้ว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ของญี่ปุ่น ก็ยังเพิ่มมาตรการตรวจสอบอย่างละเอียด นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องมีหนังสือเดินทางที่ถูกต้อง ตอบคำถามเจ้าหน้าที่ ตม.อย่างตรงไปตรงมา ระบุกิจกรรมที่จะเข้ามาดำเนินการในญี่ปุ่นอย่างชัดเจน ระยะเวลาพำนักอาศัยไม่เกิน 15 วัน ที่สำคัญต้องไม่มีประวัติกระทำผิดกฎหมาย เคยถูกเนรเทศ หรือเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ค้ามนุษย์ และค้าบริการ มิเช่นนั้นจะถูกส่งกลับประเทศทันที
แม้จะรอดพ้นจากสายตาทางการญี่ปุ่นมาได้ แต่ชีวิตก็ไม่ได้อยู่อย่างสุขสบาย ตัวแทนแรงงานหนึ่งในกว่าสามพันคนที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นมานานนับสิบปี โดยไม่มีวีซ่า เล่าว่า พวกเขาเป็นได้แค่กรรมกรก่อสร้างและแรงงานในภาคเกษตรเท่านั้น
“เราเข้ามาอยู่อย่างผิดกฎหมาย ไม่มีนายจ้างที่ไหนกล้ารับเข้าทำงาน ต้องอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆ ตลอดเวลา มีหลายครั้งที่เกือบพลาดถูกทางการจับตัว เวลาซื้ออาหารก็ต้องฝากเพื่อนชาวญี่ปุ่นไปซื้อให้ ชีวิตไม่ได้สบายเหมือนกับที่เพื่อนเคยเล่าให้ฟัง ก่อนที่จะตัดสินใจลักลอบเข้ามาทำงานที่นี่” ตัวแทนแรงงานผิดกฎหมาย เมืองนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟัง
แม้แรงงานผิดกฎหมายหลายคนจะคิดถึงบ้านและอยากกลับเมืองไทย แต่ก็ไม่สามารถทำตามใจตัวเองได้ เพราะหากเดินทางกลับไปแล้วโอกาสที่จะลักลอบกลับเข้ามาทำงานในญี่ปุ่นอีกครั้งเป็นเรื่องยาก จึงต้องก้มหน้าอดทนทำงานเสี่ยงอันตรายต่อไป เพื่อแลกกับรายได้ส่งให้ครอบครัวในเมืองไทย
มีแรงงานไทยผิดกฎหมายอีกจำนวนมากที่ถูกเอาเปรียบจากนายจ้าง เข้าไม่ถึงการคุ้มครองประกันสุขภาพ หลายรายต้องจบชีวิตลงในญี่ปุ่น บริการกงสุลสัญจรที่จัดขึ้นปีละครั้งจึงเป็นโอกาสที่พวกเขาจะได้รับการตรวจสุขภาพและรักษาฟรี โรคส่วนใหญ่ที่พบคือ เส้นเลือดในสมองแตก อุบัติเหตุ รวมถึงโรคติดต่ออย่าง เอดส์ และวัณโรค
นพ.ซาวาดะ ทาคาชิ ผอ.คลินิก Minatomachi และแพทย์อาสาช่วยเหลือผู้ป่วยต่างชาติ เปิดเผยว่า “แรงงานไทยผิดกฎหมายส่วนใหญ่เมื่อเจ็บป่วยมักไม่กล้ามาหาหมอรักษาในโรงพยาบาล เนื่องจากค่าใช้จ่ายสูง และกลัวถูกทางการจับตัว หลายคนที่ประสบอุบัติเหตุระหว่างทำงาน นายจ้างพาตัวมาส่งโรงพยาบาล แล้วก็หนีหายไป ไม่ช่วยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการักษา เนื่องจากเป็นแรงงานผิดกฎหมาย ไม่สามารถเรียกร้องอะไรจากนายจ้างได้อยู่แล้ว คนไข้หลายคนถึงขั้นหนีออกจากโรงพยาบาล และต้องไปจบชีวิตลงอย่างน่าสงสาร ”
คุณภาพชีวิตของแรงงานเหล่านี้ตรงกันข้ามกับแรงงานไทยที่เข้ามาทำงานอย่างถูกกฎหมาย ผ่านโครงการต่างๆ ของกระทรวงแรงงาน เช่น โครงการฝึกงานด้านเทคนิคประเทศญี่ปุ่น นอกจากได้รับค่าตอบแทนที่เป็นธรรมไม่น้อยกว่าค่าจ้างขั้นต่ำของแรงงานชาวญี่ปุ่นแล้ว ยังมีหลักประกันที่มั่นคงและได้รับการคุ้มครองด้านสุขภาพอีกด้วย
กรมตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่นคาดการณ์มีแรงงานไทยทำงานในญี่ปุ่นอย่างถูกกฎหมาย กว่า 16,000 คน และแรงงานผิดกฎหมายอีกว่า 3,700 คน ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกจากมาตรการยกเว้นวีซ่านักท่องเที่ยว 15 วัน สุ่มเสี่ยง การมาตายเอาดาบหน้าอาจได้ไม่คุ้มเสีย
คุณฉันทนา บุญอาจ อัครราชทูตที่ปรึกษา สำนักแรงงานในประเทศญี่ปุ่น เตือนคนไทยที่จะมาทำงานในญี่ปุ่นว่า “ถ้าเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย สภาพการทำงานจะถูกเอาเปรียบในทุกๆ ด้าน อุปสรรคด้านภาษาก็ยิ่งทำให้แรงงานลำบากมากขึ้น สื่อสารกับใครไม่รู้เรื่อง ขณะที่ทางการญี่ปุ่นก็คุมเข้มมาก ยากที่จะรอดพ้นจากสายตาของทางการไปได้ ฉะนั้นถ้าต้องการมาทำงาน ขอให้มาอย่างถูกกฎหมายจะดีที่สุด ”
คนไทยที่คิดลักลอบเข้ามาหางานทำในญี่ปุ่น โดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยว ควรไตร่ตรองให้รอบคอบ เพราะขณะนี้ทั้งนายจ้างคนไทยและนายจ้างญี่ปุ่น ไม่กล้ารับแรงงานผิดกฎหมายเข้าทำงาน หากถูกจับได้ มีโทษหนัก เสียค่าปรับ 3 ล้านเยน ส่วนตัวแรงงาน เสียค่าปรับ 2 ล้านเยน หรือจำคุก 1 ปีครึ่ง ถึง 3 ปี และที่ต้องยิ่งคิดหนัก นอกจากโทษทางกฎหมายแล้ว ยังอาจกระทบถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และภาพลักษณ์ของคนไทยในสายตาญี่ปุ่นอีกด้วย.
ช่องโหว่ญี่ปุ่นยกเว้นวีซ่าให้ไทย ตอน 1 http://www.mcot.net/site/content?id=525d3554150ba04012000214#.Um9deG05qSo
ญี่ปุ่นยกเว้นวีซ่าให้ไทย ตอน 2 : แรงงานผิดกฎหมาย http://www.mcot.net/site/content?id=525e88b6150ba04a1a0002d4#.Um9ejG05qSo
ญี่ปุ่นยกเลิกวีซ่าให้ไทย : แผนฟื้นฟูท่องเที่ยวเชิงรุกญี่ปุ่น http://www.mcot.net/site/content?id=525fe053150ba0c137000193#.Um9dRW05qSo
เครดิต : http://mcot-web.mcot.net/mcot-testing/site/content?id=526e25e9150ba0921b000203#.Um97QHB7I21