เพื่อนๆมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างกับการมีอาชีพเสริมบ้างครับ?

เพื่อนๆมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างกับการมีอาชีพเสริม (หรือจะเรียกว่างานนอก งานฝิ่น ก็คงจะไม่แตกต่างกัน) บ้างครับ?

อย่างตัวผมเอง ผมอยู่ในวัย 30 ต้นๆ ด้วยประสบการณ์ระดับหนึ่งที่ผ่านมา ก็เคยรับ และก็ยังรับทำอยู่ในทุกวันนี้

แต่มาคิดในอีกแง่มุมหนึ่งแล้ว มันเป็นสิ่งที่ควรรับทำหรือเปล่า?

ลองมาอภิปรายกันครับ

เอาตัวผมเองก่อน ผมอายุ 30 ต้นๆ อย่างที่กล่าวไป เคยทำธุรกิจของตัวเองอยู่ช่วงสั้นๆ เคยทำ Global Firm เคยทำบริษัทไทยๆ เคยทำงานมาหลายรูปแบบพอสมควร และตอนนี้ผมก็คลุกคลีกับงาน Online มาราวๆ 8 ปีแล้ว

ด้วยความที่สายงานของผมจะต้องเจอกับเหล่านักออกแบบ โปรแกรมเมอร์ และนักการตลาดจำนวนมาก จึงพบเห็นคนที่รับงานฝิ่นกันอย่างมากมายมหาศาล ซึ่งบางคนก็ทำงานได้ดีทั้งงานนอกงานใน แต่บางคนก็ไม่ใช่...

จากจุดนี้นี่เอง พอกลับมานั่งคิดถึงตัวเอง ผมคิดว่า เราเอาเปรียบ บริษัท ของเราเองหรือเปล่ากับการรับงานนอก?

เคยคุยกับเด็กๆพี่ๆเพื่อนๆที่เริ่มรับงานนอกอยู่หลายคน ผมมักจะยกตัวอย่างติดตลกให้พวกเขาฟัง และให้ไปตัดสินใจเองว่า ควรทำหรือไม่ ผมชอบเปรียบดังนี้

งานหลักในบริษัทของเราน่ะ มันก็เปรียบเสมือนคู่ครอง เหมือนผัว เหมือนเมีย ทำไปเรื่อยๆ อยู่ไปเรื่อยๆมันก็ดูไม่ถูกใจอะไรไปซะหมด อะไรที่เคยรู้สึกว่าดี ก็หาข้อมาติเตียนได้นับร้อยนับพัน

แต่งานนอก งานฝิ่นน่ะ มันเหมือนชู้รัก เหมือนเมียน้อย แรกๆมันจะดูหวือหวาตื่นเต้น อะไรๆก็ดีไปหมด...

และคำถามคือ วันหนึ่ง เราคงต้องเลือกระหว่าง คู่ครอง กับ ชู้รัก เพราะเอาเข้าจริงๆมันคงเป็นไปได้น้อยที่เราจะครอบครองความสัมพันธ์ทั้ง 2 อย่างไปตลอดรอดฝั่ง

ถ้าคู่ครองรู้ หรือ บริษัทรู้ บริษัทโดยส่วนมากเขาคงไม่ได้อยากให้เรารับงานนอกเยอะๆหรอกครับ หลายๆที่เป็นกฎห้ามด้วยซ้ำ
ส่วนไอ้ชู้รัก หรืองานนอกนี่ แรกอะไรๆมันก็สวยงามไปหมด อะไรๆก็ดี พอเทียบเป็นเงิน ทำงานหลักแทบตายได้เดือน 30000 รับงานนอกทีเดียวทำอาทิตย์กว่าๆ ได้มา 40000 แล้วก็มีถมไป

จุดหนึ่งก็ต้องเลือกล่ะครับ

ถ้าจะพัฒนาชู้รักให้มาเป็นตัวจริง จะลาออกจากบริษัทมาทำงานนอกอย่างเดียว มั่นใจในหลักประกันมั้ยว่าจะได้รายได้ขนาดดีๆตลอด?
ซึ่งโดยมากพอผมอธิบายให้ฟังไป ก็ไม่มีใครเชื่อผมหรอกครับ 555

อย่างว่า ที่กล่าวไป ก็งานนอกเนี่ย อะไรๆมันก็ดูดีไปหมดแหละครับเวลาเราคิดว่างานหลักเราไม่ดี ก็ต้องลองเองครับ

ทีนี้เลิกเปรียบเปรย กลับมาสู่ความเป็นจริง

เวลาคนอยากหางานนอกทำมันก็หาข้อสนับสนุนมาสารพัดล่ะครับ ว่างานที่ตัวเองทำไม่ดี เงินไม่พอใช้ เจ้านายเอาเปรียบ
ซึ่งผมมักก็ถามกลับไปว่า แล้วทำไมไม่เปลี่ยนที่..??

โดยมากก็จะตอบอึกๆอักๆมาว่า ก็จริงๆที่นี่มันก็ดีนะ เสียแต่เรื่องเงินนี่แหละ เสียแต่เรื่องนู่นนี่ นี่แหละ ฯลฯ

ในมุมมองของผม ถ้าบริษัทที่เราอยู่เอาเปรียบเราจริงๆ ก็เปลี่ยนบริษัทเถอะครับ ถ้าเราคิดจะทำงานนอกจริงๆ ผมเชื่อว่าน้อยคนจะสามารถแยกแยะเวลาระหว่าง 2 งานได้อย่าง 100%

อย่างผมเอง ผมยังยอมรับว่า หลายๆทีก็ต้องแอบเปิดเมล์ดูงานนอกบ้าง โดยเฉพาะช่วงใกล้ส่งงาน หรือช่วงได้งานมาใหม่ๆ ทีนี้บ่อยเข้าๆ เราเองก็อาจจะแยกแยะเวลาไม่ได้ใช่มั้ยครับ?

งานนอกก็อาจจะส่งผลให้ performance งานหลักของเราตกลง พอประเมินปลายปี เราก็ได้แต่โอดครวญว่าบริษัทเอาเปรียบ ประเมินให้ไม่ดี เงินไม่พอใช้ ต้องหาเงินเพิ่ม ทำงานนอกดีกว่า มันก็จะเข้าสู่วงจรอุบาทว์ซิครับ

ท้ายที่สุด เราเองก็เป็นคนที่ชิงเอาเปรียบบริษัทก่อน

โดยส่วนตัวเลยคิดว่าเวลามีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆมาถามว่าควรรับงานนอกมั้ย เลยไม่รู้จะตอบยังไง 555

ก็มักจะให้แนวคิดกลับไปว่า ถ้าทำแล้วมั่นใจจริงๆว่าไม่เสียงานบริษัท ก็ทำเถอะครับ (ถ้าบริษัทไม่ห้ามด้วยนะ) แต่อย่าเอาข้อนู้นนี้มาอ้างเลย มันเอาเปรียบกันเองเปล่าๆ...

และอยากให้ระลึกไว้ว่าราที่ทำงานนอกโดยบริษัทไม่ห้าม ถือว่าเป็นโชคลาภอันแสนประเสริฐของคุณเลยนะครับ จงดีกับบริษัทคุณให้มากๆเถิด

เพื่อนๆใน Pantip มีความคิดเห็นอย่างไรกับการรับงานนอกครับ?

tag ไหนคิดว่าไม่ไหวจริงๆก็แจ้งมานะครับ อย่าพึ่งยิงกันเลย หัวเราะ
ศาลาประชาคม ปัญหาชีวิต ก็เพราะมันเป็นปัญหาชีวิตน่ะครับ
สยามสแควร์ มหาวิทยาลัย เผื่อน้องๆที่กำลังจะเรียนจบ
สยามสแควร์ ความรักวัยรุ่น เพราะเปรียบเปรยเรื่องานเป็นความรัก
สีลม มนุษย์เงินเดือน ตามนั้น
หว้ากอ เรื่องลึกลับ เพราะผมว่ามันหาคำตอบที่ดีที่สุดไม่ได้...

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่