ร้านอาหารอิตาเลี่ยน La Scala ที่โรงแรมสุโขทัยเป็นที่โปรดปรานของใครหลายๆคน ก่อนหน้านี้เบนได้เคยมีโอกาสไปลอง Business lunch และการทำการ review ไว้ใน link นี้ค่ะ
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.484400161618520.107163.396853500373187&type=3
โรงแรมสุโขทัยเป็นหนึ่งในโรงแรมที่เบนชอบเป็นพิเศษในกรุงเทพเพราะว่ามีบ่อน้ำเยอะ(ไม่เกี่ยวอะไรกับอาหารเลย 555) แล้วเมื่อก่อนก็ชอบไปกิน Brunch วันอาทิตย์ เพราะว่ามีน้ำผึ้งอร่อย
ร้านอาหาร La Scala เป็นห้องอาหารอิตาเลี่ยนที่แยกออกมาอีกอาคารหนึ่ง ตัวร้านนั้นตกแต่งได้อย่างดี ไม่หรูจนรู้สึกเกร็ง มีครัวเปิดอยู่ตรงกลาง ไปนั่งกินคนเดียวไม่มีเบื่อแน่ ที่สำคัญคือการให้แสงของที่นี้ดีมาก สำหรับคนที่ชอบกินแบบแสงสลัว ร้านเค้าก็สลัวจริงคะ แต่กลางโต๊ะมีการใช้แสงอาหารได้อย่างดี เห็นอาหารชัดเจน และถ่ายรูปง่าย ขอยกนิ้วให้ในเรื่องนี้ ส่วนบริการก็ดีมาก พนักงานเยอะแบบเราแทบไม่ต้องกระดิกตัว
สำหรับมื้อนี้เบนไปทานข้าวเย็น 3 คน เมนูที่สั่งก็เลยไม่เยอะมาก ลองได้ตามที่พื้นที่กระเพาะมี
เร่ิมแรกด้วยเมนูต้อนรับจากทางร้าน คือ Poccini mushroom soup ซึ่งใช้ได้เลย ยกเว้นว่ามันไม่เข้ากับถั่วที่โรยมาเท่าไหร
ทุกคนที่ชอบกินที่นี้ก็จะบอกว่า ของขึ้นชื่อของที่นี้ คือ Pasta และ Pizza ที่ไม่เหมือนใคร แต่พอเห็น Antipasta ตัวหนึ่งที่ครัวทำส่งออกไปให้ลูกค้าโต๊ะอื่นก็อดสั่งไม่ได้ คือ
Saint Jacques “Rossini”
Seared Hokkaido Scallops, Foie Gras, Sauteed baby Spinach, Black truffle sauce 1,480 บาท (2ชิ้น)
พนักงานบอกว่า Foie Gras เป็นแบบไม่ได้แช่แข็ง ตอนแรกเราก็ตื่นเต้น แต่พอกินคำแรกแล้วรู้เลยว่าไม่ได้เป็นตับห่าน แต่เป็นตับเป็ด เพราะว่าเนื้อเละ และกลิ่นออกสาบแบบไม่หอม ส่วน Scallop นั้นสามารถทำได้ดี ไม่ over cooked และเนื้อออกหวานเลยทีเดียว แต่โดยรวมแล้วเบนไม่คิดว่า combination ทั้ง 4 อย่างกินคู่กันแล้วเข้ากันและส่งเสริมกัน แยกกันกินอาจจะอร่อยกว่ากินรวมกัน ถ้าใครเคยไปร้าน Rakuza ที่ Grass thonglor ซึ่งปิดไปแล้ว มีเมนูที่คล้ายกัน อันนั้นสิเด็ด แต่น่าเสียดายร้านดันปิดไปแล้ว
ต่อไปก็ถึงเวลาของเมนูเด็ดของที่นี้ คือ Pasta & Pizza
Pasta seafood
ก่อนหน้าที่จะมากินที่ร้านนี้ เบนไปเดินทางอยู่ทางตอนใต้อิตาลีเพื่อทำ research สำหรับทริป fove food tour ปีหน้าที่จะไป Capri และ Amalfi มาอาทิตย์กว่า ทุกมื้อเบนต้องสั่ง Pasta seafood เพราะเป็นเมนูที่เบนชอบที่สุด และเหมือนเป็นตัวเปรียบเทียบและตัดสินร้านอาหารด้วย มันก็เลยคงจะไม่แปลกที่จานนี้ไม่สามารถทำให้เบนหลงรักร้านนี้ได้ เส้น cook ได้ออกมากำลังดี แต่รสชาติยังไม่ถึงใจ ออกแบบไทยหน่อยๆ แต่ว่ายังไม่สุด หอยค่อนข้างคาว ตัวที่ดีที่สุดของจานยังคงเป็น scallops ที่หวานและ cook ออกมาได้อย่างดี
Stiacciatina
Warm thin crust pizza bread, Mascarpone cheese, Parma ham, Rocket leaves, sliced tomatoes 690 บาท
จานนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในจานที่ดังที่สุดของร้าน แป้งบางๆสองแผ่นประกบกัน ด้านบนกรอบ ด้านล่างนุ่มหน่อย combination ของทุกอย่าง ถ้าคำที่กัดมีทุกอย่างก็เข้ากันได้ดีเลยทีเดียว ตัวเบนเองชอบจานนี้นะคะ แต่พ่อกับแม่ไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร เพราะพ่อ expect ว่ามันจะเป็น pizza แบบธรรมดา และอยากได้กินชีสแบบยืดๆ
Tartufala
Five Cheeses, rocker, black truffle, grated parmesan 790 บาท
จานนี้เป็นจานสุดท้ายและจานเดียวที่เบนกินไปพยักหน้าไป แป้งพิซซ่าของที่นี้เป็นแบบบางกรอบ ซึ่งไม่เหมือนที่ไหนเลยที่เคยกินมา ไม่ว่าจะเป็นที่โรมที่ style ออกพิซซ่าเป็นแบบบางกรอบ แต่ก็ไม่ใช่บางกรอบแบบนี้ ส่วนชีส 5 ตัวที่ใช้นั้นก็อร่อยเลยทีเดียว combination ทุกอย่างเข้ากันได้อย่างดี จานนี้ผ่านค่ะ
สุดท้ายคือของขวัญกลับบ้าน
Chocolate truffles
มื้อนี้และมื้อส่วนใหญ่ต้องขอขอบคุณพ่อที่เป็นคนจ่ายให้ แต่มื้อนี้มีเพื่อนที่น่ารักซึ่งคอย support page Fove Food Tour มาตลอด ให้ส่วนลด 25% สำหรับสมาชิกของเค้ามาด้วย ขอบคุณมากค่า
[CR] รีวิวร้านอาหารอิตาเลี่ยน La Scala โรงแรมสุขโขทัย โดยเบญญาภา Fove Food
โรงแรมสุโขทัยเป็นหนึ่งในโรงแรมที่เบนชอบเป็นพิเศษในกรุงเทพเพราะว่ามีบ่อน้ำเยอะ(ไม่เกี่ยวอะไรกับอาหารเลย 555) แล้วเมื่อก่อนก็ชอบไปกิน Brunch วันอาทิตย์ เพราะว่ามีน้ำผึ้งอร่อย
ร้านอาหาร La Scala เป็นห้องอาหารอิตาเลี่ยนที่แยกออกมาอีกอาคารหนึ่ง ตัวร้านนั้นตกแต่งได้อย่างดี ไม่หรูจนรู้สึกเกร็ง มีครัวเปิดอยู่ตรงกลาง ไปนั่งกินคนเดียวไม่มีเบื่อแน่ ที่สำคัญคือการให้แสงของที่นี้ดีมาก สำหรับคนที่ชอบกินแบบแสงสลัว ร้านเค้าก็สลัวจริงคะ แต่กลางโต๊ะมีการใช้แสงอาหารได้อย่างดี เห็นอาหารชัดเจน และถ่ายรูปง่าย ขอยกนิ้วให้ในเรื่องนี้ ส่วนบริการก็ดีมาก พนักงานเยอะแบบเราแทบไม่ต้องกระดิกตัว
สำหรับมื้อนี้เบนไปทานข้าวเย็น 3 คน เมนูที่สั่งก็เลยไม่เยอะมาก ลองได้ตามที่พื้นที่กระเพาะมี
เร่ิมแรกด้วยเมนูต้อนรับจากทางร้าน คือ Poccini mushroom soup ซึ่งใช้ได้เลย ยกเว้นว่ามันไม่เข้ากับถั่วที่โรยมาเท่าไหร
ทุกคนที่ชอบกินที่นี้ก็จะบอกว่า ของขึ้นชื่อของที่นี้ คือ Pasta และ Pizza ที่ไม่เหมือนใคร แต่พอเห็น Antipasta ตัวหนึ่งที่ครัวทำส่งออกไปให้ลูกค้าโต๊ะอื่นก็อดสั่งไม่ได้ คือ
Saint Jacques “Rossini”
Seared Hokkaido Scallops, Foie Gras, Sauteed baby Spinach, Black truffle sauce 1,480 บาท (2ชิ้น)
พนักงานบอกว่า Foie Gras เป็นแบบไม่ได้แช่แข็ง ตอนแรกเราก็ตื่นเต้น แต่พอกินคำแรกแล้วรู้เลยว่าไม่ได้เป็นตับห่าน แต่เป็นตับเป็ด เพราะว่าเนื้อเละ และกลิ่นออกสาบแบบไม่หอม ส่วน Scallop นั้นสามารถทำได้ดี ไม่ over cooked และเนื้อออกหวานเลยทีเดียว แต่โดยรวมแล้วเบนไม่คิดว่า combination ทั้ง 4 อย่างกินคู่กันแล้วเข้ากันและส่งเสริมกัน แยกกันกินอาจจะอร่อยกว่ากินรวมกัน ถ้าใครเคยไปร้าน Rakuza ที่ Grass thonglor ซึ่งปิดไปแล้ว มีเมนูที่คล้ายกัน อันนั้นสิเด็ด แต่น่าเสียดายร้านดันปิดไปแล้ว
ต่อไปก็ถึงเวลาของเมนูเด็ดของที่นี้ คือ Pasta & Pizza
Pasta seafood
ก่อนหน้าที่จะมากินที่ร้านนี้ เบนไปเดินทางอยู่ทางตอนใต้อิตาลีเพื่อทำ research สำหรับทริป fove food tour ปีหน้าที่จะไป Capri และ Amalfi มาอาทิตย์กว่า ทุกมื้อเบนต้องสั่ง Pasta seafood เพราะเป็นเมนูที่เบนชอบที่สุด และเหมือนเป็นตัวเปรียบเทียบและตัดสินร้านอาหารด้วย มันก็เลยคงจะไม่แปลกที่จานนี้ไม่สามารถทำให้เบนหลงรักร้านนี้ได้ เส้น cook ได้ออกมากำลังดี แต่รสชาติยังไม่ถึงใจ ออกแบบไทยหน่อยๆ แต่ว่ายังไม่สุด หอยค่อนข้างคาว ตัวที่ดีที่สุดของจานยังคงเป็น scallops ที่หวานและ cook ออกมาได้อย่างดี
Stiacciatina
Warm thin crust pizza bread, Mascarpone cheese, Parma ham, Rocket leaves, sliced tomatoes 690 บาท
จานนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในจานที่ดังที่สุดของร้าน แป้งบางๆสองแผ่นประกบกัน ด้านบนกรอบ ด้านล่างนุ่มหน่อย combination ของทุกอย่าง ถ้าคำที่กัดมีทุกอย่างก็เข้ากันได้ดีเลยทีเดียว ตัวเบนเองชอบจานนี้นะคะ แต่พ่อกับแม่ไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร เพราะพ่อ expect ว่ามันจะเป็น pizza แบบธรรมดา และอยากได้กินชีสแบบยืดๆ
Tartufala
Five Cheeses, rocker, black truffle, grated parmesan 790 บาท
จานนี้เป็นจานสุดท้ายและจานเดียวที่เบนกินไปพยักหน้าไป แป้งพิซซ่าของที่นี้เป็นแบบบางกรอบ ซึ่งไม่เหมือนที่ไหนเลยที่เคยกินมา ไม่ว่าจะเป็นที่โรมที่ style ออกพิซซ่าเป็นแบบบางกรอบ แต่ก็ไม่ใช่บางกรอบแบบนี้ ส่วนชีส 5 ตัวที่ใช้นั้นก็อร่อยเลยทีเดียว combination ทุกอย่างเข้ากันได้อย่างดี จานนี้ผ่านค่ะ
สุดท้ายคือของขวัญกลับบ้าน
Chocolate truffles
มื้อนี้และมื้อส่วนใหญ่ต้องขอขอบคุณพ่อที่เป็นคนจ่ายให้ แต่มื้อนี้มีเพื่อนที่น่ารักซึ่งคอย support page Fove Food Tour มาตลอด ให้ส่วนลด 25% สำหรับสมาชิกของเค้ามาด้วย ขอบคุณมากค่า