ประจานตัวเอง มีคำถามกับการใช้คุณธรรมมาเป็นข้ออ้างในการใช้ความรุนแรง !!!

ไม่อยากจะตั้งกระทู้นี้ซักเท่าไหร่แต่ก็กลัวใจตัวเองอยู่เหมือนกัน ไม่รู้ว่าถ้าไปเจอคนจริงจะโดนยิงตายวันไหน

ผมขอท้าวความก่อนเพื่อเป็นข้อมูลในการให้คำปรึกษาของเพื่อนๆชาวพันทิป

ตั้งแต่เด็ก สมัยประถมผมเป็นคนที่จัดได้ว่าค่อนข้างเหียกมากๆคนนึงเลย มีนิสัยไม่ยอมใครถ้าไม่ผิดจริง
พ่อสอนมาตั่งแต่เด็กว่าถ้าไม่ผิดอย่าไปยอม อย่าไปทำร้ายใครก่อน และอย่าทำตัวเป็นสุภาพบุรุษแต่จงทำตัวเป็นลูกผู้ชาย
สมัยประถมผมเรียนโรงดรียนนึงแถวไทยเกรียง โดนเชิญผู้ปกครองจัดได้ว่าบ่อยมาก ตกเดือนละครั้งคือเฉลี่ยที่มากที่สุดของรุ่นนี้
ส่วนมากจะเป็นการทะเละวิวาท โดยการโดนรังแกก่อนแต่ครูดันมาเห็นตอนผมกำลังจับเก้าอี้ฟาดหัวเพื่อนพอดี และยังมีกระโดดถีบเพื่อน
จากบันได ยังไม่นับการล็อคกระเป๋าเพื่อนทั้งห้องเพราะไม่อยากเรียนหนังสือ ฯลฯ

พอขึ้นม.ต้นผมได้ไปเรียนไกลกว่าเดิมคือในพระประแดง ที่นี่ผมสร้างสถิติใหม่ด้วยการโดนเข้าห้องปกครอง 23 ครั้ง ในนั้นเป็นตักเตือน 5
เชิญผู้ปกครอง 20 และ 3 ครั้งสุดท้ายเป็นฑัณฑ์บน(เต็ม MAX พอดี) ซึ่งส่วนมากเป็นการทะเละวิวาท โชคยังดีที่ไม่โดนไล่ออกเพราะแม่เป็นครู
และเป็นเพื่อนกับครูในโรงเรียนพอดี การชกต่อยจัดได้ว่ามีทุกอาทิตย์
ผมยังโชคดีที่หัวดีมาแต่เกิด ตอนม.2 อยากได้คอมฯ แม่บอกเรียนให้ได้เกรด 3 ซิจะซื้อให้ เทอมนั้นตั้งใจเรียนจนได้ 3 และก็ได้อยู่เทอมเดียว

ม.ปลาย ผมได้เรียนไกลขึ้นไปอีกคือแถวปากคลองตลาด โดยโดนพ่อหลอกไปสอบ คือไม่รู้ว่าเป็นโรงเรียนชายล้วน เอ๊ะใจตั้งแต่ตอนไปสอบ
ทำไมไม่เจอหญิงเลยฟระ พอสอบเสร็จจึงได้รู้ความจริงว่าชายล้วน และเผือกสอบติดซะงั้น
ช่วงนี้เป็นช่วงที่สนุกที่สุดของชีวิต เนื่องด้วยชายล้วนด้วยมั้งเลยมีเพื่อนทำอะไรเหียกๆอะไรเยอะมาก เบาๆเลยก็ตั้งแต่ก่อนจบเอารองเท้า
นานยางไปใส่เอาไว้ในแท้งน้ำดื่มหลังโรงเรียนเป็นอนุสร(อันนี้เพื่อนทำ)ทุกวันนี้ไม่รู้ยังอยู่หรือเปล่า กินกันอร่อยทั้งโรงเรียน ใส่กางเกงใน
ตัวเดียวเตะบอลกันกลางสายฝนที่สนามหน้าโรงเรียน(อันนี้บางคน) ปล่อยลูกอ๊อดใส่สระว่ายน้ำหลังเรียนเสร็จวิชาว่ายน้ำเสร็จ ฯลฯ

หนักๆเลยก็มีไปตีกัน บวรมั่ง ขายาวมั่งก็ว่ากันไป ตอนนั้นพกไปตั้งแต่มีดพก ขวานยันปืนปากกา(แต่ไม่เคยยิงเลย) มีเรื่องกันส่วนมาก
ก็ต่อยกันจบแค่นั้น อาวุธที่พกไปก็เผื่ออีกฝ่ายมีของ และแม้จะเหียกสักเพียงใดก็ยังจะยืนอยู่บนพื้นฐานของลูกผู้ชาย "ใครไม่สู้ไม่ทำ"
เมตตาต่อเด็ก คนแก่ คนขรา โดยเฉพาะเพศตรงข้ามจะดูแลเป็นพิเศษ

จบมาก็เอ็นฯไม่ติดเรียนรามฯซิ่วอีกไปได้มหาลัยมีชื่อแห่งหนึ่ง(ตอนนั้นตั้งใจอ่านสือมาก)เพราะอยากใส่ช๊อบ พอเเข้าได้ได้ใส่สมใจแต่ด้วย
ความขี้เกียจเลยเรียนไม่จบ ก็ซิ่วอีกทีมาเรียนที่มหาลัยแห่งหนึ่งแถวฝั่งธนฯ ก็วิศวะอีกหละความคิดตอนนั้นตื้นมากเรียนเพราะอยากใส่ช๊อบ
ผมรู้สึกว่าขี้เกียจเรียนมากตอนนั้น จะไม่เรียนเลยก็ไม่ไ่ด้ยงไงก็ต้องจบ ป.ตรี เลยตั้งใจเรียนไม่ใช่ขยัน แต่คิดว่ารีบๆเรียนให้จบกันไปจะได้จบๆ
หลักสูตร 4 ปี ผมเรียนจบ 3 ปีครึ่ง ด้วยอานิสงฆ์ของหัวดีส่วนหนึ่ง

จบมาก็ได้มาทำงาน นี่หละประเด็นของปัญหาเริ่มเกิด ผมคิดว่าเราเป็นปัญญาชนแล้วการทำต้องเรียบร้อย สุภาพ ไม่โผงผาง ไม่ใช้กำลัง
บางทีในสังคมการทำงานผมเจอการใส่ร้ายป้ายสีชนิดหน้าด้านๆต่อหน้าต่อตา แวปนึงในหัว "อยากจะกระทืบหน้าแม่ม" แต่ก็เป็นแค่ความคิด

ผมเป็นคนใส่แว่น ตัดผมสั้น ทำให้ดูเหมือนเด็กติ๋มๆหน่อย(ตอนโกนหนวด) และจะเริ่มโจรขึ้นตามหนวดที่ขึ้นมา แต่ด้วยภาพลักษณ์ทางสังคม
จึงต้องโกนทุกวัน

ผมจบวิศวะคอมฯมาทำงานด้านคอมฯ เพื่อนๆในฝ่ายผมล้วนจบด้านคอมฯมาแต่ไม่มีใครจบวิศวะเหมือนผมเลยทำให้บางทีงานอดิเรกมันดู
ไม่เข้ากับสังคมเท่าไหร่ ผมชอบเล่นปืน แต่งรถเล่นเกม เพื่อนๆชอบดูหนัง ถักโคเช เลี้ยงปลาทอง ซื้อเสื้อผ้า เล่น app ต่างๆ ฯลฯ
จะคุยเรื่องแต่งรถเพื่อนก็ขับเดิมๆกัน จะคุยเรื่องปืนเลิกคิดไปเลย

ผู้ชายฝ่ายอื่นๆเวลามีเรื่องงานกันกับฝ่ายผมเขาชอบใส่อารมณ์และเสียงดัง ผมก็จะเข้าไปเผือกซักหน่อยโดยหวังว่าเขาจะระงับอารมณ์ไม่อยู่
และลงไม้ลงมือก่อน เราจะได้กระทืบหน้าเขาแบบไม่รู้สึกผิด นี่หละครับปัญหา!!!!

ทุกวันนี้ผมสารภาพเลย อยากวิวาท อยากชกต่อยกับใครก็ได้ แต่ก็ด้วยที่ว่า"อย่าทำใครก่อน" เลยต้องเก็บอารมณ์เอาไว้ลึกๆในใจ
อยู่ห้องผมก็ระบายด้วยการ ออกกำลังกาย วิดพื้น ซิทอัพ สก๊อตจั๊ม ฯลฯ เพื่อให้พลังและความบ้ามันหมดไปวันๆ

บางทีสันดานดิบผมก็พุ่งออกมาแรงมาก มากจนบางครั้งบีบปากกาในมือหักโดยไม่ได้ตั้งใจ ผู้ชายฝ่ายอื่นๆมองผมในภาพลักษณ์
เด็กแว่น เรียบร้อย หงิ๋มๆ เลยเป็นอีกส่วนที่เขาไม่อยากมีเรื่องด้วย (คงกลัวโดนว่าทำร้ายเด็กเรียน) แต่ในความเป็นจริงผมเหียกกว่านั้นเยอะ

ผมเลยต้องหาเรื่องเผือกกับอะไรที่ขัดกับความถูกต้องแทน โดยหวังว่าอีกฝ่ายจะอดรนทนไม่ได้และใช้กำลังกับผมก็จะได้เป็นกรณีวิวาทไป
เห็นอะไรไม่ดีก็เข้าไปตักเตือน โดยไม่ใช่เรื่องของตัวเองเพื่อหวังว่าเขาจะหาว่าเผือกละต่อยหน้าเรา
ล่าสุดเด็กที่โรงงานผมต่อยกันผมเผือกโดยการวิ่งไปห้าม เผื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะโมโหหาว่าเผือกละต่อยผม แต่เขาดันหยุดกันแบบดีๆ
เลยเข้าไปวิดพื้นในห้องทำงานต่อ

ผมอยากทราบว่า
- อาการชอบใช้ความรุนแรงของผมจัดเป็นโรคจิตไหมครับ ?
- ทำยังไงถึงจะหาย ?
- การกระทำแบบนี้มันไม่ดีเลยผมทราบ แต่จะมีคนอื่นรู้ความจริงไหมหรือคนอื่นจะคิดว่าผมเป็นแค่คนชอบเผือกคนนึง ?

ปล.เมื่อก่อนผมเหียกมากก็จริง แต่ด้วยทางสังคมทำให้ผมต้องเก็บสันดานดิบเอาไว้ข้างใน ผมคิดว่าในสังคมน่าจะมีคนอย่างผมอยู่ไม่มากก็น้อย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่