หวานอมขมกลืน, น้ำท่วมปาก, ทำคุณบูชาโทษ,ฯลฯ สารพัดความรู้สึกน่าจะโถมประดังเข้าใส่กลุ่มคนเสื้อแดงในยามนี้ ในยามที่มีการพยายามหยิบยกพรบนิรโทษฯ แบบเหมายกเข่ง โดยส่วนตัวแล้ว....ในฐานะที่เป็นคนสนับสนุนคนเสื้อแดงคนหนึ่ง มีความรู้สึกแปลกแยกเป็นสามฝักสองฝ่าย.....ฝ่ายหนึ่งเข้าใจทักษิณ ฝ่ายหนึ่งรู้สึกว่าอภิสิทธิ์และสุเทพสมควรที่จะถูกนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเสียก่อน(เหมือนทักษิณที่ถูกนำเข้าสู่กระบวนการก่อนหลบหนีคดีออกนอกประเทศ) และอีกฝ่ายหนึ่งรู้สึกว่า บ้านเมืองบอบช้ำมามากพอแล้วก็สมควรที่จะเลิกลาเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่เสียที(แต่ก็ไม่วายสงสัยอีกว่า เมื่อพรบนิรโทษฯ ผ่านวาระสามแล้ว บ้านเมืองจะสงบจริงหรือ? เมื่อยังมีอีกหลายกลุ่มไม่ยอมรับ)........ท้ายที่สุดของความรู้สึกก็พยายามสรุปให้เป็นอารมณ์อุเบกขาว่า whatever will be will be.......คือกฏแห่งกรรม
เข้าใจทักษิณในฐานะที่เป็นคนไกลบ้าน อารมณ์คิดถึงบ้านเกิดเมืองนอนถ้าใครไม่ได้สัมผัสจริงก็คงเข้าใจยาก เข้าใจทักษิณว่าเขาเองก็คงเจ็บปวดบ้างไม่มากก็น้อยที่อยากเห็นพรบ นิรโทษฯ ฉบับสุดซอย เชื่อว่าเขาเองก็คงตระหนักดีว่าย่อมมีแรงสะท้อนกลับจากกลุ่มคนเสื้อแดงที่สนับสนุนเขามาตลอด มองในแง่ดี(อาจจะมีคนไม่เห็นด้วย)ก็คือเขาก็เสียสละตรงนี้เหมือนกัน คือที่ต้องถูกก่นด่าจากฝั่งตรงข้ามและและฝั่งตัวเองมิหนำซ้ำรัฐนาวาของน้องสาวอาจจะต้องโคลงเคลงไปด้วย ตรงนี้ใครจะมองว่าเป็นการเสียสละหรือเห็นแก่ตัวก็ย่อมได้ หากพรบ ผ่านและส่งผลให้บ้านเมืองสงบทักษิณก็จะถูกมองว่าเสียสละ หากล้มเหลวแรงสะท้อนย่อมกลับไปที่ทักษิณและอาจจะไม่มีโอกาสได้กลับประเทศเลยก็ได้......
ส่วนในแง่ของอภิสิทธิ์และสุเทพ........โดยส่วนตัวแม้จะเคยศรัทธาในตัวอภิสิทธิ์อย่างมากมายมาก่อน แต่ตอนนี้กลับชิงชังขยะแขยงเขายิ่งนัก นอกจากจะหาคุณสมบัติความเป็นลูกผู้ชายได้ยาก(เปล่าประโยชน์ที่จะค้นหาคุณสมบัติผู้ดีจากตัวเขา) ดูเหมือนว่าเขาไม่อนาทรร้อนใจอะไรเลยกับชีวิตที่ตกไปในช่วงที่เขาเป็นรัฐบาลที่ใช้นโยบาย “กระชับพื้นที่” และ “ขอคืนพื้นที่” ของเขา เขาโกหกคนในชาติยังไม่พอ ยังข้ามน้ำข้ามทะเลไปโกหกคนทั่วโลกอีกด้วย....น่าขันยิ่งนักตอนที่เขาให้สัมภาษณ์นักข่าวบีบีซีครั้งสุดท้าย บีบีซีจับโกหกและประจานเขาในช่วงที่เขาพยายามอธิบายว่า “….we didn’t even go in to disperse the protest….”(เรา(รัฐบาล)ไม่ได้เข้าไปสลายกลุ่มผู้ชุนุมประท้วงเลย...เริ่มในนาทีที่ 1:10 จากคลิปนี้
http://www.youtube.com/watch?v=uWUmI37vcBA ในขณะที่ภาพเคลื่อนไหวหลังฉากบีบีซีฉายภาพรถหุ้มเกราะบุกเข้าทำลายที่มั่นของผู้ชุมนุมเสื้อแดง และทหารก็ลั่นกระสุนไม่หยุด........ผมมีเพื่อนที่เป็นอาจารย์สอนวิชาประวัติศาสตร์ที่มาเล่าให้ฟังหลังจากที่ดูข่าวบีบีซีตอนนั้นว่าเขาหัวเราะกับคำให้สัมภาษณ์ซึ่งตรงกันข้ามกับภาพหลังฉากที่บีบีซีฉายออกทั่วโลก ดีแต่พูดจริงๆ.......ให้ตายสิ!!
การโยนข้อหาไปให้ขายชุดดำว่าเป็นฆาตกรโดยไม่มีหลักฐานอ้างอิงทั้งๆ ที่ตัวเองกุมอำนาจอยู่ยังไม่สามารถหาหลักฐานเพื่อที่จะคุ้มภัยตัวเองได้นั้น น่าจะชี้ให้เห็นว่าชายชุดดำเป็นเพียงตัวละครที่ถูกอุปโลกน์ขึ้นมาไม่ต่างจากไอ้ปื้ดที่ยังหาตัวตนไม่ได้ตราบเท่าทุกวันนี้
พฤติกรรมของอภิสิทธิ์ทั้งหมดในยามนี้และในอนาคต......ผมมองเห็นว่าเป็นพฤติกรรมของการ “พยายามดิ้น”ในลักษณะ “แถ” ไปเรื่อยๆ เผื่อฟลุ๊ค เผื่อมีคนเห็นและเข้าใจหรือแม้แต่สงสารเท่านั้น.......อีกทางหนึ่งก็อาศัยสถานการณ์หรือไม่ก็สร้างสถานการณ์เพื่อเป็น “บังเกอร์” ไปวันๆ.......ในสมัยเด็กเคยเห็นปลาหมอ "แถ" หาน้ำใหม่ ที่แถไปได้น้ำแห่งใหม่ก็โชคดีไป(แต่เหงือกก็แดงเถือก) ส่วนที่แถไปไมถึงน้ำใหม่ก็แห้งตายระหว่างทางซึ่งมีมากด้วย.......นี่แหละชีวิตตามบ้านนอกคอกนาได้รู้ได้เห็นอะไรหลายอย่างให้ฉุกคิดเป็นอุทาหรณ์สอนใจในการดำเนินชีวิต ส่วนชีวิตที่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อของบางคน????....ไม่อยากพูด
เหมาเข่ง : มีฤาบัวจะไม่ช้ำ น้ำจะไม่ขุ่น
เข้าใจทักษิณในฐานะที่เป็นคนไกลบ้าน อารมณ์คิดถึงบ้านเกิดเมืองนอนถ้าใครไม่ได้สัมผัสจริงก็คงเข้าใจยาก เข้าใจทักษิณว่าเขาเองก็คงเจ็บปวดบ้างไม่มากก็น้อยที่อยากเห็นพรบ นิรโทษฯ ฉบับสุดซอย เชื่อว่าเขาเองก็คงตระหนักดีว่าย่อมมีแรงสะท้อนกลับจากกลุ่มคนเสื้อแดงที่สนับสนุนเขามาตลอด มองในแง่ดี(อาจจะมีคนไม่เห็นด้วย)ก็คือเขาก็เสียสละตรงนี้เหมือนกัน คือที่ต้องถูกก่นด่าจากฝั่งตรงข้ามและและฝั่งตัวเองมิหนำซ้ำรัฐนาวาของน้องสาวอาจจะต้องโคลงเคลงไปด้วย ตรงนี้ใครจะมองว่าเป็นการเสียสละหรือเห็นแก่ตัวก็ย่อมได้ หากพรบ ผ่านและส่งผลให้บ้านเมืองสงบทักษิณก็จะถูกมองว่าเสียสละ หากล้มเหลวแรงสะท้อนย่อมกลับไปที่ทักษิณและอาจจะไม่มีโอกาสได้กลับประเทศเลยก็ได้......
ส่วนในแง่ของอภิสิทธิ์และสุเทพ........โดยส่วนตัวแม้จะเคยศรัทธาในตัวอภิสิทธิ์อย่างมากมายมาก่อน แต่ตอนนี้กลับชิงชังขยะแขยงเขายิ่งนัก นอกจากจะหาคุณสมบัติความเป็นลูกผู้ชายได้ยาก(เปล่าประโยชน์ที่จะค้นหาคุณสมบัติผู้ดีจากตัวเขา) ดูเหมือนว่าเขาไม่อนาทรร้อนใจอะไรเลยกับชีวิตที่ตกไปในช่วงที่เขาเป็นรัฐบาลที่ใช้นโยบาย “กระชับพื้นที่” และ “ขอคืนพื้นที่” ของเขา เขาโกหกคนในชาติยังไม่พอ ยังข้ามน้ำข้ามทะเลไปโกหกคนทั่วโลกอีกด้วย....น่าขันยิ่งนักตอนที่เขาให้สัมภาษณ์นักข่าวบีบีซีครั้งสุดท้าย บีบีซีจับโกหกและประจานเขาในช่วงที่เขาพยายามอธิบายว่า “….we didn’t even go in to disperse the protest….”(เรา(รัฐบาล)ไม่ได้เข้าไปสลายกลุ่มผู้ชุนุมประท้วงเลย...เริ่มในนาทีที่ 1:10 จากคลิปนี้http://www.youtube.com/watch?v=uWUmI37vcBA ในขณะที่ภาพเคลื่อนไหวหลังฉากบีบีซีฉายภาพรถหุ้มเกราะบุกเข้าทำลายที่มั่นของผู้ชุมนุมเสื้อแดง และทหารก็ลั่นกระสุนไม่หยุด........ผมมีเพื่อนที่เป็นอาจารย์สอนวิชาประวัติศาสตร์ที่มาเล่าให้ฟังหลังจากที่ดูข่าวบีบีซีตอนนั้นว่าเขาหัวเราะกับคำให้สัมภาษณ์ซึ่งตรงกันข้ามกับภาพหลังฉากที่บีบีซีฉายออกทั่วโลก ดีแต่พูดจริงๆ.......ให้ตายสิ!!
การโยนข้อหาไปให้ขายชุดดำว่าเป็นฆาตกรโดยไม่มีหลักฐานอ้างอิงทั้งๆ ที่ตัวเองกุมอำนาจอยู่ยังไม่สามารถหาหลักฐานเพื่อที่จะคุ้มภัยตัวเองได้นั้น น่าจะชี้ให้เห็นว่าชายชุดดำเป็นเพียงตัวละครที่ถูกอุปโลกน์ขึ้นมาไม่ต่างจากไอ้ปื้ดที่ยังหาตัวตนไม่ได้ตราบเท่าทุกวันนี้
พฤติกรรมของอภิสิทธิ์ทั้งหมดในยามนี้และในอนาคต......ผมมองเห็นว่าเป็นพฤติกรรมของการ “พยายามดิ้น”ในลักษณะ “แถ” ไปเรื่อยๆ เผื่อฟลุ๊ค เผื่อมีคนเห็นและเข้าใจหรือแม้แต่สงสารเท่านั้น.......อีกทางหนึ่งก็อาศัยสถานการณ์หรือไม่ก็สร้างสถานการณ์เพื่อเป็น “บังเกอร์” ไปวันๆ.......ในสมัยเด็กเคยเห็นปลาหมอ "แถ" หาน้ำใหม่ ที่แถไปได้น้ำแห่งใหม่ก็โชคดีไป(แต่เหงือกก็แดงเถือก) ส่วนที่แถไปไมถึงน้ำใหม่ก็แห้งตายระหว่างทางซึ่งมีมากด้วย.......นี่แหละชีวิตตามบ้านนอกคอกนาได้รู้ได้เห็นอะไรหลายอย่างให้ฉุกคิดเป็นอุทาหรณ์สอนใจในการดำเนินชีวิต ส่วนชีวิตที่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อของบางคน????....ไม่อยากพูด