เชื่อเศรษฐกิจปี 57 ฟื้น ต่างชาติออเดอร์สินค้ายาว 6-9 เดือน
ออเดอร์ปี 57 คึกคักต่างชาติสั่งล่วงหน้ายาว 6-9 เดือน ลูกค้าระบุตลาดหลายประเทศฟื้น คาดดันส่งออกไทยโต 7% ด้านเอกชนเล็งเสนอแผนฟื้นส่งออกไทย
วันอาทิตย์ 27 ตุลาคม 2556 เวลา 20:25 น.
นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า ในปี 57 ผู้ส่งออกได้ตั้งเป้าขยายตัวการส่งออกไทยในปี 57 ที่ระดับ 5-7% หลังเริ่มรับรู้ปริมาณคำสั่งซื้อ (ออเดอร์)จากต่างประเทศล่วงหน้าถึงครึ่งปีแรกของปี 57 (ม.ค. –มิ.ย.) ที่เข้ามาในปริมาณมากกว่าปีก่อน เนื่องจากลูกค้าให้เหตุผลว่าเศรษฐกิจในหลายประเทศ เช่น ยุโรป, สหรัฐ, จีน, ญี่ปุ่น เริ่มมีการฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคการบริโภค จึงเป็นผลดีต่อผู้ประกอบการไทยอย่างมาก
“ออเดอร์หลายๆอุตสาหกรรมเริ่มทะยอยเข้ามาเรื่อยๆ บางรายมีออเดอร์ล่วงหน้าแล้ว 6-9 เดือน ขณะที่บางรายมีล่วงหน้า 3-6 เดือน ซึ่งค่อนข้างจะมากกว่าปีก่อน ซึ่งถือว่าผู้ส่งออกค่อนข้างที่สบายใจได้ในระดับหนึ่งยกเว้นว่าในปีหน้าจะ เกิดอุบัติเหตุด้านเศรษฐกิจโดยเฉพาะประเทศสหรัฐที่ยังมีปัญหาอีกมากก็อาจทำ ให้เป้าส่งออกในปีหน้าไม่เป็นไปตามที่ประเมินไว้ก็ได้”
สำหรับการส่งออกในปีนี้สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือประเมินไว้ที่ 1.3-1.4% โดยคาดว่า 3 เดือนที่เหลือของปี (ต.ค.-ธ.ค.) ส่งออกเฉลี่ยเดือนละ 20,000 -20,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ดังนั้นเป้าตัวเลขส่งออกในปีนี้ลืมไปได้เลยแล้วมาเริ่มต้นการวางแผนในปีหน้าใหม่
นายวัลลภ กล่าวว่า ภาคเอกชนเตรียมเสนอแผนผลักดันการส่งออกไทยให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาเพื่อ อำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการและสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้า เช่น ให้รัฐบาลสร้างศูนย์ข้อมูลเชิงลึกของประเทศคู่ค้าเป็นรายสาขาธุรกิจเพื่อให้ เอกชนนำไปวางแผนในการเจาะตลาดแต่ละประเทศ เพราะที่ผ่านมาศูนย์ข้อมูลมีหลายแห่งทั้งกระทรวงต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) แต่ก็ไม่ลึกพอ
ทั้งนี้เอกชนยังต้องการให้รัฐบาลเพิ่มปริมาณการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเข้าไปร่วมลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้านในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและ สาธารณูปโภคในบริเวณชายแดน เพราะหากเพื่อนบ้านมีความสะดวกในการเดินทางมาซื้อสินค้าก็จะยิ่งเพิ่มมูลค่า การค้ามากขึ้นเช่นกัน ขณะเดียวกันรัฐบาลก็ต้องเปิดด่านถาวรให้มากขึ้นอำนวยความสะดวกผู้ค้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วง 9 เดือนของปี 56 การค้าชายแดนของไทย มาเลเซีย พม่า ลาว กัมพูชา มีปริมาณ 680,916 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.3% โดยไทยส่งออก 412,859 ล้านบาท ลดลง 2% และ นำเข้า 268,057 ล้านบาท เพิ่ม 2.5% ส่งผลให้ไทยได้ดุลการค้าชายแดน 144,802 ล้านบาท โดยได้ดุลการค้าจากลาวสูงสุด 62,290 ล้านบาท รองลงมาเป็น กัมพูชา 55,377 ล้านบาท แต่ขาดดุลกับพม่า 27,036 ล้านบาท เนื่องจากมีการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเป็นมูลค่าสูง
http://www.dailynews.co.th/Content.do?contentId=190576
จี้รัฐสร้างหนังโปรโมทประเทศไทย
เอกชนจี้รัฐเร่งสร้างหนังไทย ฉายทั่วโลก เน้นส่งเสริมอาหาร ท่องเที่ยว วัฒนธรรม เลียนแบบแดจังกึม ลอสต์อินไทยแลน ดึงดูดเที่ยวไทย โกยรายได้ ชี้พูดนมนามแต่ไม่เริ่มจริงจัง
วันอาทิตย์ 27 ตุลาคม 2556 เวลา 20:15 น.
นายวิศิษฎ์ ลิ้มประนะ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา และกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกันสนับสนุนสร้างภาพยนต์ไทย ที่เน้นการท่องเที่ยว และเน้นการสร้างวัฒนธรรมการกินอาหารของไทย รวมทั้งอาหารไทย ที่ต่างชาติชื่นชอบ สอดแทรกเข้าไป เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์และกระตุ้นให้ชาวต่างชาติมาเที่ยวป และกินอาหารไทยมากขึ้น เชื่อว่า จะสามาถผลักดันให้ยอดการส่งออกอาหารปรับเพิ่มขึ้น และรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
“ อยากให้ภาครัฐ สนับสนุนให้สร้างภาพยนต์ ที่เน้นส่งเสริมภาพลักษณ์ทั้งวัฒนธรรม การท่องเที่ยว อาหารของไทย ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่พูดกันมานานแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการจริงจัง ทั้งที่เห็นความสำเร็จจากภาพยนต์หลายเรื่องแล้ว เช่น เรื่อง ลอสต์อินไทยแลนด์ ของประเทศจีน ช่วยสร้างกระแสการท่องเที่ยว และอาหารให้ไทยอย่างมาก เช่นในหนังมีก๋วยเตี๋ยว คนจีนมาไทย ก็แห่กินแต่ก๋วยเตี๋ยวกัน อย่างหนังแดจังกึม จองนางแห่งวังหลัง ก็ทำให้คนไทยแห่กินอาหารเกาหลีเป็นจำนวนมาก เพราะฉะนั้นถ้าไทย สร้างหนังสักเรื่อง แล้วนำไปฉายในประเทศ เชื่อว่า จะทำให้คนต่างชาติ แห่มาเที่ยวไทย กินอาหารไทย ดูวัฒนธรรมไทย สร้างรายได้ให้ไทยอย่างมากแน่นอน”
สำหรับภาพรวมการส่งออกอุตสาหกรรมอาหารของไทยปีนี้ คาดว่า จะมียอดส่งออกประมาณ 980,000 ล้านบาท ไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งเป้าไว้ 1 ล้านล้านบาทแน่นอน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากสินค้าเกษตร โดยเฉพาะการส่งออกข้าว ที่ลดลงมาก ส่วนยอดการส่งออกปีหน้า ขณะนี้ยังไม่สามารถตั้งเป้าได้ เพราะขณะนี้การส่งออกสินค้าเกษตรต่างๆ ยังไม่นิ่ง และต้องรอตัวเลขจากสถาบันอาหารด้วยคาดว่า จะคาดการร์ได้ภายในสิ้นปีนี้
ส่วนการดำเนินธุรกิจ ของอุตฯอาหาร ในภาคเอสเอ็มอี อยู่ในภาวะทรงตัว หลังจากได้รับผลกระทบจากค่าแรงปรับขึ้น 300 บาท ซึ่งต้องการให้ภาครัฐ สนับสนุนผู้ประอบการเอสเอ็มอี หาตลาดในต่างประเทศมากขึ้น เช่น จัดงาน เอสเอ็มอี เอ็กซ์โปร์ และนำผู้นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศมาร่วมงาน ไม่ควรให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ออกแต่งาน โอทอปเท่านั้น
http://www.dailynews.co.th/Content.do?contentId=190557
ปล. แนวคิดนี้ จขกท. ก็อยากให้มี เหมือนครั้งที่ดูเรื่องแดจังกึม
เชื่อเศรษฐกิจปี 57 ฟื้น ต่างชาติออเดอร์สินค้ายาว 6-9 เดือน / เอกชนจี้รัฐสร้างหนังโปรโมทประเทศไทยแบบแดจังกึม
ออเดอร์ปี 57 คึกคักต่างชาติสั่งล่วงหน้ายาว 6-9 เดือน ลูกค้าระบุตลาดหลายประเทศฟื้น คาดดันส่งออกไทยโต 7% ด้านเอกชนเล็งเสนอแผนฟื้นส่งออกไทย
วันอาทิตย์ 27 ตุลาคม 2556 เวลา 20:25 น.
นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า ในปี 57 ผู้ส่งออกได้ตั้งเป้าขยายตัวการส่งออกไทยในปี 57 ที่ระดับ 5-7% หลังเริ่มรับรู้ปริมาณคำสั่งซื้อ (ออเดอร์)จากต่างประเทศล่วงหน้าถึงครึ่งปีแรกของปี 57 (ม.ค. –มิ.ย.) ที่เข้ามาในปริมาณมากกว่าปีก่อน เนื่องจากลูกค้าให้เหตุผลว่าเศรษฐกิจในหลายประเทศ เช่น ยุโรป, สหรัฐ, จีน, ญี่ปุ่น เริ่มมีการฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคการบริโภค จึงเป็นผลดีต่อผู้ประกอบการไทยอย่างมาก
“ออเดอร์หลายๆอุตสาหกรรมเริ่มทะยอยเข้ามาเรื่อยๆ บางรายมีออเดอร์ล่วงหน้าแล้ว 6-9 เดือน ขณะที่บางรายมีล่วงหน้า 3-6 เดือน ซึ่งค่อนข้างจะมากกว่าปีก่อน ซึ่งถือว่าผู้ส่งออกค่อนข้างที่สบายใจได้ในระดับหนึ่งยกเว้นว่าในปีหน้าจะ เกิดอุบัติเหตุด้านเศรษฐกิจโดยเฉพาะประเทศสหรัฐที่ยังมีปัญหาอีกมากก็อาจทำ ให้เป้าส่งออกในปีหน้าไม่เป็นไปตามที่ประเมินไว้ก็ได้”
สำหรับการส่งออกในปีนี้สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือประเมินไว้ที่ 1.3-1.4% โดยคาดว่า 3 เดือนที่เหลือของปี (ต.ค.-ธ.ค.) ส่งออกเฉลี่ยเดือนละ 20,000 -20,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ดังนั้นเป้าตัวเลขส่งออกในปีนี้ลืมไปได้เลยแล้วมาเริ่มต้นการวางแผนในปีหน้าใหม่
นายวัลลภ กล่าวว่า ภาคเอกชนเตรียมเสนอแผนผลักดันการส่งออกไทยให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาเพื่อ อำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการและสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้า เช่น ให้รัฐบาลสร้างศูนย์ข้อมูลเชิงลึกของประเทศคู่ค้าเป็นรายสาขาธุรกิจเพื่อให้ เอกชนนำไปวางแผนในการเจาะตลาดแต่ละประเทศ เพราะที่ผ่านมาศูนย์ข้อมูลมีหลายแห่งทั้งกระทรวงต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) แต่ก็ไม่ลึกพอ
ทั้งนี้เอกชนยังต้องการให้รัฐบาลเพิ่มปริมาณการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเข้าไปร่วมลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้านในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและ สาธารณูปโภคในบริเวณชายแดน เพราะหากเพื่อนบ้านมีความสะดวกในการเดินทางมาซื้อสินค้าก็จะยิ่งเพิ่มมูลค่า การค้ามากขึ้นเช่นกัน ขณะเดียวกันรัฐบาลก็ต้องเปิดด่านถาวรให้มากขึ้นอำนวยความสะดวกผู้ค้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วง 9 เดือนของปี 56 การค้าชายแดนของไทย มาเลเซีย พม่า ลาว กัมพูชา มีปริมาณ 680,916 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.3% โดยไทยส่งออก 412,859 ล้านบาท ลดลง 2% และ นำเข้า 268,057 ล้านบาท เพิ่ม 2.5% ส่งผลให้ไทยได้ดุลการค้าชายแดน 144,802 ล้านบาท โดยได้ดุลการค้าจากลาวสูงสุด 62,290 ล้านบาท รองลงมาเป็น กัมพูชา 55,377 ล้านบาท แต่ขาดดุลกับพม่า 27,036 ล้านบาท เนื่องจากมีการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเป็นมูลค่าสูง
http://www.dailynews.co.th/Content.do?contentId=190576
จี้รัฐสร้างหนังโปรโมทประเทศไทย
เอกชนจี้รัฐเร่งสร้างหนังไทย ฉายทั่วโลก เน้นส่งเสริมอาหาร ท่องเที่ยว วัฒนธรรม เลียนแบบแดจังกึม ลอสต์อินไทยแลน ดึงดูดเที่ยวไทย โกยรายได้ ชี้พูดนมนามแต่ไม่เริ่มจริงจัง
วันอาทิตย์ 27 ตุลาคม 2556 เวลา 20:15 น.
นายวิศิษฎ์ ลิ้มประนะ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา และกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกันสนับสนุนสร้างภาพยนต์ไทย ที่เน้นการท่องเที่ยว และเน้นการสร้างวัฒนธรรมการกินอาหารของไทย รวมทั้งอาหารไทย ที่ต่างชาติชื่นชอบ สอดแทรกเข้าไป เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์และกระตุ้นให้ชาวต่างชาติมาเที่ยวป และกินอาหารไทยมากขึ้น เชื่อว่า จะสามาถผลักดันให้ยอดการส่งออกอาหารปรับเพิ่มขึ้น และรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
“ อยากให้ภาครัฐ สนับสนุนให้สร้างภาพยนต์ ที่เน้นส่งเสริมภาพลักษณ์ทั้งวัฒนธรรม การท่องเที่ยว อาหารของไทย ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่พูดกันมานานแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการจริงจัง ทั้งที่เห็นความสำเร็จจากภาพยนต์หลายเรื่องแล้ว เช่น เรื่อง ลอสต์อินไทยแลนด์ ของประเทศจีน ช่วยสร้างกระแสการท่องเที่ยว และอาหารให้ไทยอย่างมาก เช่นในหนังมีก๋วยเตี๋ยว คนจีนมาไทย ก็แห่กินแต่ก๋วยเตี๋ยวกัน อย่างหนังแดจังกึม จองนางแห่งวังหลัง ก็ทำให้คนไทยแห่กินอาหารเกาหลีเป็นจำนวนมาก เพราะฉะนั้นถ้าไทย สร้างหนังสักเรื่อง แล้วนำไปฉายในประเทศ เชื่อว่า จะทำให้คนต่างชาติ แห่มาเที่ยวไทย กินอาหารไทย ดูวัฒนธรรมไทย สร้างรายได้ให้ไทยอย่างมากแน่นอน”
สำหรับภาพรวมการส่งออกอุตสาหกรรมอาหารของไทยปีนี้ คาดว่า จะมียอดส่งออกประมาณ 980,000 ล้านบาท ไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งเป้าไว้ 1 ล้านล้านบาทแน่นอน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากสินค้าเกษตร โดยเฉพาะการส่งออกข้าว ที่ลดลงมาก ส่วนยอดการส่งออกปีหน้า ขณะนี้ยังไม่สามารถตั้งเป้าได้ เพราะขณะนี้การส่งออกสินค้าเกษตรต่างๆ ยังไม่นิ่ง และต้องรอตัวเลขจากสถาบันอาหารด้วยคาดว่า จะคาดการร์ได้ภายในสิ้นปีนี้
ส่วนการดำเนินธุรกิจ ของอุตฯอาหาร ในภาคเอสเอ็มอี อยู่ในภาวะทรงตัว หลังจากได้รับผลกระทบจากค่าแรงปรับขึ้น 300 บาท ซึ่งต้องการให้ภาครัฐ สนับสนุนผู้ประอบการเอสเอ็มอี หาตลาดในต่างประเทศมากขึ้น เช่น จัดงาน เอสเอ็มอี เอ็กซ์โปร์ และนำผู้นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศมาร่วมงาน ไม่ควรให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ออกแต่งาน โอทอปเท่านั้น
http://www.dailynews.co.th/Content.do?contentId=190557
ปล. แนวคิดนี้ จขกท. ก็อยากให้มี เหมือนครั้งที่ดูเรื่องแดจังกึม