วันนี้(27 ตค 2013) ผมและแม่ไปทานอาหารที่ Shabu Shi ชั้น 2 เซ็นทรัลปิ่นเกล้า
หลังจากทานอาหารเสร็จ ตอนเวลาประมาณบ่ายสองครึ่ง แม่ก็ชำระเงินด้วยบัตรเครดิตกรุงศรี เพื่อที่จะเก็บสะสมแต้มการใช้จ่าย
หลังจากที่ออกจากร้าน ก็ขึ้นไปจองตั๋วหนังที่ชั้น 5 แต่ปรากฎว่า ... บัตรเครดิตหาย!!
หลังจากเช็คของอยู่ประมาณ 10 นาที ก็จำได้ว่า ไม่ได้รับบัตรเครดิตกลับมาจากแคชเชียร์ของร้าน Shabu Shi
สิ่งที่รับมาจากพนักงานร้านมีเพียง บัตรสมาชิกที่เพิ่งทำใหม่ ใบเสร็จค่าอาหาร และลูกอม 2 เม็ดเท่านั้น
ผมรีบพาแม่กลับไปที่ร้าน พนักงานร้านค้นดูของบริเวณโต๊ะแคชเชียร์ ...หาไม่พบ
ผู้จัดการร้านมาดูเหตุการณ์ ปฏิเสธว่าทางร้านไม่ได้เก็บบัตรเครดิตของลูกค้าไว้
ถ้าหากลูกค้าลืมไว้ ทางร้านจะเก็บไว้ให้ ซึ่งก็จะต้องหาเจอที่บริเวณแคชเชียร์แล้ว
แม่ผมยื่นใบเสร็จค่าอาหารให้ แล้วให้เปิดดูกล้องวงจรปิด
พนักงานส่วนหนึ่งเปิดดูกล้องวงจรปิดตามเวลาที่บันทึกไว้ในใบเสร็จ
กล้องวงจรปิดได้บันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบริเวณแคชเชียร์ไว้อย่างละเอียด
และแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า พนักงานไม่ได้ส่งคืนบัตรเครดิตให้
ผมและแม่ต้องการดูภาพจากวงจรปิดต่อไป เพื่อให้เห็นว่า หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นกับบัตรเครดิต
ที่อยู่ในเครื่องอ่านบัตร มีการส่งบัตรให้ลูกค้าคนอื่นไปหรือไม่ ใครเป็นคนนำบัตรออกจากเครื่อง
แต่ผู้จัดการร้าน ปฏิเสธ ที่จะเปิดดูในช่วงเวลาต่อไป โดยอ้างว่า ลูกค้าคนต่อไปชำระค่าอาหารเป็นเงินสด
และยืนกรานไม่อนุญาติให้ดูกล้องวงจรปิดต่อ
แม้ว่าเวลาจะผ่านไปเพียง 20 นาที หลังจากที่เดินออกจากร้านครั้งแรก และภาพในกล้องวงจรปิดก็ชี้ชัดว่า บัตรเครดิต
ยังอยู่ในร้าน หรือไม่ก็ถูกส่งให้ลูกค้าคนอื่นไป แต่สถานการณ์ขณะนั้น ก็ไม่มีวี่แววว่าจะได้รับบัตรคืน
เนื่องจากไม่อยากเสียเวลา แม่ผมจึงโทรไปอายัดบัตร
ฝ่ายผู้จัดการร้านเห็นดังนั้น ก็ยื่นโทรศัพท์มือถือมาให้เครื่องหนึ่งให้ใช้ครื่องนั้นโทร
ด้วยความที่กลัวว่า จะมีการบันทึกเสียง ซึ่งจะทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ ธนาคารใช้ในการยืนยันการอายัดบัตร จะหลุดไปถึงมือผู้ไม่หวังดี
แม่ผมจึงปฏิเสธที่จะใช้โทรศัพท์เครื่องนั้น แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า จะยื่นโทรศัพท์มาให้ทำไม ในเมื่อเห็นว่าลูกค้ามีโทรศัพท์อยู่แล้ว
และกำลังคุยอยู่กับธนาคาร
หลังจากอายัดบัตรเสร็จ ผู้จัดการร้านก็ขอโทษขอโพย แล้วส่งกระดาษกับปากกามาให้เขียนชื่อที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์
แน่นอน ว่าแม่ผมไม่เขียน เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว ต่อให้ได้รับบัตรคืนภายหลัง ก็ต้องไปทำบัตรใหม่อยู่ดี
แต่ข้อมูลส่วนบุคคลที่นี่สิ อาจจะถูกนำไปใช้ในทางที่เป็นอันตรายได้
กรณีของแม่ผมยังนับว่าโชคดี ที่รู้ตัวเร็ว จึงไม่ได้รับความเสียหายอะไรมากนัก นอกเสียจากต้องไปทำบัตรใหม่
กับไม่สามารถสะสมแต้มให้ครบได้ทั้งๆที่ใกล้จะครบแล้ว หากรู้ตัวช้ากว่านี้ บัตรอาจจะถูกนำไปใช้ในทางมิชอบ
ทำให้เกิดความเสียหายมากกว่านี้ จึงโพสมาเตือนเพื่อนสมาชิกเวลาชำระเงินด้วยบัตรเครดิต อย่าได้เผลอเรอลืมบัตรไว้ โดยเฉพาะที่ร้านนี้ครับ
บัตรเครดิตหาย ... ที่ Shabu Shi ชั้น 2 เซ็นทรัลปิ่นเกล้า
หลังจากทานอาหารเสร็จ ตอนเวลาประมาณบ่ายสองครึ่ง แม่ก็ชำระเงินด้วยบัตรเครดิตกรุงศรี เพื่อที่จะเก็บสะสมแต้มการใช้จ่าย
หลังจากที่ออกจากร้าน ก็ขึ้นไปจองตั๋วหนังที่ชั้น 5 แต่ปรากฎว่า ... บัตรเครดิตหาย!!
หลังจากเช็คของอยู่ประมาณ 10 นาที ก็จำได้ว่า ไม่ได้รับบัตรเครดิตกลับมาจากแคชเชียร์ของร้าน Shabu Shi
สิ่งที่รับมาจากพนักงานร้านมีเพียง บัตรสมาชิกที่เพิ่งทำใหม่ ใบเสร็จค่าอาหาร และลูกอม 2 เม็ดเท่านั้น
ผมรีบพาแม่กลับไปที่ร้าน พนักงานร้านค้นดูของบริเวณโต๊ะแคชเชียร์ ...หาไม่พบ
ผู้จัดการร้านมาดูเหตุการณ์ ปฏิเสธว่าทางร้านไม่ได้เก็บบัตรเครดิตของลูกค้าไว้
ถ้าหากลูกค้าลืมไว้ ทางร้านจะเก็บไว้ให้ ซึ่งก็จะต้องหาเจอที่บริเวณแคชเชียร์แล้ว
แม่ผมยื่นใบเสร็จค่าอาหารให้ แล้วให้เปิดดูกล้องวงจรปิด
พนักงานส่วนหนึ่งเปิดดูกล้องวงจรปิดตามเวลาที่บันทึกไว้ในใบเสร็จ
กล้องวงจรปิดได้บันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบริเวณแคชเชียร์ไว้อย่างละเอียด
และแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า พนักงานไม่ได้ส่งคืนบัตรเครดิตให้
ผมและแม่ต้องการดูภาพจากวงจรปิดต่อไป เพื่อให้เห็นว่า หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นกับบัตรเครดิต
ที่อยู่ในเครื่องอ่านบัตร มีการส่งบัตรให้ลูกค้าคนอื่นไปหรือไม่ ใครเป็นคนนำบัตรออกจากเครื่อง
แต่ผู้จัดการร้าน ปฏิเสธ ที่จะเปิดดูในช่วงเวลาต่อไป โดยอ้างว่า ลูกค้าคนต่อไปชำระค่าอาหารเป็นเงินสด
และยืนกรานไม่อนุญาติให้ดูกล้องวงจรปิดต่อ
แม้ว่าเวลาจะผ่านไปเพียง 20 นาที หลังจากที่เดินออกจากร้านครั้งแรก และภาพในกล้องวงจรปิดก็ชี้ชัดว่า บัตรเครดิต
ยังอยู่ในร้าน หรือไม่ก็ถูกส่งให้ลูกค้าคนอื่นไป แต่สถานการณ์ขณะนั้น ก็ไม่มีวี่แววว่าจะได้รับบัตรคืน
เนื่องจากไม่อยากเสียเวลา แม่ผมจึงโทรไปอายัดบัตร
ฝ่ายผู้จัดการร้านเห็นดังนั้น ก็ยื่นโทรศัพท์มือถือมาให้เครื่องหนึ่งให้ใช้ครื่องนั้นโทร
ด้วยความที่กลัวว่า จะมีการบันทึกเสียง ซึ่งจะทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ ธนาคารใช้ในการยืนยันการอายัดบัตร จะหลุดไปถึงมือผู้ไม่หวังดี
แม่ผมจึงปฏิเสธที่จะใช้โทรศัพท์เครื่องนั้น แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า จะยื่นโทรศัพท์มาให้ทำไม ในเมื่อเห็นว่าลูกค้ามีโทรศัพท์อยู่แล้ว
และกำลังคุยอยู่กับธนาคาร
หลังจากอายัดบัตรเสร็จ ผู้จัดการร้านก็ขอโทษขอโพย แล้วส่งกระดาษกับปากกามาให้เขียนชื่อที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์
แน่นอน ว่าแม่ผมไม่เขียน เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว ต่อให้ได้รับบัตรคืนภายหลัง ก็ต้องไปทำบัตรใหม่อยู่ดี
แต่ข้อมูลส่วนบุคคลที่นี่สิ อาจจะถูกนำไปใช้ในทางที่เป็นอันตรายได้
กรณีของแม่ผมยังนับว่าโชคดี ที่รู้ตัวเร็ว จึงไม่ได้รับความเสียหายอะไรมากนัก นอกเสียจากต้องไปทำบัตรใหม่
กับไม่สามารถสะสมแต้มให้ครบได้ทั้งๆที่ใกล้จะครบแล้ว หากรู้ตัวช้ากว่านี้ บัตรอาจจะถูกนำไปใช้ในทางมิชอบ
ทำให้เกิดความเสียหายมากกว่านี้ จึงโพสมาเตือนเพื่อนสมาชิกเวลาชำระเงินด้วยบัตรเครดิต อย่าได้เผลอเรอลืมบัตรไว้ โดยเฉพาะที่ร้านนี้ครับ