ก่อนออกเดินทางจากบ้าน ผมลองไล่ดูแผนที่จาก Maps ครับ..กะว่าจะจองที่พักล่วงหน้า..แต่ก็ยังไม่จองครับ..
จากนั้นก็ลองไล่ดูว่าจะค้างที่ด้านซ้าย หรือ ที่ร่องกล้า เนื่องจากตอนแรกวางแผนว่าจะขับรถไปไหว้พระที่ด่านซ้าย
โรงแรมนี้อยู่ติดถนน ครับ..ใกล้กับสามแยก แถว พระธาตุศรีสองรัก
พอออกเดินทางก็ไปจุดนี้ก่อนครับ..ขับรถจากบ้านประมาณ 3 ชั่วโมง พระธาตุศรีสองรัก จอดรถไว้ลานจอด ก่อนขึ้นไปทานส้มตำ เผ็ดมาก
แซ่บมาก และลูกชิ้น 6 ไม้ ชานมเย็น 1 แก้ว ดื่ม 2 คนกับคุณนาย พอเดินทางถึงทางขึ้นก็เห็นป้ายบอก ด้านซ้ายมือก่อนขึ้นจะเป็นดอกไม้ธูปเทียนครับ
พอขึ้นไปด้านบน กราบพระเสร็จแล้วก็เดินเวียนเพื่อความเป็นมงคล ผู้ชายขึ้นไปด้านบนมณฑปพระได้ แต่ผู้หญิงห้ามเข้าด้านในครับ
เจดีย์พระธาตุศรีสองรัก มีเอกลักษณ์ เงียบสงบมาก มีต้นจำปาลาว หลายต้นครับ ด้านล่างเจดีย์มีดอกผึ้ง/ปราสาทผึ้ง ทำจากขึ้ผึ้งและมีคุณตาอายุราว 60 ปี คอยนำสวดมนต์สำหรับ นักท่องเที่ยวหรือผู้คนที่มากราบไหว้ หรือ มาขอพระธาตุ ครับ
ผมเข้าใจว่าเป็นเกล็ดพญานาคครับ รูปนี้ทางลง ที่นี่จะทำทางขึ้นและทางลงแยกอย่างชัดเจน มีราวบันไดให้จับด้วย..
ก่อนมืด ผมและคุณนายตัดสินใจขับรถเลยไปที่ภูเรือ ไปหาที่พักเอาดาบหน้าครับ.ก่อนหาที่พักผมแวะไปตลาดเทศบาลภูเรือ และหน้าที่ว่าการอำเภอ ที่เห็น คือ เอกชน ให้งบสนับสนุน สร้างพร็อพไว้ถ่ายรูป แต่ขอใช้พื้นที่ของทางราชการ ผมชอบไอเดียนี้ครับ

อีกมุม

ร้านยำแองกรี้เบิร์ด เผ็ดมากครับ.

ร้านรวงที่นี่เปิดเย็นครับ..ตลาดเล็ก ๆ ดูชิว ๆ สบาย ของกินเพียบ ถ้าเป็นลูกค้าขาประจำ จอดรถยนต์ซื้อของโดยไม่ต้องลงจากรถก็มีครับ แน่นอนมาก
หาที่พักได้ที่นี่ครับ..เข้าห้องก็มืดพอดี จ่ายเงินก่อนเข้าพัก ภาพนี้ผมเป็นตอนเช้า..ห้องพักสัญญานเน็ตอ่อนมาก ต้องเดินมาที่ห้องอาหารเน็ตแรงดี ราคา คืนละ 800 บาท ผ้าปูเตียงคล้ายกับหอพักครับ..ไม่ใช่ผ้าฝ้ายสีขาว แต่ไม่ใช่ปัญหา..

วัดอุณหภูมิ ที่ห้องอาหาร ที่นีมีรูปถ่ายดารา นักการเมืองหลายคนที่เคยมาพักครับ..เขาการันตี..
ผมคืนห้องพัก ช่วง 10.00 น. รีบพุ่งไปที่ยอดภูเรือ เสียค่าธรรมเนียม แต่ เจ้าหน้าที่ฉีกตั๋วไปตรงตามยอดที่จ่าย..เสียใจมากที่ไม่ได้ทักท้วงตั้งแต่ตอนแรก ทุกวันนี้ต้องเช็คตั๋วให้ดี ไม่อยากร่วมคนอื่นโกงกลัวจะบาป

ขาขึ้นเขาเราเดินชมวิว และสัมผัสอากาศเย็น ส่วนขาลงใช้บริการ Shuttle ของทาง อุทยานฯ

ผมและคุณนายเดินไปกราบพระ บนยอดภูเรือ

เราใช้เวลาบนยอดภูราว 2 ชั่วโมง จึงกลับมาตัวภูเรือ ทานมื้อกลางวัน
ร้านนี้ตับหวานแซ่บมาก ใส่ตะไคร้ด้วย หอมมาก อาหารมาเร็ว มี WIFI อร่อยดีครับ..ภูเรือไก่ย่าง

ขับมุ่งหน้าด้านซ้าย มีร้านกาแฟหลงรักเลย มีดาราหลายคนเคยมาที่นี่ มีร้านขายของที่ระลึก ด้วย..มีพร็อพถ่ายรูปด้วยครับ.

เห็นว่ามีอาหารฝรั่งด้วย..ผมไม่ถนัดเลยไม่ได้ลองชิม
ถึงด่านซ้ายก็เลี้ยวซ้าย เข้ามาที่วัดนี้.เลยครับ..ผมว่าที่นี่สวยงามและมีเสน่ห์มาก โบสถ์ด้วยมาก ๆ ครับ..

องค์พระพุทธชินราช ครับ..

ด้านนอกโบสถ์ครับ..เป็นหินศิลาแลง

อำลาวัดนี้ด้วยการเสี่ยงโชคตามเดิม
มุ่งหน้าร่องกล้า นครไทย
เสียค่าธรรมเนียม แล้วก็มุ่งหน้าลานปุ่ม เวลาประมาณ 16.00 น. ก็มาเจอสภาพอากาศแบบนี้ ตอบได้เลยว่าอากาศทำให้กลัว ครับ..ไม่มีไฟฉาย มีผัาพันคอ และร่มเท่านั้น กลัวว่าฝนจะตก

เข้าใจว่าเป็นกล้วยไม้ลิ้นมังกรครับ...หาชมยากน่ะครับ

อันนี้ไม่แน่ใจว่าดอกอะไรครับ

นี่ดอกเปราะภูสีขาว ที่ร่องกล้ามีหลายจุด ครับ..

ลานหินปุ่ม ครับ..ช่วงนี้ประมาณ 17.00 น. มีผมและคุณนายสองคนที่ยังเที่ยวชมอยู่ครับ..ด้านล่างมองเห็นนครไทยครับ

ตลาดนครไทย ที่นี่มีอาหารหลากหลาย ร้านขนมไทย ขนมหวาน เยอะๆมาก..

อำลานครไทย เดินทางกลับบ้าน 3 ชั่วโมง ...สบาย ๆ อิ่มบุญสุขกายสบายใจ..
[CR] ทริปภูหินร่องกล้า ด้านซ้าย ภูเรือ 2 วัน 1 คืน (วันเข้าพรรษา 56)
จากนั้นก็ลองไล่ดูว่าจะค้างที่ด้านซ้าย หรือ ที่ร่องกล้า เนื่องจากตอนแรกวางแผนว่าจะขับรถไปไหว้พระที่ด่านซ้าย
โรงแรมนี้อยู่ติดถนน ครับ..ใกล้กับสามแยก แถว พระธาตุศรีสองรัก
พอออกเดินทางก็ไปจุดนี้ก่อนครับ..ขับรถจากบ้านประมาณ 3 ชั่วโมง พระธาตุศรีสองรัก จอดรถไว้ลานจอด ก่อนขึ้นไปทานส้มตำ เผ็ดมาก
แซ่บมาก และลูกชิ้น 6 ไม้ ชานมเย็น 1 แก้ว ดื่ม 2 คนกับคุณนาย พอเดินทางถึงทางขึ้นก็เห็นป้ายบอก ด้านซ้ายมือก่อนขึ้นจะเป็นดอกไม้ธูปเทียนครับ
พอขึ้นไปด้านบน กราบพระเสร็จแล้วก็เดินเวียนเพื่อความเป็นมงคล ผู้ชายขึ้นไปด้านบนมณฑปพระได้ แต่ผู้หญิงห้ามเข้าด้านในครับ
เจดีย์พระธาตุศรีสองรัก มีเอกลักษณ์ เงียบสงบมาก มีต้นจำปาลาว หลายต้นครับ ด้านล่างเจดีย์มีดอกผึ้ง/ปราสาทผึ้ง ทำจากขึ้ผึ้งและมีคุณตาอายุราว 60 ปี คอยนำสวดมนต์สำหรับ นักท่องเที่ยวหรือผู้คนที่มากราบไหว้ หรือ มาขอพระธาตุ ครับ
ผมเข้าใจว่าเป็นเกล็ดพญานาคครับ รูปนี้ทางลง ที่นี่จะทำทางขึ้นและทางลงแยกอย่างชัดเจน มีราวบันไดให้จับด้วย..
ก่อนมืด ผมและคุณนายตัดสินใจขับรถเลยไปที่ภูเรือ ไปหาที่พักเอาดาบหน้าครับ.ก่อนหาที่พักผมแวะไปตลาดเทศบาลภูเรือ และหน้าที่ว่าการอำเภอ ที่เห็น คือ เอกชน ให้งบสนับสนุน สร้างพร็อพไว้ถ่ายรูป แต่ขอใช้พื้นที่ของทางราชการ ผมชอบไอเดียนี้ครับ
อีกมุม
ร้านยำแองกรี้เบิร์ด เผ็ดมากครับ.
ร้านรวงที่นี่เปิดเย็นครับ..ตลาดเล็ก ๆ ดูชิว ๆ สบาย ของกินเพียบ ถ้าเป็นลูกค้าขาประจำ จอดรถยนต์ซื้อของโดยไม่ต้องลงจากรถก็มีครับ แน่นอนมาก
หาที่พักได้ที่นี่ครับ..เข้าห้องก็มืดพอดี จ่ายเงินก่อนเข้าพัก ภาพนี้ผมเป็นตอนเช้า..ห้องพักสัญญานเน็ตอ่อนมาก ต้องเดินมาที่ห้องอาหารเน็ตแรงดี ราคา คืนละ 800 บาท ผ้าปูเตียงคล้ายกับหอพักครับ..ไม่ใช่ผ้าฝ้ายสีขาว แต่ไม่ใช่ปัญหา..
วัดอุณหภูมิ ที่ห้องอาหาร ที่นีมีรูปถ่ายดารา นักการเมืองหลายคนที่เคยมาพักครับ..เขาการันตี..
ผมคืนห้องพัก ช่วง 10.00 น. รีบพุ่งไปที่ยอดภูเรือ เสียค่าธรรมเนียม แต่ เจ้าหน้าที่ฉีกตั๋วไปตรงตามยอดที่จ่าย..เสียใจมากที่ไม่ได้ทักท้วงตั้งแต่ตอนแรก ทุกวันนี้ต้องเช็คตั๋วให้ดี ไม่อยากร่วมคนอื่นโกงกลัวจะบาป
ขาขึ้นเขาเราเดินชมวิว และสัมผัสอากาศเย็น ส่วนขาลงใช้บริการ Shuttle ของทาง อุทยานฯ
ผมและคุณนายเดินไปกราบพระ บนยอดภูเรือ
เราใช้เวลาบนยอดภูราว 2 ชั่วโมง จึงกลับมาตัวภูเรือ ทานมื้อกลางวัน
ร้านนี้ตับหวานแซ่บมาก ใส่ตะไคร้ด้วย หอมมาก อาหารมาเร็ว มี WIFI อร่อยดีครับ..ภูเรือไก่ย่าง
ขับมุ่งหน้าด้านซ้าย มีร้านกาแฟหลงรักเลย มีดาราหลายคนเคยมาที่นี่ มีร้านขายของที่ระลึก ด้วย..มีพร็อพถ่ายรูปด้วยครับ.
เห็นว่ามีอาหารฝรั่งด้วย..ผมไม่ถนัดเลยไม่ได้ลองชิม
ถึงด่านซ้ายก็เลี้ยวซ้าย เข้ามาที่วัดนี้.เลยครับ..ผมว่าที่นี่สวยงามและมีเสน่ห์มาก โบสถ์ด้วยมาก ๆ ครับ..
องค์พระพุทธชินราช ครับ..
ด้านนอกโบสถ์ครับ..เป็นหินศิลาแลง
อำลาวัดนี้ด้วยการเสี่ยงโชคตามเดิม
มุ่งหน้าร่องกล้า นครไทย
เสียค่าธรรมเนียม แล้วก็มุ่งหน้าลานปุ่ม เวลาประมาณ 16.00 น. ก็มาเจอสภาพอากาศแบบนี้ ตอบได้เลยว่าอากาศทำให้กลัว ครับ..ไม่มีไฟฉาย มีผัาพันคอ และร่มเท่านั้น กลัวว่าฝนจะตก
เข้าใจว่าเป็นกล้วยไม้ลิ้นมังกรครับ...หาชมยากน่ะครับ
อันนี้ไม่แน่ใจว่าดอกอะไรครับ
นี่ดอกเปราะภูสีขาว ที่ร่องกล้ามีหลายจุด ครับ..
ลานหินปุ่ม ครับ..ช่วงนี้ประมาณ 17.00 น. มีผมและคุณนายสองคนที่ยังเที่ยวชมอยู่ครับ..ด้านล่างมองเห็นนครไทยครับ
ตลาดนครไทย ที่นี่มีอาหารหลากหลาย ร้านขนมไทย ขนมหวาน เยอะๆมาก..
อำลานครไทย เดินทางกลับบ้าน 3 ชั่วโมง ...สบาย ๆ อิ่มบุญสุขกายสบายใจ..