ดูมาแล้วกับ "ต้มยำกุ้ง2 3D" ที่ว่ากันว่ามาม่าต้มยำกุ้งยังแซ่บกว่า (ไม่สปอย)
ด้วยความที่เป็นคนไทยก็อยากจะชื่นชมฝีมือคนไทยด้วยกัน กับภาพยนตร์ที่ผู้สร้างบอกมาว่าระดับ Hollywood เลยทีเดียว ในตอนแรกบอกตรงๆว่าแค่ดูตัวอย่างก็ไม่คิดจะดูแล้ว แต่พอไปถึงโรงหนังก็ไม่เหลือหนังอะไรที่น่าสนใจให้ดูเลย ก็เลยเอาวะขอดูฝีมือกันหน่อยว่าหนังไทยไปถึงไหนกันละ โดยเฉพาะ 3D และพี่จา พนม ที่คนไทยกำลังภาคภูมิใจอยู่ตอนนี้ที่ได้ไปโกอินเตอร์แบบจริงๆเสียที
มาทางด้านภาพก่อนเลยเห็นโปรโมทกันนักหนา พอดูจบสงสัยว่าทำไมทางค่ายหนังถึงได้กล้าโปรโมทขนาดนั้น คือดู 3D แล้วไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลย มีสวยอยู่ฉากเดียวคือตอนพี่จาสอนมวยเด็กๆ แบบเห็นความตื้นลึกหนาบางของภาพได้ดี ส่วนฉากที่เหลือแทบไม่ได้รู้สึกตื่นตาตื่นใจกับ 3D เลย ทางด้าน 3D ว่าหนักแล้ว เจอซีจีนี่หนักกว่า คือนั่งดูแล้วรู้สึกอายฝรั่งที่นั่งอยู่ข้างๆเสียจริง ฉากจบนี่เล่นเอาประทับใจสุดๆ แล้วภาพแบบนี้เจอการตัดต่อแบบขั้นเทพอีก(ประชด) ให้ลองนึกภาพดูเล่นๆว่าจะดูหนังสนุกขนาดไหน
พูดถึงซีจีแล้วหนังของค่ายนี้ทำออกมาได้น่าผิดหวังตลอด แบบว่าถ้าไม่มีก็ได้และน่าจะส่งผลดีต่อหนังมากกว่า แต่กลับชอบเอาช็อตซีจีที่ไม่ถึงมาให้คนจดจำไปในทางลบ ซึ่งไม่รู้ว่าจะใส่เข้ามาเพื่ออะไร ยกตัวอย่างที่จำได้คือฉากผีเสื้อในอุโมงค์ผาเมือง
อีกจุดที่ขัดใจคือดนตรีประกอบ นอกจากจะไม่ส่งกับหนังแล้วยังน่ารำคาญอีก แถมรู้สึกว่ามันเชยมากๆด้วย
และอีกองค์ประกอบที่ทำให้หนังดูไม่สนุก ดูไม่จริง นอกจากซีจีที่ไม่เนียนเอามากๆแล้วฉากในการถ่ายทำก็ดูโดดไปโดดมา เดี๋ยวขี่มอ'ไซต์อยู่เยาวราช สักพักโผล่ไปสะพานพระราม8 เข้าใจว่ามันเป็นหนังแต่ด้วยภาพที่ดูออกแล้วว่ามันไม่จริงทำให้เราไม่เชื่อสิ่งต่างๆในหนังมากขึ้นไปอีก(ผู้ชมต่างประเทศอาจไม่รู้สึกแบบผม) แต่ขนาดหนังนอกที่มาถ่ายในไทยอย่าง Only God Forgives ยังถ่ายแบบให้ความสมจริงกับฉากนั้นๆ คืออยู่เยาวราชก็วิ่งไล่กันในเยาวราชจริงๆ พอดูแล้วเราก็รู้สึกเชื่อไปกับเรื่องราวในหนัง แม้กระทั่งอาบ อบ นวด หรือสถานที่ที่มีสาวขายบริการ Only God Forgives ก็ยังลงทุนถ่ายในสถานที่ที่มีแบบนั้นจริงๆ (แม้จะมีคนไทยบางคนบอกว่าหนังทำลายภาพลักษณ์ของประเทศไทย แต่พวกเจ้าหารู้ไม่ว่าของจริงทั้งนั้น)
บ่นมามากแล้วพอสมควร มาขอชมสิ่งที่ดีของหนังเรื่องนี้กันบ้าง อย่างแรกเลยคือทีมงานนักแสดงที่เล่นฉากอันตรายๆ นักแสดงนำก็ทำหน้าที่ได้ดี พี่จาเรามีพัฒนาการมากขึ้นพอสมควร ขอปรบมือให้นักแสดงทุกคนจริงๆจากใจ แต่ก็เสียดายหนังทั้งที่มีนักแสดงดีๆอยู่แล้ว แต่ด้วยองค์ประกอบของหนังที่ไม่ได้เกี่ยวกับตัวนักแสดงมันดันแย่ ทำให้พาเอาความตั้งใจต่างๆของนักแสดงที่ทุ่มเทให้กับหนังได้มลายหายไป ทั้งเรื่องบท เรื่องฉาก มุมกล้อง ซีจี ดนตรีประกอบ ฯลฯ
ฉากที่ชอบที่สุดในหนังคือฉากที่พี่จาดวลเดี่ยวกับลูกน้องหมัดหนักของ RZA (ซีนแรกในโกดัง)
สรุป ต้มยำกุ้ง2 เป็นหนังที่องค์ประกอบทุกอย่างของหนังทำลายฝีมือและความทุ่มเทของนักแสดงไปจนหมดสิ้น ไม่ต้องดู 3D ก็ได้ และสุดท้ายอยากให้กำลังใจอย่าเพิ่งท้อแท้กับเสียงวิจารณ์ แต่จงเอามาปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น ยังไงคนไทยก็ให้การสนับสนุนแน่นอน ถ้าทำออกมาดีจริงๆ
รอดูพี่จาใน Fast ดีกว่าาาาาาาาาาาาาา
#คุยเรื่องหนัง #ต้มยำกุ้ง2
ดูมาแล้วกับ "ต้มยำกุ้ง2 3D" ที่ว่ากันว่ามาม่าต้มยำกุ้งยังแซ่บกว่า (ไม่สปอย)
ดูมาแล้วกับ "ต้มยำกุ้ง2 3D" ที่ว่ากันว่ามาม่าต้มยำกุ้งยังแซ่บกว่า (ไม่สปอย)
ด้วยความที่เป็นคนไทยก็อยากจะชื่นชมฝีมือคนไทยด้วยกัน กับภาพยนตร์ที่ผู้สร้างบอกมาว่าระดับ Hollywood เลยทีเดียว ในตอนแรกบอกตรงๆว่าแค่ดูตัวอย่างก็ไม่คิดจะดูแล้ว แต่พอไปถึงโรงหนังก็ไม่เหลือหนังอะไรที่น่าสนใจให้ดูเลย ก็เลยเอาวะขอดูฝีมือกันหน่อยว่าหนังไทยไปถึงไหนกันละ โดยเฉพาะ 3D และพี่จา พนม ที่คนไทยกำลังภาคภูมิใจอยู่ตอนนี้ที่ได้ไปโกอินเตอร์แบบจริงๆเสียที
มาทางด้านภาพก่อนเลยเห็นโปรโมทกันนักหนา พอดูจบสงสัยว่าทำไมทางค่ายหนังถึงได้กล้าโปรโมทขนาดนั้น คือดู 3D แล้วไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลย มีสวยอยู่ฉากเดียวคือตอนพี่จาสอนมวยเด็กๆ แบบเห็นความตื้นลึกหนาบางของภาพได้ดี ส่วนฉากที่เหลือแทบไม่ได้รู้สึกตื่นตาตื่นใจกับ 3D เลย ทางด้าน 3D ว่าหนักแล้ว เจอซีจีนี่หนักกว่า คือนั่งดูแล้วรู้สึกอายฝรั่งที่นั่งอยู่ข้างๆเสียจริง ฉากจบนี่เล่นเอาประทับใจสุดๆ แล้วภาพแบบนี้เจอการตัดต่อแบบขั้นเทพอีก(ประชด) ให้ลองนึกภาพดูเล่นๆว่าจะดูหนังสนุกขนาดไหน
พูดถึงซีจีแล้วหนังของค่ายนี้ทำออกมาได้น่าผิดหวังตลอด แบบว่าถ้าไม่มีก็ได้และน่าจะส่งผลดีต่อหนังมากกว่า แต่กลับชอบเอาช็อตซีจีที่ไม่ถึงมาให้คนจดจำไปในทางลบ ซึ่งไม่รู้ว่าจะใส่เข้ามาเพื่ออะไร ยกตัวอย่างที่จำได้คือฉากผีเสื้อในอุโมงค์ผาเมือง
อีกจุดที่ขัดใจคือดนตรีประกอบ นอกจากจะไม่ส่งกับหนังแล้วยังน่ารำคาญอีก แถมรู้สึกว่ามันเชยมากๆด้วย
และอีกองค์ประกอบที่ทำให้หนังดูไม่สนุก ดูไม่จริง นอกจากซีจีที่ไม่เนียนเอามากๆแล้วฉากในการถ่ายทำก็ดูโดดไปโดดมา เดี๋ยวขี่มอ'ไซต์อยู่เยาวราช สักพักโผล่ไปสะพานพระราม8 เข้าใจว่ามันเป็นหนังแต่ด้วยภาพที่ดูออกแล้วว่ามันไม่จริงทำให้เราไม่เชื่อสิ่งต่างๆในหนังมากขึ้นไปอีก(ผู้ชมต่างประเทศอาจไม่รู้สึกแบบผม) แต่ขนาดหนังนอกที่มาถ่ายในไทยอย่าง Only God Forgives ยังถ่ายแบบให้ความสมจริงกับฉากนั้นๆ คืออยู่เยาวราชก็วิ่งไล่กันในเยาวราชจริงๆ พอดูแล้วเราก็รู้สึกเชื่อไปกับเรื่องราวในหนัง แม้กระทั่งอาบ อบ นวด หรือสถานที่ที่มีสาวขายบริการ Only God Forgives ก็ยังลงทุนถ่ายในสถานที่ที่มีแบบนั้นจริงๆ (แม้จะมีคนไทยบางคนบอกว่าหนังทำลายภาพลักษณ์ของประเทศไทย แต่พวกเจ้าหารู้ไม่ว่าของจริงทั้งนั้น)
บ่นมามากแล้วพอสมควร มาขอชมสิ่งที่ดีของหนังเรื่องนี้กันบ้าง อย่างแรกเลยคือทีมงานนักแสดงที่เล่นฉากอันตรายๆ นักแสดงนำก็ทำหน้าที่ได้ดี พี่จาเรามีพัฒนาการมากขึ้นพอสมควร ขอปรบมือให้นักแสดงทุกคนจริงๆจากใจ แต่ก็เสียดายหนังทั้งที่มีนักแสดงดีๆอยู่แล้ว แต่ด้วยองค์ประกอบของหนังที่ไม่ได้เกี่ยวกับตัวนักแสดงมันดันแย่ ทำให้พาเอาความตั้งใจต่างๆของนักแสดงที่ทุ่มเทให้กับหนังได้มลายหายไป ทั้งเรื่องบท เรื่องฉาก มุมกล้อง ซีจี ดนตรีประกอบ ฯลฯ
ฉากที่ชอบที่สุดในหนังคือฉากที่พี่จาดวลเดี่ยวกับลูกน้องหมัดหนักของ RZA (ซีนแรกในโกดัง)
สรุป ต้มยำกุ้ง2 เป็นหนังที่องค์ประกอบทุกอย่างของหนังทำลายฝีมือและความทุ่มเทของนักแสดงไปจนหมดสิ้น ไม่ต้องดู 3D ก็ได้ และสุดท้ายอยากให้กำลังใจอย่าเพิ่งท้อแท้กับเสียงวิจารณ์ แต่จงเอามาปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น ยังไงคนไทยก็ให้การสนับสนุนแน่นอน ถ้าทำออกมาดีจริงๆ
รอดูพี่จาใน Fast ดีกว่าาาาาาาาาาาาาา
#คุยเรื่องหนัง #ต้มยำกุ้ง2