http://www.stock2morrow.com/showthread.php?t=52229
ขอขอบคุณ คุณ yongyong แห่ง S2M ครับ
หลายปีที่ผ่านมา Technical analysis ได้รับความนิยมเยอะจริงๆ เรียกว่ามีวิเคราะห์คลื่น SET, มี Scan หุ้นให้ดูรายวัน และหลายๆ คนก็ยึดการเทรดเป็นอาชีพ. สำหรับผู้ที่ทำกำไรได้เรื่อยๆ ผมก็ยินดีด้วย ผู้ที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกก็อยากให้กำลังใจ แต่ถ้าในแวดวงเทรดเดอร์จะสังเกตุเห็นอีกสถานการณ์ คือเทรดทำกำไร-ได้เงินเรื่อยๆ แต่แปลกที่ Port ไม่ไปไหน. ใช้เครื่องมือดู Chart เป็น ฉะนั้นเรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหา แต่เกิดจากมุมมองภาพการเทรดที่บิดเบือน
1. เลือกเทรดเร็วเพราะคิดมองว่าทุกความเคลื่อนไหวของราคาคือโอกาสในการทำกำไร ถูกต้องครับมันคือโอกาส แต่มันเป็นโอกาสที่แฝงด้วยความเสี่ยงในระดับที่ไม่เท่ากัน. ถ้าไม่ยอมรอ (ซึ่งไอ้ความคิดเทรดเร็วก็มาจากความไม่อยากรอนี่แหละ) สุดท้ายก็ต้องเข้าไปวัดดวงกับโอกาสที่ไม่คุ้มเสี่ยง. ได้ก็แล้วไป พลาดก็คือความเสียหายที่ไม่ได้จำเป็นต้องเกิด
2. วาง Stop ไว้ที่ต้นทุน หรือเทรดเร็ว Stop ใกล้กว่า เมื่อโดนก็เสียหายน้อยกว่า ถูกต้องอีกเหมือนกัน. แต่การเทรดเร็วก็เป็นวิธีการที่ชัวร์ว่าได้ขายหมูออกไปก่อนที่จะขี่ Trend ยาวๆ อย่างแน่นอน. และวิธีที่บอกว่าซื้อที่ TF เล็กเพื่อให้ได้ต้นทุนดีๆ แล้วเป็น Run trend ใน TF ใหญ่ มันทำได้แค่ยกตัวอย่าง ไม่สามารถทำได้อย่างต่อเนื่องแท้จริงในระยะยาว. ขายหมูออกกันไปก่อนทั้งนั้น.
3. เปลี่ยนหุ้นบ่อยๆ หวังเก็บทุกเม็ด มีผลหุ้น Scan รายวัน; Indi crossover, vol breakout ฯลฯ ถ้าตลาดเขียวหน่อย สัญญาณซื้อมาเพียบครับ. แต่ไม่ได้หมายความว่ารอบนั้นๆ หุ้นตัวทุกที่ซื้อจะขึ้น ที่ขึ้นจะขึ้นเท่ากันหรือขึ้นพร้อมกัน. สังเกตุดีๆ นลท. รายย่อยที่สามารถทำกำไรได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ไม่ว่าจะ FA หรือ TA เขามักจะได้ Homerun หุ้นเพียงไม่กี่ตัวในอายุที่เทรดแต่ได้มหาศาลจริงๆ การหวังได้กำไรจากหุ้นทุกตัวที่ Scan เจอไม่ต่างกับคนที่พยายามขับเปลี่ยนเลนโดยหวังให้ไปเร็วขึ้น มันน่าจะเป็นแบบนั้นแต่ผลลัพท์ไม่เสมอไป การเทรดแบบเก็บเหรียญก็เหมือนกัน ทำกำไรได้แต่ Port ไม่โต
4. เผื่อเงินน้อยเทรด Futures โดยคิดว่าจะวางน้อยหน่อยก็จะได้เทรดหลายสัญญาหน่อย. คิดแบบนั้นถูก แต่มันมาจากกรอบความคิดที่ผิด. ถ้าคุม Drawdown ได้ไม่ดีจริง และความเสียหายมันทำให้ไม่สามารถเทรดได้ Lot size เท่าเดิม เหมือนเสียบนฐาน 10 แล้วต้องไปเอาคืนบนฐานที่น้อยกว่า 10 ระยะยาวโตยาก ส่วนใหญ่ไม่ยอมให้ขาดทุนจน Lot size ลด เพราะเทรดเร็วมากๆ ปัญหาคือ แรงกดดันครับ. เผื่อเงินน้อยเทรด Futures เงินใน Port จะเหวี่ยงมากๆ. แรงกดดันนี้เอาชนะยาก ยิ่งเทรดเร็วแปลว่าต้องเฝ้าหน้าจอด้วย จะดึงอารมณ์ออกจากสมการการเทรดแทบเป็นไปไม่ได้
- เงิน ใครๆ ก็อยากได้ ยิ่งเวลากำไรในตลาดยิ่งรู้สึกว่าเงินหาง่าย การเทรดให้ได้กำไรผมว่าไม่ยากนะ. แต่ที่จะเทรดให้ได้และต่อยอดไปเรื่อยๆ เป็นความมั่งคั่ง ทำฐานทุนให้ใหญ่เป็นหลายๆ ร้อย หลายๆ พันล้านได้. ผมว่านั่นแหละไม่ธรรมดา. จะหวังให้กำไรได้เยอะๆ ชนิด Port โต ฐานทุนขยับ ก็ควรวางระยะห่างมากพอให้ราคาเหวี่ยงได้ สะบัดได้บ้าง. คิดแต่จะกำไร ไม่ยอมเสียเลย โอกาสเจ๊งคงไม่มี แต่โอกาส "รวย" ก็คงไม่เห็นเหมือนกัน
อยากได้ แต่ไม่ยอมเสีย
ขอขอบคุณ คุณ yongyong แห่ง S2M ครับ
หลายปีที่ผ่านมา Technical analysis ได้รับความนิยมเยอะจริงๆ เรียกว่ามีวิเคราะห์คลื่น SET, มี Scan หุ้นให้ดูรายวัน และหลายๆ คนก็ยึดการเทรดเป็นอาชีพ. สำหรับผู้ที่ทำกำไรได้เรื่อยๆ ผมก็ยินดีด้วย ผู้ที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกก็อยากให้กำลังใจ แต่ถ้าในแวดวงเทรดเดอร์จะสังเกตุเห็นอีกสถานการณ์ คือเทรดทำกำไร-ได้เงินเรื่อยๆ แต่แปลกที่ Port ไม่ไปไหน. ใช้เครื่องมือดู Chart เป็น ฉะนั้นเรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหา แต่เกิดจากมุมมองภาพการเทรดที่บิดเบือน
1. เลือกเทรดเร็วเพราะคิดมองว่าทุกความเคลื่อนไหวของราคาคือโอกาสในการทำกำไร ถูกต้องครับมันคือโอกาส แต่มันเป็นโอกาสที่แฝงด้วยความเสี่ยงในระดับที่ไม่เท่ากัน. ถ้าไม่ยอมรอ (ซึ่งไอ้ความคิดเทรดเร็วก็มาจากความไม่อยากรอนี่แหละ) สุดท้ายก็ต้องเข้าไปวัดดวงกับโอกาสที่ไม่คุ้มเสี่ยง. ได้ก็แล้วไป พลาดก็คือความเสียหายที่ไม่ได้จำเป็นต้องเกิด
2. วาง Stop ไว้ที่ต้นทุน หรือเทรดเร็ว Stop ใกล้กว่า เมื่อโดนก็เสียหายน้อยกว่า ถูกต้องอีกเหมือนกัน. แต่การเทรดเร็วก็เป็นวิธีการที่ชัวร์ว่าได้ขายหมูออกไปก่อนที่จะขี่ Trend ยาวๆ อย่างแน่นอน. และวิธีที่บอกว่าซื้อที่ TF เล็กเพื่อให้ได้ต้นทุนดีๆ แล้วเป็น Run trend ใน TF ใหญ่ มันทำได้แค่ยกตัวอย่าง ไม่สามารถทำได้อย่างต่อเนื่องแท้จริงในระยะยาว. ขายหมูออกกันไปก่อนทั้งนั้น.
3. เปลี่ยนหุ้นบ่อยๆ หวังเก็บทุกเม็ด มีผลหุ้น Scan รายวัน; Indi crossover, vol breakout ฯลฯ ถ้าตลาดเขียวหน่อย สัญญาณซื้อมาเพียบครับ. แต่ไม่ได้หมายความว่ารอบนั้นๆ หุ้นตัวทุกที่ซื้อจะขึ้น ที่ขึ้นจะขึ้นเท่ากันหรือขึ้นพร้อมกัน. สังเกตุดีๆ นลท. รายย่อยที่สามารถทำกำไรได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ไม่ว่าจะ FA หรือ TA เขามักจะได้ Homerun หุ้นเพียงไม่กี่ตัวในอายุที่เทรดแต่ได้มหาศาลจริงๆ การหวังได้กำไรจากหุ้นทุกตัวที่ Scan เจอไม่ต่างกับคนที่พยายามขับเปลี่ยนเลนโดยหวังให้ไปเร็วขึ้น มันน่าจะเป็นแบบนั้นแต่ผลลัพท์ไม่เสมอไป การเทรดแบบเก็บเหรียญก็เหมือนกัน ทำกำไรได้แต่ Port ไม่โต
4. เผื่อเงินน้อยเทรด Futures โดยคิดว่าจะวางน้อยหน่อยก็จะได้เทรดหลายสัญญาหน่อย. คิดแบบนั้นถูก แต่มันมาจากกรอบความคิดที่ผิด. ถ้าคุม Drawdown ได้ไม่ดีจริง และความเสียหายมันทำให้ไม่สามารถเทรดได้ Lot size เท่าเดิม เหมือนเสียบนฐาน 10 แล้วต้องไปเอาคืนบนฐานที่น้อยกว่า 10 ระยะยาวโตยาก ส่วนใหญ่ไม่ยอมให้ขาดทุนจน Lot size ลด เพราะเทรดเร็วมากๆ ปัญหาคือ แรงกดดันครับ. เผื่อเงินน้อยเทรด Futures เงินใน Port จะเหวี่ยงมากๆ. แรงกดดันนี้เอาชนะยาก ยิ่งเทรดเร็วแปลว่าต้องเฝ้าหน้าจอด้วย จะดึงอารมณ์ออกจากสมการการเทรดแทบเป็นไปไม่ได้
- เงิน ใครๆ ก็อยากได้ ยิ่งเวลากำไรในตลาดยิ่งรู้สึกว่าเงินหาง่าย การเทรดให้ได้กำไรผมว่าไม่ยากนะ. แต่ที่จะเทรดให้ได้และต่อยอดไปเรื่อยๆ เป็นความมั่งคั่ง ทำฐานทุนให้ใหญ่เป็นหลายๆ ร้อย หลายๆ พันล้านได้. ผมว่านั่นแหละไม่ธรรมดา. จะหวังให้กำไรได้เยอะๆ ชนิด Port โต ฐานทุนขยับ ก็ควรวางระยะห่างมากพอให้ราคาเหวี่ยงได้ สะบัดได้บ้าง. คิดแต่จะกำไร ไม่ยอมเสียเลย โอกาสเจ๊งคงไม่มี แต่โอกาส "รวย" ก็คงไม่เห็นเหมือนกัน