คือชนชั้นกลางส่วนใหญ่ ที่เป็นนักศึกษาก็คงไม่ต้องดิ้นรนหารายได้เลี้ยงตัวเอง มีพ่อแม่ที่สามารถให้เงินเป็นค่าเรียนและค่าดำรงชีวิตได้อย่างสบายจนจบชั้นอุดมศึกษา (และดีไม่ดียังคงเลี้ยงต่อแม้จะเรียนจบทำงานแล้ว) ก็คงให้เงินมามากเพียงพอ
อยากให้ประหยัดเงินกันไว้บ้างครับ เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ กินดื่มช็อป อย่าให้มันมากนัก เก็บเงินกันไว้บ้าง
จะขอยกตัวอย่างชีวิตตัวเอง แบบว่าเรียนมาห้าหกปีในชีวิตมหาวิทยาลัย
ได้เงินเดือนละหมื่นกว่าบาทอัพ แต่อยู่หอเอง ปีแรกๆหอราคาเดือนละ 6000 ปีหลังๆอยู่หอในไม่ต้องจ่ายค่าหอ จ่ายแต่เฉพาะค่าไฟ
เคยสอนพิเศษมีรายได้มากพอสมควรในช่วงปิดเทอม (วันละ 2000) แต่พอพ้นช่วงรายได้ดี เงินเก็บกลับไม่เหลือหรอ
กลับไม่มีเงินเก็บเลย
เหตุที่เอาไปใช้ก็ กิน ดื่ม ช็อป นั่นแหละครับ
กินอาหารแพงๆ เข้าร้านบุฟเฟต์ ร้านในห้าง มื้อละ 2-400 บาท
ดื่มเหล้า เข้าผับ ครั้งนึงประมาณคนละ 500 up
ช็อปปิ้งสินค้าต่างๆ เสื้อผ้าราคาแพง
สุดท้ายตอนนี้ชีวิตเดือนชนเดือน คือคุณพ่อแม่ให้เงินมา สิ้นเดือนก็ใช้หมด
ยังดีที่ถ้าเรียนจบจะมีรายได้ที่แน่นอนพอสมควร (ซึ่งแลกมาด้วยแรงงานนะ) ไม่งั้นถ้าต้องใช้เวลาหางานทำ คงลำบากแน่ๆ
ลองคิดทบทวนกลับไป
ถ้าเกิดเราเก็บเงินสักเดือนละ 2-3000 บาท ป่านนี้เราคงมีเงินเก็บเป็นหลักแสนบาท เอาไว้ดาวน์รถ หรือว่าตั้งต้นประกอบธุรกิจต่างๆได้
หรือเริ่มลงทุนจริงๆจังๆ ให้ได้ดอกผลมา
การเก็บเงินเดือนละ 3000 บาท ของคนที่มีเงินเดือนละหมื่นกว่าบาท ... ดูจะไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย?
แต่เราก็กลับทำไม่ได้
สรุปเป็นข้อตักเตือนว่า
- เริ่มเก็บเงินกันไว้ตั้งแต่ปี 1 เถิดครับ เรียนจบจะได้มีเงินสักก้อน ที่เป็นของตัวเอง มีอิสระในการใช้จ่าย
- วิธีเก็บเงินให้ได้ก็คือ ใช้ให้น้อยกว่ารายรับ จะได้เงินออมออกมา ส่วนเงินออมนั้นจะไปทำอะไรก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่คิดว่าถ้ายังเป็นเงินน้อยๆอยู่ ไม่ต้องไปสรรหาวิธีลงทุนอะไรให้วุ่นวาย ฝากธนาคารก็พอแล้วครับ แค่อย่าถอนออกมาใช้ก็โอเคละ
วิธีสร้างรายได้เพิ่มของนักศึกษา
- ทำงานเสริมครับ อะไรก็ได้ แต่ห้ามกระทบกับการเรียน เพราะเรายังมีหน้าที่เรียนเป็นหลักอยู่ (ในที่นี้ไม่รวมถึงคนที่ไม่ได้มีพ่อแม่เป็น backup ต้องทำงานหาเงินเพื่อดำรงชีวิตเองนะครับ คนเหล่านั้นเขาเข้มแข็งและลำบากมาก)
ตัวอย่างงานเสริมที่คุ้มค่า เช่นการสอนพิเศษ ผมสอนสัปดาห์ละ 4 ชั่วโมง ชั่วโมงละ 300 บาท คุ้มค่าสุดๆครับ เลือกที่สอนที่ใกล้ๆสะดวกเรา ชีทหรือเอกสารประกอบการสอน หากเราลงทุนทำไว้เป็นครั้งแรกแล้ว ครั้งต่อๆไปก็เอามา apply ใช้กับนักเรียนคนต่อๆไปได้ เวลาสอน น้องต้องการให้สอนบทไหน ก็เปิดบทนั้น แก้ไขนิดหน่อย แล้วกดปริ๊นออกมา แล้วก็ไปสอนได้เลย
ตัวอย่างงานเสริมที่ไม่คุ้มค่า และเหนื่อยเกินไป เช่น การเสริ์ฟอาหาร ชั่วโมงละ 35 บาท ทำวันละ 5-6 ชั่วโมง
ถามว่าคุณไปสมัครทำอะไรพวกนี้ เลิกห้าทุ่ม วันต่อไปคุณจะไปเรียนได้หรือ เป็นไปไม่ได้ เหมาะสำหรับคนที่อยากหาประสบการณ์ในช่วงที่ไม่ได้เรียน (เช่นปิดเทอม) เท่านั้น
วิธีประหยัดเงินของนักศึกษา
- ใช้เงินให้น้อย อย่างแรกเลยคืองดสิ่งที่ทำให้เกิดโทษ เช่นสุราบุหรี่ คือผมก็เข้าใจว่าไปผับ สนุกสนานเฮฮา แต่ไปทุกอาทิตย์นี่ออกจะมากไปนะครับ หลายๆคนที่ผมเห็นมาคือไปอาทิตย์ละ 2 วันด้วยซ้ำ
กินข้าวโรงอาหารมหาวิทยาลัยครับ ราคาไม่แพง
ซักผ้ารีดผ้าเอง ซักผ้าไปใส่ตู้หยอดเหรียญเอาก็ได้ รีดผ้าก็ไปซื้อโต๊ะกับเตารีดมารีดเองครับ ไม่ได้เสียเวลามากแต่ประหยัดได้เยอะกับค่าส่งร้าน
อื่นๆก็คือเรื่องดื่มเรื่องช็อป ลดละเลิก พยายามใช้เงินอย่างคุ้มค่าครับ
ที่สำคัญคือทำบัญชีรายรับรายจ่ายด้วยครับ จะได้มีสติรู้ตัวว่าเราจ่ายอะไรไปบ้าง
เป็นกำลังใจให้ครับ
อยากเตือนน้องๆนักศึกษาให้เริ่มเก็บเงินกันไว้บ้างครับ เงินที่ได้จากพ่อแม่เรานั่นแหละ ก่อนจะสายเกินไป
อยากให้ประหยัดเงินกันไว้บ้างครับ เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ กินดื่มช็อป อย่าให้มันมากนัก เก็บเงินกันไว้บ้าง
จะขอยกตัวอย่างชีวิตตัวเอง แบบว่าเรียนมาห้าหกปีในชีวิตมหาวิทยาลัย
ได้เงินเดือนละหมื่นกว่าบาทอัพ แต่อยู่หอเอง ปีแรกๆหอราคาเดือนละ 6000 ปีหลังๆอยู่หอในไม่ต้องจ่ายค่าหอ จ่ายแต่เฉพาะค่าไฟ
เคยสอนพิเศษมีรายได้มากพอสมควรในช่วงปิดเทอม (วันละ 2000) แต่พอพ้นช่วงรายได้ดี เงินเก็บกลับไม่เหลือหรอ
กลับไม่มีเงินเก็บเลย
เหตุที่เอาไปใช้ก็ กิน ดื่ม ช็อป นั่นแหละครับ
กินอาหารแพงๆ เข้าร้านบุฟเฟต์ ร้านในห้าง มื้อละ 2-400 บาท
ดื่มเหล้า เข้าผับ ครั้งนึงประมาณคนละ 500 up
ช็อปปิ้งสินค้าต่างๆ เสื้อผ้าราคาแพง
สุดท้ายตอนนี้ชีวิตเดือนชนเดือน คือคุณพ่อแม่ให้เงินมา สิ้นเดือนก็ใช้หมด
ยังดีที่ถ้าเรียนจบจะมีรายได้ที่แน่นอนพอสมควร (ซึ่งแลกมาด้วยแรงงานนะ) ไม่งั้นถ้าต้องใช้เวลาหางานทำ คงลำบากแน่ๆ
ลองคิดทบทวนกลับไป
ถ้าเกิดเราเก็บเงินสักเดือนละ 2-3000 บาท ป่านนี้เราคงมีเงินเก็บเป็นหลักแสนบาท เอาไว้ดาวน์รถ หรือว่าตั้งต้นประกอบธุรกิจต่างๆได้
หรือเริ่มลงทุนจริงๆจังๆ ให้ได้ดอกผลมา
การเก็บเงินเดือนละ 3000 บาท ของคนที่มีเงินเดือนละหมื่นกว่าบาท ... ดูจะไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย?
แต่เราก็กลับทำไม่ได้
สรุปเป็นข้อตักเตือนว่า
- เริ่มเก็บเงินกันไว้ตั้งแต่ปี 1 เถิดครับ เรียนจบจะได้มีเงินสักก้อน ที่เป็นของตัวเอง มีอิสระในการใช้จ่าย
- วิธีเก็บเงินให้ได้ก็คือ ใช้ให้น้อยกว่ารายรับ จะได้เงินออมออกมา ส่วนเงินออมนั้นจะไปทำอะไรก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่คิดว่าถ้ายังเป็นเงินน้อยๆอยู่ ไม่ต้องไปสรรหาวิธีลงทุนอะไรให้วุ่นวาย ฝากธนาคารก็พอแล้วครับ แค่อย่าถอนออกมาใช้ก็โอเคละ
วิธีสร้างรายได้เพิ่มของนักศึกษา
- ทำงานเสริมครับ อะไรก็ได้ แต่ห้ามกระทบกับการเรียน เพราะเรายังมีหน้าที่เรียนเป็นหลักอยู่ (ในที่นี้ไม่รวมถึงคนที่ไม่ได้มีพ่อแม่เป็น backup ต้องทำงานหาเงินเพื่อดำรงชีวิตเองนะครับ คนเหล่านั้นเขาเข้มแข็งและลำบากมาก)
ตัวอย่างงานเสริมที่คุ้มค่า เช่นการสอนพิเศษ ผมสอนสัปดาห์ละ 4 ชั่วโมง ชั่วโมงละ 300 บาท คุ้มค่าสุดๆครับ เลือกที่สอนที่ใกล้ๆสะดวกเรา ชีทหรือเอกสารประกอบการสอน หากเราลงทุนทำไว้เป็นครั้งแรกแล้ว ครั้งต่อๆไปก็เอามา apply ใช้กับนักเรียนคนต่อๆไปได้ เวลาสอน น้องต้องการให้สอนบทไหน ก็เปิดบทนั้น แก้ไขนิดหน่อย แล้วกดปริ๊นออกมา แล้วก็ไปสอนได้เลย
ตัวอย่างงานเสริมที่ไม่คุ้มค่า และเหนื่อยเกินไป เช่น การเสริ์ฟอาหาร ชั่วโมงละ 35 บาท ทำวันละ 5-6 ชั่วโมง
ถามว่าคุณไปสมัครทำอะไรพวกนี้ เลิกห้าทุ่ม วันต่อไปคุณจะไปเรียนได้หรือ เป็นไปไม่ได้ เหมาะสำหรับคนที่อยากหาประสบการณ์ในช่วงที่ไม่ได้เรียน (เช่นปิดเทอม) เท่านั้น
วิธีประหยัดเงินของนักศึกษา
- ใช้เงินให้น้อย อย่างแรกเลยคืองดสิ่งที่ทำให้เกิดโทษ เช่นสุราบุหรี่ คือผมก็เข้าใจว่าไปผับ สนุกสนานเฮฮา แต่ไปทุกอาทิตย์นี่ออกจะมากไปนะครับ หลายๆคนที่ผมเห็นมาคือไปอาทิตย์ละ 2 วันด้วยซ้ำ
กินข้าวโรงอาหารมหาวิทยาลัยครับ ราคาไม่แพง
ซักผ้ารีดผ้าเอง ซักผ้าไปใส่ตู้หยอดเหรียญเอาก็ได้ รีดผ้าก็ไปซื้อโต๊ะกับเตารีดมารีดเองครับ ไม่ได้เสียเวลามากแต่ประหยัดได้เยอะกับค่าส่งร้าน
อื่นๆก็คือเรื่องดื่มเรื่องช็อป ลดละเลิก พยายามใช้เงินอย่างคุ้มค่าครับ
ที่สำคัญคือทำบัญชีรายรับรายจ่ายด้วยครับ จะได้มีสติรู้ตัวว่าเราจ่ายอะไรไปบ้าง
เป็นกำลังใจให้ครับ