นี่คือเรี่องเล่าชวนให้รวย ที่ตกทอดกันมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ขอเชิญอ่านแล้วคิดตามให้ดีเพราะเรื่องเล่าเรื่องนี้คุณจะได้มากกว่าความสนุก ในสมัยกรุงศรีอยุธยามีชายชื่อว่า บุญมี ผู้ไม่ประกอบอาชีพใด เอาแต่เพ้อฝันตามหาสูตรลับทีจะเปลี่ยนตะกั่วกลายเป็นทองคำ เมื่อนั้นเขาจะได้ร่ำรวยมีเงินมากมาย กลายเป็นเศรษฐี เมียของนายบุญมีก็ทนไม่ไหวกับความเพ้อฝันนี้จึงนำเรื่องไปบอกต่อพ่อของเธอ เมื่อพ่อได้ยินจึงเรียกลูกเขยมา พร้อมบอกว่าพ่อตาคนนี้มีสูตรที่จะเปลี่ยนตะกั่วให้เป็นทองคำอยู่ในมือ วัตถุดิบสำคัญสูตรนี้คือ นวลใบตองซึ่งก็คือผงที่ติดอยู่ใต้ใบตองทั้งหลาย ต้องใช้ทั้งสิ้น 2 ชั่ง พ่อตาก็บอกว่าถ้าได้ครบ 2 ชั่งเมื่อใด ตนจะบอกสูตรทำตะกั่วให้เป็นทอง อันจะทำให้บุญมีร่ำรวยขึ้นมาทันที บุญมีได้ยินดังนั้นก็ดีใจ รีบชวนเมียมาปลูกต้นกล้วยจำนวนมาก พอโตได้ที่บุญมีก็คอยเก็บนวลใบตองเพียงอย่างเดียวไม่สนส่วนใบหรือผลอื่นๆส่วนเมียก็จะตัดใบตอง เอาผลกล้วย หัวปลีและส่วนต่างๆของต้นกล้วยไปขาย พอได้เงินมาก็เก็บไว้ใช้จ่ายพอประมาณ เมื่อเวลาผ่านไปนวลใบตองที่บุญมีเก็บก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆเช่นเดียวกับจำนวนเงินที่เมียนายบุญมีสะสมเก็บหอมรอมริบก็เพิ่มตาม จนหลายปีต่อมานายบุญมีก็ได้นวลใบตองครบปริมาณ 2 ชั่งดังที่พ่อตาได้สั่งไว้ เขาจึงรีบนำนวลใบตองไปมอบให้พ่อตาพร้อมทวงถามสูตรลับที่ว่านั้นโดยไม่รอช้า พ่อตาจึงชี้แจงว่าตอนนี้ บุญมีและเมียก็เป็นเศรษฐีเรียบร้อย ตอนแรกบุญมีก็ไม่เข้าใจ ก่อนจะรู้ว่านี่คือกุศโลบายอย่างหนึ่ง เพราะระหว่างที่บุญมีหลับหูหลับตาเก็บนวลใบตองอยู่นั้น เมียก็ทำเงินทำทองจากส่วนต่างๆของกล้วย จนร่ำรวยมีฐานะขึ้นมาจากการปลูกกล้วย ส่วนนวลใบตองนั้นเป็นเพียงอุบายที่พ่อตากุขึ้น เพื่อให้บุญมีทำมาหากินนั้นเอง พ่อตาจึงกล่าวว่า บัดนี้เจ้ามีเงินเพียงพอจะซื้อทองมาเก็บไว้ตามความต้องการ และหากเจ้าทำงานต่อไปเจ้าจะมีเงินซื้อทองมากกว่านี้อีก "สรุปข้อคิด การเพ้อฝันว่าเราจะรวย มีบุญหล่นทับด้วยวิธีนั้นวิธีนี้ ไม่ได้ทำให้เรามั่งคั่งขึ้น แต่การลงมือปฎิบัติงานต่างหากจะทำให้รวยได้ มันต้องใช้เวลา แต่เมื่อถึงจุดที่คุณมีเงินเก็บเป็นก้อน คุณจะภูมิใจในตัวเองพร้อมกับมีเงินเหลือใช้
เรื่องเล่าสมัยอยุธยา ตำนานนายบุญมี