ก่อนอื่นขอแนะนำตัวเล็ก ๆ นะครับ เดิมผมใช้ชื่อใน Pantip ว่า Hamunaptra ครับ ปีที่แล้วถ้าจำไม่ผิดผมเริ่มเขียนวิจารณ์ The Voice ก็ปาเข้าไปรอบหลัง ๆ แล้ว จริง ๆ ปีนี้ก็กะว่าจะเริ่มเขียนตั้งแต่รอบ Knock Out ละครับ แต่พอมานั่งดูรอบ Battle ปีนี้แล้วมันน่าสนใจครับ
การเขียนของผมอยู่บนพื้นฐานของประสบการณ์ของผมล้วน ๆ นะครับ ผมอาจฟังได้ลึกและละเอียดกว่าบางคน แต่ก็อาจจะไม่ลึกและละเอียดเท่ากับอีกหลาย ๆ คน ผมไม่ใช่ผู้เชียวชาญ ไม่ได้เป็นคนวงใน (คราวที่แล้วมีคนสังสัย) ผมเป็นแค่คนที่เล่นดนตรีมาบ้าง ชอบฟังเพลงตั้งแต่เพลงไทยเดิมไปจนถึงเพลง Classic แค่นั้นเองครับ
แบงค์ VS เจนนี่ - When I Was Your Man
ทุกเพลงที่ฟังในสัปดาห์นี้ผมชอบเพลงนี้ที่สุดเลยครับ เพราะร้องกันได้กลมกลืนมาก โค้ชคิ้มทำการบ้านมาดีครับ ฟังเพลงใหม่ ๆ ตามเทรนด์พอสมควรเลยนะครับ พอดีผมไม่ได้ดู V Reporter ไม่รู้ว่าให้น้อง ๆ เลือกเพลงกันเองหรือเปล่า แต่ต้องยอมรับว่าเหมาะกับเนื้อเสียงและบุคลิกของทั้งคู่ดีมากจริง ๆ รวมถึงเนื้อเพลงที่ถูกปรับด้วย
แบงค์ – เด็กคนนี้น่าสนใจนะครับ ตอนรอบ Blind ยังฟังเสียงได้ไม่เต็มที่เท่าไหร่เพราะไปร้องเพลงที่ไม่ส่งตัวเองเท่าไหร่ แต่มารอบนี้ได้ฟังจะจะ ต้องบอกว่าดีเลยล่ะ เนื้อเสียงดี Timing เป๊ะ Improvise พอประมาณ แถมบุคลิคก็นอบน้อม เจียมเนื้อเจียมตัวดี น่าติดตามนะครับ น้องแบงค์
เจนนี่ – เป็นคนที่มีเนื้อเสียงมีเอกลักษณ์บางอย่างที่ฟังแล้วขนลุกครับ แต่ต้องพัฒนาอีกหลายอย่าง เสียงยังไม่นิ่งเลยสั่นเกินไปหน่อย (ถ้านั่นคือการเจตนาทำ Vibrato ล่ะก็ Vibrato แบบนี้ฟังไม่ลื่นหูเลยครับ) ร้องบางท่อนยังค่อมจังหวะหน่อย ๆ แต่ถ้าพัฒนาและแก้ไขข้อบกพร่องได้ รับรองเด็กคนนี้จะร้องเพลงได้เพราะจับใจเลยทีเดียว
สรุป: ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเจ๊เลือกน้องแบงค์ เพราะทำได้ดีกว่าทุกด้าน แถมน้องยังมีพลังแฝงที่รอการเจียรไนอยู่อีกเพียบ เป็นคนที่น่าเชียร์อันดับต้น ๆ เลยครับสำหรับผม แอบเสียดายอยู่เล็ก ๆ ครับที่ไม่มีใคร Steal น้องเจนนี่เข้าทีม ถ้าเป็นผม ๆ ก็ไม่ Steal เหมือนกัน 555 เพราะดูเหมือนว่าในระยะเวลาอันสั้นแค่นี้ค่อนข้างลำบากที่จะพัฒนาน้องเค้าขึ้นไปได้ทันครับ
เมย์ VS ปุยฝ้าย – ชั่วฟ้าดินสลาย
เพลงนี้ไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่เลยครับ คุณเมย์นั่นเค้ามืออาชีพเพลงแนว Adult Contemporary เลยนะครับ จะให้ร้องแนวนี้อีก 10 เพลงก็สู้ไม่ได้หรอกครับ แต่ถ้าเป็นแนวอื่นน้องปุยฝ้ายสบายมากครับ
คุณเมย์ – เสียงนิ่ง เย็น ฟังแล้วสบายหู ไม่มีเทคนิคอะไรมากมาย ซึ่งจริง ๆ แล้วถ้าจะร้องเพลงแนวนี้เทคนิคไม่ใช่เรื่องที่ต้องเน้นอยู่แล้ว สิ่งที่ต้องเน้นคือเสียงที่สม่ำเสมอ เต็ม นิ่ง หวาน ซึ่งคุณเมย์ทำได้ดีอยู่แล้วครับ
น้องปุยฝ้าย – มีของเลยล่ะครับ เพลงแนวนี้ร้องได้แต่ไม่ถึงกับฟังแล้วฟินน์มาก แต่ถ้าเป็นแนวอื่นละก็มีลุ้นไปได้ลึกครับ เพราะเสียงดี เทคนิคโอเค ร้องแล้วยิ้มให้คนดู ดูรู้เลยว่ามีความสุขในการร้องเพลงมาก รอบนี้สู้คุณเมย์ไม่ได้เพราะเพลงล้วน ๆ ครับ
สรุป: แอบไม่เข้าใจว่าทำไมโค้ชแสตมป์ถึงเลือกเพลงนี้มาให้ทั้งคู่ Battle กัน มันเท่ากับส่งคุณเมย์เข้ารอบไปโดยปริยายเลยครับ แต่ก็ดีใจที่โค้ชโจอี้ Steal น้องเค้าไว้ได้ ไม่มีใครเหมาะเท่าโค้ชโจอี้อีกแล้วครับสำหรับน้องปุยฝ้าย ไว้คอยดูครับ
แซม VS กอฟ - ค่อยๆ พูด
ถือว่าโค้ชก้องเลือกเพลงถูกเลยครับถ้าจะตัดใครออก เพราะให้อิสระน้องร้องทั้งคู่ได้ใช้ความสามารถของตัวเองแบบชัด ๆ แล้วผลก็ออกมาค่อนข้างชัดเจนมาก ๆ ไม่รวมเรื่องหน้าตานะครับ
แซม – น้องยึดมั่นใจการร้องก่อนสิ่งอื่นใดครับ ท่าทางประกอบไว้ทีหลัง ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ถ้าจะออกท่าทางมาก ๆ เพื่อบิวท์คนดูต้องแน่ใจว่าตัวเองกำลังอยู่ตัวแล้วเท่านั้น ไม่งั้นล่วงแน่นอน โดยเฉพาะเพลงแนวนี้ถ้าคุมเสียงไม่อยู่จะฟังโครตชัดเลย แต่น้องทำได้ดีครับรอบนี้ รอบหน้าคงมีโอกาสได้ร้องเพลงที่เบากว่านี้หน่อย หวังว่าคงจะได้ฟังอะไรดี ๆ จากน้องแซมกันชัด ๆ อีกทีว่าเสียงแท้ ๆ เป็นยังไงครับ
กอฟ – น้องที่ก่อให้เกิดดราม่าเที่ยวล่าสุด ถ้าวัดกันที่เสียงว๊ากกกแล้วละก็ผมว่าดูดีกว่าน้องแซมอีกครับ ผมว่าเสียงว๊ากกของนักร้องเพลงร็อคนี่มันเป็นศิลปะอย่างนึงไม่เชื่อไปลองฟัง Steven Tyler แห่ง Aerosmith ร้องเพลง Amazing ได้ครับ
http://youtu.be/zSmOvYzSeaQ โดยเฉพาะนาทีที่ 3.30 เป็นต้นไป ว่าจะว๊ากกกยังไงให้น่าฟัง เสียงมันแผดออกมาแต่มันนุ่ม ๆ ครับ 555 ขอยืนยันว่าว๊ากกกในเพลงร็อคกับตะโกนไม่เหมือนกันนะครับ แต่ที่พลาดเห็น ๆ คือ คุมเสียงตัวเองไม่ได้ แล้วยังมีหน้ามาร้องค่อมจังหวะอีก สงสัยจะมัวแต่ออกท่าทางมากไปหน่อยครับ
สรุป: ไม่มีข้อโต้เถียงแต่ประการใดครับ การตัดสินชัดเจนครับ
ลูกพีช VS บีน & พิน – วอน
เป็นอีกเพลงที่เลือกออกมาได้เหมาะสมครับ มุมนึงไม่มีใครเสียเปรียบแต่อีกมุมนึงก็มีคนเสียเปรียบครับ เอ๊ะยังไงกัน คืออยากจะบอกว่าร้องคนเดียวกับร้องสองคน มีข้อดีและข้อเสียต่างกันมากนะครับ แล้วการร้องประกวดแบบนี้มันส่งผลชัดเจนมากจริง ๆ
น้องลูกพีช – เสียงน้องโคตรจะมีเอกลักษณ์เลยครับ แถมยังมีเทคนิคพิเศษเฉพาะตัวในการบี้ตัวโน๊ตบริเวณหัวและท้ายของเสียงอีกต่างหาก ร้องแบบขู่ก็ได้ร้องแบบนิ่ม ๆ ก็ได้ เสียงก็ใสกังวาลเป็นพิเศษ แถมยังน่ารักแบบเศร้า ๆ นิด ๆ อีก 5555 เห็นตาโค้ชคิ้มตอนมองน้องมั๊ยครับ เป็นประกายชื่นชมมาก
น้องบีน & น้องพิน – ผมจำไม่ได้ว่าคนไหนบีน คนไหนพิน แต่คิดว่าน้องที่หน้าเหมือนตุ๊กกี้น่าจะเป็นน้องบีนมั้งครับ การเป็นนักร้องดูโอ้นี่ชีวิตไม่ได้ง่ายเลยนะครับ ต่อให้รู้ใจกันแค่ไหนแต่ถ้าร้องไม่ได้แบบ นิว & จิ๋ว นี่ชีวิตจะลำบากเลยทีเดียว ร้องธรรมดามาก ๆ ก็ไม่ได้ ร้องใส่เทคนิคมาก ๆ ถ้าเข้ากันไม่ได้ก็ยิ่งแย่ไปใหญ่ แถมมีเวลาให้ร้องแต่ละท่อนช่างน้อยนิด และที่สำคัญที่สุด เสียงสองคนนี้ไม่เข้ากันนะครับ ไปคนละแนวเลยครับ ถ้าร้องหลักคนนึงแล้วอีกคนคอยประสานอันนี้ OK แต่ถ้าเมื่อไหร่ร้องคนละท่อนจะเกิดความไม่เข้ากันได้ชัดเจน เพราะน้องบีนเสียงจะออกใส ๆ แต่น้องพินนั่นเสียงออกยิ่งใหญ่อลังการณ์นิดนึง แล้ววิธีการร้องก็คนละแบบอีกต่างหาก พอเอามารวมกันจึงเกิดความไม่พอดีครับ
สรุป: เป็นอีกคู่ที่ค่อนข้างชัดเจนในเรื่องการตัดสิน เพราะน้องลูกพีชนั่นร้องแล้วตัวใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่ร้องคนเดียว
กิ๊ฟ VS พีท – รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง
มันเป็นการต่อสู้กันของนักร้องต่างขั้วครับ น้องกิ๊ฟเริ่มต้นแบบไม่ชวนทะเลาะแต่ฝั่งน้องพีทพยายามจะบี้สุด ๆ แต่บี้ไม่ลงเพราะน้องกิ๊ฟไม่หลงกล น้องพีทนี่เป็นมวยแบบ Boxer แต่น้องกิ๊ฟเค้ามีครบทั้ง Boxer และ Fighter เลยครับ ผมไม่รู้แบ๊คกราวน์ของทั้งคู่แต่ดูเหมือนชั่วโมงบินน้องกิ๊ฟน่าจะเยอะกว่าน้องพีชมากพอสมควร ทั้ง ๆ ที่เพลงนี้นี่เข้าปากน้องพีทมาก ๆ แต่ก็ยังเอาไม่อยู่เลยครับ
น้องกิ๊ฟ – มีสไตล์การร้องที่ค่อนข้างกว้างนะครับ น่าจะร้องได้ดีหลายแบบ ไม่รู้เป็นนักร้องอาชีพหรือเปล่า เพราะรู้ว่าตัวเองควรจะทำอะไร และทำแค่ไหน ขนาดน้องพีชชวนทะเลาะขนาดนั้น น้องกิ๊ฟก็ตามมาทะเลาด้วยครับ แต่มาแบบพอประมาณ เลยกลายเป็นว่าน้องกิ๊ฟนั้นคุมเวทีได้ดีกว่าเยอะ
น้องพีท – ยอมรับว่าผมฟังรอบแรกไม่ได้ดูหน้าจอเลยนะครับ ก็รู้สึกว่านักร้องคนนี้เสียงสูงจัง เสียงไม่ได้ดีอะไรมากแต่ร้องเพลงได้ดีมาก ๆ เลย แต่พอมาฟังรอบสองแล้วดูหน้าจอ โอ้!!! แม่เจ้า อะไรกันวะเนี่ย 5555 เยอะไป๊ ผมเข้าใจนะครับว่าท่าทางที่แสดงออกมานั่นมาจากธรรมชาติน้องเค้าจริง ๆ แต่น้องคงต้องคุม ๆ มันหน่อยแล้วล่ะครับ มันน่ารักดีนะครับ แต่ถ้าเยอะขนาดนี้นี่ ไม่มีใครฟังเสียงหรอกครับ มัวแต่ดูแล้วอึ้งอ่ะซะมากกว่า แต่ยอมรับว่ามีสีสันดีครับ
สรุป: น้องกิ๊ฟเค้าคุมเวทีอยู่ครับ บวกกับความอ้อนแอ้นของน้องพีทแล้ว ไม่มีทางชนะน้องกิ๊ฟได้แน่นอน น้องกิ๊ฟมืออาชีพกว่าเยอะครับ
ริมมี่ VS แนน - Like A Virgin
เอาสองคนนี้มาชนกันด้วยเพลงนี้ น้องแนนเค้าก็กลายเป็นรีวิวประกอบเพลงไปเท่านั้นเองอะสิครับ ริมมี่เค้าเป็นสไตล์แข็งแรงอยู่แล้วด้วย ตะหวาดนิดเดียวน้องแนนก็กระเด็นแล้วครับ แล้วก็ไม่แปลกอะไรเลยที่น้องแนนจะสู้ด้วยวิธีอื่น
ริมมี่ – เป็นนักร้องที่จริง ๆ แล้วไม่มีอะไรโด่ดเด่นมากมายนักนะครับ เสียงก็ค่อนข้างแข็ง แล้วถ้าจะเป็นเจ้าแม่เพลงแดนซ์นี่ก็คงไม่ได้อ่ะครับ ที่เธอชนะรอบนี้เพราะเจอน้องแนนด้วยเพลง ๆ นี้เท่านั้นเองนะครับ ตามความเห็นของผม
น้องแนน – ผมว่าเธอคนนี้ฉลาดดีครับ ต้องชื่นชมเพราะเธอเปลี่ยนเวทีประกวดร้องเพลงเป็นเวทีโชว์ได้เฉย ๆ ซะอย่างนั้น ซึ่งมันเป็นวิธีเดียวที่เธอจะสู้ได้แบบเนียน ๆ แล้วเธอถนัดอยู่แล้วด้วย ถ้าจะพูดถึงเสียงร้องก็จัดอยู่ในประเภทร้องเพลงได้ครับ แต่ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นนักร้องแน่นอน การที่เจ๊คิ้ม Steal ตัวเธอไว้ผมถือเป็นการให้รางวัลในความพยายามของเธอบวกกับชอบพอกันเป็นการส่วนตัว แต่คงเป็นเพียงการสร้างสีสันให้กับทีมเท่านั้นเองครับ ไม่น่าจะเข้าไปลึกกว่านี้อีกแล้ว
สรุป: ถ้าวัดกันด้วยเสียงโค้ชโจอี้ก็เลือกถูกแล้ว แล้วก็สมควรจะเลือกแบบนี้ด้วยครับเพราะเป็นรายการประกวดร้องเพลง ไม่รู้ว่าเจ๊คิ้มจะทำให้โค้ชโจอี้แปลกใจได้มั๊ยเมื่อถึงรอบหน้า แต่น่าจะยากครับ โดยส่วนตัวผมไม่ชอบทั้งคู่เลยครับ
ขอบคุณที่อ่านครับ
แก้คำผิด
[CR] The Voice Thailand Review: Battle Round 19/10/2013 (ความเห็นส่วนตัวครับ)
การเขียนของผมอยู่บนพื้นฐานของประสบการณ์ของผมล้วน ๆ นะครับ ผมอาจฟังได้ลึกและละเอียดกว่าบางคน แต่ก็อาจจะไม่ลึกและละเอียดเท่ากับอีกหลาย ๆ คน ผมไม่ใช่ผู้เชียวชาญ ไม่ได้เป็นคนวงใน (คราวที่แล้วมีคนสังสัย) ผมเป็นแค่คนที่เล่นดนตรีมาบ้าง ชอบฟังเพลงตั้งแต่เพลงไทยเดิมไปจนถึงเพลง Classic แค่นั้นเองครับ
แบงค์ VS เจนนี่ - When I Was Your Man
ทุกเพลงที่ฟังในสัปดาห์นี้ผมชอบเพลงนี้ที่สุดเลยครับ เพราะร้องกันได้กลมกลืนมาก โค้ชคิ้มทำการบ้านมาดีครับ ฟังเพลงใหม่ ๆ ตามเทรนด์พอสมควรเลยนะครับ พอดีผมไม่ได้ดู V Reporter ไม่รู้ว่าให้น้อง ๆ เลือกเพลงกันเองหรือเปล่า แต่ต้องยอมรับว่าเหมาะกับเนื้อเสียงและบุคลิกของทั้งคู่ดีมากจริง ๆ รวมถึงเนื้อเพลงที่ถูกปรับด้วย
แบงค์ – เด็กคนนี้น่าสนใจนะครับ ตอนรอบ Blind ยังฟังเสียงได้ไม่เต็มที่เท่าไหร่เพราะไปร้องเพลงที่ไม่ส่งตัวเองเท่าไหร่ แต่มารอบนี้ได้ฟังจะจะ ต้องบอกว่าดีเลยล่ะ เนื้อเสียงดี Timing เป๊ะ Improvise พอประมาณ แถมบุคลิคก็นอบน้อม เจียมเนื้อเจียมตัวดี น่าติดตามนะครับ น้องแบงค์
เจนนี่ – เป็นคนที่มีเนื้อเสียงมีเอกลักษณ์บางอย่างที่ฟังแล้วขนลุกครับ แต่ต้องพัฒนาอีกหลายอย่าง เสียงยังไม่นิ่งเลยสั่นเกินไปหน่อย (ถ้านั่นคือการเจตนาทำ Vibrato ล่ะก็ Vibrato แบบนี้ฟังไม่ลื่นหูเลยครับ) ร้องบางท่อนยังค่อมจังหวะหน่อย ๆ แต่ถ้าพัฒนาและแก้ไขข้อบกพร่องได้ รับรองเด็กคนนี้จะร้องเพลงได้เพราะจับใจเลยทีเดียว
สรุป: ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเจ๊เลือกน้องแบงค์ เพราะทำได้ดีกว่าทุกด้าน แถมน้องยังมีพลังแฝงที่รอการเจียรไนอยู่อีกเพียบ เป็นคนที่น่าเชียร์อันดับต้น ๆ เลยครับสำหรับผม แอบเสียดายอยู่เล็ก ๆ ครับที่ไม่มีใคร Steal น้องเจนนี่เข้าทีม ถ้าเป็นผม ๆ ก็ไม่ Steal เหมือนกัน 555 เพราะดูเหมือนว่าในระยะเวลาอันสั้นแค่นี้ค่อนข้างลำบากที่จะพัฒนาน้องเค้าขึ้นไปได้ทันครับ
เมย์ VS ปุยฝ้าย – ชั่วฟ้าดินสลาย
เพลงนี้ไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่เลยครับ คุณเมย์นั่นเค้ามืออาชีพเพลงแนว Adult Contemporary เลยนะครับ จะให้ร้องแนวนี้อีก 10 เพลงก็สู้ไม่ได้หรอกครับ แต่ถ้าเป็นแนวอื่นน้องปุยฝ้ายสบายมากครับ
คุณเมย์ – เสียงนิ่ง เย็น ฟังแล้วสบายหู ไม่มีเทคนิคอะไรมากมาย ซึ่งจริง ๆ แล้วถ้าจะร้องเพลงแนวนี้เทคนิคไม่ใช่เรื่องที่ต้องเน้นอยู่แล้ว สิ่งที่ต้องเน้นคือเสียงที่สม่ำเสมอ เต็ม นิ่ง หวาน ซึ่งคุณเมย์ทำได้ดีอยู่แล้วครับ
น้องปุยฝ้าย – มีของเลยล่ะครับ เพลงแนวนี้ร้องได้แต่ไม่ถึงกับฟังแล้วฟินน์มาก แต่ถ้าเป็นแนวอื่นละก็มีลุ้นไปได้ลึกครับ เพราะเสียงดี เทคนิคโอเค ร้องแล้วยิ้มให้คนดู ดูรู้เลยว่ามีความสุขในการร้องเพลงมาก รอบนี้สู้คุณเมย์ไม่ได้เพราะเพลงล้วน ๆ ครับ
สรุป: แอบไม่เข้าใจว่าทำไมโค้ชแสตมป์ถึงเลือกเพลงนี้มาให้ทั้งคู่ Battle กัน มันเท่ากับส่งคุณเมย์เข้ารอบไปโดยปริยายเลยครับ แต่ก็ดีใจที่โค้ชโจอี้ Steal น้องเค้าไว้ได้ ไม่มีใครเหมาะเท่าโค้ชโจอี้อีกแล้วครับสำหรับน้องปุยฝ้าย ไว้คอยดูครับ
แซม VS กอฟ - ค่อยๆ พูด
ถือว่าโค้ชก้องเลือกเพลงถูกเลยครับถ้าจะตัดใครออก เพราะให้อิสระน้องร้องทั้งคู่ได้ใช้ความสามารถของตัวเองแบบชัด ๆ แล้วผลก็ออกมาค่อนข้างชัดเจนมาก ๆ ไม่รวมเรื่องหน้าตานะครับ
แซม – น้องยึดมั่นใจการร้องก่อนสิ่งอื่นใดครับ ท่าทางประกอบไว้ทีหลัง ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ถ้าจะออกท่าทางมาก ๆ เพื่อบิวท์คนดูต้องแน่ใจว่าตัวเองกำลังอยู่ตัวแล้วเท่านั้น ไม่งั้นล่วงแน่นอน โดยเฉพาะเพลงแนวนี้ถ้าคุมเสียงไม่อยู่จะฟังโครตชัดเลย แต่น้องทำได้ดีครับรอบนี้ รอบหน้าคงมีโอกาสได้ร้องเพลงที่เบากว่านี้หน่อย หวังว่าคงจะได้ฟังอะไรดี ๆ จากน้องแซมกันชัด ๆ อีกทีว่าเสียงแท้ ๆ เป็นยังไงครับ
กอฟ – น้องที่ก่อให้เกิดดราม่าเที่ยวล่าสุด ถ้าวัดกันที่เสียงว๊ากกกแล้วละก็ผมว่าดูดีกว่าน้องแซมอีกครับ ผมว่าเสียงว๊ากกของนักร้องเพลงร็อคนี่มันเป็นศิลปะอย่างนึงไม่เชื่อไปลองฟัง Steven Tyler แห่ง Aerosmith ร้องเพลง Amazing ได้ครับ http://youtu.be/zSmOvYzSeaQ โดยเฉพาะนาทีที่ 3.30 เป็นต้นไป ว่าจะว๊ากกกยังไงให้น่าฟัง เสียงมันแผดออกมาแต่มันนุ่ม ๆ ครับ 555 ขอยืนยันว่าว๊ากกกในเพลงร็อคกับตะโกนไม่เหมือนกันนะครับ แต่ที่พลาดเห็น ๆ คือ คุมเสียงตัวเองไม่ได้ แล้วยังมีหน้ามาร้องค่อมจังหวะอีก สงสัยจะมัวแต่ออกท่าทางมากไปหน่อยครับ
สรุป: ไม่มีข้อโต้เถียงแต่ประการใดครับ การตัดสินชัดเจนครับ
ลูกพีช VS บีน & พิน – วอน
เป็นอีกเพลงที่เลือกออกมาได้เหมาะสมครับ มุมนึงไม่มีใครเสียเปรียบแต่อีกมุมนึงก็มีคนเสียเปรียบครับ เอ๊ะยังไงกัน คืออยากจะบอกว่าร้องคนเดียวกับร้องสองคน มีข้อดีและข้อเสียต่างกันมากนะครับ แล้วการร้องประกวดแบบนี้มันส่งผลชัดเจนมากจริง ๆ
น้องลูกพีช – เสียงน้องโคตรจะมีเอกลักษณ์เลยครับ แถมยังมีเทคนิคพิเศษเฉพาะตัวในการบี้ตัวโน๊ตบริเวณหัวและท้ายของเสียงอีกต่างหาก ร้องแบบขู่ก็ได้ร้องแบบนิ่ม ๆ ก็ได้ เสียงก็ใสกังวาลเป็นพิเศษ แถมยังน่ารักแบบเศร้า ๆ นิด ๆ อีก 5555 เห็นตาโค้ชคิ้มตอนมองน้องมั๊ยครับ เป็นประกายชื่นชมมาก
น้องบีน & น้องพิน – ผมจำไม่ได้ว่าคนไหนบีน คนไหนพิน แต่คิดว่าน้องที่หน้าเหมือนตุ๊กกี้น่าจะเป็นน้องบีนมั้งครับ การเป็นนักร้องดูโอ้นี่ชีวิตไม่ได้ง่ายเลยนะครับ ต่อให้รู้ใจกันแค่ไหนแต่ถ้าร้องไม่ได้แบบ นิว & จิ๋ว นี่ชีวิตจะลำบากเลยทีเดียว ร้องธรรมดามาก ๆ ก็ไม่ได้ ร้องใส่เทคนิคมาก ๆ ถ้าเข้ากันไม่ได้ก็ยิ่งแย่ไปใหญ่ แถมมีเวลาให้ร้องแต่ละท่อนช่างน้อยนิด และที่สำคัญที่สุด เสียงสองคนนี้ไม่เข้ากันนะครับ ไปคนละแนวเลยครับ ถ้าร้องหลักคนนึงแล้วอีกคนคอยประสานอันนี้ OK แต่ถ้าเมื่อไหร่ร้องคนละท่อนจะเกิดความไม่เข้ากันได้ชัดเจน เพราะน้องบีนเสียงจะออกใส ๆ แต่น้องพินนั่นเสียงออกยิ่งใหญ่อลังการณ์นิดนึง แล้ววิธีการร้องก็คนละแบบอีกต่างหาก พอเอามารวมกันจึงเกิดความไม่พอดีครับ
สรุป: เป็นอีกคู่ที่ค่อนข้างชัดเจนในเรื่องการตัดสิน เพราะน้องลูกพีชนั่นร้องแล้วตัวใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่ร้องคนเดียว
กิ๊ฟ VS พีท – รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง
มันเป็นการต่อสู้กันของนักร้องต่างขั้วครับ น้องกิ๊ฟเริ่มต้นแบบไม่ชวนทะเลาะแต่ฝั่งน้องพีทพยายามจะบี้สุด ๆ แต่บี้ไม่ลงเพราะน้องกิ๊ฟไม่หลงกล น้องพีทนี่เป็นมวยแบบ Boxer แต่น้องกิ๊ฟเค้ามีครบทั้ง Boxer และ Fighter เลยครับ ผมไม่รู้แบ๊คกราวน์ของทั้งคู่แต่ดูเหมือนชั่วโมงบินน้องกิ๊ฟน่าจะเยอะกว่าน้องพีชมากพอสมควร ทั้ง ๆ ที่เพลงนี้นี่เข้าปากน้องพีทมาก ๆ แต่ก็ยังเอาไม่อยู่เลยครับ
น้องกิ๊ฟ – มีสไตล์การร้องที่ค่อนข้างกว้างนะครับ น่าจะร้องได้ดีหลายแบบ ไม่รู้เป็นนักร้องอาชีพหรือเปล่า เพราะรู้ว่าตัวเองควรจะทำอะไร และทำแค่ไหน ขนาดน้องพีชชวนทะเลาะขนาดนั้น น้องกิ๊ฟก็ตามมาทะเลาด้วยครับ แต่มาแบบพอประมาณ เลยกลายเป็นว่าน้องกิ๊ฟนั้นคุมเวทีได้ดีกว่าเยอะ
น้องพีท – ยอมรับว่าผมฟังรอบแรกไม่ได้ดูหน้าจอเลยนะครับ ก็รู้สึกว่านักร้องคนนี้เสียงสูงจัง เสียงไม่ได้ดีอะไรมากแต่ร้องเพลงได้ดีมาก ๆ เลย แต่พอมาฟังรอบสองแล้วดูหน้าจอ โอ้!!! แม่เจ้า อะไรกันวะเนี่ย 5555 เยอะไป๊ ผมเข้าใจนะครับว่าท่าทางที่แสดงออกมานั่นมาจากธรรมชาติน้องเค้าจริง ๆ แต่น้องคงต้องคุม ๆ มันหน่อยแล้วล่ะครับ มันน่ารักดีนะครับ แต่ถ้าเยอะขนาดนี้นี่ ไม่มีใครฟังเสียงหรอกครับ มัวแต่ดูแล้วอึ้งอ่ะซะมากกว่า แต่ยอมรับว่ามีสีสันดีครับ
สรุป: น้องกิ๊ฟเค้าคุมเวทีอยู่ครับ บวกกับความอ้อนแอ้นของน้องพีทแล้ว ไม่มีทางชนะน้องกิ๊ฟได้แน่นอน น้องกิ๊ฟมืออาชีพกว่าเยอะครับ
ริมมี่ VS แนน - Like A Virgin
เอาสองคนนี้มาชนกันด้วยเพลงนี้ น้องแนนเค้าก็กลายเป็นรีวิวประกอบเพลงไปเท่านั้นเองอะสิครับ ริมมี่เค้าเป็นสไตล์แข็งแรงอยู่แล้วด้วย ตะหวาดนิดเดียวน้องแนนก็กระเด็นแล้วครับ แล้วก็ไม่แปลกอะไรเลยที่น้องแนนจะสู้ด้วยวิธีอื่น
ริมมี่ – เป็นนักร้องที่จริง ๆ แล้วไม่มีอะไรโด่ดเด่นมากมายนักนะครับ เสียงก็ค่อนข้างแข็ง แล้วถ้าจะเป็นเจ้าแม่เพลงแดนซ์นี่ก็คงไม่ได้อ่ะครับ ที่เธอชนะรอบนี้เพราะเจอน้องแนนด้วยเพลง ๆ นี้เท่านั้นเองนะครับ ตามความเห็นของผม
น้องแนน – ผมว่าเธอคนนี้ฉลาดดีครับ ต้องชื่นชมเพราะเธอเปลี่ยนเวทีประกวดร้องเพลงเป็นเวทีโชว์ได้เฉย ๆ ซะอย่างนั้น ซึ่งมันเป็นวิธีเดียวที่เธอจะสู้ได้แบบเนียน ๆ แล้วเธอถนัดอยู่แล้วด้วย ถ้าจะพูดถึงเสียงร้องก็จัดอยู่ในประเภทร้องเพลงได้ครับ แต่ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นนักร้องแน่นอน การที่เจ๊คิ้ม Steal ตัวเธอไว้ผมถือเป็นการให้รางวัลในความพยายามของเธอบวกกับชอบพอกันเป็นการส่วนตัว แต่คงเป็นเพียงการสร้างสีสันให้กับทีมเท่านั้นเองครับ ไม่น่าจะเข้าไปลึกกว่านี้อีกแล้ว
สรุป: ถ้าวัดกันด้วยเสียงโค้ชโจอี้ก็เลือกถูกแล้ว แล้วก็สมควรจะเลือกแบบนี้ด้วยครับเพราะเป็นรายการประกวดร้องเพลง ไม่รู้ว่าเจ๊คิ้มจะทำให้โค้ชโจอี้แปลกใจได้มั๊ยเมื่อถึงรอบหน้า แต่น่าจะยากครับ โดยส่วนตัวผมไม่ชอบทั้งคู่เลยครับ
ขอบคุณที่อ่านครับ
แก้คำผิด