ผมขับรถมาประมาณปีกว่าๆแล้วครับ ไม่มีใบขับขี่(ขับแต่ในซอยใกล้ๆบ้าน)
เมื่อวานก็เลยจะไปสอบใบขับขี่ซ่ะหน่อย เผื่อได้ขับรถออกไปต่างจังหวัด
แต่ที่ผมทราบและรู้มาคือ"ใบขับขี่ถ้าจะให้ผ่านในรอบเดียวต้องซื้อเท่านั้น"ไม่งั้นก็ไม่ผ่าน ต้องเสียเวลามากมาย
ผมก็เลยเตรียมเงินไว้ ไปซื้อเหมือนกันครับ (อันที่จริงก็เสียดายเงินที่จะไปซื้อ แต่กลัวว่าเขาจะไม่ให้เราผ่าน ต้องเสียเวลาลางาน ต้องโดนหักเงินเดือน เสียหลายอย่าง สรุปผมก็เลยตัดสินใจจะไปซื้อใบขับขี่ครับ เมื่อวานเพื่อจะให้เรื่องจบในวันเดียว)
ผมก็ไปแต่เช้าเลยครับ เพราะเพื่อนและน้องผมที่สอบก่อนเขาบอกมาว่า ให้ไปแต่เช้าแล้วจะมีคนเดินมาถามว่า"ซื้อไหม" เราก็ซื้อ แค่นั้นแหล่ะก็สอบผ่านทุกอย่าง ตั้งแต่ข้อเขียนยันสอบขับรถในสนาม
ผมก็รอแล้ว รอเล่า ที่หน้าสำนักงานขนส่ง แต่ก็ไม่เห็นใครมาถามเลย จนสำนักงานเปิด ผมก็เลยต้องเข้าไปลงทะเบียนโดยไร้วี่แววคนขายใบขับขี่เลย(คิดในใจว่า วันนี้คงไม่ผ่าน คงเสียต้องสละเวลาอีกหลายครั้งแน่นอน

)
และทุกอย่างก็ดำเนินไปอย่างราบรื่น ทดสอบร่างกายและสายตา อบรมและสอบข้อเขียน ผ่านหมดเรียบร้อย ถึงช่วงสี่โมงเย็นถึงเวลาลงสนามสอบขับรถ(เป็นการสอบที่ผมกลัวที่สุด เพราะว่าไม่มีอะไรวัดแน่นอนเหมือนสอบข้อเขียน ประเมินจากสายตากรรมการ ถ้าเราไม่ได้ซื้อก็คงไม่ผ่าน ผมคิดในหัวตลอดเวลา)
และผมก็ลงสนามขับทดสอบ ตื่นเต้นมากครับ กว่าจะผ่านแต่ละด่าน เล่นเอาเหงื่อเต็มตัวเลย มาถึงด่านสำคัญที่นิยมไม่ผ่านกัน นั่นคือ"ถอยเข้าซอง(ช่องจอด)"เพราะด่านนี้จะเดินหน้าถอยหลังได้ไม่เกิน 7 ครั้งใช่ไหมครับ ผมจำได้ว่าครั้งแรกผมถอยไปแต่ผมหักพวงมาลัยเยอะเกินแล้วหักกลับไม่ทัน ก็เลยต้องเดินหน้าใหม่อยู่สามครั้ง ครั้งที่สี่ผมก็ถอยเข้าและจอดเรียบตามแนวได้สำเร็จ " กรรมการก็เรียก "โอเค ปิ๊กอัพออกมาได้ เข้าด่านต่อไป นาทีนั้นคือผมแฮปปี้สุดๆเลยครับ

เพราะที่เหลือก็ไม่มีอะไรยากแล้ว และ
ผมก็สอบผ่านการทดสอบภาคสนามครับ และได้ใบขับขี่มาแล้ว เรียบร้อย
ที่ผมมาเล่าในวันนี้ก็เพื่อจะบอกเพื่อนๆที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับการสอบใบขับขี่ว่า"ถ้าไม่ซื้อไม่ผ่านแน่นอน"ว่าท่านกำลังเข้าใจผิดอย่างมหันต์เลยครับ เปลี่ยนความคิดของท่านซ่ะใหม่ ระบบราชการไทยไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นครับ (อย่างที่ผมเข้าใจผิดๆตอนแรก) ผมปลื้มใจและภูมิใจมากที่ไม่ได้ซื้อใบขับขี่
เรื่องของ"การสอบใบขับขี่"
เมื่อวานก็เลยจะไปสอบใบขับขี่ซ่ะหน่อย เผื่อได้ขับรถออกไปต่างจังหวัด
แต่ที่ผมทราบและรู้มาคือ"ใบขับขี่ถ้าจะให้ผ่านในรอบเดียวต้องซื้อเท่านั้น"ไม่งั้นก็ไม่ผ่าน ต้องเสียเวลามากมาย
ผมก็เลยเตรียมเงินไว้ ไปซื้อเหมือนกันครับ (อันที่จริงก็เสียดายเงินที่จะไปซื้อ แต่กลัวว่าเขาจะไม่ให้เราผ่าน ต้องเสียเวลาลางาน ต้องโดนหักเงินเดือน เสียหลายอย่าง สรุปผมก็เลยตัดสินใจจะไปซื้อใบขับขี่ครับ เมื่อวานเพื่อจะให้เรื่องจบในวันเดียว)
ผมก็ไปแต่เช้าเลยครับ เพราะเพื่อนและน้องผมที่สอบก่อนเขาบอกมาว่า ให้ไปแต่เช้าแล้วจะมีคนเดินมาถามว่า"ซื้อไหม" เราก็ซื้อ แค่นั้นแหล่ะก็สอบผ่านทุกอย่าง ตั้งแต่ข้อเขียนยันสอบขับรถในสนาม
ผมก็รอแล้ว รอเล่า ที่หน้าสำนักงานขนส่ง แต่ก็ไม่เห็นใครมาถามเลย จนสำนักงานเปิด ผมก็เลยต้องเข้าไปลงทะเบียนโดยไร้วี่แววคนขายใบขับขี่เลย(คิดในใจว่า วันนี้คงไม่ผ่าน คงเสียต้องสละเวลาอีกหลายครั้งแน่นอน
และทุกอย่างก็ดำเนินไปอย่างราบรื่น ทดสอบร่างกายและสายตา อบรมและสอบข้อเขียน ผ่านหมดเรียบร้อย ถึงช่วงสี่โมงเย็นถึงเวลาลงสนามสอบขับรถ(เป็นการสอบที่ผมกลัวที่สุด เพราะว่าไม่มีอะไรวัดแน่นอนเหมือนสอบข้อเขียน ประเมินจากสายตากรรมการ ถ้าเราไม่ได้ซื้อก็คงไม่ผ่าน ผมคิดในหัวตลอดเวลา)
และผมก็ลงสนามขับทดสอบ ตื่นเต้นมากครับ กว่าจะผ่านแต่ละด่าน เล่นเอาเหงื่อเต็มตัวเลย มาถึงด่านสำคัญที่นิยมไม่ผ่านกัน นั่นคือ"ถอยเข้าซอง(ช่องจอด)"เพราะด่านนี้จะเดินหน้าถอยหลังได้ไม่เกิน 7 ครั้งใช่ไหมครับ ผมจำได้ว่าครั้งแรกผมถอยไปแต่ผมหักพวงมาลัยเยอะเกินแล้วหักกลับไม่ทัน ก็เลยต้องเดินหน้าใหม่อยู่สามครั้ง ครั้งที่สี่ผมก็ถอยเข้าและจอดเรียบตามแนวได้สำเร็จ " กรรมการก็เรียก "โอเค ปิ๊กอัพออกมาได้ เข้าด่านต่อไป นาทีนั้นคือผมแฮปปี้สุดๆเลยครับ
ที่ผมมาเล่าในวันนี้ก็เพื่อจะบอกเพื่อนๆที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับการสอบใบขับขี่ว่า"ถ้าไม่ซื้อไม่ผ่านแน่นอน"ว่าท่านกำลังเข้าใจผิดอย่างมหันต์เลยครับ เปลี่ยนความคิดของท่านซ่ะใหม่ ระบบราชการไทยไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นครับ (อย่างที่ผมเข้าใจผิดๆตอนแรก) ผมปลื้มใจและภูมิใจมากที่ไม่ได้ซื้อใบขับขี่