ก่อนอื่นต้องบอกว่าเนื้อหาในกระทู้นี้อาจจะยาวไปบ้างเพราะเราตั้งขึ้นเพื่อต้องการระบายจริงๆนะคะ
ตอนนี้เรารู้สึกแย่ รู้สึกเครียด แล้วก็กดดันมาก เหมือนแบบ ทำกรรมไว้แล้วกรรมตามสนองก็มิปาน
เรื่องมีอยู่ว่า....คือที่บ้านเรา เราอยู่กับแม่ น้อง แล้วก็รวมตัวเราด้วยแล้วเป็น 3 คน แล้วแม่เราเนี่ย ท่าจะเป็นคนที่เจ้าระเบียบ คือทุกอย่างต้องดีต้องเลิศ ต้องเพอร์เฟค เอาจริงๆคือเรากับแม่เรามีปัญหากันค่อนข้างบ่อยและรุนแรงมาก คือเราเองเป็นคน กินง่ายอยู่ง่าย สบายๆ ง่ายๆคือเรียกว่าเป็นคนติดดินเลยล่ะ เพราะเนื่องจากว่า เราทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ส่งตัวเองเรียนในมหาวิทยาลัย แม่เราเองก็มีเงิน แต่เราไม่อยากรบกวนท่าน บวกกับปัญหาอะไรต่างๆมากมายในครอบครัว ความไม่ลงรอย อะไรหลายๆอย่างบวกกับคำพูดท่านด้วย เราเลยตัดสินใจ ทำงานหาเงินเองดีกว่า แต่ยังดีที่เรามีป้าช่วย คือป้าจะช่วยส่งเงินรายเดือนให้เราใช้ ทุกเดือน แล้วก็มีแม่ให้อีกนิดหน่อย ป้าเราให้เดือนละ 3500 แล้วแม่เราให้เดือนละ 1500 ตอนแรกป้าเราเค้าก็ไม่ได้ส่งให้ตั้งแต่ทีแรกหลอก แต่ทีนี้เราเคยมีปัญหากับแม่เรา มันบ่อย มันหลายครั้ง หลายเรื่องมาก แล้วแม่เราชอบใช้คำพูดที่ทำให้เรารู้สึกแย่ เป็นต้นว่า แกมันก็สันดารเหมือนพ่อแก อะไรประมาณนี้ แล่วพอเรายิ่งโตขึ้น ตอนเด็กๆ เรายังทน (พ่อเราเค้าไปมีครอบครัวใหม่ตั้งแต่เราอยู่ ป.3 หลังจากพ่อไปแล้ว เราก็โดนตลอด เคยตั้งข้อสันนิษฐานกับเพื่อนว่าที่เป็นแบบนี้เพราะเราหน้าตาคล้ายพ่อรึเปล่า ไม่รู้ว่าเกี่ยวมั้ย แต่ก็คิดอย่างอื่นไม่ออกจริงๆ อะไรที่ทำให้เค้าทำแบบนี้กับเรา กับน้องก็ไม่เป็น น้องราเป็นเด็กผู้ชาย แม่เราค่อนข้างรักและทุ่มเทให้น้องเรามากๆเลยทีเดียว ให้เงินใช้ ให้ไปเที่ยว เดือนๆนึงน้องเราได้เงินเยอะกว่าที่แม่ให้เราอีก ไปข้างนอกกับเพื่อนกลับดึกเค้าก็ไม่ว่า เค้าบอกว่าน้องเป็นเด็กผู้ชาย แต่เราเคยมีปัญหากับแม่ว่า เราไปเล่นกับเพื่อนแถวบ้านแล้วกลับดึก คือทุ่มนึง เข้าบ้านมาโดนแม่ตีไม่ยั้งหาว่ไปเล่นทำไมไม่รู้เวลา สารพัดทุกอย่าง แต่น้องเราเข้าบ้านสาม สี่ ทุ่ม แม่เรายังไม่ว่าอะไร) พอเราโตขึ้น เหมือนเราเองก็เริ่มมีความคิด ความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น มีครั้งนึงเราไปเที่ยววัดหลวงพ่อโสธรกับเพื่อน(เงินเราก็ไม่ได้ขอเค้า เราขออนุญาตเค้าไป เราก็ใช้เงินเดือนที่เราได้จากทำงานพิเศษไปเที่ยวกับเพื่อน) แล้วเรากลับมาช้า แต่เราก็โทรหาเค้าตลอด ไม่ได้หายไปเลยหรืออะไรนะ เราโดนฟาดด้วยไม้แขวนเสื้อ แบบทุกอย่างอะไรเล็กๆน้อยๆที่เราทำ มันผิด ผิดไปหมดเลยอ่ะ ตอนนั้นเราเลยตัดสินใจออกจากบ้าน เพราะแบบหลายๆความรู้สึกมันมารวมกันไปหมด ทุกเรื่องราวหลายๆอย่างที่เราโดน มันทำให้เราเครียด เราตัดสินใจออกมา แต่เราก็บอกพ่อ เราก็ไปหาพ่อแล้วก็บอกว่า เนี่ยเราจะออกมาแล้วนะ เราทนไม่ไหวแล้วเพราะเราโดนหลายอย่าง อะไรที่เราโดนมา เราเล่า ระบายให้พ่อฟังทุกอย่าง เราตั้งใจจะออกมาหาหอเอง อยู่เองทำงานไปเรียนไป แล้วทีนี้พ่อเราเค้าเลยโทรไปคุยกับป้า ป้าเราเลยแกล้งโทรไปหาแม่เราว่าขอสายเรา แล้วป้าเราเค้าก็โทรมาคุยกะเรา เราเล่าทุกอย่างให้ป้าเราฟัง ป้าเราเลยบอกว่าให้กลับไปอยู่กะแม่ก่อนเพราะเรายังเด็กอยู่(ตอนนั้น 18) แต่ป้าจะเป็นคนส่งเสียเราเอง ป้าเราก็เลยเริ่มส่งเงินให้เราใช้ ตอนแรกป้าจะจ่ายค่าเทอมให้เราด้วย แต่แม่เราเป็นคนแบบ แคร์คนนอก เกรงใจคนนอก แบบเหมือนท่านชอบให้คนอื่นมองว่าครอบครัวเรา เพอร์เฟคอ่ะ เราก็ไม่เข้าใจ ท่านคุยกับป้าเราว่าท่านจะเป็นคนจ่ายค่าเทอมให้เราเอง แล้วก็มาคุยกับเราทีหลังว่าให้จ่ายคนละครึ่ง เราก็อื้มโอเคร ไม่ได้มีปัญหาอะไร สรุปค่าเทอมเราก็จ่ายคนละครึ่ง ก็ไม่มีไรเรื่องนั้นก็จบไป
แต่คือตอนนี้ เราเริ่มมีปัญหา ปัญหามันเกิดจากตัวเราเองด้วย สำคัญที่สุด สำหรับเรา เราว่าเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เรามีแฟนค่ะ แล้วแฟนเราก็เป็นทอม แต่แม่เราอ่ะเค้าไม่ชอบให้เราคบทอม เค้าชอบว่า ว่าแบบ พวกวิปริต ผิดเพศ (พูดต่อหน้าเรา ซึ่งหมายรวมถึงตัวเราด้วย) เราคบกับแฟนเราตั้งแต่เราอยู่ ม.4 โดยรวมแล้วเค้าเป็นคนที่โอเครเลยนะ ในความรู้สึกเรา เรารู้สึกว่าเราคบกันแบบจริงจัง ไม่ได้เหมือนบางคู่ที่เปลี่ยนแฟนบ่อยๆ หรืคบกันเล่นๆ เราคบกันมาหลายปีแล้ว แฟนเราเค้าก็เป็นคนขยัน จริงจังกับชีวิต เรารู้สึกว่าเค้าใช่อ่ะ อาจจะมีทะเลาะกันบ้าง แต่ก็ไม่เคยเลิกกัน เค้าไม่เคยทิ้งเราไปไหนเวลาเรามีปัญหา โดยเฉพาะเวลาเรามีปัญหากับแม่เค้าจะคอยอยู่เคียงข้างเราตลอด เวลาเรามีอะไรเราจะปรับทุกข์กับเค้า คุยกับเค้าตลอด เค้าจะชอบบอกเสมอว่า ถ้าไม่ไหวก็ออกมา เค้าดูแลได้ ช่วยกันได้ เพราะส่วนตัวเราเองก็ทำงานด้วย เรียนด้วยอยู่แล้ว บวกกับป้าให้ ก็คงไม่เดือดร้อนอะไรมากมาย เราเองก็รักเค้า เชื่อมั่นเค้า เช่นเดียวกัน
แล้วปัญหามันเริ่มเกิดตอนที่เราขึ้นมหาลัเนี่ยแหละ คือเราต้องอยู่หอ เพราะบ้านกับมหาลัยเราห่างกันค่อนข้างไกล เราเลยขอแม่ออกมาอยู่หอ
ตอนปี 1 เราอยู่หอกับเพื่อนเรา ที่เรียนห้องเดียวกัน แล้วซักพักเหมือนเพื่อนเราเค้าต้องกลับไปอยู่บ้านเพราะว่าน้าบังคับ เราก็เลยต้องกลับเพราะสู้ค่าหอคนเดียวไม่ไหว แล้วเราไปกลับ ก็คือเหนื่อยมาก แบบเรียนหนักด้วยไรด้วย อย่างสมมุตบางวันเลิกเรียนทุ่นนึงกว่าจะถึงบ้าน 3 -4 ทุ่ม กว่าจะทำนู่นทำนี่ กว่าจะได้นอน ตี 5 ก็ตื่นมาอาบน้ไแต่งตัวเพื่อเดินทางไปเรียนอีก ประมาณนี้ แล้วแทบไม่มีเวลาทบทวนบทเรียนหรือว่าทำการบ้านเลย ไหนจะเสาร์อาทิตย์ทำงาน แฟนเราเค้าก็เลยเสนอตัว ว่าให้อยู่หอด้วยกันมั้ย เค้าจะช่วยแชร์ค่าห้อง ค่ากิน คือเอาง่ายๆว่าชวนมาอยู่ด้วยกันนั่นแหละ แล่วเราก็ไม่กล้าบอกแม่ เพราะแม่เราเค้าไม่ชอบแฟนเรามานานแล้ว (เรายอกเค้านะว่าเราคบกัน ไปไหนมาไหนเปิดเผย มีอยู่ช่วงนึงที่เค้าชอบแฟนเรา คือเวลาที่เราต้องเลิกงานดึกๆแล้วแฟนเราเค้าคอยไปรับ ไปส่ง แม่เราเค้าก็จะไม่ต้องเป็นห่วง แต่นอกนั้นอย่างอื่นแล้วแม่เราเค้าไม่ชอบเลย เพราะปัญหาหลัก นั่นคือ แฟนเราเป็นทอมนั่นเอง) เราก็เลยบอกแม่ว่า เราจะออกไปอยู่หอกับเพื่อนอีกคนนึงนะ แม่เราก็อนุญาต เราก็คือ จันทร์ถึงศุกร์นอนหอ แล้ว เสาร์อาทิตย์เราทำงานแล้วก็กลับมานอนบ้าน แฟนเราเค้าทำงานแล้ว เราก็ช่วยกัน ทำงาน แฟนเราทำบัตรอิออน แล้วเราสองคนก็ช่วยกันทำงาน เก็บตังซื้อของ ผ่อนของพวก ตู้เย็น ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เข้าหอ ชีวิตของเราสองคนเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง เริ่มสร้างอนาคตด้วยกัน เราไม่ได้ขออะไรจากแม่เลย คือเรามาหอกับผ้าห่มหนึ่งผืน เสื้อผ้า(ที่เราซื้อเอง) แล้วเรามาสร้างมาซื้อกับแฟนเรา จนมันกลายเป็นห้องเล็กๆที่อยู่แล้วมีความสุข จนมันกลายเป็นบ้าน เราเริ่มคุยเรื่องเรียนจบว่า ถ้าเราเรียนจบเร็วๆก็ดี จะได้ยิ่งทำงานเก็บเงินซื้อบ้านเป็นของเราเอง เพราะข้าวของเครื่องใช้เราก็ช่วยกันเก็บ ช่วยกันซื้อจนมีมาได้ขนาดนี้แล้ว ต่อไปเรียนจบก็ช่วยกัน ซื้อบ้าน ซื้อรถ ส่งเงินให้พ่อแม่ใช้ ฯลฯ เราสองคนวาดฝันกันไว้เยอะมาก จนกระทั่งถึงตอนนี้ปี 3 เราคบกับแฟนเราเข้าปีที่ 5 แล้ว เรามีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันมากขึ้น แต่ตอนนี้ แม่เราต้องการให้เรากลับมาอยู่บ้าน เนื่องจากว่ามหาลัยเราเค้าให้ฝึกงานตอนปี 3 เทอม2 คือเทอมหน้าเราต้องฝึกงาน แม่เราเลยบอกว่าฝึกงานไม่ต้องไปอยู่หอแล้วก็ได้เปลืองตัง แล้วปี 4 ก็ทน ไป-กลับเอาปีเดียว แต่ตอนนี้ เราเริ่มมีปัญหาแล้ว เพราะแฟนเราเริ่มไม่เข้าใจ ถามว่าเราเข้าใจความรู้สึกเค้ามั้ย เราเข้าใจความรู้สึกเค้ามากๆ เพราะเราเอวกว่าจะสร้างเนื้อสร้างตัว มีสิ่งของต่างๆเป็นของตัวเองได้ขนาดนี้ ไหนจะเรียน ไหนจะทำงาน เราเจอคนที่ใช่ แล้วสร้างอะไรๆได้มกมายขนาดนี้ เราก็เข้าใจว่า ในนั้นมันก็มีเงินป้า 3500 กับเงินแม่ 1500 อยู่ในนั้นด้วย แต่มันก็มีเงินจากน้ำพักน้ำแรงเราเหมือนกัน ถึงแม้ว่าแม่จะไม่ได้รักเราขนาดให้เราได้ทุกอย่าง แต่ความรู้สึกเราคือยังไงเค้าก็คือแม่ เราไม่มีวันทิ้งเค้าอยู่แล้ว เราเคยคุยกับแฟนเราว่า ออกมาทำงานแล้วก็ค่อยส่งเงินให้เค้าใช้ก็ได้ เพราะเรา แม่ น้องก้อยู่คอนโด เดี๋ยวน้องเรามันก็โต อยู่กัน 3 คนที่มันก็คับแคบ เราแยกออกมาไม่ดีกว่าหรอประมาณนี้ แต่แม่เราเค้าก็มีความคิดว่า ทำงานอยู่กับที่บ้านแล้วเก็บตังซื้อบ้าน อยู่หอเราก็ต้องเสียค่าเช่าหออีก ค่าใช้จ่ายอีกเยอะแยะ อยู่กับที่บ้านแล้วค่อยเก็บตังซื้อบ้านเอา แล้วก็เรามีหน้าที่หลักนอกจากจะต้องเตรียมตัวเก็บตังซื้อบ้านแล้วก็คือต้องส่งน้องต่อให้เรียนให้จบ (เราห่างกับน้องเรา 9 ปี ตอนนี้น้องเรากำลังจะเข้า ม.1 เราเรียนจบน้องเราก็เรียน ม.3) เพราะฉะนั้นเรามีหน้าที่คือต้องส่งน้องเรียนต่อไป เราเองรู้สึกเหนื่อยๆกับชีวิตมาก เพราะเราเองก็ไม่ใช่คนเก่งอะไรมากมาย แต่เราเป็นพี่คนโต มันก็คงเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องทำ เหมือนต้องทำต่อไปไม่จบไม่สิ้น จะทิ้งก็ไม่ได้ แฟนเราเราก็รัก เราอยากจะสรเางอนาคตกับแฟน แต่ก็คือไม่ทิ้งแม่กับน้อง เราเคยออกความคิดกับแฟนว่าเก็บเงินซื้อบ้านแล้วพาแม่กับน้องอยู่ด้วยกันดีมั้ย แต่แฟนเรากับแม่เราก็ไม่ถูกกันอีก คือแฟนเราเค้าก็ไม่ได้อะไรถามว่าอยู่ได้มั้ยก็อยู่ได้ แต่เค้าค่อนข้างจะอคติกับแม่เราตรงที่ แม่เราเค้าทำอะไรกับเราหลายอย่างบางครั้งแฟนเราถามแบบ นี้ใช่แม่จริงๆหรอ ประมาณนี้ ด้วยความที่คบกันมานานแฟนเราเค้าก็เห็นอะไรหลายๆอย่าง แต่เค้าก็บอกว่าอยู่ได้แต่ก็อาจจะอึกอัดและที่สำคัญคือแม่เรานี้แหละท่านไม่ชอบแฟนเราเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แล้วท่านจะยอมมั้ยที่จะให้แฟนเราอยู่ด้วย ตอนนี้เราแบบเครียดๆๆมากๆๆๆ เอาตอนนี้ปัญหาอันดับแรกสุด คือ เราต้องย้ายกลับมาอยู่บ้าน แฟนเราก็เริ่มแสดงอาการน้อยใจ เราทะเลาะกันทุกวัน เพราะเค้าอยากให้เราไปอยู่หอ แต่ทางแม่เราก็จะให้เราอยู่บ้าน แล้วต่อไปเรียนจบจะทำยังไง โอ๊ยๆๆๆ หลายอย่าง ปวดหัว เครียดด
เราควรทำยังไงดีเนี่ยยย
กระทู้ระบายปัญหาชีวิต
ตอนนี้เรารู้สึกแย่ รู้สึกเครียด แล้วก็กดดันมาก เหมือนแบบ ทำกรรมไว้แล้วกรรมตามสนองก็มิปาน
เรื่องมีอยู่ว่า....คือที่บ้านเรา เราอยู่กับแม่ น้อง แล้วก็รวมตัวเราด้วยแล้วเป็น 3 คน แล้วแม่เราเนี่ย ท่าจะเป็นคนที่เจ้าระเบียบ คือทุกอย่างต้องดีต้องเลิศ ต้องเพอร์เฟค เอาจริงๆคือเรากับแม่เรามีปัญหากันค่อนข้างบ่อยและรุนแรงมาก คือเราเองเป็นคน กินง่ายอยู่ง่าย สบายๆ ง่ายๆคือเรียกว่าเป็นคนติดดินเลยล่ะ เพราะเนื่องจากว่า เราทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ส่งตัวเองเรียนในมหาวิทยาลัย แม่เราเองก็มีเงิน แต่เราไม่อยากรบกวนท่าน บวกกับปัญหาอะไรต่างๆมากมายในครอบครัว ความไม่ลงรอย อะไรหลายๆอย่างบวกกับคำพูดท่านด้วย เราเลยตัดสินใจ ทำงานหาเงินเองดีกว่า แต่ยังดีที่เรามีป้าช่วย คือป้าจะช่วยส่งเงินรายเดือนให้เราใช้ ทุกเดือน แล้วก็มีแม่ให้อีกนิดหน่อย ป้าเราให้เดือนละ 3500 แล้วแม่เราให้เดือนละ 1500 ตอนแรกป้าเราเค้าก็ไม่ได้ส่งให้ตั้งแต่ทีแรกหลอก แต่ทีนี้เราเคยมีปัญหากับแม่เรา มันบ่อย มันหลายครั้ง หลายเรื่องมาก แล้วแม่เราชอบใช้คำพูดที่ทำให้เรารู้สึกแย่ เป็นต้นว่า แกมันก็สันดารเหมือนพ่อแก อะไรประมาณนี้ แล่วพอเรายิ่งโตขึ้น ตอนเด็กๆ เรายังทน (พ่อเราเค้าไปมีครอบครัวใหม่ตั้งแต่เราอยู่ ป.3 หลังจากพ่อไปแล้ว เราก็โดนตลอด เคยตั้งข้อสันนิษฐานกับเพื่อนว่าที่เป็นแบบนี้เพราะเราหน้าตาคล้ายพ่อรึเปล่า ไม่รู้ว่าเกี่ยวมั้ย แต่ก็คิดอย่างอื่นไม่ออกจริงๆ อะไรที่ทำให้เค้าทำแบบนี้กับเรา กับน้องก็ไม่เป็น น้องราเป็นเด็กผู้ชาย แม่เราค่อนข้างรักและทุ่มเทให้น้องเรามากๆเลยทีเดียว ให้เงินใช้ ให้ไปเที่ยว เดือนๆนึงน้องเราได้เงินเยอะกว่าที่แม่ให้เราอีก ไปข้างนอกกับเพื่อนกลับดึกเค้าก็ไม่ว่า เค้าบอกว่าน้องเป็นเด็กผู้ชาย แต่เราเคยมีปัญหากับแม่ว่า เราไปเล่นกับเพื่อนแถวบ้านแล้วกลับดึก คือทุ่มนึง เข้าบ้านมาโดนแม่ตีไม่ยั้งหาว่ไปเล่นทำไมไม่รู้เวลา สารพัดทุกอย่าง แต่น้องเราเข้าบ้านสาม สี่ ทุ่ม แม่เรายังไม่ว่าอะไร) พอเราโตขึ้น เหมือนเราเองก็เริ่มมีความคิด ความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น มีครั้งนึงเราไปเที่ยววัดหลวงพ่อโสธรกับเพื่อน(เงินเราก็ไม่ได้ขอเค้า เราขออนุญาตเค้าไป เราก็ใช้เงินเดือนที่เราได้จากทำงานพิเศษไปเที่ยวกับเพื่อน) แล้วเรากลับมาช้า แต่เราก็โทรหาเค้าตลอด ไม่ได้หายไปเลยหรืออะไรนะ เราโดนฟาดด้วยไม้แขวนเสื้อ แบบทุกอย่างอะไรเล็กๆน้อยๆที่เราทำ มันผิด ผิดไปหมดเลยอ่ะ ตอนนั้นเราเลยตัดสินใจออกจากบ้าน เพราะแบบหลายๆความรู้สึกมันมารวมกันไปหมด ทุกเรื่องราวหลายๆอย่างที่เราโดน มันทำให้เราเครียด เราตัดสินใจออกมา แต่เราก็บอกพ่อ เราก็ไปหาพ่อแล้วก็บอกว่า เนี่ยเราจะออกมาแล้วนะ เราทนไม่ไหวแล้วเพราะเราโดนหลายอย่าง อะไรที่เราโดนมา เราเล่า ระบายให้พ่อฟังทุกอย่าง เราตั้งใจจะออกมาหาหอเอง อยู่เองทำงานไปเรียนไป แล้วทีนี้พ่อเราเค้าเลยโทรไปคุยกับป้า ป้าเราเลยแกล้งโทรไปหาแม่เราว่าขอสายเรา แล้วป้าเราเค้าก็โทรมาคุยกะเรา เราเล่าทุกอย่างให้ป้าเราฟัง ป้าเราเลยบอกว่าให้กลับไปอยู่กะแม่ก่อนเพราะเรายังเด็กอยู่(ตอนนั้น 18) แต่ป้าจะเป็นคนส่งเสียเราเอง ป้าเราก็เลยเริ่มส่งเงินให้เราใช้ ตอนแรกป้าจะจ่ายค่าเทอมให้เราด้วย แต่แม่เราเป็นคนแบบ แคร์คนนอก เกรงใจคนนอก แบบเหมือนท่านชอบให้คนอื่นมองว่าครอบครัวเรา เพอร์เฟคอ่ะ เราก็ไม่เข้าใจ ท่านคุยกับป้าเราว่าท่านจะเป็นคนจ่ายค่าเทอมให้เราเอง แล้วก็มาคุยกับเราทีหลังว่าให้จ่ายคนละครึ่ง เราก็อื้มโอเคร ไม่ได้มีปัญหาอะไร สรุปค่าเทอมเราก็จ่ายคนละครึ่ง ก็ไม่มีไรเรื่องนั้นก็จบไป
แต่คือตอนนี้ เราเริ่มมีปัญหา ปัญหามันเกิดจากตัวเราเองด้วย สำคัญที่สุด สำหรับเรา เราว่าเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เรามีแฟนค่ะ แล้วแฟนเราก็เป็นทอม แต่แม่เราอ่ะเค้าไม่ชอบให้เราคบทอม เค้าชอบว่า ว่าแบบ พวกวิปริต ผิดเพศ (พูดต่อหน้าเรา ซึ่งหมายรวมถึงตัวเราด้วย) เราคบกับแฟนเราตั้งแต่เราอยู่ ม.4 โดยรวมแล้วเค้าเป็นคนที่โอเครเลยนะ ในความรู้สึกเรา เรารู้สึกว่าเราคบกันแบบจริงจัง ไม่ได้เหมือนบางคู่ที่เปลี่ยนแฟนบ่อยๆ หรืคบกันเล่นๆ เราคบกันมาหลายปีแล้ว แฟนเราเค้าก็เป็นคนขยัน จริงจังกับชีวิต เรารู้สึกว่าเค้าใช่อ่ะ อาจจะมีทะเลาะกันบ้าง แต่ก็ไม่เคยเลิกกัน เค้าไม่เคยทิ้งเราไปไหนเวลาเรามีปัญหา โดยเฉพาะเวลาเรามีปัญหากับแม่เค้าจะคอยอยู่เคียงข้างเราตลอด เวลาเรามีอะไรเราจะปรับทุกข์กับเค้า คุยกับเค้าตลอด เค้าจะชอบบอกเสมอว่า ถ้าไม่ไหวก็ออกมา เค้าดูแลได้ ช่วยกันได้ เพราะส่วนตัวเราเองก็ทำงานด้วย เรียนด้วยอยู่แล้ว บวกกับป้าให้ ก็คงไม่เดือดร้อนอะไรมากมาย เราเองก็รักเค้า เชื่อมั่นเค้า เช่นเดียวกัน
แล้วปัญหามันเริ่มเกิดตอนที่เราขึ้นมหาลัเนี่ยแหละ คือเราต้องอยู่หอ เพราะบ้านกับมหาลัยเราห่างกันค่อนข้างไกล เราเลยขอแม่ออกมาอยู่หอ
ตอนปี 1 เราอยู่หอกับเพื่อนเรา ที่เรียนห้องเดียวกัน แล้วซักพักเหมือนเพื่อนเราเค้าต้องกลับไปอยู่บ้านเพราะว่าน้าบังคับ เราก็เลยต้องกลับเพราะสู้ค่าหอคนเดียวไม่ไหว แล้วเราไปกลับ ก็คือเหนื่อยมาก แบบเรียนหนักด้วยไรด้วย อย่างสมมุตบางวันเลิกเรียนทุ่นนึงกว่าจะถึงบ้าน 3 -4 ทุ่ม กว่าจะทำนู่นทำนี่ กว่าจะได้นอน ตี 5 ก็ตื่นมาอาบน้ไแต่งตัวเพื่อเดินทางไปเรียนอีก ประมาณนี้ แล้วแทบไม่มีเวลาทบทวนบทเรียนหรือว่าทำการบ้านเลย ไหนจะเสาร์อาทิตย์ทำงาน แฟนเราเค้าก็เลยเสนอตัว ว่าให้อยู่หอด้วยกันมั้ย เค้าจะช่วยแชร์ค่าห้อง ค่ากิน คือเอาง่ายๆว่าชวนมาอยู่ด้วยกันนั่นแหละ แล่วเราก็ไม่กล้าบอกแม่ เพราะแม่เราเค้าไม่ชอบแฟนเรามานานแล้ว (เรายอกเค้านะว่าเราคบกัน ไปไหนมาไหนเปิดเผย มีอยู่ช่วงนึงที่เค้าชอบแฟนเรา คือเวลาที่เราต้องเลิกงานดึกๆแล้วแฟนเราเค้าคอยไปรับ ไปส่ง แม่เราเค้าก็จะไม่ต้องเป็นห่วง แต่นอกนั้นอย่างอื่นแล้วแม่เราเค้าไม่ชอบเลย เพราะปัญหาหลัก นั่นคือ แฟนเราเป็นทอมนั่นเอง) เราก็เลยบอกแม่ว่า เราจะออกไปอยู่หอกับเพื่อนอีกคนนึงนะ แม่เราก็อนุญาต เราก็คือ จันทร์ถึงศุกร์นอนหอ แล้ว เสาร์อาทิตย์เราทำงานแล้วก็กลับมานอนบ้าน แฟนเราเค้าทำงานแล้ว เราก็ช่วยกัน ทำงาน แฟนเราทำบัตรอิออน แล้วเราสองคนก็ช่วยกันทำงาน เก็บตังซื้อของ ผ่อนของพวก ตู้เย็น ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เข้าหอ ชีวิตของเราสองคนเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง เริ่มสร้างอนาคตด้วยกัน เราไม่ได้ขออะไรจากแม่เลย คือเรามาหอกับผ้าห่มหนึ่งผืน เสื้อผ้า(ที่เราซื้อเอง) แล้วเรามาสร้างมาซื้อกับแฟนเรา จนมันกลายเป็นห้องเล็กๆที่อยู่แล้วมีความสุข จนมันกลายเป็นบ้าน เราเริ่มคุยเรื่องเรียนจบว่า ถ้าเราเรียนจบเร็วๆก็ดี จะได้ยิ่งทำงานเก็บเงินซื้อบ้านเป็นของเราเอง เพราะข้าวของเครื่องใช้เราก็ช่วยกันเก็บ ช่วยกันซื้อจนมีมาได้ขนาดนี้แล้ว ต่อไปเรียนจบก็ช่วยกัน ซื้อบ้าน ซื้อรถ ส่งเงินให้พ่อแม่ใช้ ฯลฯ เราสองคนวาดฝันกันไว้เยอะมาก จนกระทั่งถึงตอนนี้ปี 3 เราคบกับแฟนเราเข้าปีที่ 5 แล้ว เรามีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันมากขึ้น แต่ตอนนี้ แม่เราต้องการให้เรากลับมาอยู่บ้าน เนื่องจากว่ามหาลัยเราเค้าให้ฝึกงานตอนปี 3 เทอม2 คือเทอมหน้าเราต้องฝึกงาน แม่เราเลยบอกว่าฝึกงานไม่ต้องไปอยู่หอแล้วก็ได้เปลืองตัง แล้วปี 4 ก็ทน ไป-กลับเอาปีเดียว แต่ตอนนี้ เราเริ่มมีปัญหาแล้ว เพราะแฟนเราเริ่มไม่เข้าใจ ถามว่าเราเข้าใจความรู้สึกเค้ามั้ย เราเข้าใจความรู้สึกเค้ามากๆ เพราะเราเอวกว่าจะสร้างเนื้อสร้างตัว มีสิ่งของต่างๆเป็นของตัวเองได้ขนาดนี้ ไหนจะเรียน ไหนจะทำงาน เราเจอคนที่ใช่ แล้วสร้างอะไรๆได้มกมายขนาดนี้ เราก็เข้าใจว่า ในนั้นมันก็มีเงินป้า 3500 กับเงินแม่ 1500 อยู่ในนั้นด้วย แต่มันก็มีเงินจากน้ำพักน้ำแรงเราเหมือนกัน ถึงแม้ว่าแม่จะไม่ได้รักเราขนาดให้เราได้ทุกอย่าง แต่ความรู้สึกเราคือยังไงเค้าก็คือแม่ เราไม่มีวันทิ้งเค้าอยู่แล้ว เราเคยคุยกับแฟนเราว่า ออกมาทำงานแล้วก็ค่อยส่งเงินให้เค้าใช้ก็ได้ เพราะเรา แม่ น้องก้อยู่คอนโด เดี๋ยวน้องเรามันก็โต อยู่กัน 3 คนที่มันก็คับแคบ เราแยกออกมาไม่ดีกว่าหรอประมาณนี้ แต่แม่เราเค้าก็มีความคิดว่า ทำงานอยู่กับที่บ้านแล้วเก็บตังซื้อบ้าน อยู่หอเราก็ต้องเสียค่าเช่าหออีก ค่าใช้จ่ายอีกเยอะแยะ อยู่กับที่บ้านแล้วค่อยเก็บตังซื้อบ้านเอา แล้วก็เรามีหน้าที่หลักนอกจากจะต้องเตรียมตัวเก็บตังซื้อบ้านแล้วก็คือต้องส่งน้องต่อให้เรียนให้จบ (เราห่างกับน้องเรา 9 ปี ตอนนี้น้องเรากำลังจะเข้า ม.1 เราเรียนจบน้องเราก็เรียน ม.3) เพราะฉะนั้นเรามีหน้าที่คือต้องส่งน้องเรียนต่อไป เราเองรู้สึกเหนื่อยๆกับชีวิตมาก เพราะเราเองก็ไม่ใช่คนเก่งอะไรมากมาย แต่เราเป็นพี่คนโต มันก็คงเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องทำ เหมือนต้องทำต่อไปไม่จบไม่สิ้น จะทิ้งก็ไม่ได้ แฟนเราเราก็รัก เราอยากจะสรเางอนาคตกับแฟน แต่ก็คือไม่ทิ้งแม่กับน้อง เราเคยออกความคิดกับแฟนว่าเก็บเงินซื้อบ้านแล้วพาแม่กับน้องอยู่ด้วยกันดีมั้ย แต่แฟนเรากับแม่เราก็ไม่ถูกกันอีก คือแฟนเราเค้าก็ไม่ได้อะไรถามว่าอยู่ได้มั้ยก็อยู่ได้ แต่เค้าค่อนข้างจะอคติกับแม่เราตรงที่ แม่เราเค้าทำอะไรกับเราหลายอย่างบางครั้งแฟนเราถามแบบ นี้ใช่แม่จริงๆหรอ ประมาณนี้ ด้วยความที่คบกันมานานแฟนเราเค้าก็เห็นอะไรหลายๆอย่าง แต่เค้าก็บอกว่าอยู่ได้แต่ก็อาจจะอึกอัดและที่สำคัญคือแม่เรานี้แหละท่านไม่ชอบแฟนเราเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แล้วท่านจะยอมมั้ยที่จะให้แฟนเราอยู่ด้วย ตอนนี้เราแบบเครียดๆๆมากๆๆๆ เอาตอนนี้ปัญหาอันดับแรกสุด คือ เราต้องย้ายกลับมาอยู่บ้าน แฟนเราก็เริ่มแสดงอาการน้อยใจ เราทะเลาะกันทุกวัน เพราะเค้าอยากให้เราไปอยู่หอ แต่ทางแม่เราก็จะให้เราอยู่บ้าน แล้วต่อไปเรียนจบจะทำยังไง โอ๊ยๆๆๆ หลายอย่าง ปวดหัว เครียดด
เราควรทำยังไงดีเนี่ยยย